ตอนที่ 1240 ถูกล้อม
กู่ฉิงซานไม่หันหลังกลับไป
เขาเพียงถือดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพแล้วถามว่า “เจ้าเป็นใคร”
ผู้ชายถือดาบตอบว่า “ข้าต่างหากที่ควรถามคำถามนี้ ยังไงเสีย นี่คือสถานที่ที่พวกเราสำนักซานไห่ผนึกเอาไว้ ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าท่านผ่านชั้นเขตอาคมจนเข้ามาที่นี่ได้ยังไง”
จิตดาบของเขาราวกับขุนเขาและทะเล มันจับจ้องกู่ฉิงซานไว้มั่น เขาคล้ายกับพร้อมที่จะเปิดฉากโจมตีถึงตายทุกเมื่อ
กู่ฉิงซานยิ้ม
ด้วยจิตเทพ เขามองเห็นอีกฝ่าย
ตอนพยายามใช้วิชาหมัดกับซานไห่ชีเสีย เขาคล้ายกับเคยเห็นผู้ชายถือดาบคนนี้
อีกฝ่ายคือผู้นำสำนักที่รู้จักในชื่อนักดาบนิรันดร์
“เจ้าคือนักดาบนิรันดร์หรือ” เขาถาม
กลิ่นอายดาบเลือนรางแผ่ออกมาจากเขา
มือหนึ่งถือดาบศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ อีกมือถือดาบพิภพ จากนั้นตวัดออกไปอย่างไม่ใส่ใจ
ท่าทีดังกล่าวสร้างความเดือดดาลให้กับอีกฝ่าย
“ข้ากำลังถามเจ้าอยู่นะ!” นักดาบนิรันดร์ตะโกนเสียงดัง
ดาบยาวูบไหวที่ด้านหลัง กลายเป็นดาบบินนับล้านเล่มราวกับแม่น้ำก้าวข้ามท้องนภา พวกมันโจมตีกู่ฉิงซานด้วยพลังที่ไม่อาจขัดขืนได้
กู่ฉิงซานชูดาบขึ้น
ดาบลับ · ดาบเหล็กเหิงเจียง!
เงาดาบนับไม่ถ้วนบนดาบพิภพปั่นป่วน หลอมรวมเป็นเงาดาบยักษ์หนึ่งเล่มที่บดบังท้องนภาและดวงตะวันขระขัดขืนการโจมตีอันซับซ้อนของดาบบินนับล้านบนท้องนภา
ตึงตึงตังตังตึงตึงตังตัง!
เสียงกระทบหนักหน่วงราวกับสายฝนโปรยปรายกระหน่ำลงมาเสียงดัง แรงสั่นสะเทือนทำให้หนังศีรษะชาด้าน
ทว่า ไม่ว่าดาบบินเหล่านี้จะกระแทกเข้ามาอย่างไร เงาดาบยักษ์ก็ยังคงไม่ขยับ
“ไม่เลว” กู่ฉิงซานกล่าวชื่นชมเสียงดัง “สมแล้วที่อยู่ระดับนักดาบนิรันดร์ ถ้าสู้กันจริงๆ ผลลัพธ์ก็คงมีแค่สองทาง”
เหนือระดับนักดาบนิรันดร์ยังมีระดับหนึ่งดาบ
ฝีมือดาบทั้งสองคล้ายกัน ประกอบกับการแสดงอันโลดโผนและวิชาต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ก้นหีบ หากต้องสู้กันจริงๆ ผลลัพธ์ก็สุดจะคาดเดา
นักดาบนิรันดร์ชูมือขึ้น
ดาบบินนับล้านกลายเป็นดาบยาวก่อนกลับมาอยู่ในมือของเขา
“หนึ่งดาบที่สามารถหยุดล้านดาบได้ ฝีมือดาบนับว่าไม่เลว แต่การต่อสู้ไม่คล้ายกับนักดาบเลย หากเจ้ายังไม่ยอมเอาจริง ข้าสัญญาเลยว่าเจ้าจะไม่สามารถรอดออกจากสำนักซานไห่ไปได้” นักดาบนิรันดร์กล่าว
“ข้าก็อยากลองดูเหมือนกัน” กู่ฉิงซานยังคงไม่หันหลังกลับมา เพียงแค่กล่าวอย่างแผ่วเบา
หายากนักที่จะเผชิญหน้ากับผู้ใช้ดาบที่ใช้หนึ่งดาบหรือผู้ใช้ดาบที่มีระดับวิชาดาบใกล้เคียงกัน ตอนนี้ จิตต่อสู้ของเขากำลังเดือดพล่านอยู่ในอก
นักดาบนิรันดร์ส่งจิตสังหารออกมาขณะตะโกนว่า “รนหาที่ตายแท้ๆ !”
