webnovel

1239 ต้นไม้ที่ตายแล้ว

ตอนที่ 1239 ต้นไม้ที่ตายแล้ว

ช่วงเที่ยง

กู่ฉิงซานกลับที่พัก

เขายังรับหน้าที่ทำอาหาร หลี่ชิวอวี่รับหน้าที่ดู

“หนึ่งในอาจารย์ที่สอนวิชาต่อสู้จากไปแล้ว”

กู่ฉิงซานกล่าวขณะหั่นผัก

“อืม ข้ารู้เรื่องนี้แล้ว”

กู่ฉิงซานชำเลืองมองนาง

หลี่ชิวอวี่ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้าพูดไม่ได้ นี่เป็นกฎน่ะ”

“กฎอะไรหรือ” กู่ฉิงซานถาม

“หากเป็นวันสิ้นโลกบางอย่างที่ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ เช่นนั้นรายละเอียดของผู้ที่ตายด้วยวันสิ้นโลกนี้ก็ไม่สามารถเปิดเผยได้” หลี่ชิวอวี่ตอบ

กู่ฉิงซานพยักหน้าขณะเผยสีหน้าเข้าใจ

ผ่านไปสักพัก อาหารก็ปรุงเสร็จ

หลี่ชิวอวี่ช่วยนำจานวางบนโต๊ะ

ทั้งสองนั่งลงก่อนเริ่มกิน

“นี่ให้เจ้า” หลี่ชิวอวี่กล่าว

กู่ฉิงซานรับมาดู มันคือใบรับรอง

“หลี่ชิวซานทำการใช้พลังจิตครั้งแรกสำเร็จแล้ว เขากำลังสื่อสารและเรียนรู้กับมรดกที่ได้รับมา วิธีเฉพาะ: การนอนหลับ”

“ข้า หลี่ชิวอวี่ ขอมอบใบรับรองให้”

มีลายเซ็นของนางอยู่บนนั้น

“เจ้านี่เอาไว้ใช้ทำอะไรหรือ” กู่ฉิงซานถาม

“อาจารย์วิชาต่อสู้คนใหม่ถูกเลือกแล้ว เจ้าจะต้องเข้าวิชาต่อสู้ในช่วงบ่าย รีบทำการสื่อสารให้สำเร็จและมุ่งมั่นในการได้มรดกพลังจิตที่มากขึ้น” หลี่ชิวอวี่ตอบ

กู่ฉิงซานเข้าใจแล้วกล่าวว่า “ท่านกลัวว่าข้าจะนอนหลับในวิชาต่อสู้จนอาจารย์ไม่เชื่อว่าข้ากำลังใช้พลังจิตจริงๆ สินะ”

เขายื่นใบรับรองให้อีกฝ่ายแล้วถามว่า “ท่านสามารถเสริมสภาพแวดล้อมมืดมิดให้ข้าได้หรือเปล่า”

“เจ้าอยากใช้พลังจิตในความมืดหรือ” หลี่ชิวอวี่ถาม

“ใช่”

“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา มีบางโลกที่ถูกกวาดล้างโดยวันสิ้นโลกในอาศรม ไม่มีคนอยู่ข้างใน มันถูกออกแบบมาเพื่อนักเรียนที่มีประสบการณ์โดยเฉพาะ… ขอแค่เจ้ากล้านอนหลับข้างในก็จะสามารถใช้งานได้”

นางเสริมประโยคในใบรับรองว่า “ต้องการสภาพแวดล้อมมืดมิด”

“อีกอย่าง ภารกิจใกล้จะมาถึงแล้ว เจ้าต้องรีบเพิ่มพละกำลังตัวเอง”

“สดับสายลมหน้าใหม่อย่างข้าก็สามารถรับภารกิจได้เหมือนกันงั้นหรือ” กู่ฉิงซานถาม

“ดอกไม้ในเรือนกระจกไม่สามารถรับมือกับวันสิ้นโลกได้ ยิ่งกว่านั้น หมัดของเจ้าทำลายการป้องกันทั้งหมดได้ ไม่ว่ายังไง มันก็เหมาะกับการใช้งาน ทำให้เจ้ามีคุณสมบัติที่จะรับภารกิจ” หลี่ชิวอวี่ตอบ

