ตอนที่ 123 การเจรจาแลกเปลี่ยน
“เจ้าต้องการอะไรกัน เหตุใดจึงอยู่กับแอนนาของข้า!?” ชายชราไม่อาจปรามอารมณ์ของตน เขาเอ่ยสวนกลับไปอย่างรวดเร็วจนแทบจะตะโกนออกมาแล้ว
“มิใช่ว่าท่านส่งทั้งสองคนมายังรัฐบาลกลางเพื่อทำการค้นหาผู้ที่มีพรสวรรค์มากเป็นพิเศษหรอกหรือ” กู่ฉิงซานยกนิ้วโป้งชี้มาที่ตนเอง “ก็ผมนี่ไง”
ชายชราชะงัก ดูเหมือนว่าเขาจะกำลังนึกอะไรบางอย่าง ก่อนจะเอ่ยพึมพำออกมา “…ข้าสั่งไปเช่นนั้นก็จริง แต่ว่า…”
กู่ฉิงซานกล่าว “ผมเป็นหัวหน้านักวิจัยหุ่นรบขับเคลื่อนของรัฐบาลกลาง ทว่าตอนนี้รอบตัวผมถูกรุมล้อมด้วยผู้ติดเชื้อไวรัส แอนนาจึงเอ่ยปากว่า หากผมมีสิ่งใดต้องการจะร้องขอ ก็ขอให้เอ่ยออกมาแต่ต้องให้ท่านเห็นพ้องด้วยก่อนเป็นอันดับแรก”
ชายชราชะงักงันด้วยความมึนงงอีกครั้ง
ทันใดนั้นเอง มือของพระสันตะปาปาก็วูบไหว พร้อมกับปรากฏสองนักบวชในชุดคลุมสีดำขึ้นเบื้องหลังเธอ
“เขาเป็นหัวหน้านักวิจัยหุ่นรบขับเคลื่อนแห่งรัฐบาลกลางจริงๆ หรือเปล่า” สันตะปาปาเอ่ยถามด้วยความเย็นชา
นักบวชชุดดำคนหนึ่งเอ่ยตอบ “มีคลิปวิดีโอสาธิตหุ่นรบของกู่ฉิงซานอยู่ มันเป็นหุ่นรบรุ่นใหม่ล่าสุดที่ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยเขา เห็นว่ามีต้นแบบมาจากโมเดลเพลิงนางฟ้า”
“แสดงว่าเขาเป็นคนผลิตหุ่นรบนั่นขึ้นมาจริงๆ ใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว”
พระสันตะปาปาเริ่มที่จะเกิดความสนใจบางอย่างขึ้น
เธอหันไปทางชายชรา และพยักหน้าส่งสัญญาณ
“กะ กะ...กู่ฉิงซาน แล้วสิ่งที่เจ้าต้องการร้องขอคืออะไร ขอใช้สิทธิ์ลี้ภัยมายังจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรือ?”
ชายชราจ้องมองเขา ก่อนจะหันไปมองแอนนาที่อยู่ห่างออกไปด้วยความสงสัย
“จริงๆ แล้วผมต้องการจะจ้างวานแอนนากับวอนฟอร์ดให้ช่วยคุ้มครองผมไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย แต่พวกเขากลับบอกว่าไม่สามารถทำมันได้”
“นั่นก็แน่นอนอยู่แล้ว เพราะเธอจะต้องรีบกลับมาในเร็วๆ” ชายชราหุบปากลงอย่างไม่เต็มใจ
พระสันตะปาปาวางมือลงบนไหล่ของชายชรา นั่นจึงเป็นเหตุให้ชายชราหุบปากลงทันที
พระสันตะปาปาเอ่ยถามอย่างอ่อนโยนว่า “คุณนักวิทยาศาสตร์ แล้วคุณจะตอบแทนอะไรให้แก่จักรวรรดิเพื่อแลกกับการมีชีวิตรอดเล่า?”
“ห้าเทคโนโลยีการวิจัยหุ่นรบรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งนับว่าเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดแห่งยุค” กู่ฉิงซานกล่าวตอบอย่างเร่งร้อน
พระสันตะปาปาเหลือบมองไปยังนักบวชชุดคลุมดำ
คนหนึ่งได้ทำการโยนเหรียญดีร้ายเสี่ยงทาย ก่อนจะพยักหน้าและกล่าว “เขาพูดความจริง”
สองตาที่ลึกโบ๋ของพระสันตะปาปาหรี่เข้าหากัน
“เพียงห้า แลกกับชีวิตของคุณ นับว่ายังน้อยเกินไป” เธอกล่าว
“ผมสามารถมอบงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพิ่มให้คุณได้อีกหนึ่ง เป็นทั้งหมดหก แต่นั่นก็ตราบใดที่ทั้งสองคนสามารถช่วยคุ้มครองผมได้” กู่ฉิงซานกล่าว
ทันใดนั้น จู่ๆ พระสันตะปาปาก็เอ่ยถาม “แล้วผลงานวิจัยทั้งหมดนั่นเป็นของคุณจริงๆ ใช่หรือเปล่า?”
