webnovel

0889 การต่อสู้ในวันสิ้นโลกของชายคนหนึ่ง (ตอนสอง)

ตอนที่ 889 การต่อสู้ในวันสิ้นโลกของชายคนหนึ่ง (ตอนสอง)

ทันทีที่เข้าสู่โลกนี้จะสูญเสียพลังทั้งหมด นี่ถือว่าอันตรายสำหรับทุกคน

ตอนนี้กฎเกณฑ์แห่งปฐพีฟื้นคืนแล้ว คนจากเจ็ดวิหารจะไม่มา

เพื่อรับมือกับโลกที่ไร้ผู้คน มลพิษคือสิ่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดและปลอดภัยที่สุด ยังไงเสีย สิ่งมีชีวิตในโลกใบนี้ก็สูญพันธุ์ไปแล้ว โลกไม่สามารถรับมือกับสิ่งเหล่านี้ได้

เหรียญสีทองส่งเสียงดิ๊งด่องอย่างวิตก

มันคือวิญญาณของโลกดิน โลกดินคือร่างกายของมัน

ถ้าโลกดินถูกทำลาย มันจะตายด้วยเช่นกัน

“เจ้าจะให้ข้ากำจัดแหล่งกำเนิดมลพิษทั้งหมดนี่โดยอาศัยรากฐานการฝึกฝนกับดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพของข้าหรือ”

กู่ฉิงซานถาม

เหรียญสีทองขึ้นลงอย่างรวดเร็ว เป็นสัญญาณว่าหมายความตามนั้น

กู่ฉิงซานครุ่นคิดก่อนกล่าวช้าๆ ว่า

“…นี่ไม่ใช่ทางที่ดีเลย ไม่เพียงแค่ข้าต้องการพลังวิญญาณจำนวนมากเพื่อทำแบบนี้เท่านั้น มันส่งผลกระทบมากเกินไปด้วย ถ้าอีกฝ่ายเปิดฉากด้วยการโจมตีแบบเดิมในครั้งต่อไป ข้าจะไม่มีแรง”

“ยิ่งกว่านั้น ข้าไม่สามารถอยู่ในโลกใบนี้ได้ตลอดกาล หลังจากไปแล้ว เจ้าจะทำยังไงล่ะ”

เหรียญสีทองคิดสถานการณ์ดังกล่าวตามก่อนพลันส่งเสียงสะอึกสะอื้นที่น่าเศร้าออกมา

“อย่ากังวลไปเลย” กู่ฉิงซานปลอบ “ตอนนี้อีกฝ่ายไม่สามารถเข้ามาได้แล้วและไม่มีใครในโลกใบนี้ การจะแก้ปัญหานี้นับว่าง่าย”

เหรียญสีทองตกตะลึง

กู่ฉิงซานกุมเหรียญสีทองไว้ในมือก่อนหายไปจากที่นั่น

ไกลออกไปหลายพันไมล์

กู่ฉิงซานปรากฏขึ้นเหนือซากปรักหักพัง

ก่อนจะถึงจุดจบ มันเคยเป็นศูนย์ผลิตจักรกลจู่โจม

กู่ฉิงซานชักดาบศักดิ์สิทธิ์ออกมา

เขาตวัดประกายดาบใหญ่ออกไป ระเบิดซากปรักหักพังทั้งหมดให้กลายเป็นหลุมลึก

วินาทีต่อมา ศูนย์ผลิตจักรกลใหม่ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

ถึงแม้กู่ฉิงซานจะเคยเห็นมาแล้ว แต่เขายังอดที่จะทึ่งกับช่วงเวลานี้ไม่ได้

…การหวนคืนสิ่งหนึ่งไปยังสภาพหนึ่งที่ช่วงเวลาหนึ่งในอดีตมันไม่ต่างจากปาฏิหาริย์

ลั่วปิงหลีกล่าวอย่างหดหู่ว่า “ข้าเพิ่งตื่นขึ้นมา แต่กลับอยากให้ข้าไปนอนอีกแล้วหรือ”

กู่ฉิงซานขอโทษเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “ถ้าครั้งนี้เจ้าพยายามอย่างหนัก เจ้าก็ไม่ต้องเหนื่อยในภายหลังไง”

“เอาเถอะ กระแสปั่นป่วนกินแรงเกินไป ตอนนี้ข้าขอไปนอนก่อนล่ะ”

