บทที่ 11
“เสี่ยวอี้..เธอกับพี่เฮ่อเคยรู้จักกันมาก่อนมั้ย?”
เฮ่อจี้เฉินหยุดความตั้งใจที่จะเคาะประตูไปชั่วขณะ ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงได้ยินเสียงที่ออกมาจากปากของจี้อี้ เสียงของเธอสงบนิ่ง น้ำเสียงราบเรียบไม่สูงไม่ต่ำ “ ไม่รู้จัก”
……
ภายในหอพัก
น้ำเสียงของหลินหย่าเต็มไปด้วยความเสียดาย “ ฉันก็คิดว่าเธอกับพี่เฮ่อจะรู้จักกัน ฉันอยากรู้จริงๆว่าสมัยม.ปลายเขาจะเป็นยังไง..”
จี้อี้ไม่ได้ตอบเธอ
หลินหย่าพูดต่อ “ แต่ เสี่ยวอี้ พี่เฮ่อออกจะโดดเด่นขนาดนี้ ตอนอยู่ที่โรงเรียนเขาต้องเป็นคนที่ดังมากแน่ๆ สมัยที่เธอเรียนอยู่เธอไม่เคยได้ยินเรื่องอะไรเกี่ยวกับเขาเลยเหรอ?”
ครั้งนี้จี้อี้ ไม่ชะงักไปเหมือนเมื่อครู่ แต่ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วว่า “ฉันไม่ได้สนใจเขาขนาดนั้นน่ะ”
“อ้อ อย่างนี้นี้เอง..” หลินหย่าคงพอรู้ ว่าเธอไม่สามารถสืบเรื่องเฮ่อจี้เฉินจากจี้อี้ได้ จึงส่งเสียงงึมงำพร้อมกับปิดปากเงียบ
ในห้องเงียบลงพักหนึ่ง เมื่อหลินหย่าแต่งหน้าเสร็จ ก่อนลุกขึ้นยืนอยู่ๆเธอเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอพูดอีกว่า " เออใช่ เสี่ยวอี้ เมื่อสองวันก่อนพี่เฮ่อโทรมาหาฉัน คืนนี้เพื่อนของเขาจัดงานเลี้ยงกลางแจ้งในสวน ในงานเชิญคนที่อยู่ในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์มาหลายคน เขาบอกว่า พวกเราเรียนภาคการแสดง ถ้าลองไปพบปะกับพวกเขาดู อาจจะมีส่วนช่วยพวกเราได้อนาคต เธออยากไปมั้ย?”
ชีวิตนี้เธอไม่ต้องการข้องเกี่ยวใดๆกับเฮ่อจี้เฉินอีก แล้วแบบนี้เธอจะไปร่วมงานเลี้ยงของเขาได้อย่างไร?
จี้อี้แทบตอบกลับในแทบจะทันที "ไม่.."
หลังจากที่หลุดพูดคำนั้น จี้อี้เพิ่งรู้สึกตัวว่าตนเองหลุดท่าทีที่ไม่สมควรออกไป จึงรีบพูดเสริมว่า "..คืนนี้ฉันมีธุระอื่นที่ต้องทำน่ะ"
หลินหย่าพูด “ ธุระสำคัญมากไหม? ถ้าไม่สำคัญ เธอก็เลื่อนไปก่อนแล้วไปกับฉัน ไม่ง่ายเลยนะที่พวกเราจะได้มีโอกาสเจอกับคนวงในแบบนี้ นี่เป็นโอกาสทองที่หาได้ยากมากเลยนะ ดังนั้นไม่ควรพลาดเป็นอันขาด น่าเสียดายจะตาย”
”ขอบคุณนะหลินหย่า น้ำใจของเธอฉันรับไว้ด้วยใจแล้วกัน แต่ฉัน…” ประโยคหลังจากนี้จี้อี้ยังไม่ทันได้พูด ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
หลินหย่าอยู่ใกล้ประตูมากกว่า เธอ รีบลุกขึ้นยืนแล้วดึงประตูเปิด เมื่อเห็นเฮ่อจี้เฉินยืนอยู่ตรงประตูทางเข้า ทีแรกเธอตกตะลึง แต่หลังจากนั้นบนใบหน้าเล็กๆนั้นก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “พี่เฮ่อ ทำไมพี่ขึ้นมารับฉันเองเลยล่ะ?”
เฮ่อจี้เฉินไม่พูด เขาไม่ได้เข้าไปในห้อง แต่ยืนพิงประตูด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
จี้อี้ได้ยินคำพูดของหลินหย่า จึงรู้ว่าคนที่มาคือเฮ่อจี้เฉิน เธอจ้องหนังสือตาไม่กระพริบแสร้งทำเป็นอ่านหนังสืออย่างเพลิดเพลินจนไม่ทันเห็นผู้ที่มาใหม่และไม่ยอมมองไปที่ประตู
หลินหย่ากลัวว่าเฮ่อจี้เฉินจะอดทนรอไม่ไหว จึงรีบเก็บของอย่างรวดเร็ว แล้วพูดว่า “พี่เฮ่อ พวกเราไปกันเถอะ”
เฮ่อจี้เฉินยังคงไม่พูดจา เขาเพียงแต่พยักหน้าเล็กน้อยแล้วยืดตัวตรง ขณะที่เขาเตรียมจะเดินออกไป หางตาของเขาเหลือบไปเห็นบริเวณที่จี้อี้นั่งอยู่ สายตาของเขายังไม่ได้มองเธอก็ถูกถังขยะบนโต๊ะของเธอดึงดูดความสนใจไปเสียก่อน แม้ว่าเธอจะตั้งใจเอาขยะอื่นมาปิดเอาไว้ แต่เขาก็ยังเห็นชัดว่าภายในถังขยะคือชานม
ฝาปิดแก้วยังอยู่ในสภาพดีไร้ร่องรอยการเปิด คล้ายกับว่ายังไม่ทันได้ดื่มสักคำ ก็โยนทิ้งลงถังขยะเสียแล้ว
หลินหย่าเดินไปที่ประตูได้สองก้าวก็หยุดแล้วหันมามองจี้อี้พร้อมกับพูดว่า “เสี่ยวอี้ เธอไม่ไปกับฉันจริง…”
หลินหย่ายังพูดไม่จบเฮ่อจี้เฉินที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่พูดไม่จามาตลอดจนถึงตอนนี้ อยู่ๆก็พูดเสียงเย็นว่า “งานเลี้ยงคืนนี้ไม่ใช่ว่าคนแบบไหนก็สามารถเข้าไปได้ อย่าให้คนวุ่นวายเข้าไปเลย!”