หลังจากขยับดาบยาว เขาแยกดาบอีกครั้งเพื่อสร้างดาบนับล้านเล่มขึ้นมา
ทันใดนั้น เสียงผู้หญิงดังขึ้น
“ช้าก่อน!”
แสงนับล้านเคลื่อนลงมาจากท้องนภาขณะขวางทางทั้งสองเอาไว้
เป็นผู้หญิงผมยาวในชุดคลุมสีแดงที่มีดวงดาวอยู่ตรงหว่างคิ้ว
จ้าวสำนักซานไห่ ซานไห่ชีเสีย
หลังจากนั้น ผู้ชายที่มีดาบยาวสิบเล่ม ชายวัยกลางคนเครายาวชุดขาวกับชายชราที่มีรอยยิ้มบนใบหน้าปรากฏขึ้นที่ด้านหลังนาง
ท่านหมื่นดาบศักดิ์สิทธิ์หลี่ชุนเตา ร้อยหัตถ์ศักดิ์สิทธิ์ทำลายล้างจางจิ่วไป๋ ผู้เฒ่ากระดูกฉีโยวไห่และนักดาบนิรันดร์หวังชุ่น รวมถึงคนใหญ่คนโตจากสำนักซานไห่ล้วนอยู่ที่นี่
หวังชุ่นเก็บดาบแล้วกล่าวด้วยความเคารพว่า “จ้าวสำนัก ท่านมาด้วยหรือ”
“อืม”
ซานไห่ชีเสียตอบรับ ดวงตาของนางจับจ้องกู่ฉิงซาน
นางกล่าวอย่างสงบว่า “ผู้มาจากฝั่งผู้ฝึกยุทธ์ กู่ฉิงซาน สหายเต๋ากู่ ข้าสงสัยจริงว่าเจ้ามาสำนักซานไห่ด้วยเหตุผลอันใด”
กู่ฉิงซานเก็บดาบด้วยความรู้สึกเสียดายอยู่ในใจ
ก่อนหน้านี้ท่านหมื่นดาบศักดิ์สิทธิ์รู้ตัวตนของเขา ตอนนี้ซานไห่ชีเสียรู้ตัวตนของเขา กู่ฉิงซานจึงไม่ประหลาดใจแต่อย่างใด
น่าเสียดายที่มีอีกหลายคนจากอีกฝั่งมาด้วย ดูท่าการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ใช้ดาบจะไม่สามารถดำเนินต่อได้แล้ว
กู่ฉิงซานประสานมือแล้วกล่าวว่า “ที่มาสำนักในวันนี้เพราะสัมผัสได้ว่ามีใครบางคนเรียกหาข้า ข้าคิดว่าอาจจะเป็นคนรู้จักก็เลยลงมาดูน่ะ”
หลายคนมองหน้ากัน
แต่ที่เจ้าลงมามันคือผนึกส่วนลึกที่สุดของสำนักพวกข้านะ
ซานไห่ชีเสียมองรอบข้างแล้วกล่าวว่า “ในถ้ำร้างทิศตะวันออก สหายเต๋ากู่ฆ่าสัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกที่ไม่รู้จักเพื่อช่วยผู้คนไว้นับไม่ถ้วน เรื่องนี้ข้องเกี่ยวกับพวกข้าสำนักซานไห่ ดังนั้นข้าจึงต้องขอขอบคุณสหายเต๋ากู่ แต่”
“แต่ทำไมถึงลอบเข้าสำนักของท่านสินะ” กู่ฉิงซานกล่าวพร้อมกับยิ้มให้
“ใช่ โปรดช่วยคลายความสงสัยด้วย” ซานไห่ชีเสียกล่าว
กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “เอาแบบนี้ละกัน พวกเจ้าทำอะไรกันที่นี่กันล่ะ ลองบอกข้ามาดู หากร่วมแรงกัน อาจจะสามารถทำบางอย่างด้วยกันได้”
ซานไห่ชีเสียตกอยู่ในความเงียบ
อีกฝ่ายไม่ตอบคำถามของนาง แต่กลับถามเสียอย่างนั้น
คนคนนี้ที่เคยสู้กับสามเทพเพียงลำพังในยุคโบราณจะยังแข็งแกร่งอยู่หรือเปล่า
ท่านหมื่นดาบศักดิ์สิทธิ์หลี่ชุนเตาพลันกล่าวว่า “นักดาบนิรันดร์กู่ เจ้าตัวคนเดียว คิดว่าจะสามารถหลบหนีจากพวกข้าทุกคนได้งั้นหรือ”
