webnovel

ตอน กรรมบันดาล10

   ตอน กรรมบันดาล 10

   หลังจากที่ออกจากห้องน้ำมา ทิวาได้เจอจิรปรียาเดินมาตาม จึงทำทีเป็นแข็งแรง ไม่ให้ออกอาการใดๆ

ทั้งสองยืนคุยกันอยู่ครู่นึง จึงพากันเดินขึ้นไปที่ห้องไอซียู ขณะเดินขึ้นมาที่ชั้นสามนั่นเอง จิรปรียาได้เกิดอาการหน้ามืด ปวดหัวจนทิวาต้องประครองเอาไว้ กันไม่ให้เธอล้ม และค่อยๆ พากันเดินขึ้นบันไดมาจนถึงหน้าห้องไอซียู

พอมาถึงก็เจอกับแม่ของจิรปรียานั่งอยู่ที่หน้าห้อง จิรปรียาได้แนะนำให้ทิวารู้จักกับแม่เธอ "พี่ทิวา นี่แม่ของน้องค่ะ"

ทิวาได้ยกมือไหว้แม่ของจิรปรียา และได้พูดคุยทักทายกับแม่ครู่นึง แม่ก็บอกให้ทิวา และจิรปรียาเข้าไปดูพี่เขยของเธอ ทิวาได้เดินเข้าไปก่อน และได้จับที่ร่างของพี่เขยเธอ เพื่อทำการถอนให้สมบูรณ์

ทิวาได้ยืนกำหนดจิต ถอนการผูกจิตกับร่างอยู่พักนึง หลังจากที่ทำการถอนเสร็จ ร่างและชีพจรของพี่เขยจิรปรียา ก็ค่อยๆ นิ่งสงบลง ทิวายืนฟังญาติๆ ของจิรปรียาคุยกันครู่นึง ก็เดินออกมา ไม่ได้เอ่ยอะไรกับคนเหล่านั้น

จนมาถึงจิรปรียา ทิวาก็บอกกับเธอว่า "พี่ถอนโดยสมบูรณ์แล้วนะ"

เธอก็ได้แค่พยักหน้ารับรู้ ซักครู่พี่สาวของจิรปรียาก็เดินออกมา และเข้าไปในห้องใหม่พร้อมกับแม่ของจิรปรียา

แม่ได้เดินออกมาและบอกกับจิรปรียาว่า "ให้ไปหาซื้อธูป เพื่อมาจุดตามธรรมเนียมหน่อย"

จิรปรียาก็ได้ไปหาซื้อของกับทิวา หลังจากได้ของตามที่แม่บอก ทิวาและจิรปรียาก็กลับเข้าโรงพยาบาลไป

ก็พอดีเจอกับแม่ที่ลงมาจะเข้าห้องน้ำพอดี ทิวาจึงบอกจิรปรียาพาแม่ไปห้องน้ำ ส่วนทิวาก็นั่งรอที่ม้านั่ง

หลังจากนั้นแม่ก็มานั่งที่ม้านั่ง เพื่อพักเหนื่อย ทิวาจึงเดินออกมาที่เซเว่น เพื่อหาซื้อน้ำไปให้แม่กิน

หลังจากนั้นแม่ของจิรปรียา ก็บ่นกับจิรปรียาว่า "ทางญาติๆ จะไม่เอาศพไปคืนนี้ แต่จะฝากเอาไว้ที่โรงพยาบาลก่อน"

หลังจากทำเรื่องฝากศพเอาไว้แล้ว ทุกคนก็พากันแยกย้ายกลับบ้านกัน มาถึงบ้าน ทิวาก็พาจิรปรียาไปหาซื้ออะไรมาให้แม่ทาน

จากนั้นก็นั่งคุยกันเรื่อยๆ จนได้เวลา4ทุ่ม ทิวาได้บอกกับจิรปรียาว่า       

"พี่จะกลับนะ พรุ่งนี้พี่มีงานเช้า"

แม่และจิรปรียาบอกไม่ให้กลับ ให้ค้างที่นั่น สรุปก็เป็นอันตกลงทิวาค้างที่บ้านจิรปรียาในคืนนั้น

รุ่งเช้าทิวาตื่นมาตี4  เพื่อมาเตรียมตัวไปทำงาน เพราะคำนวนเวลาไว้แล้วว่า การเดินทางจากที่นั่นมาที่ทำงาน ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง หลังจากอาบน้ำแต่งตัว ทิวาก็มานั่งหน้าบ้าน ส่วนจิรปรียาก็ได้ชงกาแฟมาให้ทิวากินก่อนไปทำงาน

ในความรู้สึกลึกๆ ของทิวานั้นรู้สึกมีความสุขกับการต้อนรับของแม่และจิรปรียาที่มีต่อตน เหมือนตนเป็นคนๆนึงในครอบครัว หลังจากได้เวลาและเสร็จจากกินกาแฟแล้ว ทิวาก็บอกจิรปรียาว่า "พี่จะไปทำงานแล้วนะ"

หลังจากนั้นทิวาจึงเปิดประตูจูงรถออกมา และขับไปทำงาน เช้าๆในที่ชนบทแบบนั้น บรรยากาศก็ดูเปลี่ยวๆ ทิวาขับรถออกม่จากหมู่บ้านได้สักครู่หนึ่ง มาถึงตรงทางแยก อยู่ๆก็มีหมาดำตัวใหญ่ ตัวเท่าลูกวัววิ่งออกมาตัดหน้ารถของทิวา ทิวาจะเบรคหักหลบก็กะไร ทิวาจึงตัดสินใจขับชนร่างนั้น แล้วรถก็เสียหลักล้มลง

ยังดีหน่อยที่ทิวาไม่เป็นอะไรมากลุกมายกรถขึ้นและขับไปทำงานต่อ

สายของวันนั้นเป็นวันที่ไปรับศพมาตั้งที่วัด จิรปรียาได้โทรมาบอกและถามว่า

"พี่ทิวา พี่จะมาฟังสวดไหมคืนนี้?"

