ตอนที่ 90 แมวดำ
ภายในตรอกมืด
ร่างของกู่ฉิงซานปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบๆ
เวลาพึ่งผ่านพ้นไปได้เพียงแค่หนึ่งชั่วโมง ทำให้ตอนนี้คือเวลาเที่ยงคืน
สายลมยามค่ำพัดผ่าน ช่างให้ความรู้สึกที่สดชื่นและรื่นรมย์
กู่ฉิงซานหันไปมองรอบๆ แต่ก็ไม่พบใคร
ตรอกนี้อยู่ในบริเวณที่ห่างไกล แถมช่วงเวลานี้ยังเป็นกลางดึก มันย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่จะไม่มีใครเดินผ่าน
เขายืนนิ่งอยู่ในจุดที่ปรากฏตัวออกมา ขณะเดียวกันก็เริ่มทำการเปิดหน้าต่างระบบเทพสงคราม
มองไปยังรูเล็ตทรงกลมในหน้าต่าง เขาก็หยิบไอเท็มต่างๆ ที่พึ่งได้รับออกมาและเติมเต็มมันลงไปในช่องว่างทั้งสี่
ติ๊งๆๆๆ!
ปรากฏเสียงทั้งสี่ที่ฟังดูคมชัด ขณะเดียวกันลวดลายแกะสลักที่ดูซับซ้อนและรูปแบบในช่องว่างก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงเป็นบอลแสงสี่ลูก
เหลืออีกเพียงหนึ่งช่องที่ยังคงว่างเปล่า และไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
มันคือช่องว่างที่ถูกแกะสลักลวดลายที่พร่างพราวไปด้วยดวงดาวเต็มฟากฟ้า แต่ทั้งหมดกำลังถูกปกคลุมด้วยร่างของมอนสเตอร์ตัวยักษ์
“เหลือแค่เพียงสายพันธุ์หยูโซว เอกภพ…”
กู่ฉิงซานกล่าวพลางครุ่นคิด
เจ้ามอนสเตอร์ประเภทนี้ มันไม่มีในโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ จำเป็นต้องตามหาจากในโลกจริงเท่านั้น
ด้วยเทคโนโลยีการจัมป์ระหว่างดวงดาว ทำให้มนุษย์ได้ค้นพบความจริงของเอกภพ หรือที่เรียกกันว่าจักรวาล
หลังจากทำการต่อสู้อย่างดุเดือด มนุษย์ก็ค้นพบว่า มันยากเกินไปที่จะเอาชนะมอนสเตอร์ที่แสนแปลกประหลาดเหล่านี้ได้
และการต่อสู้ดังกล่าว ในปัจจุบันก็อาจพูดได้ว่ามันไม่ก่อประโยชน์ใดๆ หรือไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย
สิ่งเดียวที่เก็บเกี่ยวกลับมาได้ก็คือชิ้นส่วนบางอย่างของมอนสเตอร์เอกภพเท่านั้น
ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน การวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับมอนสเตอร์เหล่านี้นับว่าเชื่องช้ามาก
โลกมนุษย์เริ่มที่จะมีการหารือกันอีกและอีกครั้ง สุดท้ายจึงสรุปว่าสมควรปิดเส้นทางไปยังกาแล็กซีอื่นซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของมอนสเตอร์เอกภพเอาไว้ชั่วคราว
กู่ฉิงซานเหลือบมองไปยังเวลาที่ยังหลงเหลือในหน้าต่างระบบเทพสงคราม แม้จะพบว่ามันยังมีเพียงพอ แต่รีบหน่อยคงจะดีกว่า
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ช่วงเวลาการสกัดพลังศักดิ์สิทธิ์จะมาถึง ย่อมเป็นธรรมดาที่กู่ฉิงซานต้องการจะทำให้มันสมบูรณ์แบบเพื่อที่จะได้พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังมาครอบครอง
ชิ้นส่วนร่างกายของมอนสเตอร์เอกภพ…ไม่ง่ายเลยที่จะหามัน
แล้วฉันควรจะทำอย่างไรกับปัญหานี้ดี?
