ตอนที่3
อันชิงเหมยเดินออกไปไม่สนใจเสิ่นหว่านอี้ว่ามีสีหน้าเป็นเช่นไร
" เหมยเอ๋อ " เสิ่นหว่านอี้รีบเดินตาม หยางซือหรูเห็นแบบนั้นก็แสร้งเป็นลม
" ท่านพี่" เสิ่นหว่านอี้ชะงักเท้า รีบพุ่งไปรับตัวหยางซือหรูที่โงนเงนจะล้ม เมื่อถึงตัวนางนางก็ล้มลงในอ้อมแขนของเขาพอดี เสิ่นหว่านอี้ได้แต่มองตามหลังบอบบางของอันชิงเหมยที่ลับตาไป
อยู่ๆหยางชิงหรู ก็ตัวร้อนมีไข้ขึ้นมา ทำให้เขาต้องคอยดูแลนางทั้งคืน นางเอาแต่พร่ำเพ้อหาเขา ไม่ยอมให้เขาห่างนางเลยแม้แต่น้อย ในใจของเสิ่นหว่านอี้ตอนนี้ ทุกข์ทรมานราวไฟสุม อยากไปหาอันชิงเหมย อยากขอร้องให้นางให้อภัยเขา แต่ก็ไม่สามารถทิ้งหยางซือหรูไปได้
หยางซือหรูปรายตามองเสิ่นหว่านอี้ ยกยิ้มมุมปาก นางไม่ได้ป่วยไข้หรอก อาศัยความรู้วิชาแพทย์เล็กน้อย ใช้เปลือกไม้ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติพิเศษ เมื่อเคี้ยวกลืนน้ำมันลงไปสักพัก ตัวจะรุมๆมีไอร้อนเหมือนเป็นไข้ ที่เหลือนางก็เสแสร้งแกล้งเจ็บป่วย เพื่อรั้งเขาไว้ไม่ให้ตามคู่หมั้นของเขาไป
นางเจอเขาครั้งแรกเมื่อกองทัพมาถึงหนานหยาง บิดาของนางที่เป็นเจ้าเมืองไปให้การต้อนรับ นางเองก็ไปด้วย นางสบตาเขาครั้งแรกก็ชื่นชอบ บุรุษหน้าตาคมคาย มีหนวดเคราประปราย ร่างกายสูงใหญ่บึกบึนสมชายชาตินักรบ แม้ใบหน้าจะนิ่งเฉย แต่นางราวกับต้องมนต์
เมื่อบิดาของนางเชิญชวน เหล่าผู้บัญชากองทัพไปทานอาหารในจวน ที่จัดเตรียมไว้รอพวกเขา เขาเดินเข้ามาด้วยท่าทางแปลกๆ พอนางมองต่ำ ก็เห็นเขาเดินลากเท้าข้างซ้าย นางถึงกับไปไม่เป็น อ่า เขาพิการหรอกรึ ต่อมานางก็ได้รู้ว่าเขาคือรองแม่ทัพเสิ่นหว่านอี้ ผู้นำกองทัพชนะศึกในสงครามคราก่อน ศึกครั้งนั้นได้ยินมาว่าดุเดือดนักจนต้องเสียรองแม่ทัพฟู่ไป แต่ด้วยสติปัญญาของเสิ่นหว่านอี้ อีกทั้งวรยุทธ์ล้ำเลิศ จึงเอาชัยชนะมาได้ เหตุนั้นทำให้เขาต้องขาพิการ
วันรุ่งขึ้นเขาและกองทัพไปตั้งค่ายอยู่นอกเมือง นางจึงอาสาไปด้วย อ้างว่ามีวิชาแพทย์จะได้ช่วยเหลือยามมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ที่นั่นมีทีมแพทย์จากสำนักในวังอยู่แล้ว5คน มีผู้หญิงอยู่2คน นางจึงนอนร่วมกระโจมเดียวกัน
ต่อมาเขาบาดเจ็บหนัก นางก็อาสาดูแล ความใกล้ชิดยิ่งทำให้นางชื่นชอบเขา ยิ่งเห็นฝีมือในการต่อสู้ของเขาที่เก่งกาจ นางก็ยิ่งคลั่งไคล้ ตั้งแต่นั้นมาเขาก็พูดจากับนางมากขึ้น จนศึกที่ยืดเยื้อมาเป็นปีสิ้นสุดลงเมื่อแม่ทัพฝั่งนั้นถูกตัดหัว จากนั้นก็พากันฉลองชัยชนะ ต่างพากันกินดื่มจนเมา นางแอบเอายาพิษ7ราตรีใส่ในเหล้าให้เขากิน เมื่อยาออกฤทธิ์ จึงทำทีไปตรวจให้เขาและบอกว่าเขาถูกพิษ ต้องร่วมรักกับสตรีทุกคืนจนครบ7ราตรีจึงจะถอนพิษได้ ไม่ใช่นั้นจะถูกธาตุไฟแทรกจนตายได้ นางจึงอาสารีดพิษให้เขา