กู่ฉิงซานตอบว่า “ข้าไม่หนีหรอก ถ้าข้าอยากหนี พวกเจ้าก็หยุดไม่ได้อยู่แล้ว”
เขาพลันถอนหายใจแล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “ทำไมต้องหันดาบใส่กันด้วย ข้าอยากรู้จริงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ยังไงเสีย คนที่ขอความช่วยเหลือสามารถทะลวงประวัติศาสตร์ของข้าได้”
“ความจริง ในประวัติศาสตร์ของเจ้า ขอเพียงรู้ทุกสิ่งในโลกแห่งการรวบรวมข้อมูลในความว่างเปล่าของหมื่นโลก เน้าก็น่าจะรู้ทุกอย่างจนกระจ่างชัดนี่ ทำไมต้องมาสนตัวตนแปลกประหลาดด้วย” ผู้เฒ่ากระดูกฉีโยวไห่ถาม
ใช่
นี่คือจุดที่น่าสับสนที่สุด
กู่ฉิงซานไม่ใช่คนที่ไร้ชื่อ คนอื่นรู้ว่าจุดกำเนิดของเขาไม่ธรรมดา แต่เขากลับใช้เรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างบอกว่าคนรู้จักเรียกให้มา
แค่เพราะใครบางเรียกหากู่ฉิงซาน เขาจึงลอบเข้าสู่ผนึกที่ลึกที่สุดของสำนักซานไห่ เรื่องเหลวไหลแบบนี้จะมีใครที่ไหนเชื่อ
ขณะมองสีหน้าพวกเขา กู่ฉิงซานเข้าใจความคิดอีกฝ่ายเช่นกัน
สำนักนี้เคยต่อสู้กับวันสิ้นโลก
คนพวกนี้
ที่จริงแล้ว พวกเขาควรค่าแก่การชื่นชม
เมื่อคิดถึงตรงนี้ กู่ฉิงซานกล่าวว่า “เอาเถอะ ให้ข้าบอกความจริงกับพวกเจ้าก็แล้วกัน ไม่มีใครรู้ว่าข้าอยู่ในยุคนี้ ไม่มีใครรู้ว่าข้ามาจากไหน ข้ากล้ารับปากเลยว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้”
ทุกคนมองหน้ากัน
เขาหมายความว่าอะไร
ซานไห่ชีเสียถามว่า “เจ้าพูดความจริงหรือเปล่า กู่ฉิงซาน”
“พูดจริง” กู่ฉิงซานตอบ
“แต่เจ้าบอกว่าพวกข้าไม่รู้ว่าเจ้ามาจากไหน เห็นได้ชัดว่าพวกข้ารู้ว่าเจ้ามาจากยุคโบราณ”
เสียงของซานไห่ชีเสียพลันขาดห้วง
นางตกอยู่ในห้วงความคิด ใช้เวลาเนิ่นนานกว่าจะมองกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานชี้ไปยังต้นไม้ที่ตายแล้วที่อยู่ไม่ไกลจากด้านหลังนักแล้วกล่าวว่า “ข้าแค่ผ่านทางมา แต่มันกลับรู้จุดกำเนิดของข้า ดังนั้นโปรดบอกความลับข้ามาเถอะ”
“ข้ารู้ว่าในโลกของท่าน ความลับเป็นสิ่งที่มีค่ามาก ข้าสามารถแลกเปลี่ยนความลับบางอย่างกับท่านได้”
ซานไห่ชีเสียครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “ถ้าเจ้าสามารถแสดงความจริงใจได้ นี่ก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้”
“จ้าวสำนัก!” นักดาบนิรันดร์หวังชุ่นตะโกนด้วยความกังวล
ซานไห่ชีเสียส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “นักดาบนิรันดร์กู่ไม่หวาดกลัวสถานการณ์ในตอนนี้ ดังนั้นพวกเราต้องแสดงความจริงใจบ้าง”
