ตอนที่ 1157 การต่อสู้ของเผ่ามังกร!
“วันนี้ พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องตายอยู่ที่นี่!”
ขณะวิญญาณกรีดร้องกล่าว ทั่วร่างของมันยังคงลอยขึ้นจนถึงขีดสุด
มันเอาจริงและเตรียมที่จะสู้กับบัญญัติจนตัวตายเป็นครั้งสุดท้าย
ทันใดนั้น เสียงหนึ่งดังมาจากยานอวกาศ
“อาจจะไม่มีใครตายเลยก็ได้”
กู่ฉิงซานกระโดดออกจากยานอวกาศขณะยืนอยู่ในอากาศ
วิญญาณกรีดร้องตกตะลึง
มันมองกู่ฉิงซาน จากนั้นมองยานอวกาศด้วยสีหน้าสงสัย
กู่ฉิงซานยิ้มแล้วกล่าวว่า “ข้าเข้าใจสิ่งหนึ่งแล้ว เหตุผลที่เจ้าสามารถหาข้าพบเป็นเพราะเจ้ารู้ว่าข้าจะมาที่นี่เพื่อช่วยแม่นางเฮยไห่”
สามเหรียญพลันปรากฏในมือของเขา
“จากนั้น ถ้าข้าทิ้งบัญญัติราชามารเอาไว้แล้วพึ่งเพียงพลังของสามเหรียญเพื่อซ่อนตลอดเวลา เจ้าก็จะไม่มีวันตามหาข้าพบ”
หมอกสีดำไม่มีสิ้นสุดระเบิดออกจากสามเหรียญก่อนค่อย ๆ ปกคลุมกู่ฉิงซานไว้ข้างใน
วิญญาณกรีดร้องจ้องเขาแล้วกล่าวว่า “ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะทิ้งคนพวกนี้จนถึงขนาดทิ้งบัญญัติแล้วหลบหนีไปเพียงลำพัง ข้าเข้าใจเจ้าดี เจ้าไม่มีทางทำแบบนี้แน่นอน”
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ในวิถีแห่งกาลเวลา เจ้ากับข้าก็เหมือนกับมดที่ขัดขวางโชคชะตา เมื่อวันสิ้นโลกมหาพวกเรา หากไม่อยากถูกบดขยี้ พวกเราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง”
หมอกสีดำรวมตัวหนาขึ้นจนปกคลุมเขาจนมิด
น้ำเสียงโหดเหี้ยมของเขามาจากหมอก
“คนเหล่านี้เจ้าจะทำอะไรก็ตามใจ ส่วนบัญญัติข้าก็ทิ้งไว้ให้แล้ว ข้าไปล่ะ”
วิญญาณกรีดร้องและมังกรมารมองหน้ากัน
มังกรมารอดที่จะถามไม่ได้ว่า “เจ้าจะไปไหน”
“ข้ายังไม่รู้เหมือนกัน อาจจะยุคก่อนประวัติศาสตร์หรือไม่ก็ยุคโบราณ หรืออาจจะเป็นช่วงที่แม่น้ำแห่งกาลเวลาสายยาวมั่นคงก็ได้”
เสียงของกู่ฉิงซานแสดงถึงความโล่งอกออกมา “ข้าไม่บอกเจ้าหรอกว่าไปที่ไหน แต่ข้าจะบอกแบบนี้ เจ้าจะไม่มีวันหาข้าพบ”
วิญญาณกรีดร้องเงียบแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงลุ่มลึกว่า “เหลวไหล ข้าเคยมองเจ้าเป็นศัตรูที่ต้องจัดการอย่างจริงจัง ใครจะนึกล่ะว่าเจ้าเป็นขยะที่รักตัวกลัวตายขนาดนี้”
“เทพคือผู้สร้างยุคแห่งความโกลาหลและเป็นผู้ปกครองที่แท้จริงของยุค ไม่มีเวลามาค้นหามดในแม่น้ำแห่งกาลเวลาสายยาวหรอก”
“ไปสิ ยิ่งเจ้าไปไกลเท่าไหร่ยิ่งดี”
วิญญาณกรีดร้องเบือนสายตาจากกู่ฉิงซานมามองยานอวกาศ
มันรู้สึก…
“ไม่ ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าเป็นแบบนี้จริง ๆ ” มังกรมารมองวิญญาณกรีดร้อง จากนั้นถามด้วยน้ำเสียงสงสัยว่า “กู่ฉิงซาน นี่เป็นแผนสมคบคิดใช่หรือไม่”
“ไม่ใช่” กู่ฉิงซานตอบ
สามเหรียญพลันระเบิดพลังออกมา!