ลั่วปิงหลีหาวก่อนกล่าวเสียงง่วงงุน

ผ่านไปสักพัก มีเสียงกรนเล็กน้อยมาจากดาบศักดิ์สิทธิ์

ผู้หญิงคนนี้กรนขณะหลับ

อาจจะเหนื่อยเกินไปก็ได้…

เมื่อคิดถึงตรงนี้ กู่ฉิงซานกังวลเล็กน้อยจนอดที่จะถามดาบพิภพไม่ได้ว่า “ข้าใช้กระแสปั่นป่วนบ่อยครั้ง จะเป็นภาระกับดาบศักดิ์สิทธิ์หรือเปล่า”

เสียงของดาบพิภพเหมือนกับขุนเขา “อย่าห่วงไปเลย การออกกำลังดีต่อชีวิต”

กู่ฉิงซานฟังสองคำแรกก่อนจะเมินส่วนหลังไป

เขาไม่ได้สนใจการผลักดันอันคร่ำครึนี่ ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเกินไป

หลังจากเหาะลงมาแล้วเข้าสู่โรงงานผลิตจักรกล กู่ฉิงซานพบสายไฟหลัก เขาหยิบสายจากข้างในออกมาแล้วพันไว้รอบแขน

ปัญหาเรื่องพลังได้รับการคลี่คลายแล้ว

ต่อไป…

เขาเดินไปหาจักรกลที่สมบูรณ์ก่อนหยิบสมองจักรกลในตัวของจักรกลออกมาผ่านการควบคุมระยะไกล

พอเปิดใช้งานและแก้ไขข้อบกพร่องแล้วจึงยืนยันได้ว่าสมองจักรกลนี้มีความคล้ายคลึงกับสมองจักรกลส่วนตัวของเขามาก

ดูท่าหลังจากโลกนี้มีสมองจักรกลเป็นของตัวเองแล้ว ได้มีการรื้อค้นและวิจัยอย่างละเอียด ถึงอย่างนั้นก็ยังมีอะไรให้ทำอีกมากมาย

เพียงแต่ว่าพวกเขามีเวลาไม่มากพอที่จะศึกษาสมองจักรกล

กู่ฉิงซานตบถุงเก็บของ หยิบชิ้นส่วนมากมายออกมาแล้วเริ่มสร้างสมองจักรกลส่วนตัวขึ้นมาใหม่

ใช้เวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง สมองจักรกลส่วนตัวจึงพร้อมใช้งาน

กู่ฉิงซานเชื่อมต่อกับระบบหลักของศูนย์จักรกลนี้

จากมุมมองเรื่องเทคโนโลยีสมองจักรกล ระบบการผลิตเครื่องจักรสามารถควบคุมโลกนี้ได้อย่างง่ายดาย

กู่ฉิงซานควบคุมระบบหลักของศูนย์จักรกลได้อย่างสบาย ๆ

เขาเริ่มสร้างรูปแบบพลังงาน กระบวนการผลิต วิธีการสถาปัตยกรรมระบบและระบบการตัดสินใจของเครื่องจักรขึ้นมาใหม่

ใช้เวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน จนกระทั่งเหรียญสีทองกระโดดออกมาแล้วส่งเสียงร้องไห้คร่ำครวญอีกหนกู่ฉิงซานจึงออกแบบทุกสิ่งเสร็จสิ้น

“ท่านกู่ฉิงซาน ท่านจะใช้อัลกอริทึมหลักในการสร้างเกราะศึกเคลื่อนที่เป็นอะไร” ระบบปัญญาของสมองจักรกลส่วนตัวถาม

กู่ฉิงซานคิดถึงสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา

นานมากแล้วที่เขากลับมาสู่โลกเดิม

เขาคิดถึงเทพธิดาแห่งความยุติธรรม

ตอนแรก เขาใช้วิถีโครงสร้างชีวิตเพื่อช่วยเทพธิดาแห่งความยุติธรรมหลุดพ้นจากกรง

ตอนนี้ เขาก้าวไปอีกขั้นแล้ว

กู่ฉิงซานสงบสติลงแล้วกล่าวว่า “ด้วยวิถีโครงสร้างชีวิตเป็นแกนประกอบกับการออกแบบทั้งหมดของข้า พวกเราจะเริ่มทดลองผลิตเกราะศึกเคลื่อนที่ตัวแรก”

“พร้อมแล้ว โปรดตั้งชื่อจักรกลด้วย”

