webnovel

มาเร็วเกินคาด

รถเบนซ์สีขาวโดนรถเก๋งชนเข้าเต็มแรง ประตูฝั่งซ้ายบุบจนเห็นได้ชัด โชคดีจุดที่โดนชนนั้นไม่ใช่ฝั่งคนขับ ทำให้ชีฟไม่ได้เป็นอะไรมากนัก กลางสี่แยกไฟแดงตอนนี้ไม่มีรถคันอื่นอยู่เลย เนื่องจากเป็นถนนเส้นเก่าที่ไม่ค่อยมีรถสัญจร

ชีฟจ้องมองรถเก๋งที่ค่อย ๆ ถอยออกไป ผู้ชายในรถเก๋งสองคนจ้องหน้าเขาเขม่น ก่อนที่คนขับจะเปิดกระจกแล้วตะโกนออกมา

"ถ้าไม่อยากตายก็เซ็นเอกสารซะ"

พูดจบรถเก๋งก็หักเลี้ยวไปทางตัวเมืองแล้วขับหนีไป ชายสองคนบนรถชีฟคุ้นหน้าเป็นอย่างดี เพราะคือคนที่มากับเจ้าหน้าที่หญิงที่ชื่อสิริน

ชีฟขับรถตัวเองไปจอดข้างทางเพื่อดูรอยชน รถเบนซ์คันนี้เป็นของครูน้ำตาล ซึ่งราคาของมันแพงมาก เมื่อตรวจสอบร่องรอยการชนเสร็จ เขาก็แจ้งให้ครูน้ำตาลกับพ่อแม่ทราบ ซึ่งพอได้ยินเสียงครูน้ำตาลแล้วเขาก็ดีใจมาก เพราะครูน้ำตาลไม่ถามถึงรถเลยแต่เอาแต่ถามถึงอาการบาดเจ็บของเขา

เมื่อรถยังขับได้ พ่อแม่ของครูน้ำตาลก็บอกให้เอารถไปไว้ที่ศูนย์ซ่อมในตัวเมือง ส่วนชีฟนั้นก็ซื้อรถบิ๊กไบค์คันหนึ่งมาขับแทน เพราะเขานั้นไม่มีใบขับขี่รถยนต์ ที่ขับรถเบนซ์ออกมาในตอนแรกนั้น ก็เพราะชีฟไม่ได้ซื้อรถเอาไว้ เลยต้องยืมรถของครูน้ำตาล ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกตำรวจตรวจจับเป็นอย่างมาก เมื่อไหน ๆ ก็ต้องเปลี่ยนรถแล้ว ชีฟจึงซื้อบิ๊กไบค์มาแทน

ชีฟขับบิ๊กไบค์ไปซื้อของจนเสร็จเรียบร้อยแล้วรีบกลับบ้าน กล่องจดหมายหน้าบ้านนั้นมีจดหมายซองหนึ่งอยู่ด้านใน เมื่อชีฟล้วงออกมาอ่านก็พบว่ามันคือเอกสารเซ็นยินยอมการโยกย้ายสกิลที่คนพวกนั้นเอามาฝากไว้

เมื่อเห็นจดหมาย ชีฟก็รีบเข้าไปในบ้านแล้วเรียกหาทุกคน ซึ่งก็พบว่าทุกคนยังอยู่ดีและไม่มีใครเป็นอะไร

ยามค่ำชีฟนอนกอดครูสาวพลางครุ่นคิดอะไรบางอย่าง สกิลของเขานั้นแม้จะเป็นแค่การปลูกต้นไม้ แต่ต้นไม้ที่เขาปลูกบางอย่างก็สามารถทำเงินให้เขาได้ ตอนนี้ชีฟมีครูน้ำตาลเป็นคนรัก ครูสาวนั้นเป็นลูกคุณหนู ซึ่งแน่นอนว่าใช้เงินมาก และถึงแม้พื้นฐานของครูน้ำตาลนั้นจะร่ำรวยอยู่แล้ว แต่เขาจะไม่มีวันเป็นผู้ชายสายแมงดาที่เกาะผู้หญิงกินแน่ ๆ แต่จะทำยังไงนี่สิ อีกฝ่ายมีสกิลสายต่อสู้แบบเต็มรูปแบบ ส่วนเขานั้นมีแค่สกิลปลูกพืชปลูกผัก จะสู้ยังไงถึงจะชนะ และจากการตรวจสอบในอินเทอร์เน็ตของเขา เจ้าหน้าที่หญิงและตำรวจที่มาในวันก่อนก็เป็นตัวจริงเสียด้วย การที่สามารถบงการพนักงานข้าราชการของรัฐได้แบบนี้อีกฝ่ายต้องมีเส้นสายที่ไม่ธรรมดา เขาจะทำยังไง