หมอกสีดำปกคลุมกู่ฉิงซานเอาไว้ ทันใดนั้น มันพุ่งขึ้นท้องนภาก่อนหายไปจากกระแสเวลาทันที
…เขาไปแล้วจริง ๆ
“มันหนีไปแล้ว! ไล่ตามมันไปเร็ว!” มังกรมารหยิบสามเหรียญออกมาแล้วตะโกน
“ไม่จำเป็น” วิญญาณกรีดร้องกล่าวอย่างสงบ
มังกรมารกล่าวอย่างวิตกว่า “เจ้าสามารถฆ่าขยะทั้งหมดเมื่อไหร่ก็ได้ พวกเราต้องไล่ตามให้ไว ไม่อย่างนั้นมันจะหนีไปได้จริง ๆ ”
วิญญาณกรีดร้องยืนนิ่ง
“ข้าคือผู้ส่งสารของความโกลาหล คือผู้ปกครองยุค ข้าสามารถสัมผัสสิ่งหนึ่งได้อย่างชัดเจน…”
วิญญาณกรีดร้องเผยสีหน้าซับซ้อนออกมาแล้วกล่าวอย่างช้า ๆ ว่า “บัญญัติสุดท้ายของโลกเก้าร้อยล้านชั้น หมื่นสวรรค์สิ้นโลกออนไลน์ บัญญัติราชามาร ถูกทิ้งไว้ในยานอวกาศโดยกู่ฉิงซาน”
“ความโกลาหลทั้งหมดกำลังกู่ร้อง กำลังเร่งเร้า กำลังรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ พวกมันกำลังรอให้ข้าก้าวเข้าสู่ขั้นสุดท้าย”
“แต่ร่องรอยของกู่ฉิงซานกำลังจะหายไปนะ!” มังกรมารคำราม
วิญญาณกรีดร้องถามกลับด้วยความไม่ใส่ใจว่า “แล้วไง”
มังกรมารตกตะลึง
วิญญาณกรีดร้องกล่าวต่อว่า “มันทิ้งบัญญัติ เจ้าเข้าใจหรือเปล่า มันทิ้งทั้งหมดนี้จนกลายเป็นขยะที่ถูกทิ้งไปตามกาลเวลา ปล่อยให้มันกลายขั้นบันไดเพื่อปีนขึ้นสู่ยุคใหม่นั่นแหละดีแล้ว มันจะไปใช้ชีวิตโดยที่ไม่ทำอะไรเพราะมันไม่ควรค่าที่จะตายด้วยมือของข้าอีกแล้ว”
มังกรมารไม่อยากเชื่อหูตัวเองจึงถามว่า “บัญญัติสุดท้ายอยู่ในยานอวกาศงั้นหรือ นี่เป็นกับดักหรือเปล่า”
วิญญาณกรีดร้องชี้ไปที่ยานอวกาศแล้วตอบอย่างแน่วแน่ว่า “ไม่ใช่กับดักหรอก ความโกลาหลทั้งหมดจะพิสูจน์เรื่องนี้เพื่อข้าจากในความว่างเปล่า ไม่ผิดพลาดแน่นอน”
วิญญาณกรีดร้องเผยสีหน้าเกียจคร้านแล้วเปิดปากพูดว่า “นี่คือบัญญัติสุดท้าย ขอแค่ข้าทำลายมันได้ ทุกสิ่งก็จะจบสิ้น”
ด้วยการเคลื่อนไหวร่างกาย มันพุ่งเข้าหายานอวกาศทันที
มังกรมารมองวิญญาณกรีดร้องที่จากไปแล้ว ดวงตาของมันเผยความขัดแย้งออกมา
ไม่ว่ากู่ฉิงซานจะตัดใจจริง ๆ หรือว่าเป็นการสมคบคิด แต่เขาออกจากกระแสเวลานี้ไปแล้วจริง ๆ
ถ้าไม่ไล่ตามตอนนี้ก็จะไม่สามารถไล่ตามได้อีก
คนคนนี้จะหายไปจากโลกเก้าร้อยล้านชั้น นับจากนี้ไป เขาจะซ่อนอยู่ในยุคหนึ่ง ไม่มีใครสามารถหาเขาพบอีก
ไม่ใช่!
ไม่ใช่แน่ ๆ !