“เรียกมันว่าผู้สร้างโลก มันคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง”

“รับเรียบร้อย ผู้สร้างโลกเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตแล้ว”

ในศูนย์ผลิตจักรกลขนาดใหญ่ แขนหุ่นยนต์จำนวนมากเริ่มวุ่นวายกันยกใหญ่

สิบชั่วโมงต่อมา

เกราะศึกเคลื่อนที่ขนาดเล็กปรากฏขึ้นต่อหน้ากู่ฉิงซาน

เกราะศึกเคลื่อนที่ตัวนี้ดูแปลกประหลาดนิดหน่อย เพราะมันสูงเพียงสองเมตร สูงกว่ากู่ฉิงซานไม่มากด้วยซ้ำ

มันดูเหมือนคนมากกว่าเครื่องจักร

กู่ฉิงซานใส่แกนพลังขนาดเล็กเข้าไปในจักรกลตัวนี้ที่ชื่อ “ผู้สร้างโลก”

เริ่มทำงาน

ดวงตาอิเล็กทรอนิกส์หนึ่งคู่ของผู้สร้างโลกทอประกายขึ้นมา

แสงสีน้ำเงินนับไม่ถ้วนทอประกายในดวงตาไม่มีสิ้นสุด

นี่หมายถึงมันกำลังเรียนรู้ข้อมูลต่าง ๆ

หนึ่งนาทีต่อมา

แสงสีน้ำเงินในดวงตาของผู้สร้างโลกมั่นคง

มันมองกู่ฉิงซานก่อนคุกเข่าลงข้างหนึ่ง

“ท่านพ่อ ขอบคุณที่สร้างข้ามาขึ้นมา” ผู้สร้างโลกกล่าว

“เข้าใจเกี่ยวกับงานทั้งหมดแล้วใช่เปล่า” กู่ฉิงซานถาม

“เข้าใจขอรับ ขั้นตอนแรกคือสร้างหุ่นยนต์ขนส่งแบบดั้งเดิมเพื่อรวบรวมทรัพยากรกับพลังงาน ขั้นตอนที่สองคือรวบรวมมลพิษและใช้ยานปล่อยของแบบดั้งเดิมเพื่อส่งพวกมันออกไปจากโลก ขั้นตอนที่สามคือฟื้นคืนระบบลำเลียงพลังงานของโลก ขั้นตอนที่สี่คือสร้างเกราะศึกเคลื่อนที่ของจริง พัฒนาอาวุธและสร้างเมืองหุ่นยนต์ขึ้นมา ขั้นตอนที่ห้าคือพัฒนาเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด บรรลุการขนส่งที่ครอบคลุมทั่วโลก ทำให้ผิวโลกเป็นโลหะ ขั้นตอนที่หกคือเรียนรู้และค้นคว้าอิสระเพื่อทำให้โลกหุ่นยนต์มั่งคั่งมากยิ่งขึ้น”

กู่ฉิงซานดีดนิ้ว “ลงมือทำได้”

“ขอรับ”

ผู้สร้างโลกเดินไปที่ระบบหลักและเริ่มติดต่อกับสมองจักรกลเพื่อควบคุมกระบวนการผลิตจักรกลทั้งหมด

หุ่นยนต์ขนส่งตัวแล้วตัวเล่าถูกสร้างขึ้นมา

พวกมันจะรับผิดชอบเรื่องรวบรวมพลังงานแทนกู่ฉิงซานที่เป็นร่างพลังงานหลัก

เดิมที กู่ฉิงซานสามารถส่งมลพิษออกนอกโลกเองได้

แต่เขายังตัดสินใจให้หุ่นยนต์ทำ

มันปลอดภัยกว่า

เหรียญสีทองมองทุกสิ่งตรงหน้าอยู่เงียบๆ ในที่สุดก็ส่งเสียงดิ๊งด่องด้วยความสงสัยออกมา

“อย่าห่วงไปเลย” กู่ฉิงซานกล่าว “ในโลกใบนี้ ไม่มีตัวตนไหนสามารถใช้พลังวิเศษได้ ดังนั้นสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดควรจะเป็นเครื่องจักร”

“ข้าจะสร้างโลกของเกราะศึกเคลื่อนที่ขึ้นมาเพื่อเจ้า แบบนี้ ไม่ว่าใครจะมาที่โลกใบนี้ ผลลัพธ์จะมีแค่หนึ่งเดียว… นั่นก็คือถูกบดขยี้จนเละโดยเครื่องจักรเหล็กกล้าเหล่านี้”