ฉับพลันนั้นเอง ภาพของคนคนหนึ่งก็เด้งเข้ามาในหัวของเขา
เขาเปิดอุปกรณ์สื่อสาร ก่อนจะค้นหารายชื่อและทำการเชื่อมต่อ
หลังจากนั้นไม่นาน ฝ่ายตรงข้ามก็กดตอบรับ
“ต้องขอบอกว่า มันน่าประหลาดใจจริงๆ ที่นายเลือกที่จะเป็นคนโทรหาฉันด้วยตัวเอง” เสียงของซางหยิงฮ่าวเอ่ยตอบกลับมาอย่างสงบ
“มีปัญหานิดหน่อยน่ะ ฉันเลยคิดว่ามันจะสะดวกกว่าถ้าติดต่อให้นายมาช่วยเหลือ” กู่ฉิงซานกล่าว
“อื้มๆ นี่แสดงให้เห็นว่านายไม่ได้มองฉันเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าอีกต่อไปแล้ว”
“ถ้านายไม่ได้ยุ่งอะไร ช่วยแวะมาด้วยล่ะ” กู่ฉิงซานส่งตำแหน่งที่ตั้งของเขาให้อีกฝ่าย “เพราะในกรณีนี้ฉันคิดว่ามันคงจะดีที่สุดถ้าหากพวกเราคุยกันแบบต่อหน้า”
“ได้เลย เดี๋ยวฉันจะไป” ซางหยิงฮ่าววางสาย
กู่ฉิงซานยืนรอได้ราวๆ สิบนาที
ซางหยิงฮ่าวที่สวมเสื้อโค้ตและถุงมือสีดำก็ปรากฏขึ้นอีกฟากหนึ่งภายในตรอก
ซางหยิงฮ่าวเดินเข้ามา ขณะเดียวกันก็เหยียดแขนออกและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันยังรู้สึกทึ่งไม่หายเลย รู้อะไรไหม จนกระทั่งถึงตอนนี้พวกจ้าวมณฑลก็ยังไม่ได้รับผลงานวิจัยของนายเลย”
“ป่าวประกาศออกมาซะเสียงดังเลยนะ นายไม่กลัวว่าฉันจะถูกฆ่าตายลงในวินาทีถัดไปหรือไง” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ก็ดันมีอุบัติเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับตระกูลซูน่ะสิ ตาแก่ซูเลยรีบออกจากห้องประชุมไปจัดการด้วยความโกรธแค้น ตอนนี้ตระกูลซูมีลุงของฉันคอยอยู่เคียงข้าง เสริมด้วยตระกูลหลี่ที่มีสัมพันธ์อันดีกับตระกูลซูตลอดมา ทำให้สถานการณ์เวลานี้กำลังเปลี่ยนแปลงไป” ซางหยิงฮ่าวกล่าวอธิบายอย่างกระชับ
เขาปรบมือคล้ายส่งสัญญาณว่าเปลี่ยนเรื่องกันเถอะและกล่าว “เอาล่ะ นายตามตัวฉันออกมาทำไม?”
กู่ฉิงซาน “ฉันจำเป็นต้องการซากชิ้นส่วนของมอนสเตอร์เอกภพ”
ซางหยิงฮ่าวไม่ได้เอ่ยถามว่าทำไม เขาเพียงจับจ้องไปยังอีกฝ่ายและกล่าว “เพราะงั้นนายเลยติดต่อมาหาฉัน?”
กู่ฉิงซาน “ก็หากใช้วิธีการหรือช่องทางปกติมันย่อมไม่มีทางได้มาอย่างแน่นอน แต่นาย นายที่ไม่ใช่แค่เป็นเพียงชนชั้นสูง แต่ยังเป็นคนของโลกใต้ดินอีกด้วย ดังนั้น–”
“เข้าใจแล้ว” ซางหยิงฮ่าวกล่าว “ฉันจะช่วยนายจัดการปัญหานี้เอง ว่าแต่ฉันจะได้ผลประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้?”
กู่ฉิงซาน “ฉันมีให้นายสองตัวเลือก แต่นายเลือกได้แค่หนึ่ง คิดว่าไง?”