มังกรมารแบมือแล้วโยนสามเหรียญออกไป
หมอกสีดำเริ่มกระจายตัวก่อนปกคลุมมันในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
หมอกขยับ
มังกรดำทะยานขึ้นท้องนภา
มันไล่ตามกู่ฉิงซาน!
วิญญาณกรีดร้องไม่สนใจอีกฝ่าย มันตรงเข้าหายานอวกาศ
“ผู้โหลดบัญญัติคนสุดท้าย เจ้าจะออกมาเองหรือให้ข้าเชิญเจ้าออกมา” วิญญาณกรีดร้องถาม
ประตูของยานอวกาศเปิดออกอีกครั้ง
แบร์รี่เดินออกมาจากข้างใน
วิญญาณกรีดร้องจ้องเขาแล้วพึมพำว่า “ใช่แล้ว นี่คือบัญญัติสุดท้าย ผู้โหลดบัญญัติ”
มันสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น
หลังจากผ่านมาหลายปี ในที่สุดก็มาถึงช่วงเวลานี้
ต่อให้ตัวตนของมันจะเป็นเช่นนี้แต่ก็ไม่อาจหักห้ามความตื่นเต้นเอาไว้ได้
แบร์รี่ยืนอยู่บนยานอวกาศ จุดบุหรี่ สูดหายใจเข้าแล้วพ่นวงควันออกมา
ดวงตาของเขาสบตาเข้ากับวิญญาณกรีดร้อง
“ข้าได้ยินว่ายุคแห่งความโกลาหลจะมาถึงอย่างสมบูรณ์หลังจากเจ้าฆ่าข้าใช่หรือไม่”
แบร์รี่ถาม
…
มังกรมารบินอยู่ในหมอกไม่มีสิ้นสุด
ด้วยพลังของสามเหรียญ มันมาถึงแม่น้ำแห่งกาลเวลาสายยาวอีกครั้งเพื่อตามร่องรอยของกู่ฉิงซาน
โชคยังดี กู่ฉิงซานเพิ่งจากไปได้ไม่นาน ความผันผวนของมิติและเวลายังหลงเหลืออยู่เล็กน้อย ทำให้มันตัดสินการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้
มังกรมารเร่งความเร็ว
บิน
บินอย่างสุดกำลัง
จนกระทั่งถึงช่วงเวลาหนึ่ง
มันหยุดทันที ดวงตาจับจ้องหมอกเลือนรางข้างหน้า
กู่ฉิงซานปรากฏตัวขึ้นจากในหมอก
“ข้าตัดใจจากบัญญัติและทิ้งทุกสิ่งไว้ข้างหลังแล้ว เจ้ายังจะไล่ตามมาทำไมอีก เจ้ามีสิ่งอื่นที่อยากได้จากข้างั้นหรือ” เขาถามอย่างหงุดหงิด
มังกรมารมองเขาเงียบ ๆ ก่อนกระซิบว่า “ใช่…ข้ารู้สึกถึงมัน…ใช่แล้ว เป็นเจ้า”
“เจ้าพูดเรื่องอะไรน่ะ” กู่ฉิงซานถาม
มังกรมารตอบว่า “ตอนข้าอยู่ในดาวคนคู่ ข้ารู้สึกถึงพลังนั้นจากเจ้า”
“พลังอะไร”
“พลังจากตัวข้าไง”
มังกรมารหยิบถุงมือหนึ่งคู่ออกมาก่อนสวมไว้ในมือช้า ๆ แล้วกล่าวต่อว่า “ในตอนนั้น ข้าคิดว่าข้าเข้าใจผิด”
“ยังไงเสีย ในมิติและเวลาเดียวกัน จะมีสองตัวตนที่มีพลังแก่กล้าในฐานะมังกรมารเหมือนกันได้ยังไง”
“ในการต่อสู้ช่วงยุคโบราณ เจ้าปรากฏตัวในช่วงสุดท้ายแล้วฆ่าข้าด้วยการควบคุมวิญญาณกรีดร้อง”
“แต่ในตอนนั้นข้าเปลี่ยนเป็นร่างหุบเหว ทำให้ไม่ตาย ดังนั้นการที่วิญญาณกรีดร้องฆ่าข้าก็ทำได้แค่นำข้าเข้าสู่การหลับลึกเท่านั้น”
“ดังนั้นถึงแม้จะฆ่าข้า มันก็ไม่ได้รับพลังของข้าไป”
“ไม่มีใครสามารถขโมยพลังของสุดยอดสิ่งประดิษฐ์วิญญาณยุคโบราณไปจากข้า!”