“ถูกต้อง และผมสามารถนำข้อมูลของมันไปมัดจำไว้ก่อนก็ได้ แต่แค่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้นนะ” ระหว่างกล่าว กู่ฉิงซานก็ส่งผ่านข้อมูลผ่านอุปกรณ์สื่อสาร
สันตะปาปาเหลือบมองไปยังนักบวชชุดดำอีกคนหนึ่ง
นักบวชก้าวขึ้นมา พร้อมกับเริ่มทำการตรวจสอบข้อมูลอย่างระมัดระวัง
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พยักหน้า “เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีหุ่นรบที่พวกเราใช้กันในตอนนี้ มันสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเป็นอย่างมาก อาจถึงขั้นกล่าวได้ว่าเราเป็นเพียงทารก ส่วนอีกฝ่ายเป็นถึงคนวัยหนุ่มที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี และไม่มีข้อบกพร่องใดๆ”
บนใบหน้าของเขาปรากฏถึงร่องรอยของความเสียใจและกล่าว “ทว่าน่าเสียดาย ข้อมูลที่ได้มากลับมีเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น”
“เป็นคนที่ระมัดระวังตัวแจเลยสินะ” พระสันตะปาปายิ้ม
ความสนอกสนใจของเธอค่อยๆ ทะยานสูงขึ้น
ไม่คาดคิดเลยจริงๆ ว่าแอนนาจะไปบังเอิญตกได้ปลาตัวใหญ่เข้า
องค์หญิงตัวน้อยผู้แสนจะดื้อรั้น แท้จริงแล้วกลับมีความสามารถมากขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม อีกไม่นานคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์ก็จะเข้าควบคุมประเทศภายในเร็วๆ นี้ ทว่าแอนนากลับเป็นคนของราชวงศ์ ดังนั้นตัวตนของเธอจึงนับว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน
พระสันตะปาปายิ้มและกล่าวผ่านไปยังอุปกรณ์สื่อสาร “พวกเราจะสามารถทำการแลกเปลี่ยนกันในระยะยาวได้หรือไม่? คุณก็ทราบดีว่าในเรื่องของงานวิจัยและเทคโนโลยี ทางจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์โอลันก้านั้น นับว่าล้าหลังอยู่มาก”
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างสุภาพ “ผมมีงานวิจัยล้ำสมัยอยู่อีกกว่าสิบชิ้น หากทางจักรวรรดิต้องการแล้วล่ะก็ คงต้องให้จ่ายมันในราคาที่เหมาะสม”
“ในฐานะที่คุณเป็นนักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลกลาง คุณไม่คิดจะภักดีต่อพวกเขาอย่างนั้นหรือ?” สันตะปาปาถาม
กู่ฉิงซานยิ้มและกล่าว “ถ้าคุณได้รับรู้ถึงสิ่งที่ผมโดนกระทำมาและกำลังจะเกิดขึ้น คุณก็สมควรจะรู้ว่าผมมีทัศนคติเช่นไรกับรัฐบาลกลาง”
เขาชี้ไปยังฉากเบื้องหลังที่ห่างออกไปและกล่าวต่อ “นอกจากนี้ นี่ยังเป็นช่วงเปลี่ยนผัน ผมคงต้องคิดให้ดีเกี่ยวกับเรื่องของตนเอง”
พระสันตะปาปายื่นมือออกไปรับเอกสารจากนักบวชชุดดำ ก่อนจะกวาดสายตาลงไปบนมัน
แล้วเธอก็ค้นพบว่าเป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ พวกชนชั้นสูงของรัฐบาลกลางที่แท้จริงแม้ดูมีคุณธรรม ทว่ากลับหมายที่จะครอบครองเทคโนโลยีจัมป์ระหว่างดวงดาว เมื่อสามสิบปีก่อนจึงก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น
หากเทียบกับกู่ฉิงซาน นี่นับว่าเป็นเรื่องราวที่แทบจะคล้ายคลึงกัน เพียงแต่ดันเกิดการเปลี่ยนแปลงขั้นร้ายแรงขึ้นเสียก่อนเท่านั้นเองที่ได้ยืดชีวิตเขาออกไปชั่วคราว
ตัวตนดั่งเช่นชายผู้นี้ ย่อมจะไม่จงรักภักดีต่อรัฐบาลกลางอย่างแน่นอน
ระหว่างนี้ นักบวชก็ได้ทำการโยนเหรียญอีกครั้งก่อนจะเอ่ยปาก “เขาไม่ได้โกหก เขาครอบครองงานวิจัยเทคโนโลยีเป็นจำนวนเท่านั้นจริงๆ”
ในที่สุดท่าทีของพระสันตะปาปาในตอนนี้ก็เริ่มที่จะจริงจัง
เทคโนโลยีหุ่นรบที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ แน่นอนว่าย่อมสามารถสร้างผลประโยชน์ได้อย่างมหาศาล พัฒนาความเป็นอยู่ทางสังคม และยังช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกด้วย
นี่นับว่าส่งผลดีเป็นอย่างมากต่อคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน
เนื่องจากไม่ใช่ว่านักบวชทุกคน ที่จะโชคดีสามารถปลุกเทคนิคเทียนซวนแห่งคริสตจักรได้
เทคโนโลยีที่กำลังจะได้มาครอบครองนี้ จะเป็นส่วนเสริมที่ดีทั้งในด้านกำลังรบและแรงงาน!