กู่ฉิงซานตกตะลึง

สดับสายลมจะรวบรวมความลับและข่าวแปลกประหลาดทั้งหมดที่จริง เขากำลังตั้งตารอที่จะรับภารกิจอยู่แล้ว

ขณะคิดได้ครึ่งทาง ชิ้นส่วนกระดูกพลันปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าก่อนตกลงตรงหน้าหลี่ชิวอวี่

หลี่ชิวอวี่รับชิ้นส่วนกระดูกมา อ่ายรายละเอียดอย่างตั้งใจก่อนมองกู่ฉิงซาน

“คืนนี้ข้าไม่กลับนะ”

“มีเรื่องอะไรหรือ” กู่ฉิงซานถาม

หลี่ชิวอวี่ตอบว่า “สมบัติพิเศษยิ่งปรากฏขึ้นบนเกาะใกล้ถ้ำทะเลตะวันตก ใครก็ตามที่อธิษฐานสามารถทำให้เปลวเพลิงตกใส่ใครบางคนจนถูกกลืนกินได้”

“มีความเป็นไปได้สองอย่างของสมบัตินั้น หนึ่งคือเป็นสมบัติต่อสู้อย่างหนึ่ง มีพลังมหาศาล อีกข้อคือเป็นปรสิตของวันสิ้นโลก”

“แสดงว่าท่านจะรับภารกิจงั้นหรือ” กู่ฉิงซานถาม

หลี่ชิวอวี่ตอบว่า “ใช่ ข้ากำลังจะไปตรวจสอบสถานการณ์เพื่อยืนยันความผิดปกตินี้ว่าควรเก็บรวบรวมหรือควรฆ่า ในกรณีที่รับมือไม่ไหวก็ต้องเรียกทีมนักฆ่ามา”

“เข้าใจแล้ว ระวังตัวด้วย” กู่ฉิงซานกล่าว

ทันใดนั้น เขารู้สึกว่าตัวเองพูดสบายอารมณ์เกินไป เขาจึงเสริมว่า “ข้าเพิ่งเรียนรู้ประเภทหมัดพลังจิตมา ตอนออกไปรับภารกิจ ข้าจะไม่ถูกฆ่าโดยวันสิ้นโลกทันทีที่ออกภาคสนามสินะ”

หลี่ชิวอวี่กลอกตาแล้วถามกลับว่า “ข้าอยู่ทั้งคน เจ้ายังต้องกลัวอีกหรือ”

กู่ฉิงซานตอบอย่างจริงจังว่า “กลัวสิ”

ในระหว่างเรียนช่วงบ่าย เหล่านักเรียนล้วนเดินไปที่ลานวิชายุทธ์

อาจารย์วิชาต่อสู้คนใหม่มาจากทีมนักฆ่ามากประสบการณ์ หนุ่มสาวจำนวนมากจำเขาได้จนอดรู้สึกถึงความพึ่งพาขึ้นมาไม่ได้

ทุกคนตื่นเต้นเล็กน้อย

ต่อสู้

ต่อสู้ด้วยพลังพิเศษคือความฝันของทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย

อาจารย์เริ่มถ่ายทอดคำสั่ง

“วันนี้พวกเจ้าไม่ต้องใช้พลังจิต ไปตรงนั้น หาคู่ต่อสู้ด้วยตัวเองแล้วลองประมือกันดู ข้าจะดูระดับพลังจิตและทักษะทีหลัง”

“คนที่เพิ่งมีพลังจิตมาตรงนี้”

“เจ้าใช้อาวุธพลังจิตสินะ ถ้างั้นรับเคล็ดอาวุธพื้นฐานไป ฝึกฝนให้มาก”

“เจ้าและก็เจ้า พวกเจ้ามีรากฐานของการเป็นผู้เชี่ยวชาญกระดูก ถ้างั้นไปห้องกระดูกเพื่อสัมผัสมันให้มากยิ่งขึ้น”