มังกรมารสวมถุงมือแล้วสะบัดสองครั้ง
ฟู่…
เปลวเพลิงสีเทาร้อนแรงแผ่ออกมาจากถุงมือ
“กู่ฉิงซาน เจ้ามีพลังมังกรมารอีกแห่งอยู่ในร่าง มันช่างน่าเหลือเชื่อนัก”
“ในครั้งนี้ข้ามาอาณาจักรหนามด้วยตัวเองเพื่อจะจัดการเจ้า”
“ข้าติดตามราชาหุบเหว เป็นข้ารับใช้ของเขาเพื่อทำหน้าที่สังเกตการณ์เงียบ ๆ ”
“ข้าคิด คิด คิดมาตลอด แต่ก็ไม่สามารถหาได้ว่าทำไมเจ้าถึงมีพลังเหมือนกับข้า”
“ภายหลังข้าคิดถึงดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพ ในที่สุดถึงได้เข้าใจ”
“เจ้าฆ่าตัวข้าอีกตนในเศษเสี้ยวโลกคู่ขนานของยุคโบราณ”
“เช่นนั้นข้าต้องหลับใหลอยู่ในศูนย์กักกันหุบเหวอยู่แน่ ๆ ถึงไม่มีเวลาเปลี่ยนเป็นร่างหุบเหว”
“เจ้าได้พลังของข้าไป มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ ๆ !”
ตูม!
จิตสังหารไม่มีสิ้นสุดกระจายออกจากมังกรมาร
ในหมอกสีเทา มันยืดกล้ามเนื้อและกระดูกเพื่อเตรียมเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายในการสังหารอีกฝ่าย
กู่ฉิงซานยิ้มแล้วกล่าวว่า “ไม่สงสัยเลยที่มีคนบอกว่าคนที่สามารถสอดแนมได้จะต้องสมองดี…ใช่ ข้าได้พลังของมังกรหลับใหลมานั่นแหละ”
“ยิ่งกว่านั้น เจ้าฆ่ามังกรฟ้าไปเมื่อไม่นานมานี้” มังกรมารกล่าว
กู่ฉิงซานประหลาดใจเล็กน้อย
“โห เจ้ารู้ขนาดนี้แต่ยังกล้ามาฆ่าข้าอย่างนั้นหรือ” เขาถาม
มุมปากของมังกรมารกระตุกแล้วกล่าวอย่างโหดเหี้ยมว่า “ไม่เอาน่า กู่ฉิงซาน เจ้าจงใจดึงข้ามาที่นี่ คงไม่ใช่ถวิลหาพลังของมังกรมารจากตัวข้าหรอกใช่ไหม”
“ในบรรดาพวกเราสองคน ใครที่รอดก็จะได้พละกำลังของอีกฝ่ายมา”
“อย่างที่ข้าพูดไป ตอนข้าอยู่ในอาณาจักรหนาม ต้องมีมังกรมารเพียงตนเดียวในโลกเท่านั้น!”
“ผู้เดียวที่สามารถกลืนกินพลังของสิ่งมีชีวิตด้วยพลังสายเลือดมังกรมารได้ต้องเป็นข้า!”
สองร่างพลันวูบไหว ในเวลาเดียวกันพวกเขากลายเป็นเงาสีดำขนาดใหญ่ก่อนหายไปจากที่ที่เคยอยู่
เพียงชั่วพริบตา หมอกสีดำรูปทรงมังกรสองตัวพุ่งมาจากระยะไกลก่อนปะทะกัน
ตูม…
คลื่นที่มองไม่เห็นกระจายออก
หมอกสลายเพราะแรงกระแทกของมังกรสีดำสองตัวก่อนหายไปราวกับสายลมแรงกล้า
มังกรล้มลุกคลุกคลาน
ทั้งสองบินแยกออกจากกัน
กู่ฉิงซานบินถอยออกมาหลายสิบเมตรขณะกระอักโลหิตออกมาดัง “พรวด”
มังกรมารถอยออกมาสองก้าวเล็กน้อยก่อนยืนนิ่ง
มันสะบัดหมัดที่มีคราบเลือด
“ข้าได้ข้อมูลมาว่าเจ้าฆ่ามังกรฟ้าไป แต่พลังของมังกรหลับใหลกับมังกรฟ้าที่ผสานกันได้แค่ระดับนี้งั้นหรือ” มังกรมารกล่าวด้วยความผิดหวัง
กู่ฉิงซานมองมังกรมารด้วยความไม่อยากเชื่อ
เขาเห็นหน้ากากวิญญาณชั่วร้ายบนใบหน้าของมังกรมาร
พวกวิญญาณชั่วร้าย!
