บทที่ 15 การลงทะเบียน
ย้อนกลับไปในครั้งที่พ่อแม่ของเกาเผิงได้เสียชีวิตจากมหาภัยพิบัติ ทางรัฐบาลมอบเงินชดเชยให้กับเกาเผิง รวมถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิตเหล่านั้นเป็นจำนวนสิบเครดิตพันธมิตร
หนึ่งเครดิตพันธมิตรมีมูลค่าเท่ากับหนึ่งหมื่นดอลลาร์พันธมิตร นี่อาจไม่ใช่เงินก้อนใหญ่ แต่เมื่อพิจารณาถึงจำนวนผู้เสียชีวิตระหว่างหายนะแล้วคงเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลย
ในคราแรกมีเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่ยินดีมอบเงินชดเชยให้กับผู้สูญเสีย นั่นคือประเทศจีน ทำให้อัตราการเกิดอาชญากรรมลดลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อผลลัพธ์เป็นไปในทางที่ดี ประเทศอื่นจึงเริ่มใช้มาตรการนี้เช่นเดียวกัน ถึงแม้จำนวนเงินที่พวกเขาได้รับไม่มากมายนัก แต่ก็เพียงพอใช้ในการดำรงชีพได้
เกาเผิงได้รับเงินชดเชยเป็นจำนวนยี่สิบเครดิตพันธมิตร ทว่าตอนนี้เงินก้อนเหลือเพียงสิบเอ็ดเครดิตพันธมิตร หากเขาใช้มันอย่างมัธยัสถ์อาจจะเพียงพอซื้อของยกระดับต้าซื่อได้
แต่นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดี หากเขาใช้เงินทั้งหมดไป เขาจะไม่เหลือเงินมาจ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าครองชีพในชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุนี้เกาเผิงจึงยังไม่รีบไปตลาดทันที
จากการต่อสู้และรวบรวมซากสัตว์อสูรในช่วงทัศนศึกษา เกาเผิงสามารถทำเงินได้จำนวนสองเครดิตพันธมิตร นี่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายตลอดครึ่งปีของเขา
ใช่แล้ว งานที่ทำเงินได้มากที่สุดในโลกคือการเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูร แม้อาชีพนี้ต้องใช้ทุนค่อนข้างสูง แต่พวกเขาก็สามารถหาเงินกลับมาได้อย่างรวดเร็ว หากโชคดีอาจได้เงินเพิ่มอีกหลายเท่า
พวกเขาอาจร่ำรวยในชั่วข้ามคืนด้วยการค้นพบสมบัติบางอย่างที่อยู่ในป่า แต่ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของการล่าสัตว์อสูรคือ เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูง หากโชคร้าย พวกเขาอาจพบสัตว์อสูรระดับสูงที่แข็งแกร่งและอาจต้องจบชีวิตในป่า
แต่ไม่ว่าอย่างไร การจะเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรแสนเก่งกาจนั้น ในไม่ช้าก็เร็วพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับสูงอยู่ดี
ไม่มีงานใดรวยได้ในชั่วข้ามคืน ทว่างานนี้สามารถทำเงินได้แม้อยู่ที่บ้าน
เกาเผิงนั่งตรงโซฟาพร้อมต้าซื่อนั่งอยู่ข้างๆ เขากดหน้าจอสมาร์ทโฟนเรื่อยเปื่อย
ปัจจุบันนี้ มีแอปพลิเคชันเกี่ยวกับสัตว์อสูรมากมาย แม้แต่คนที่ไม่ได้เป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรยังสามารถหาข้อมูลของพวกมันได้อย่างง่ายดาย
สามปีที่ผ่านมา มนุษย์สามารถปรับตัวกับสิ่งใหม่ได้เป็นอย่างดี
เมื่อเขารู้สึกเบื่อจึงเปิดโทรทัศน์ดูรายการต่างๆ
“ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ซีซั่นสองของรายการ ราชาของสัตว์อสูร เจียงหนานค่ะ ดิฉันซูต้าจาง ผู้ดำเนินรายการวันนี้”
ในรายการมีเวทีขนาดใหญ่ตรงกลาง ข้างบนเวทีมีผู้เข้าแข่งขันราวสิบกว่าคน แต่ละคนมีหมายเลขติดไว้ตรงเอว
ตรงข้ามของผู้เข้าแข่งขันเป็นกรงเหล็กขังสัตว์อสูรนานาชนิดเอาไว้ภายในจำนวนมาก
สัตว์อสูรในกรงทุกตัวดูตื่นตระหนก บางตัวพยายามแหกกรง บางตัวส่งเสียงคำราม ในหมู่พวกมันมีสัตว์อสูรดุร้ายที่สุด มันมีรูปร่างคล้ายสิงโต และกำลังโจมตีกรงเหล็กอย่างบ้าคลั่ง ทว่ากรงเหล็กไม่มีทีท่าเป็นอะไรเลย
แต่สิ่งที่ทำให้เกาเผิงรู้สึกประหลาดใจคือ ข้อมูลที่ปรากฏขึ้นในมุมมองสายตาของเขา
ชื่อสัตว์อสูร ราชสีห์ปีศาจสีเงิน
เลเวล ยี่สิบสอง[footnoteRef:0] [0: ]
