webnovel

บทที่ 3 พูดคุยกับพี่ชาย (2)

บทที่ 3 พูดคุยกับพี่ชาย (2)

อย่างน้อยพี่ชายของเธอก็หลีกเลี่ยงจากสถานที่เสี่ยงอย่างบาร์ดรากอนได้แล้ว ส่วนจะจัดการกับเรื่องที่เหลืออย่างไรหญิงสาววางแผนว่าจะรอพูดคุยสอบถามข้อมูลจากพี่ชายก่อน

ปัญหาของเราตอนนี้คือแก๊งเงินกู้นอกระบบ ถ้าเราหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ไปได้ เหตุการณ์ต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ที่จะเกิดตามมาก็น่าจะไม่เกิดขึ้น แต่เธอไม่แน่ใจว่ายอดหนี้คือเท่าไหร่ เพราะในนิยายก็ไม่ได้ระบุรายละเอียดเอาไว้ ไม่รู้ว่าเงินสิบสองล้านเหรียญที่ได้มาวันนี้จะพอชดใช้หนี้หรือเปล่า หรือถ้าไม่พอจะนำเงินนี้ไปต่อยอดอย่างไรให้เพิ่มพูนจนพอชดใช้หนี้ได้ เธอจะรอสอบถามพี่ชายอีกที

หลี่อี้เทียน พี่ชายของหลี่ซีหลิน แม้ในนิยายจะเป็นแค่ตัวประกอบที่ปรากฏตัวไม่กี่ครั้ง คำบรรยายส่วนใหญ่ก็ไม่ดีนัก บอกว่าเขาเป็นคนรักน้องไม่ลืมหูลืมตา สปอยล์จนทำให้หลี่ซีหลินกลายเป็นคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เป็นคุณหนูเย่อหยิ่ง เอาแต่ใจตัวเอง

แต่จากความทรงจำเจ้าของร่าง พี่ชายของเธอเป็นคนเก่งมาก เรียนจบเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ตอนอยู่เมืองนอกก็ร่วมกับเพื่อนลงทุนในธุรกิจ จนได้เงินเป็นร้อยล้านเหรียญกลับมา

ทั้งหล่อทั้งเก่ง และไม่ใช่คนรวยรุ่นสองที่ไม่เอาถ่าน เขาหาเงินหลักร้อยล้านได้ตั้งแต่อายุยังน้อย

เมื่อกลับมาประเทศZ ก็เข้ามาช่วยดูแลกิจการตระกูลหลี่ พัฒนาจนบริษัทจนเติบโตขึ้นมาหลายเท่าในเวลาไม่กี่ปี ถ้าไม่เพราะถูกเหอยี่หานและพรรคพวกของเหลียงเยว่ซินวางแผนหักหลัง ขโมยข้อมูลสูตรลับของผลิตภัณฑ์ที่สำคัญไป ทั้งยังถูกเล่นงานด้วยวิธีสกปรกมากมาย รวมทั้งเกิดเหตุการณ์โรงงานไฟไหม้ กิจการของบริษัทคงไม่ทรุดหนักจนถูกบังคับล้มละลายแบบนี้

ถ้าพี่ไม่ถูกทำร้ายจนพิการและครอบครัวเจอมรสุมหนักติดต่อกัน ซีหลินเชื่อว่า ด้วยความสามารถของเขาจะต้องมีหนทางทำให้ตระกูลหลี่พลิกฟื้นกลับมาได้แน่ อาจจะไม่ถึงขั้นกลับไปรวยเป็นพันล้าน หมื่นล้านเหมือนเมื่อก่อน แค่พอมีเงินจ่ายหนี้ให้แก๊งเงินกู้นอกระบบให้เลิกตามมาระราน รวมทั้งมีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้พ่อได้ก็ดีมากแล้ว

ซีหลินไม่คิดว่าที่ตัวเองแกล้งร้องไห้สร้างเรื่องโกหกทำเหมือนจะฆ่าตัวตายเมื่อกี้เป็นเรื่องผิดมากนัก หากช่วยให้พี่ชายหลีกเลี่ยงอันตรายใหญ่หลวงได้ แค่โกหกเล็กน้อยก็ถือเสียว่าเป็นโกหกสีขาว ทำไปเพราะความหวังดี