เมื่อพระสันตะปาปาคิดถึงจุดนี้ เธอก็หันไปส่งสัญญาณทางสายตาแก่ชายชรา
ชายชราจำต้องเอ่ยขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “เช่นนั้นก็ดี ข้าอนุญาตให้แอนนาคุ้มครองเจ้า คุ้มครองจนกว่าเจ้าจะหลุดพ้นจากอันตราย แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ขอให้ข้าไปพบกับเธอเสียหน่อย”
“แอนนา” กู่ฉิงซานตะโกนไปยังเบื้องหลัง “มานี่สิ”
แอนนาผู้ครอบครองรูปโฉมงดงามปรากฏขึ้นบนจอม่านแสง
ชายชราจ้องมองเธออย่างคลุ้มคลั่งและเอ่ยบัญชา “นับจากนี้ หลังจากที่เจ้าเสร็จสิ้นภารกิจคุ้มครองเขา ขอจงกลับมายังบ้านเกิดในทันที”
“ทราบแล้ว ท่านพ่อ” แอนนามองไปยังพระบิดาด้วยแววตาประหลาดใจ ก่อนจะหันไปมองพระสันตะปาปาที่ยืนอยู่ข้างๆ
และการสื่อสารก็จบลง
“ท่านแม่ เหตุใดท่านจึงทำเช่นนี้!” ชายชราเอ่ยออกมาด้วยความโกรธ คิ้วขมวดมุ่นจนปรากฏริ้วรอยยับย่นบนใบหน้า
“ก็ไม่มีเหตุผลอะไร นี่มันเป็นเรื่องผลประโยชน์อย่างมหาศาลสำหรับเรา ส่วนแอนนาจะช้าหรือเร็วเธอก็ต้องกลับมาอยู่ดี”
พระสันตะปาปาเอ่ยสั่ง “แจ้งไปยังเหล่าพิพากษาศักดิ์สิทธิ์ ให้ระดมกำลังผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดออกเดินทางไปยังรัฐบาลกลาง นำพานักวิทยาศาสตร์ผู้นั้นและแอนนากลับมาให้จงได้”
“ทราบแล้ว” นักบวชชุดดำเอ่ยรับคำสั่งและจากไป
“เด็กน้อย เช่นนี้เจ้าพอใจหรือยัง” สันตะปาปาเอ่ย
“ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด? ท่านกำลังกล่าวถึงฮิวป์? สาวกศักดิ์สิทธิ์ฮิวป์!?”