และนางเองที่เป็นคนบอกบิดาของนาง ว่านางกับเขารักกันจนมิอาจหักห้ามใจ นางเป็นภรรยาของเขาแล้ว บิดาของนางที่รักและตามใจนางจึงรีบจัดงานแต่งให้ แต่นางก็ต้องเสียใจเมื่อเขาปฏิเสธ บอกว่ามีคนรักอยู่แล้วเขาไม่รู้จะรับผิดชอบยังไง หากต้องการให้แต่งงาน เขาก็จะแต่งแต่ให้นางเป็นได้แค่ภรรยารองเท่านั้น เพราะเขามีคู่หมั้นอยู่แล้วนางเป็นบุตรของแม่ทัพแดนเหนือ นางทั้งเจ็บใจน้อยใจ ถึงอย่างไรนางก็ได้เขา แม้วันนี้จะเป็นรองแต่วันหน้านางจะขึ้นมาเป็นภรรยาเอกให้ได้
รุ่งเช้าเสิ่นหว่านอี้รีบออกจากห้องมุ่งหน้าออกจากจวนจุดหมายคือจวนตระกูลอัน แต่เมื่อผ่านห้องโถงกลับพบหีบหลายใบ พ่อบ้านรีบมาโค้งคำนับ
" รองแม่ทัพ ของพวกนี้เป็นพวกตระกูลอันส่งมาขอรับ พร้อมหนังสือนี่ " พ่อบ้านส่งหนังสือให้ เสิ่นหว่านอี้เปิดดูก็พบว่ามันคือหนังสือถอนหมั้น แล้วหีบพวกนั้นก็ไม่ต้องเดาว่าคืออะไร เสิ่นหว่านี้หน้าดำคล้ำด้งยความโกรธ
" แค่ข้ามีเมียเพิ่ม ก็คิดจะถอนหมั้นข้าเลยรึ"
" บอกให้คนขนของพวกนั้นตามข้าไปตระกูลอัน "
ตระกูลอัน
อันชิงเหมย คีบกับข้าวใส่จานให้บิดา มื้อนี้นางเข้าครัวทำอาหารเอง บิดาของนางกลับมาเมื่อคืน เพื่อมาร่วมงานเลี้ยงในวังตามโองการของฮ่องเต้ และจะอยู่ที่เมืองหลวงไม่นานก็ต้องกลับไปประจำอยู่ชายแดนทางเหนือ เมื่อบิดาของนางรู้เรื่องของนางกับเสิ่นหว่านอี้ก็ไม่ได้ตำหนิอะไร ทั้งยังพอใจที่นางถอนหมั้นอีก
" ท่านแม่ทัพขอรับ รองแม่ทัพเสิ่นมาขอรับ"
อันซูหลุน ถอนหายใจเฮือกใหญ่ วางตะเกียบในมือลง เขากำลังกินอาหารอร่อยๆพอได้ยินชื่อชายผู้นั้นก็อิ่มขึ้นมาทันที
" คาระวะแม่ทัพอัน " อันซูหลุนเมินเฉย
" _ "
" เหมยเอ๋อ พี่ "
ยังไม่ทันจะได้พูดต่ออันซูหลุนก็ถาขึ้นมา
" เจ้ามีธุระอะไรถึงมาที่นี่แต่เช้า "
เสิ่นหว่านอี้กวักมือให้คนยกของเข้ามา
" ข้าเอาของหมั้นมาคืน "
" ขนกลับมาทำไม ในเมื่อถอนหมั้นไปแล้ว ก็ควรจะคืนเจ้าถึงจะถูก"
อันซูหลุนหันมามองหน้าเสิ่นหว่านอี้นัยตาดุดัน ฮึ เสียแรงครั้งนึงเคยเอ็นดู เห็นว่ารักกันกับลูกสาวของเขา จึงได้เอ่ยปากยกนางให้ ตอนนั้นบอกรักนางทั้งสัญญากับนางต่อหน้าเขาว่าจะมีนางคนเดียว ไม่รับภรรยาไม่มีอนุให้นางต้องช้ำใจ ผ่านไปปีเดียวกลับกลืนน้ำลายลืมคำพูดตัวเองไปสิ้น เฮ่อ บุรุษดีๆรักเดียวใจเดียวหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ถึงอย่างงั้นก็ยังมีให้อยู่บ้างอย่างเขานี่ไงมีภรรยาแค่คนเดียว พอนางตายไปเขาก็ไม่จะมีภรรยาใหม่ ทุมเทความรักให้บุตรสาวคนเดียว แม้ช่วงนี้จะไม่ค่อยมีเวลาให้ เพราะต้องไปประจำที่ชายแดนก็ตาม
" ข้าไม่ยอมรับการถอนหมั้น "
" ข้าพูดคำไหนคำนั้น เมื่อตัดสินใจไปแล้วไม่เปลี่ยนแน่นอน"
" เหมยเอ๋อ เจ้ายังไม่หายโกรธพี่ พี่รู้ แต่พี่มีความจำเป็นจริงๆ เจ้าจะให้พี่ทำยังไง"
" ท่านไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น กลับไปหาภรรยาของท่านซะ ขนของพวกนั้นกลับไปด้วย "