เสียงกระแอมดังขึ้นเบาๆตอนที่ซีหลินยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากแก้ม พอหันไปมอง ดวงตาของหญิงสาวก็เบิกตาโต

ข้างหลังของเธอห่างออกไปไม่ถึงสองเมตร มีกลุ่มผู้ชายผู้หญิงใส่สูทผูกไท ทั้งวัยหนุ่มสาวถึงวัยชราเหมือนนักธุรกิจมาเจรจาการงานสิบกว่าคนหยุดรออยู่

ตอนนี้ซีหลินยืนอยู่บนสะพานกลางสระบัวที่กำลังมุ่งหน้าไปสู่ตัวตึกศูนย์กลางของโรงแรม เป็นสะพานไม้มีความยาวพอสมควรแต่ขนาดไม่กว้างมาก แค่พอให้คนเดินสวนกันได้สองคนเท่านั้น เมื่อครู่ที่คุยโทรศัพท์กับพี่ชาย เธอเดินทางถึงกลางสะพานนี้ และไม่รู้ว่าคนเหล่านี้เดินตามมา เลยหยุดคุยกับพี่ครู่หนึ่ง คนพวกนี้อาจจะเดินขึ้นสะพานมาทีหลัง เดินมาเรื่อยๆก็มาเจอเธอขวางทางอยู่ ไม่กล้าเดินผ่านไป เลยยืนรออยู่เงียบๆ

ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินเรื่องที่เธอพูดไปเมื่อครู่แค่ไหน จะว่าน่าอายก็น่าอาย แต่มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ซีหลินยกมือขึ้นปาดน้ำตา เธอหันไปผงกหัวให้คนเหล่านั้นที่บางคนก็มีใบหน้าที่เหมือนคุ้นๆอยู่ในความทรงจำของเจ้าของร่างเป็นเชิงทักทาย

ไม่กล้ายืนอยู่นานให้ขายหน้าอีก เธอเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม ทำท่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วรีบวิ่งออกจากสะพานไป

"ถึงใบหน้าของเธอจะเลอะเทอะอยู่สักหน่อย แต่ผมจำได้ คุณหนูซีหลินจากตระกูลหลี่" ชายหนุ่มอายุราวๆยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปี ใส่ชุดสูทสีเทาบุคลิกดีเหมือนเศรษฐีหนุ่มเอ่ยขึ้นมา

"ตระกูลหลี่ ของท่านประธานหลี่ห้าวเหยียนที่พึ่งล้มละลายไปเมื่อเดือนก่อนเหรอคะ" หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเอ่ยถาม

"ใช่ครับ"

"งั้น ชื่อเหอยี่หาน ที่เธอพูดถึง ก็หมายถึงท่านประธานเหออดีตคู่หมั้นของเธอคนนั้นน่ะสิ" เสียงซุบซิบดังขึ้นเบาๆ

"ไม่ใช่ว่าวันนี้คุณชายเหอจัดงานวันเกิดให้คนรักที่โรงแรมของเราเหรอ พวกเราก็พึ่งเดินผ่านสถานที่จัดงานมาเมื่อกี้ใช่มั้ย ที่ขึ้นเวทีเป่าเทียนจุดเค้ก แสดงความรักกันหวานหยดน่ะ"

"เหมือนคุณชายเหอจะพึ่งประกาศถอนหมั้นกับคุณหนูตระกูลหลี่ หลังครอบครัวเธอล้มละลายเมื่อปลายเดือนที่แล้วนี่เองนะ"

"แค่พริบตาก็ได้คนรักใหม่แล้ว เป็นอดีตเพื่อนสนิทของแฟนเก่าเสียด้วย ถ้าทางเรื่องที่คุณหนูซีหลินพูดกับพี่ชายในโทรศัพท์น่าจะมีข้อเท็จจริงอยู่ไม่น้อยเลย"

"แต่เห็นในเว่ยต้าคนเขาพูดว่าคุณหนูซีหลินนิสัยไม่ดีไม่ใช่เหรอ เห็นขึ้นเทรนด์เรื่องที่เธอทำตัวไม่ดีตั้งหลายครั้ง แฟนคลับคุณชายเหอเกลียดเธอกันจะตาย เห็นบอกว่าคุณชายเหอก็สุดจะทนกับเธอแล้ว ที่เลิกกันก็เป็นความผิดของเธอเองที่นิสัยไม่ดี "