ทิวาก็ได้ตอบไปว่า "วันนี้เลิกงานค่ำไปคงไม่ทันฟังสวดคับ คงไม่ได้ไป"

 แต่จิรปรียาได้บอกกับทิวาว่า

"แม่อยากให้มาค่ะ แม้ไม่ทันฟังสวดก็ช่าง ขอแค่ให้มา"

ทิวาจึงตอบจิรปรียาว่า

"ได้คับ เลิกงานจะไป"

และได้บอกเธอต่อว่า "เมื่อตอนเช้าที่ออกมาจากบ้าน พี่ถูกหมาดำวิ่งตัดหน้ารถจนล้ม ดีไม่เป็นอะไรมาก"

งานฟังสวดศพคืนแรกผ่านไป จนวันสุดท้ายที่จะเผา ทิวาได้บอกกับจิรปรียาว่า  "วันเผาพี่คงไม่ได้มานะ เพราะพี่ติดงาน"

เธอก็บอกว่า "ไม่เป็นไรค่ะ น้องและแม่เข้าใจในตัวพี่ทิวา"

หลังจากเลิกงาน ทิวาก็ขับรถมุ่งตรงไปที่บ้านของจิรปรียา เพราะได้ตกลงกันกับเธอแล้ว ว่าจะไปตอนเลิกงาน และมีเรื่องจะคุยกับแม่และพี่สาวของเธอ

มาถึงบ้านก็ดึก จึงไม่ได้คุยอะไรกับแม่ และทิวาก็ค้างที่นั่น จนเช้าวันใหม่หลังจากตื่นนอน ซึ่งวันนี้วันหยุดของทิวาด้วย ทิวาตื่นมาอาบน้ำและเเต่งตัวออกมานั่งที่หน้าบ้าน จิรปรียาก็ชงกาแฟออกมาให้ทาน

เธอดูแลเขาอย่างดี เหมือนกับว่าทิวานั้นเป็นสามีเธอ ทั้งสองก็นั่งกินกาแฟและคุยกันที่หน้าบ้าน จนช่วงสายแม่กินข้าวเสร็จและนั่งพัก ทิวาก็ตัดสินใจเข้าไปบอก ขอขมาต่อแม่ของจิรปรียา ถึงเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น

และทิวาได้บอกกับแม่ว่า "เขานั้นรักจิรปรียาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีอะไรแอบแฝง แม่จะว่าอะไรก็ได้"

หลังจากที่ทิวาคุยกับแม่แล้ว ทิวาได้บอกกับแม่อีกว่า "ช่วงปีใหม่นี้ ผมจะลงไปที่ใต้ เพื่อขอจิรปรียาอย่างเป็นทางการคับ"

เป็นการให้คำมั่นสัจจะของทิวาต่อแม่ของเธอ และช่วงบ่ายวันนั้น ทิวาได้บอกกับแม่ และพี่สาวของจิรปรียาอีกว่า "พี่คับ..แม่คับ ตัวของพี่กับแม่จะโกรธ จะเกลียดผมก็ตามใจ แต่สิ่งที่ผมจะบอกต่อไปนี้ คือสิ่งที่ผมเองได้เห็นมา"

ทิวาบอกกับแม่และพี่สาวของจิรปรียาว่า "พี่สาวจะโดนโกง จากญาติทางฝ่ายสามี เงินทุกบาทที่ได้จากงานศพที่ผ่านไปเมื่อวานนี้ พี่สาวนั้นจะไม่ได้ซักแดงเดียว และอาจจะถูกบีบให้ทนอยู่ที่บ้านหลังนี้ไม่ได้อีก จนต้องย้ายไปจากบ้านหลังนี้"

แม่ได้ฟังก็เพียงอึ้งนิดๆ ส่วนพี่สาวของจิรปรียา ทำหน้าเหมือนจะเกลียดในตัวทิวา  แต่ทิวาก็หาได้สนใจไม่ เพราะเขาถือว่า นี่คือสิ่งสุดท้ายที่เค้าเห็นในทางสมาธิ ส่วนใครจะเชื่อ ไม่เชื่อก็ตามนั้น

ใครจะเกลียดหรือไม่เกลียดก็ตามใจ เพราะทิวาถือว่าตนทำดีที่สุดแล้ว กับชะตากรรมในครั้งนี้

หลังจากงานศพผ่านไปได้ไม่นานเรื่องราวต่างๆ ที่ทิวาเคยบอกกับพี่สาวของจิรปรียา ก็ค่อยๆเกิดขึ้นตามที่ทิวาได้เคยบอกกล่าวไว้

ทิวาได้รับทราบจากจิรปรียา ก็ได้แต่ทำใจ แม้จะสงสารในตัวพี่สาวของจิรปรียาก็ตาม จึงได้แต่บอกจิรปรียาไปเพียงว่า " ทุกคนล้วนมีชะตากรรมเป็นของตนเอง อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด และนี่หล่ะคือ "ชะตากรรม " 

............

   "ชะตาหรือว่าฟ้ากำหนด"

*****************************