ครูน้ำตาลเงยมองเด็กหนุ่มเจ้าของอ้อมกอดอย่างสงสัย ปกติหากนอนกอดกันแบบนี้ ไม่เกินห้านาทีเธอจะโดนรบเร้าแล้วเริ่มมีเพศสัมพันธ์กัน แต่วันนี้อีกฝ่ายกับกอดเธอไว้เฉย ๆ

"ชีฟ เป็นอะไร ไม่เห็นหื่นเหมือนทุกวันเลย ฮึ"

ครูสาวเอื้อมมือไปหยิกแก้มหนุ่มหื่นเล่น เพราะตั้งแต่มีสัมพันธ์กันครั้งแรก อีกฝ่ายมักจะขอมีอะไรกับเธออย่างน้อย ๆ ก็วันละสองรอบ

ชีฟที่กำลังเหม่อลอยเหลือบตาลงมามองหน้าครูสาว เขารู้สึกผิดที่ทำรถอีกฝ่ายพัง เพราะค่าซ่อมรถหรูนั้นแพงมาก ถึงแม้ตัวครูน้ำตาลกับพ่อแม่ของครูจะไม่ได้ว่าอะไรเขา แต่เขาก็รู้สึกผิดอยู่ดี

"เปล่า ไม่มีอะไร แล้วทำไมต้องบอกว่าผมหื่นด้วยเนี่ย"

"แหม เอาวันละสองรอบเช้าค่ำ ไม่ให้เรียกหื่นแล้วเรียกอะไรหึ"

ครูสาวดึงแก้มนุ่ม ๆ ของอีกฝ่ายเล่นอย่างมันเขี้ยว ก่อนจะถามต่อ

"เป็นเรื่องของคนพวกนั้นหรือเปล่า"

ชีฟตอบเสียงเบา

"ก็...อืม"

"ร้องเรียนไปที่องค์กรยุติธรรมแห่งโลกสิ"

"นานอยู่นะ กว่าพวกนั้นจะลงมาจัดการให้"

ฟังจบครูสาวก็ทำท่านึก เพราะเธอเคยเห็นคดีที่คนไทยไม่ได้รับความยุติธรรมจนต้องร้องเรียนองค์กรยุติธรรมแห่งโลก ซึ่งส่วนมากกว่าจะรับเรื่องแล้วมาดำเนินการ อย่างช้าสุดก็เกือบเดือน

"งั้นก็ร้องเรียนไว้ก่อนเลย แล้วที่เหลือเราก็หลบอยู่แต่ในบ้านก็ได้ เธอสร้างป้อมปราการที่ดีได้อยู่แล้ว พี่เชื่อแบบนั้น"

คำแนะนำของครูสาวทำให้ชีฟยิ้มออก และเขาก็นึกถึงคำคำหนึ่งขึ้นมาได้ 'ซื้อเวลา'

เมื่อเห็นแฟนหนุ่มยิ้มครูสาวก็ยิ้มด้วยเช่นกัน แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายขึ้นมาคร่อมบนร่างเธอ

"แนะ สบายใจก็จะเอาเลยนะ"

ชีฟไม่ตอบแต่กลับก้มหน้าลงมาจูบลงที่คอของเธอแทน แน่นอนว่าครูสาวก็ไม่ได้อยากจะขัดขืนอะไรอยู่แล้ว เมื่ออีกฝ่ายรุก เธอก็พร้อมที่จะรับและสุขสมไปกับมัน

เช้าวันรุ่งขึ้นชีฟหอมแก้มครูสาวที่นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ก่อนจะลุกขึ้นมาแล้วหาเสื้อผ้าใส่

ครูสาวจ้องมองชีฟที่กำลังใส่เสื้อผ้าด้วยสายตาอันอ่อนโยนก่อนจะเอ่ยถาม

"วันนี้รีบจังนะ"

"ใช่ พอดีผมมีแผนนิดหน่อย"

"มานี่"

ครูสาวดึงชีพที่พึ่งแต่งตัวเสร็จให้นั่งลงบนเตียง ก่อนจะขยับเข้าไปสวมกอดจากด้านหลังอย่างแนบชิด

"ดูแลตัวเองดีดีนะชีฟ ห้ามทิ้งพี่ไปเด็ดขาด"

"ครับ"

สิบโมงเช้าชีฟขอให้พ่อของครูน้ำตาลพาขับรถมินิแวนสีฟ้าสุดหรูเข้าไปในตัวเมือง เพื่อซื้อข้าวของที่จำเป็นสำหรับการหลบซ่อนอยู่ในบ้านเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน

แต่เหมือนการซื้อของในวันนี้จะไม่ราบรื่นเท่าไหร่นักเมื่อหลังจากที่พวกเขาซื้อของเสร็จและกำลังจะกลับ ก็มีรถตู้สีดำสองคันขับตามพวกเขา