“เรื่องคำถามพวกตัวเลือกนี่แหละ ฉันถนัดนักล่ะ พูดมาเลย” ซางหยิงฮ่าวกล่าว
“ตัวเลือกแรก ฉันจะให้สัญญากับนายว่าจะทำตามที่นายร้องขอหนึ่งอย่างไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น มอบผลงานวิจัยที่กำลังจะสรรค์สร้างในอนาคตให้นาย หรือยื่นมือไปช่วยเหลือนายล้างบางกลุ่มนักฆ่าซักกลุ่มโดยที่มือนายไม่ต้องเปื้อนเลือด”
“แล้วตัวเลือกที่สองล่ะ?”
“ตัวเลือกที่สอง ฉันกับนายเราจะเป็นพันธมิตรกัน ร่วมมือก่อตั้งองค์กรขึ้นในฐานะหุ้นส่วนนับจากนี้ไป”
ซางหยิงฮ่าวรับฟัง และพยักหน้าอย่างเงียบๆ จมเข้าสู่การตรึกตรองในห้วงความคิด
หลังจากที่ได้เห็นวิธีการฆ่าสังหารมิสเตอร์วูฟของกู่ฉิงซาน และต่อมาก็ได้เห็นเพลิงนางฟ้า นั่นทำให้เขาไม่มีความคิดดูถูกอีกฝ่ายเลยในขณะนี้
ซางหยิงฮ่าวหยิบบุหรี่ออกมาและจุดมัน เขาสูบควันเข้าปอดและกำลังทำการตัดสินใจครั้งสำคัญ
การตัดสินใจครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นการตัดสินใจโดยพลการ แต่ในภายหลังมันจะพิสูจน์ให้เห็นว่านี่คือการตัดสินใจที่ชาญฉลาดที่สุดในชีวิตของเขา
ซางหยิงฮ่าวใช้มือคีบบุหรี่และพ่นควันออกจากปาก ก่อนยื่นมือออกไปหากู่ฉิงซาน
“ยินดีที่ต้อนรับหุ้นส่วนคนใหม่” เขากล่าว
“ยินดีที่ต้อนรับหุ้นส่วนคนใหม่เช่นกัน” กู่ฉิงซานยื่นมือออกไปเชคแฮนด์อีกฝ่าย
“งั้นพวกเราเริ่มกันเลย” ซางหญิงฮ่าวกล่าวอย่างรวดเร็ว
“ตอนนี้หุ้นส่วนของฉันต้องการมัน” เขาก้มลงและเคาะลงบนพื้นดิน “ดังนั้นฉันคงต้องทำหน้าที่ของฉันให้ดีที่สุด”
ใต้พื้นดินที่ถูกเคาะก๊อกๆ จู่ๆ ปรากฏหลุมเล็กๆ ที่มีขนาดเท่าแผ่นดิสก์ขึ้นมา
ซางหยิงฮ่าวใช้มือข้างหนึ่งยันพื้นเอาไว้ ขณะอีกข้างล้วงลงไปในหลุม
“เทคนิคเทียนซวน?” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ใช่แล้วล่ะ ฉันบังเอิญรู้ตัวว่าตนเองครอบครองมันครั้งแรกก็ในช่วงวัยเด็ก ตอนนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น ฉันเลยคิดว่าจะล้วงลงไปหยิบของเล่นขึ้นมาจากมัน แต่ดันกลายเป็นหยิบไก่ตัวผู้ขึ้นมาแทนซะอย่างงั้น”
ระหว่างกล่าว แขนของซางหยิงฮ่าวที่อยู่ในหลุมก็ถูกกระชากอย่างแรง
เขาดึงแขนขึ้นมาจากหลุมพร้อมกับในมือที่กำลังบีบคอไก่สีดำอยู่
เจ้าไก่ดำหันไปมองซางหยิงฮ่าว ก่อนจะสลับมามองกู่ฉิงซาน และเปิดปากร้องตะโกน
“แกว๊ก”
“ให้ตายสิ ฉันไม่ได้จะตามหาแก” ซางหยิงฮ่าวกล่าว ก่อนจะยัดเจ้าไก่กลับลงไปในหลุม
เขาล้วงลงไปควานหาอีกครั้ง
แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆ เขาก็กระโดดดีดตัวขึ้น และโค้งคำนับลงเก้าสิบองศา “บอส! ฉันไม่ได้คิดจะรบกวนนาย ฉันขอโทษจริงๆ”