ขณะถ่ายทอดคำสั่ง แผ่นกระดาษว่างเปล่าแผ่นหนึ่งถูกส่งมาที่เขา

กู่ฉิงซาน

เขาส่งใบรับรองของหลี่ชิวอวี่ให้อาจารย์วิชาต่อสู้

อาจารย์มองดูใบรับรอง จากนั้นมองเขา สีหน้าตื่นเต้นยิ่ง

หลี่ชุนเตา หลี่ชิวอวี่ หลี่ชิวซาน

กลายเป็นว่าเด็กคนนี้คือน้องเล็ก

แต่วิถีพลังจิตนี้มันออกจะเหลวไหลเกินไปหน่อยไหม…

แต่สองพี่ใหญ่ไม่มีทางพูดจาเหลวไหลเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่

หลังจากคิดอยู่นาน อาจารย์กล่าวอย่างยากลำบากว่า “หลี่ชิวซาน… ตามข้ามา”

“ขอรับ” กู่ฉิงซานตอบ

อาจารย์พาเขาเดินไปยังส่วนลึกของอาศรม

มีกำแพงสูงจำนวนมากอยู่ที่นี่ ผู้คนค่อยๆ เบาบางจนท้ายที่สุดก็ไม่เห็นใครอีก

ที่สุดทาง บนกำแพงสีดำหนา มีประตูที่ถูกปิดไว้เป็นจำนวนมาก

“ประตูบานที่สองนับจากทางซ้ายคือโลกวันสิ้นโลกทมิฬที่ถูกทำลายไปแล้ว วันสิ้นโลกถูกพวกเรากวาดล้างไป มันจึงปลอดภัยมาก”

“ถ้างั้นข้าขอตัวนอนก่อน”

อาจารย์ครุ่นคิดสักพักก่อนกล่าวต่อว่า “ในระหว่างใช้พลังจิต หากเจ้าพบเจอคำถามที่ไม่เข้าใจ สามารถถามข้าได้หลังจากตื่นขึ้นมาแล้ว”

กู่ฉิงซานคำนับแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณ อาจารย์”

เขานำผ้าห่มกับเบาะออกมาจากกำไลกระดูก เมื่ออาจารย์เปิดประตูแล้ว เขาเดินตรงเข้าไป

ประตูปิดไล่หลัง

กู่ฉิงซานมองรอบข้าง

เขาเห็นว่าที่นี่คือโลกทมิฬจริงๆ

ทุกสิ่งถูกทำลายไปแล้ว

ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่

เมืองพังทลายลงกับพื้นราวกับหุ่นยนต์ยักษ์ที่ใช้การไม่ได้ เหลือเพียงกองเศษซาก

ถึงแม้สภาพแวดล้อมจะดูอึมครึมไปหน่อย แต่กู่ฉิงซานรู้สึกว่ามันช่างสงบเงียบยิ่งนัก

เพราะไม่มีอะไรอยู่ที่นี่ จึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เขาพบสถานที่ว่างเปล่าก่อนวางเตียงลงบนกำแพงโลหะที่พังลงมา

“เอาล่ะ ขอข้าศึกษาวิธีใช้ร่างจำแลงนี้หน่อยเถอะ”

เขาพึมพำขณะล้มตัวลงบนเตียงก่อนค่อยๆ หลับตา

โลกแห่งการทำลายล้าง

ราตรีคล้อยต่ำ

มีเพียงชายหนุ่มหนึ่งคนนอนหลับ

สิบนาที

ยี่สิบนาที

ทันใดนั้น กู่ฉิงซานรู้สึกว่าเขาตื่นขึ้นมา

แต่รู้ว่าตัวเองยังหลับอยู่

นี่ช่างเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดนัก เกินกว่าจะหาคำพูดมาบรรยายได้