ใช่แล้ว มังกรมารเป็นสายลับของพวกวิญญาณชั่วร้าย พวกมันซุ่มซ่อนมาหลายพันปีจนกระทั่งตอนนี้
เทียบกับมังกรหลับใหลในอดีตแล้ว เขาในตอนนี้ไม่รู้ว่ามันทรงพลังแค่ไหน!
ดวงตาของมังกรมารซ่อนอยู่หลังหน้ากาก ทั่วร่างยืนนิ่ง
มันครอบครองพลังมังกรมารและพลังของพวกวิญญาณชั่วร้าย จึงไม่ง่ายที่จะรับมือ
มังกรมารพลันกล่าวว่า “จะว่าไปแล้ว กู่ฉิงซาน ข้ายังอยากขอบคุณเจ้าเรื่องแผนการน่ะ”
“เหอะ เจ้าขอบคุณด้วยการโจมตีอย่างนั้นหรือ” กู่ฉิงซานถาม
มังกรมารส่ายหน้า เสียงดังมาจากหลังหน้ากาก
“ข้าไม่รู้ว่าทำไมเทพแห่งชีวิตถึงไม่มา แต่ถ้าเจ้าแยกวิญญาณกรีดร้องออกจากข้า มันก็ช่างเป็นแผนการที่ข้าต้องขอปรบมือให้เลยจริง ๆ ”
“ถ้าเจ้ายังพกบัญญัติไว้กับตัว เช่นนั้นคนที่จะฆ่าเจ้าก็ยังไม่ใช่ข้าอยู่ดี แต่เป็นวิญญาณกรีดร้อง…นั่นเพราะมันต้องฆ่าเจ้าเพื่อยุติบัญญัติ นั่นคือข้อตกลงระหว่างพวกข้าวิญญาณชั่วร้ายกับมัน ไม่สามารถละเมิดได้”
ตอนนี้มังกรมารนิ่งแล้วกล่าวด้วยความเสียดายว่า “แต่ว่านะ กู่ฉิงซาน เจ้าตามืดบอดด้วยความละโมบจนลืมสิ่งหนึ่งไป”
“หมายความว่ายังไง” กู่ฉิงซานถามขณะเช็ดโลหิตออกจากมุมปาก
“เจ้าลืมไปว่ายามเผชิญหน้ากับพลังสุดหยั่ง กลยุทธ์นั้นช่างเปล่าประโยชน์” มังกรมารตอบอย่างแผ่วเบา
หมอกสีดำพุ่งออกมาจากมันอีกครั้งก่อนค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นรูปทรงของมังกรสีดำ
จิตสังหารกำลังเดือดพล่าน!
ท่าต่อมาคือการสังหารกู่ฉิงซานเพื่อนำพลังของมังกรสองตัวมาจากอีกฝ่าย!
กู่ฉิงซานยังประเมินการปะทะเมื่อครู่แล้วพึมพำว่า “ตอนนี้เจ้าแข็งแกร่งมากจริง ๆ แต่พละกำลังของข้าแย่กว่าเจ้าเพียงยี่สิบถึงสามสิบส่วนเท่านั้น”
มังกรมารยิ้มกว้างแล้วกล่าวว่า “พละกำลังสิบส่วนก็มากพอที่จะบอกว่าใครชนะหรือแพ้ ไม่ต้องถึงยี่สิบสามสิบส่วนหรอก กู่ฉิงซาน ถ้าเจ้าฉลาดพอ เจ้าก็เข้าใจความฉลาดนั้นผิดแล้ว วันนี้เจ้าจะถูกฆ่าเพื่อเปลี่ยนมาเป็นพละกำลังให้กับข้า”
กู่ฉิงซานเงียบไปสักพัก
“อืม…เมื่อเผชิญหน้ากับพลังสุดหยั่ง กลยุทธ์นั้นช่างเปล่าประโยชน์ ข้าเห็นด้วยกับประโยคนี้นะ”
เขากล่าวช้า ๆ
ทันทีที่สิ้นเสียง ดาบยาวราวกับน้ำสาดพุ่งออกจากความว่างเปล่าที่อยู่ด้านหลัง กลายเป็นหญิงสาวงดงามทรงเสน่ห์
ฉานนู่
นางกลายเป็นรูปลักษณ์ของกู่ฉิงซาน
“นายท่าน ข้าสามารถกลายเป็นมังกรในภายหลังได้หรือไม่” นางถามอย่างกระตือรือร้น
“แน่นอน”
..............................