“ย่อมต้องเป็นเขา ก็แอนนาน่ะทั้งการกระทำและนิสัยของเธอมันซุกซนจนเกินงาม คงจะมีเพียงเขาเท่านั้นแหละที่จะสามารถจับเธอได้” พระสันตะปาปากล่าว
“เช่นนั้นข้าพอใจ พอใจเกินกว่าที่ควรด้วยซ้ำ ฮ่าๆๆ แทบจะอดใจรอพบเจอกับแอนนาไม่ไหวแล้ว”
ชายชราในที่สุดก็ค่อยโล่งอก เขาหัวเราะร่า สองมือโบกร่ายรำไปมาอย่างมีความสุข
ณ สหพันธรัฐ รัฐบาลกลาง
ภายในเมืองหลวง
บริเวณโดยรอบมิใช่ช่วงตึกอีกต่อไปแล้ว ทว่ามันกลับกลายเป็นดินแดนอันมืดมิด
ฝูงผีดิบมากมายปรี่เข้าหามายังเบื้องหน้า ในแววตาของพวกเขาแฝงไว้ซึ่งแรงปรารถนาที่จะกลืนกินเนื้อสดๆ เป็นอาหาร สามในนั้นกระโจนใกล้เข้าไปยังแอนนา
แอนนายกมือขึ้นกุมปากและจมูก ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอู้อี้ว่า “เจ้าพวกนี้จำนวนเยอะน่ะไม่เท่าไหร่ แต่พอถูกเผาแล้วกลิ่นมันฉุนเป็นบ้า”
สองเส้นแสงสีแดงหมุนวนและบิดเป็นเกลียวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระจายออกจากใต้ฝ่าเท้าของเธอ เมื่อพวกมันฟาดผ่านผู้ใดก็ตามที่ติดไวรัส มันผู้นั้นก็จะถูกเผาไหม้ เปลี่ยนเป็นเถ้าทะมึนในพริบตา
จากบนท้องฟ้า มอนสเตอร์บางอย่างที่โฉบลงมา จนถึงระยะประชิด หมายคิดว่าพวกเขาจะไม่ทันรู้ตัว ขณะที่มันกำลังง้างปากอยู่นั้นเอง แส้เพลิงก็ฟาดผ่าน เปลี่ยนมันกลายเป็นเถ้าฟุ้งอยู่ในอากาศ
ระหว่างนั้น เธอก็เดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้ากู่ฉิงซาน เงยหน้าเอียงศีรษะจ้องสบตากับเขาด้วยแววตาสุกสกาว
“ก่อนหน้านี้นายเอ่ยขอให้ฉันรอ ฉันก็เฝ้ารอจนนายกลับมา แต่พอมาถึงนายกลับขอเลือกที่จะพูดคุยกับพระบิดาของฉันโดยตรง? แต่ที่สำคัญก็คือนายแข็งแกร่งอยู่แล้ว ทำไมถึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการคุ้มครองจากฉันด้วย?”
สายตาของกู่ฉิงซานจับจ้องไปยังอีกฝ่าย พร้อมบังเกิดความกังวลขึ้นในหัวใจ
ในชีวิตก่อนหน้า เธอจะถูกจับกุมตัวไว้โดยคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์ และจำต้องแต่งงานกับคนแคระเป็นเวลาหนึ่งปี
ชีวิตก่อนหน้าเขาเป็นหนี้ชีวิตเธอ ดังนั้นตั้งแต่ได้กลับมาจุติใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม เขาจะไม่ยอมให้เธอได้ประสบพบเจอกับชะตากรรมที่น่าเศร้าสลดอีกเด็ดขาด
แต่…แล้วฉันจะเอ่ยปากอธิบายออกไปว่าอย่างไรดี?
กู่ฉิงซานฟันกัดกรอด เขานึกไม่ออกเลยว่าจะแก้ตัวอย่างไร จึงกล่าวออกไปอย่างไร้ยางอายโดยตรง
“ฉันเพียงแค่ต้องการอยู่ด้วยกันกับเธอ หมายถึงว่าให้เธอคอยปกป้อง และฝ่าบาทก็ทรงเห็นด้วยแล้ว”
ด้วยคำกล่าวที่ไร้ยางอายนี้ ทำให้แอนนานิ่งอึ้งไปเป็นเวลานาน
ครู่หนึ่ง
ทันใดนั้นจู่ๆ ริ้วแดงก็เริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแอนนา เธอยกมือขึ้นลูบจี้ห้อยคอตรงหน้าอก ก่อนจะทำเสียงฮึฮะเบาๆ แล้วหันหน้าไปอีกทาง
ฝ่าบาทมิได้โกรธ! มิได้โกรธ! มิโกรธ!
วอนฟอร์ดมองมายังฉากนี้ เขายกมือขึ้นหยิกแขนตัวเองเพื่อปลุกให้ตื่นขึ้นจากฝัน
โอ๊ยเจ็บ! นี่มันความจริงนี่นา!
กู่ฉิงซานหันไปมองรอบๆ
ผู้คนได้ถูกไวรัสจนกลายเป็นผีดิบกินคน ปรี่เข้ามาหาเขาอย่างตะกละตะกลาม โดยไม่สนใจถึงพลังอำนาจอันทรงพลังของแอนนาที่พึ่งแสดงออกไปเมื่อครู่นี้เลย
เสี้ยวลมหายใจต่อมา กลุ่มเปลวเพลิงก็พลันลุกโชติช่วง เผาไหม้ลงบนร่างของพวกผีดิบ จนฝีเท้าของทั้งหมดค่อยๆ ชะลอตัวลงอย่างช้าๆ ไม่กี่ลมหายใจต่อมาก็หลงเหลือเพียงขี้เถ้าร่วงตกลงสู่พื้น
กลิ่นร่างที่ถูกเผาไหม้แพร่กระจายออกไปในอากาศทุกหนแห่ง ขณะนี้โลกทั้งใบดูราวกับเป็นนรกบนดิน!
........................................