ในสภาพนี้ คล้ายกับว่าในโลกนี้ยังมีบางสิ่งอยู่

นั่นคือสิ่งที่เขาไม่สามารถตรวจจับได้ตอนที่ตื่นขึ้นมา

“ช่วย… ข้า”

เสียงผู้หญิงแผ่วเบาดังมาจากใต้ดิน

กู่ฉิงซานประหลาดใจ

เขาอยู่ในอีกโลกหนึ่งแท้ๆ ทำไมถึงยังได้ยินเสียงอีกล่ะ

นี่มันคือเสียงอะไรกันแน่

ขณะคิดอยู่ในใจ ทั่วร่างพลันเริ่มตกลงไป

เหมือนกับคราวที่แล้ว เขาตกลงไปในพื้น ทะลุกระดูก แร่แข็งใต้ดิน ลาวา เขตอาคมโลก ท้ายที่สุดก็ออกจากโลกวันสิ้นโลกทมิฬก่อนปรากฏขึ้นที่ใต้สำนักซานไห่และยังคงตกลงไปเรื่อยๆ

เขายังคงตกลงไปเรื่อยๆ

ยังคงตกลงไป…

กู่ฉิงซานเข้าใจว่าตอนนี้เขายังอยู่ในร่างวิญญาณ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางผ่านมาใต้ดินลึกรวดเดียวขนาดนี้ได้

สิ่งที่เรียกว่า “เทพท่องราตรี” สามารถทะลวงอุปสรรคนับไม่ถ้วนก่อนหลอมรวมเป็นร่างที่ใดสักแห่งได้

แต่ทุกครั้งที่ฝัน เขาสามารถทำได้เพียงแค่หนึ่งครั้งเท่านั้น

ครั้งที่แล้วเขาไม่ได้เตรียมตัวจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ครั้งนี้เขาจึงเลือกที่เหมาะๆ

ขณะกำลังคิด เขาเห็นว่ารอบข้างพลันเปิดออก

ทุ่งรกร้าง

ทั่วดินแดนเป็นหินแปลกประหลาด ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัย มีเพียงต้นไม้ใหญ่ที่ตายแล้วเท่านั้น

กู่ฉิงซานอยู่ในป่าที่ไกลออกไปก่อนก่อรูปร่างขึ้นมา

“ใครกัน เมื่อครู่ใครขอความช่วยเหลือ” เขาถาม

“ข้า… ช่วยข้าด้วย…”

กู่ฉิงซานตามหาต้นเสียง เขาเห็นเพียงว่าเสียงมาจากต้นไม้ที่ตายแล้ว

น่าแปลก

ที่นี่คือใต้ดินของสำนักซานไห่ แล้วมีโลกแยกกับต้นไม้ใหญ่แบบนี้อยู่ได้อย่างไร

“เจ้าเป็นใครกันแน่” กู่ฉิงซานถาม

เสียงดังกล่าวพลันหัวเราะออกมาแล้วกล่าวเสียงต่ำว่า “เจ้า สหายจากยุคหน้า ผู้ติดต่อกับคนแรกที่อยู่บนมงกุฎดวงดาว คนที่เป็นพันธมิตรกับข้า พูดขนาดนี้น่าจะรู้แล้วสินะว่าข้าเป็นใคร”

กู่ฉิงซานตกตะลึงสักพัก

“เจ้ามาจากหุบเหวนิรันดร์งั้นหรือ”

“ไม่ ข้านี่แหละคือหุบเหว”

หัวใจของกู่ฉิงซานแทบกระโจนออกมา

ฉากตรงหน้าเขาช่างแปลกประหลาดนัก

เขาพลิกแหวนหุบเหวในมือดู แต่แหวนไม่ตอบสนองใดๆ

“เร็วเข้า ช่วยข้า ไว้ออกไปได้แล้วค่อยคุยกัน” เสียงดังกล่าวเร่ง

กู่ฉิงซานเงียบไม่พูดอะไร

ทันใดนั้น เขาโบกมือ ดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพอยู่ในมือของเขา

ไม่ไกลกันนั้น คนคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น

เป็นผู้ชายถือดาบยาว

…………………………………………………