ชีฟที่นั่งอยู่ฝั่งซ้ายหันไปมองด้านหลัง

"คุณพ่อครับ สองคันนั้นตามเรามาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วใช่มั้ย"

คุณพ่อเหลือบมองกระจกหลังแล้วตอบ

"น่าจะใช่ลูก เอาไงดี"

"มาเร็วกว่าที่คิดแฮะ"

ชีฟนิ่งคิด ก่อนจะมองไปรอบ ๆ ตอนนี้พวกเขายังอยู่ในตัวเมือง ซึ่งเต็มไปด้วยรถมากมาย พวกมันเลยยังไม่กล้าทำอะไร แต่ถ้าออกนอกตัวเมืองเมื่อไหร่เป็นเรื่องแน่

ชีฟกวาดสายตามองในขณะที่รถก็วิ่งไปเรื่อย ๆ และเมื่อสายตาของเขาไปสะดุดเข้ากับตึกร้างที่ยังสร้างไม่เสร็จ เขาก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ตัวตึกมีสองชั้นและมีขนาดพอพอกับห้างสรรพสินค้าขนาดเล็ก เหมาะกับแผนการที่เขาคิดไว้เป็นอย่างมาก

"คุณพ่อครับ รีบเหยียบให้มิดไปที่ตึกร้างนั่นเลย พวกเราจะได้มีเวลาเตรียมตัว"

คุณพ่อไม่รอช้ารีบเร่งความเร็วแล้วหาทางไปยังตึกร้างที่ชีฟบอก ไม่นานพวกเขาก็มาถึงตึกโทรม ๆ สองชั้นที่ล้อมรอบด้วยต้นหญ้าสูงใหญ่ พื้นที่ตรงนี้ห่างจากถนนและเขตตัวเมืองเล็กน้อย และยังเต็มไปด้วยบ้านร้างกับตึกร้างอีกหลายหลังที่มีหญ้าขึ้นอยู่เต็มไปหมด พวกเขาเอารถจอดที่ด้านข้างตึก ก่อนจะวิ่งเข้าไปข้างในและขึ้นไปบนชั้นสอง

ชีฟพาคุณพ่อนั่งลงตรงขอบหน้าต่างที่หันหน้าไปทางถนนที่พวกเขาเข้ามา

"คุณพ่อนั่งตรงนี้นะครับ เดี๋ยวขอจัดการอะไรหน่อย"

ชีฟหว่านเมล็ดไปรอบ ๆ ตึกที่กินพื้นที่ถึงสองไร่อย่างรวดเร็ว เมล็ดพันธุ์เหล่านี้คือตีนตุ๊กแกที่นิยมปลูกติดกับผนังบ้านผสมกับเถาวัลย์น้ำ ซึ่งเป็นเถาวัลย์ที่มีความเหนียวแน่นที่สุด เมื่อเร่งโต พวกมันก็เจริญงอกงามขึ้นมาและเลื้อยพันขึ้นมาบนตัวตึกจนปกคลุมตึกทั้งตึกไว้อย่างมิดชิด นอกจากนั้นชีฟยังปลูกพืชมีพิษอีกหลายชนิดขึ้นมาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับต่อสู้

ทางด้านรถตู้สีดำสองคันที่ขับตามเข้ามา ที่จริงแล้วยังมีรถเบนซ์สีดำอีกคันตามมาด้วย ในรถเบนซ์คนขับหันไปมองสามพ่อแม่ลูกที่นั่งมาด้านหลัง

"เจ้านายครับ ตึกนั้น"

คนขับชี้ไปที่ตึกที่มีพืชไม้เลื้อยขึ้นอยู่เต็มไปหมด ก่อนจะพากันขับไปจอดที่หน้าตึก

เด็กสาวผมยาวอายุสิบเจ็ดหน้าตาน่ารักตะโกนบอกพ่อที่พึ่งจะเดินลงรถไป

"คุณพ่อคะ เอาสกิลมาให้ได้เร็ว ๆ นะ อีกสองวันการประเมินรับเหรียญก็จะปิดแล้ว หนูไม่อยากเข้าเรียนทีหลังเพื่อน"

ผู้เป็นพ่อหันมาลูบหัวลูกสาว

"ได้ลูก ลูกพ่อต้องเป็นสาวน้อยที่ใช้สกิลได้เก่งที่สุด"

สองพ่อลูกส่งยิ้มให้กันอย่างอบอุ่น วันนี้คือวันที่ 12 ตุลาคม เป็นวันที่มีการคัดเลือกผู้ที่ได้รับเหรียญในแต่ละปี ซึ่งการคัดเลือกจะดำเนินไปทั้งหมดห้าวัน นั่นก็คือวันที 10 ถึง 14 ตุลาคม