“ยิ่งกว่านั้น นักดาบนิรันดร์กู่เคยยื่นมือเข้าช่วยมาแล้วครั้งหนึ่ง น่าจะไม่ใช่คนชั่วอะไร แน่นอนว่าพวกเราสำนักซานไห่ต้องการสหายแบบนี้”
ทุกคนฟังก็ครุ่นคิดอีกครั้ง
ผู้ชายคนนั้นเงียบไป
ไม่มีการป้องกันใดๆ กักขังหรือกระตุ้นเขาได้
ไม่ว่าจะเป็นโลกไหนหรือกองกำลังใด หากไปยั่วยุคนแบบนี้เข้า เกรงว่าได้เกิดเรื่องชวนปวดหัวแน่ๆ
จ้าวสำนักพยายามเปลี่ยนทุกสิ่งจากร้ายให้เป็นดี
ขึ้นอยู่กับว่ากู่ฉิงซานจะแลกเปลี่ยนโดยสุจริตใจหรือเปล่า
“แสดงความจริงใจ…”
กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักแล้วถามว่า “ท่านอยากรู้ความลับอะไรหรือ”
“พวกข้าต้องคุยกันก่อน” ซานไห่ชีเสียตอบ
“เชิญเลย” กู่ฉิงซานกล่าว
ซานไห่ชีเสียรีบร่ายกำแพงเสียงอย่างรวดเร็วเพื่อคุยกับคนอื่นๆ
พวกเขาคุยกันสักพัก ในที่สุดก็ตัดสินใจได้
ซานไห่ชีเสียคลายกำแพงเสียงก่อนเผยรอยยิ้มให้กู่ฉิงซานแล้วกล่าวว่า “ถ้าท่านเต็ใจแลกเปลี่ยนความลับกับข้าจริง โปรดเผยตัวตนที่แท้จริงของท่านก่อน”
“อา เรื่องนี้บอกไม่ได้น่ะ” กู่ฉิงซานกล่าว
“ถ้างั้น โปรดบอกพวกข้าทีว่าท่านมาจากโลกไหน”
“ข้าบอกเรื่องนี้ไม่ได้เหมือนกัน”
“ท่านเรียนรู้มาจากใคร”
“ขอโทษด้วย ข้าไม่สามารถบอกได้”
ทุกคนเงียบ
เจ้าหนู นี่กำลังรอพวกข้าเล่นอย่างนั้นหรือ
กู่ฉิงซานยิ้มแล้วกล่าวว่า “ถ้าถามให้ถูกจุด ข้าจะต้องสามารถตอบได้อย่างแน่นอน”
ซานไห่ชีเสียสงบสติสักพัก จากนั้นถามว่า “ท่านมีอะไรเกี่ยวข้องกับหกวิถี”
กู่ฉิงซานตอบว่า “เรื่องนี้ อา”
หัวใจของทุกคนพองโตขึ้น
ทว่า กู่ฉิงซานยื่นมือออกไปแล้วหยิบไม้เท้ากระดูกหนึ่งเขาออกมาจากความว่างเปล่า
“ในนามของข้าราชาภูตผียมโลก ราชาภูตผีคือเทพแห่งวิถียมโลก นี่คือสิ่งที่สามารถพูดได้”
วิถียมโลก!
ราชาแห่งความตาย!
หัวใจของทุกคนดิ่งวูบ ดวงตาของพวกเขามองไม้เท้าชั่วร้ายแปลกประหลาด ไม่สามารถละสายตาไปมองอย่างอื่นได้
ซานไห่ชีเสียรีบกล่าวว่า “กลายเป็นว่าท่านคือสมาชิกของหกวิถีเช่นกัน ข้าสงสัยเหลือเกินว่าการปรากฏตัวของท่านในครั้งนี้เป็นการจัดระเบียบใหม่ของยมโลกหรือเปล่า”
“ไม่ ที่จริงมันเป็นความลับที่ข้าออกมาในครั้งนี้นี่แหละ นอกจากพวกเจ้า ไม่มีใครในโลกรู้”
กู่ฉิงซานกล่าวต่อว่า “ถ้าข้าพูดออกไป หวังว่าพวกเจ้าจะสามารถแลกเปลี่ยนความลับของต้นไม้โบราณนั่นให้ได้”
ซานไห่ชีเสียพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ได้”
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ข้าออกมาในครั้งนี้ก็เพื่อทำลายโลกวิญญาณชั่วร้าย”
………………………………………….