ลึกลงไปภายในหลุม ปรากฏคู่ดวงตาจากภายในกำลังจ้องสวนกลับไปยังภายนอก
นัยน์ตาของมันเป็นเส้นตรงขนานกับพื้นหลุม และเพียงแค่ดวงตาก็แลดูจะมีขนาดใหญ่กว่าปากหลุมแล้ว เรื่องขนาดตัวคงไม่ต้องกล่าวถึง
หลังจากได้ยินคำกล่าวของซางหยิงฮ่าว คู่ดวงตาดังกล่าวที่กำลังแหงนมองขึ้นมาก็หายไปจากหลุม
ซางหยิงฮ่าวยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อบนหน้าผากและกล่าว “โอเค มาเริ่มกันอีกครั้ง”
เขาก้มลงอีกครั้ง แต่คราวนี้ขบคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยปากเรียกเจ้าแมว
“ที่รักจ๋า อยู่ที่ไหนเอ่ย? เมี้ยวๆ”
ในตอนนั้นเอง ซางหญิงฮ่าวก็หยิบแมวดำตัวหนึ่งขึ้นมาจากหลุม
“สวัสดี ที่รัก” โทนเสียงของซางหยิงฮ่าวกลับกลายเป็นอ่อนโยน
“หง่าว...” แมวดำขานตอบเบาๆ
“นายต้องการอะไรนะ เอ่อ ใช่ๆ ซากชิ้นส่วนอะไรสักอย่างนี่แหละใช่ไหม?” ซางหยิงฮ่าวเงยหน้าขึ้นถาม
“ซากชิ้นส่วนของมอนสเตอร์เอกภพ” กู่ฉิงซานรีบกล่าว
“เข้าใจล่ะ” ซางหยิงฮ่าวหันมาสบตาเจ้าแมวดำอย่างจริงจังและเอ่ยปาก “พวกเราต้องการซากชิ้นส่วนของมอนสเตอร์เอกภพ”
“หง่าวๆ” แมวดำกางกรงเล็บสะบัดไปมา ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามันกำลังส่ายหัว
กู่ฉิงซานกล่าว “เกิดอะไรขึ้น หรือว่าจะไม่มีวิธี?”
“เปล่าหรอก แค่มันบอกว่าถ้าอยากให้ช่วยก็จงถวายพายไข่แดงให้มันกินก่อน” ซางหยิงฮ่าวยืนขึ้น “พวกเราต้องไปซูเปอร์มาร์เก็ต”
“งั้นก็ไปกันเถอะ” กู่ฉิงซานพยักหน้า
สมกับที่เป็นเทคนิคเทียนซวน แต่ละอย่างที่พบเจอมานี่มัน...แปลกประหลาดเหมือนกันหมดทุกประเภทจริงๆ
แม้กระทั่งความสามารถบางอย่าง ต่อให้คนอื่นๆ เช่นเขา เฝ้ามองมันอยู่นานก็ไม่อาจรู้ว่ามีไว้ใช้ทำอะไรได้
หัวหน้ากลุ่มนักฆ่า หลุมใต้ดินที่ไร้ที่มา แถวยังมีแมวดำออกมาจากมันอีก และที่สำคัญตอนนี้เขากำลังไปซื้อพายไข่แดงในซูเปอร์มาร์เก็ต…ว่าแต่ทำไมต้องพายไข่แดงล่ะ? จากนั้นก็เริ่มหามุมว่างๆ ป้อนเจ้าแมว
บางทีคงมีเพียงเทคนิคเทียนซวนเท่านั้น ที่จะทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นมาได้
ในที่สุดกระเพาะของเจ้าแมวดำก็ถูกเติมเต็ม
มันเดินวนไปรอบๆ ขาของซางหยิงฮ่าว ก่อนจะกระโจนไปยังทิศทางหนึ่งท่ามกลางแสงสลัวยามค่ำคืนและเริ่มวิ่งไกลออกไปจากสายตา
“มันไปไหนแล้ว?” กู่ฉิงซานถาม
ซางหยิงฮ่าว “มันกำลังออกไปตามหาสิ่งที่นายต้องการ ส่วนหน้าที่ของพวกเราคือตามมันไป”
ทันใดนั้น กู่ฉิงซานก็ตระหนักได้ในที่สุด ว่าแท้จริงแล้วความสามารถของเจ้าแมวดำตัวนี้ก็คือ ‘ค้นหาไอเท็ม’ นั่นเอง
........................................