"จะนิสัยดีไม่ดียังไงก็เป็นคู่หมั้นกันไม่ใช่เหรอ หมั้นกันมาตั้งเกือบสองปี ใช้ข้ออ้างว่าแฟนเรานิสัยไม่ดีแล้วนอกใจไปเป็นชู้กับเพื่อนสนิทของแฟนนี่มันก็เกินไปนะ"

"ว่าแต่ว่าเรื่องแฟนใหม่คุณชายเหอนี่มายังไงนะ ทำไมฉันไม่เคยเห็นข่าวอะไรเลยล่ะ แล้วดูในเว่ยต้าสิเงียบสนิทเลย จัดงานวันเกิดกันหรูหราขนาดนี้แต่ไม่มีใครพูดถึงสักโพสต์" พนักงานคนหนึ่งนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดดู

"ถ้าพึ่งเลิกกับคู่หมั้นแล้วประกาศคบคนใหม่ทันที ต่อให้ภาพลักษณ์ดีแค่ไหนก็มีหวังถูกสาปน่ะสิ อีกอย่างงานที่จัดวันนี้ก็เหมือนจะเชิญมาแต่คนสนิท ทางโรงแรมก็ได้รับคำสั่งให้รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ห้ามนักข่าวหรือคนนอกเข้างาน"

"ดูเหมือนคุณชายเหอจะปกป้องคนรักใหม่ของเขาดีเลยนะ ฉันจำได้สมัยก่อนที่คุณหนูซีหลินโดนคนด่าจนขึ้นเทรนด์ ไม่เคยเห็นคุณชายเหอออกมาปกป้องเธอแบบนี้บ้างเลย อ๋อ ยังมีคลิปไวรัลอันนั้นที่เขา เลือกจะช่วยผู้หญิงอ่อนแอที่ถูกเธอรังแก แล้วด่าเธอที่ใจร้าย จนเธอร้องไห้อะ จำได้ว่าตอนนั้นเขาถูกชมยกใหญ่เลย บอกว่าเป็นคนดี เห็นแก่คุณธรรมมากกว่าญาติมิตร"

เสียงพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นเบาๆระหว่างที่พวกเขาเดินออกจากสะพานมา

ซ่งเว่ยหนานรับฟังคำพูดของคนเหล่านี้เงียบๆด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทำเหมือนไม่ได้ยิน ทั้งๆที่ในใจชายหนุ่มมีความประหลาดใจอยู่ไม่น้อย เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน เขายังเห็นคุณหนูหลี่ซีหลินคนนั้นเชิดหน้าทวงเงินคืนจากคนตระกูลเหออย่างเย่อหยิ่งอยู่เลย เวลาผ่านไปแค่ไม่นาน เธอก็มาร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่กลางสะพาน ทั้งยังมีทีท่าเจ็บปวดเสียใจจนเหมือนจะอยากฆ่าตัวตายเสียอย่างนั้น?….

ซ่งเว่ยหนานครุ่นคิดถึงบางอย่าง ขณะสายตาก็เหลือบมองไปทางร่างอรชรที่เดินเร็วๆนำอยู่ข้างหน้าไม่ไกลนัก

"ท่านประธานซ่ง สนใจจะไปดูส่วนไหนของโรงแรมอีกหรือเปล่าครับ" ชายสูงอายุที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าใหญ่ที่สุดของคนที่เดินตามซ่งเว่ยหนานมาเอ่ยถามด้วยความนอบน้อม

"ผมดูพอแล้วล่ะ" เขาละสายตาจากอะไรบางอย่างที่อยู่เหนือศีรษะของซีหลินที่พึ่งก้าวผ่านประตูโรงแรมเข้าไป กลับมา

"ตอนนี้อยากอ่านรายงานผลประกอบการของโรงแรมพวกคุณมากกว่า"

"พวกเราเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้วครับ ถ้าอย่างนั้นเชิญท่านประธานซ่งที่ห้องประชุมทางนี้เลย"