เมื่อความทรงจำของฉันดับสูญ1
....ในยุคอันศรีวิไลย์ ที่ผู้คนต่างพากันเรียกร้องหา..
"อันว่าความศิวิไลย์นั้น คืออันใดกันหรือ? ทำไมมันช่างเป็นเหมือนสิ่งที่ไร้ประโยชน์ ไร้ค่าเสียนี่กระไร ในความนึกคิด โลกที่ไร้พรหมแดน ชีวิตในสังคมก้มหน้า กับผู้คนที่ไร้ซึ่งศีลธรรม...!! "
โลกที่ผู้คนเรียกขานว่า "มันเป็นโลกแห่งโลกาภิวัฒิน์ โลกแห่งเทคโนโลยี"
"อันเป็นการสร้างชักจูง ให้ผู้คนไร้ซึ่งศีลธรรมจรรยา โลกแห่งความเสื่อมเสีย เช่นนี้หน่ะหรอที่เรียกกันว่าโลกแห่งวิวัฒนาการ โลกแห่งความอันศรีวิไลย์ มันใช่จริงหรือ? ..."
"มนุษย์ผู้สร้างแต่ความแตกแยกจนก่อให้เกิดเป็นยุคที่ข้นเเค้น ยุคแห่งการชิงดีชิงเด่น นี่หรือยุคอันศรีวิไลย์"
"มันไม่น่าจะใช่ซะมากกว่า น่าจะเรียกมันว่า ' ยุคแดงโลกแห่งโลกาอันวิบัติ ' อันเป็นโลกภาวะของความเสื่อมต่ำทราม ทั้งจิตใจและสันดานของคนทั้งโลกเสียซะมากกว่า!!...''
ทิวา ' นั่งเหม่อมองวิวของตึกรามที่สูงตระหง่าน ที่ถยอยๆผุดขึ้นยังกับดอกเห็ด' และเหม่อคิดไปต่างๆนานา กับเรื่องราวของผู้คนและโลก ที่เปลี่ยนแปลงไปมากมาย...
จนไม่อาจจะฉุดดึงคืนมาได้!! ชีวิตของการต่อสู้ เพื่อให้ตนเองอยู่รอดในเมืองใหญ่ ที่ผู้คนต่างนิยม และเรียกขานว่า "เมืองฟ้าอมร เมืองหลวงแห่งแดนดินอันศรีวิไลย์...."
........
"กรุงเทพมหานครในปี2561 ซึ่งเป็นปีที่มีการปกครองของระบบปฏิวัติ การยึดครองอำนาจมาจากประชาชน ข้าราชการที่มาบริหารประเทศในระบบประชาธิปไตย"
"สาเหตุในการปฏิวัติในครั้งนั้น มาจากความแตกแยกของผู้คน ที่ต่างพากัน สร้างความสูญเสียให้ต่อประเทศชาติ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขปกครองประเทศ"
"การแบ่งพักแบ่งฝ่ายของผู้บริหาร จนก่อให้เกิดเป็นสงครามภายในประเทศ การเดินขบวนประท้วง และยังก่อให้เกิดการล้มตายมากมาย สถานที่ราชการในทุกส่วนภาคถูกเผาวอดวาย ผู้คนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง"
"ก็ต่างพากันคล้อยตามข่าวสารที่ทางรัฐบาลในม.21ออกข่าว ว่าเป็นเพราะเหตุของชนเสื้อแดงและเสื้อเหลืองที่ปะทะกัน!!"
"แล้วในความจริงนั้นเล่าใครจะรู้ ว่าเหตุการณ์ต่างๆนั้น ผู้ใดผิดผู้ใดถูก ต่างพากันโทษฝ่ายตรงข้ามยัดเยียดความผิดให้ประชาชน โดยไม่มองในอีกมุมหนึ่งประเด็นหนึ่ง ว่าอาจจะมีมือที่สามกระทำการบ้างเชียวหรือ!!..."
"....หลังจากเหตุการณ์ประท้วงได้สงบลง เพราะฝ่ายทหารทั้งม.21 และม.11 ได้ทำการปฏิวัติ เข้ายึดครองอำนาจ จากผู้บริหารประเทศ และทำการปกครองในระบอบฝ่ายปฏิวัติ"
"ปกครองอำนาจบริหารในระบบของทหาร เพื่อเป็นการป้องกันและสร้างความสงบให้แก่ประเทศชาติ"
"ประชาชนในส่วนภูมิภาคต่างๆ จึงพากันสงบ อยู่ภายใต้กฏหมายและภายใต้รัฐธรรมนูญ'ฉบับปี2560' อันเป็นรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นใหม่เพื่อมาบังคับใช้ในยุคนั้น...."
........
"....ทิวา นั่งคิดทบทวนวกวนไปเรื่อยๆ ในช่วงเวลาที่ว่างจากการงาน คิดมองย้อนไปถึงสิ่งต่างๆ ถึงวิถีชีวิตถึงการปกครองของผู้นำ และยังคิดวกวนเวียนมาจนถึงอำนาจทางศาสนา"
"ที่ผู้คนนั้นกำลังทำให้มันเสื่อม เหล่าผู้นำในศาสนาต่างๆ ที่มีทั้งคริสต์ กรีกโรมัน พุทธ พราห์มฮินดู และรวมทั้งอิสลามมุสลิมและศาสนาเต๋า อันเป็นลัทธิใหม่ที่มาในนามลัทธิบัวขาว (อนุตตรธรรม)" ซึ่งเป็นทุกศาสนาที่มีในประเทศไทย
"ทิวานั่งมองผู้คน ที่ตระเวณชักจูงชาวบ้าน ให้เข้าร่วมในศาสนาที่ตนนับถือ โดยมีศาสนะจักรขององค์เยซูคริสต์ ที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุดกับการชักจูงผู้คนให้เข้าร่วมในคริสตจักร"
"โดยการส่งออกผู้นำผู้สอนศาสนาเข้ามามากมายในประเทศไทย..."
"ศาสนาที่2 ที่มีการเคลื่อนไหวมาก รองจากคริสตจักรก็คือ ศาสนาเซียนเต๋า โดยมาในนามอนุตตรธรรม อันเป็นลัทธิใหม่ ที่มีการก่อตั้งมาในยุคราชวงศ์ชิง ในประเทศจีน"
"แรกเริ่มเดิมทีลัทธิอนุตตรธรรมนี้ ครั้งที่ก่อตั้งในยุคราชวงศ์ชิง ก่อตั้งในนามของ 'ลัทธิบัวขาว' ซึ่งในยุคนั้น'ลัทธิบัวขาว'ได้ถูกเพ่งเลงจากราชวงศ์ กลัวว่าจะเป็นลัทธิที่ปลูกฝังให้ชาวเมืองแข็งข้อก่อการกบฏ"
"ทางราชสำนักราชวงศ์ชิง จึงทำการกวาดล้าง ขับไล่ชาวบ้านที่เข้าในลัทธิและผู้นำ ด้วยการอ้างว่าผู้นำในลัทธิบัวขาวนั้น คิดคดทรยศก่อการกบฏ จึงให้ทหารออกขับไล่กวาดล้างให้สิ้นซาก.."
..เป็นเวลาหลายสิบปีกับการกวาดล้างลัทธิบัวขาวในยุคราชวงศ์ชิง...ฯ
(เอาไว้ติดตามอ่านกันต่อนะครับ กับตอน "เมื่อความทรงจำของฉันดับสูญ)
******************************