เหรียญสีทองหมุนสองครั้งคล้ายกับไม่เข้าใจ

ทันใดนั้นเอง มันส่งเสียงร้องอย่างระแวดระวังออกมา

“เป็นอะไร” กู่ฉิงซานถาม

ในเวลาเดียวกัน

สนามบิน

ท่ามกลางซากปรักหักพังของศูนย์ซ่อมแซมจักรกล

ในความว่างเปล่า เหรียญหนึ่งพลันปรากฏขึ้น

นี่คือเหรียญที่มีตัวเลขดิจิทัล ประตูสลักอยู่ด้านหน้า ตัวเลขคือ “เก้าร้อยหกสิบสาม”

ในบรรดาหนึ่งพันเอ็ดเหรียญของพื้นที่จ้าวโลก มันเป็นของที่หายากมาก มูลค่าสุดที่จะคาดเดา

ด้วยการปรากฏตัวของมัน ความว่างเปล่าพลันเปิดออก

หลายร่างตกลงมา

“แอนนาอยู่ที่ไหนหลังจากเข้ามา” ร่างหนึ่งถามทันที

อีกร่างชี้ไปที่คอนโซลซ่อมแซมที่ทรุดโทรมแล้วตอบว่า “ข้าเห็นชัดเจน นางไปที่นั่น”

…เพราะคอนโซลซ่อมแซมสร้างมาจากวัสดุกึ่งฉนวนกึ่งโลหะ มันจึงถูกไฟเผา ส่วนใหญ่เหลือแต่ซาก

ร่างตรงหน้าคำรามออกมา “ขยับให้ไวหน่อย ช่องทางขนส่งชั่วคราวของพวกเราอยู่ได้แค่หนึ่งนาที แค่นี้ก็กินพลังเหรียญไปมากโขแล้ว!”

“ขอรับ” อีกคนตอบ

พวกเขาร่างใหญ่กำยำ เห็นได้ชัดว่าเป็นนักสู้ดุร้ายที่ถูกเลือกมาอย่างดีแล้วทุกคน

ความจริง พวกเขาคือกลุ่มที่ทรงพลังที่สุดในพื้นที่จ้าวโลก

ถึงแม้พลังอันยิ่งใหญ่ในร่างกายจะไม่สามารถใช้ได้ แต่พลังของร่างกายภาพมากพอจะทำให้พวกเขาย้ายของหนักได้

อย่างเช่น…

แท่นซ่อมแซมถูกพวกเขายกด้วยความเร็วสูงสุด

“สิบวินาทีสุดท้าย!”

“เอามาให้ข้า!”

ผู้นำหยิบเหรียญออกมา ลูบอย่างไม่เต็มใจ จากนั้นโยนขึ้นไปในอากาศ

เหรียญสลายเป็นผุยผง

แต่พลังที่ปล่อยออกมายังอยู่

แว้บ…

คนเหล่านี้หายไปจากโลกดินพร้อมแท่นซ่อมแซม

พื้นที่จ้าวโลก

โถงลับของเจ็ดวิหาร

สังฆราชทั้งเจ็ดผู้เป็นตัวแทนของเจตจำนงเทพรวมตัวที่นี่ พวกเขาคือบุคคลที่ทรงพลังที่สุดทั่วพื้นที่จ้าวโลก

“ในตอนนั้น แอนนามาที่นี่คนเดียว นางใส่ของบางอย่างเข้าไปในนี้งั้นหรือ” สังฆราชจากวิหารแห่งชีวิตถาม

“ครับท่าน พวกข้าเห็นเต็มตา” ผู้ศรัทธาคนหนึ่งตอบ

อีกหลายคนที่ยืนอยู่ด้านข้างตอบรับเช่นกัน

“ถ้างั้น หนึ่งในพวกเจ้าได้ทำลายที่นั่นเพื่ออยากทดสอบการตอบสนองของแอนนา แต่กลายเป็นทำให้นางโกรธจนทำการสังหารสินะ” สังฆราชจากวิหารแห่งความลับถาม

“ครับ นี่คือความจริงขอรับ” ผู้ศรัทธาอีกคนตอบ

ชายร่างใหญ่หลายคนชำเลืองมอง ดวงตาของพวกเขาจับจ้องแท่นซ่อมแซมจักรกล