ระดับ สูง
คุณสมบัติ ธาตุน้ำแข็ง
สถานะ สุขภาพแข็งแรงและบ้าคลั่ง
จุดอ่อน ธาตุสายฟ้า
ใครจะคิดว่าข้อมูลสัตว์อสูรก็สามารถมองเห็นได้จากจอโทรทัศน์ด้วยเช่นกัน
เกาเผิงถึงกับพูดไม่ออก
ถ้าเป็นเช่นนี้ ความสามารถของเขาอาจนำไปประยุกต์ใช้ได้หลายอย่างมากเลยสิ
เกาเผิงปิดทีวี และปล่อยความคิดโลดแล่นผ่านไป
แม้ว่าจะสร้างพันธสัญญาเลือดกับต้าซื่อและก้าวเข้าสู่เส้นทางของผู้ฝึกสัตว์อสูรอย่างเป็นทางการแล้ว
แต่เขายังเป็นแค่มือสมัครเล่น ยังห่างไกลจากความเป็นมืออาชีพ อย่างน้อยเขาต้องให้ต้าซื่อเป็นระดับสูงหรือเป็นชนชั้นขุนนางเสียก่อนเป็นอันดับแรก
จากการฝึกฝนระหว่างทัศนศึกษาที่ทะเลสาบคันฉ่อง เลเวลของต้าซื่อได้เพิ่มขึ้น ตอนนี้มันมีเลเวลเจ็ดแล้ว
การต่อสู้เป็นวิธีการเพิ่มเลเวลได้รวดเร็วที่สุด
นอกจากการล่าสัตว์อสูรที่ชานเมืองแล้ว ยังมีงานอื่นที่เขาสามารถทำได้คือ ผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูร
ผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรถือเป็นอาชีพใหม่ที่แยกออกมาจากผู้ฝึกสัตว์อสูร
หากจะประกอบอาชีพนี้ได้ต้องมีใบรับรองเสียก่อน
การสอบภาคทฤษฎีไม่เป็นปัญหาสำหรับเกาเผิงเลย แตสำหรับนการสอบภาคปฏิบัตินั้นเขายังไม่มีความมั่นใจในส่วนนั้น
การสอบภาคปฏิบัติ ผู้เข้าสอบต้องยกระดับสัตว์อสูรตามโจทย์ที่ได้ หากทำได้ทันเวลา พวกเขาจะได้ใบรับรองทันที
แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะสัตว์อสูรที่พวกเขาต้องยกระดับในการสอบนั้นถูกสุ่มมาโดยที่ไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อน หากไม่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสัตว์อสูรชนิดนั้น มันจึงเป็นเรื่องยากในการยกระดับพวกมัน
ถึงแม้ว่าจะเป็นนักเพาะพันธุ์สัตว์อสูร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะรู้เรื่องพวกมันทั้งหมด
นั่นเป็นเพราะ สัตว์อสูรเหล่านี้พึ่งปรากฏตัวขึ้นบนโลกได้เพียงแค่สามปีเท่านั้น ที่ผ่านมามนุษย์ยังอยู่ในขั้นตอนการสำรวจ และปัจจุบันสำรวจเพียงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของพื้นผิวโลก ส่วนอีกแปดสิบเปอร์เซ็นต์ยังเป็นพื้นอันตรายอยู่
ดังนั้น มนุษย์สำรวจไม่ถึงครึ่งโลก ยังไม่รวมถึงพื้นที่ใต้มหาสมุทรที่ยังไม่ได้ถูกสำรวจอีกด้วย ฉะนั้นโลกหลังมหาภัยพิบัตินี้มีความลับมากมายรอให้สำรวจ ไม่แน่อาจพบสัตว์อสูรชนิดใหม่ปรากฏตัวขึ้นก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม เกาเผิงรู้สึกว่าตนเองไม่มีปัญหากับการสอบภาคทฤษฎี เขาจึงตัดสินใจลงทะเบียนเพื่อขอรับการประเมินในอินเทอร์เน็ต เขาต้องจ่ายค่าสมัครเป็นเงินจํานวนหนึ่งพันดอลลาร์พันธมิตร ‘โห! เงินจำนวนนี้สามารถเลี้ยงต้าซื่อได้เป็นเดือนเลยนะ’
แต่เพื่อความสำเร็จภายภาคหน้า เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเสี่ยงโชคดูเท่านั้น
หลังจากลงทะเบียน เขาได้รับข้อความแจ้งเตือนและกำหนดการสอบที่เมืองฉานอันในวันที่สิบห้า แต่วันนี้คือวันที่สิบสี่ นั่นหมายความว่าการสอบจะเริ่มในวันพรุ่งนี้!
เขาโทรหาอาจารย์มู่หลางเพื่อขอลาหยุด อาจารย์มู่หลานชิงอี้เมื่อได้ทราบข่าว เธอรู้สึกยินดีมากและสนับสนุนเขาเต็มที่
เธออนุมัติการลาพักการเรียนของเขาระยะเวลาสั้นๆ เพราะเขาเป็นนักเรียนดีเด่น จึงทำให้เธอไม่กังวลกับการขาดเรียนของเขา
ในตอนท้ายของการสนทนา อาจารย์มู่หลางชิงอี้ ได้กล่าวทิ้งท้ายปลอบโยนว่า ‘หากไม่เคยล้มเหลว จะรู้ได้อย่างไรว่าประสบความสำเร็จ เธอยังเด็กและมีอนาคตสดใสรออยู่ อย่าคิดมากหากการสอบมันไม่เป็นอย่างที่เธอคิด’
เกาเผิงเผยรอยยิ้ม เขารู้ว่าอาจารย์มู่หลางเป็นอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมและน่าชื่นชมที่สุด
…………………………………………….