ตอนที่ 1041 ความลับ
“เจ้ามีความลับจะบอกข้าหรือ มันจะช่วยชีวิตลูกของเจ้าได้จริงหรือ” กู่ฉิงซานถาม
เชี่ยนหยาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
กู่ฉิงซานโบกมือแล้วกล่าวว่า “อย่าบอกความลับข้าตอนนี้ ที่จริงข้าอยากให้เจ้ารู้การตัดสินใจของข้าก่อน”
เขามองทุกคนแล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “ข้าจะไม่ฆ่าลูกของเจ้า ไม่ว่าความลับที่เจ้าบอกข้ามาจะเป็นอะไร เรื่องนี้จะไม่มีวันเปลี่ยน”
เชี่ยนหยาประหลาดใจก่อนค่อยๆ เข้าใจ
ถ้าบอกความลับก่อน จะกลายเป็นว่าทุกการตัดสินใจที่กู่ฉิงซานทำเป็นเพราะเขาได้ฟังความลับ
แต่ตอนนี้กู่ฉิงซานได้ตัดสินใจล่วงหน้าแล้ว
แบบนี้ ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ต้องมีการแลกเปลี่ยนชีวิตอย่างลับๆ กันอีกต่อไป
การแลกเปลี่ยนชีวิตอย่างลับๆ ถึงกับเป็นการแลกเปลี่ยนอย่างหนึ่ง พูดให้ถูกก็คือมันเป็นการข่มขู่และการประหัตประหาร
เมื่อความลับอยู่ใกล้แค่เอื้อม ผู้คนย่อมตระหนักได้เป็นอย่างดียิ่ง
นี่ถึงกับเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก คนส่วนใหญ่ไม่สนใจ พวกเขาแค่เลือกที่จะฟังความลับก่อน
เชี่ยนหยามองกู่ฉิงซาน สีหน้าของนางซับซ้อนเล็กน้อย
ผู้ชายคนนี้… ไม่เต็มใจใช้การข่มขู่และการประหัตประหารเพื่อกำหนดความเป็นความตายของลูกนาง
ถ้างั้น จุดประสงค์ที่ผู้ชายคนนี้สนทนากับราชายุคอดีตต่อหน้านั้นคืออะไร
เพื่อไม่ให้นางคิดไปไกลกว่านั้น กู่ฉิงซานเริ่มอธิบาย
“เชี่ยนหยา ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจสิ่งหนึ่งก่อน พวกข้าไม่ได้ฆ่าทุกคน”
เขากล่าวต่อช้าๆ
“ถ้าพวกข้าพึ่งเด็กอายุสามขวบในการคลี่คลายปัญหา นั่นจะเป็นการพิสูจน์อย่างหนึ่งว่า: พวกข้าเป็นเพียงกองขยะไร้ความสามารถ เจ้าคิดว่าไงล่ะ”
เหล่าต้าพ่นลมออกจมูกแล้วกล่าวว่า “เจ้าก็พูดเกินจริงเหมือนทุกทีเลย”
ดวงตาของกู่ฉิงซานสบกับของจางหยิงห่าว
จางหยิงห่าวไอเล็กน้อย “สมาคมนักฆ่าของข้าจะไม่ฆ่าสามกลุ่ม ผู้หญิงท้อง เด็กและผู้อาวุโส”
กู่ฉิงซานมองลอร่า
ลอร่ายิ้มหวานแล้วกล่าวว่า “กู่ฉิงซานเคยบอกว่าใครก็ตามที่ลงมือฆ่าจะถือว่าเป็นศัตรูของอาณาจักรหนาม”
กู่ฉิงซานมองเย่เฟยหลี
เย่เฟยหลีหยิบกระป๋องก่อนส่งให้เหล่าต้า จากนั้นเขากล่าวว่า “เวลาลงมือเป็นกลุ่ม ข้าถึงกับรับบทเป็นผู้ช่วย เพราะนี่คือบทบาทที่ควบคุมการตรวจสอบสิ่งต่างๆ อย่างแท้จริง ข้าไม่ชอบฆ่าคนเว้นแต่ตอนสวมหน้ากาก”
กู่ฉิงซานหันสายตากลับไปมองเชี่ยนหยาแล้วกล่าวช้าๆ
“เจ้าเห็นแล้วสินะ ที่จริง พวกข้าไม่ชอบข่มขู่หรือเข่นฆ่าลูกของผู้อื่น พวกข้าต้องการมิตรสหาย ไม่ใช่เพียงคนที่เดินผ่านไปที่สามารถทอดทิ้งได้หลังจากใช้ประโยชน์เสร็จแล้ว”
เชี่ยนหยาเงียบสักพัก จากนั้นกล่าวอีกประโยคออกมา
เย่เฟยหลีแปล “นางถามว่าปกติแล้วเจ้าโง่แบบนี้ตลอดเลยหรือ”
เขาอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อนางกล่าวเช่นนั้น
โง่หรือ
ทุกคนมองกู่ฉิงซานด้วยสายตาแปลกประหลาด
กู่ฉิงซานไม่แสดงสีหน้าใดๆ แต่กล่าวอย่างจริงจังว่า “ที่จริง ข้าฆ่าคนมานับไม่ถ้วน มากกว่าจำนวนราชาของเจ้ารวมกันเสียอีก”
“ข้าคล้ายกับหยิงห่าวที่กระตือรือร้นในการฆ่าคน”
กู่ฉิงซานคว้าดาบพิภพจากความว่างเปล่า ดวงตาของเขาจับจ้องคมดาบ
กลิ่นอายสังหารเลือนรางแผ่ออกมาระหว่างเขากับดาบ
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “พูดง่ายๆ ก็คือคนที่ใช้ดาบจริงๆ ก็จะมีพื้นฐานเหมือนกับข้า”
เมื่อเชี่ยนหยาได้ฟัง นางไม่เข้าใจเล็กน้อย
คนที่ใช้ดาบจริงๆ หรือ
กู่ฉิงซานกล่าวต่อว่า “ดาบมีสองด้าน ด้านหนึ่งไว้ฆ่า ด้านหนึ่งไว้ช่วย”
“ภายใต้ดาบยาว ไม่มีสารเลวคนไหนมีชีวิตรอด ไม่มีใครที่สมควรตายหลังจากถูกช่วยชีวิตเอาไว้ พวกเขาต้องกลับมามีชีวิตเพื่อข้า”
เมื่อกล่าวถึงตรงนั้น กู่ฉิงซานถือดาบเอาไว้ก่อนคำนับให้เชี่ยนหยาอย่างแผ่วเบา
“ข้าจะชุบชีวิตให้เจ้าในไม่ช้า หวังให้เจ้ายืนเคียงข้างพวกข้ายามต่อสู้ในอนาคต”
“ถ้าเจ้าเห็นข้าฆ่าคนในอนาคต โปรดเตรียมใจเอาไว้ล่วงหน้าได้เลย”
เชี่ยนหยามองเขาด้วยความประหลาดใจ ใช้เวลาอยู่เนิ่นนานก่อนที่นางจะพูดบางอย่างออกมา
เย่เฟยหลีแปล “ความจริง ตอนที่เจ้าช่วยกล่อมลูกนางให้ นางคิดว่าเจ้าสามารถเชื่อใจได้ แต่แค่กังวลว่าเจ้าจะใจดีเกินไป เพราะอย่างนั้นจึงลังเลมาโดยตลอด”
ใจดี!
ทุกคนมองกู่ฉิงซานอีกครั้งด้วยสายตาแปลกประหลาด
กู่ฉิงซานชำเลืองมองพวกเขา
ทุกคนกลับมามีสติก่อนหันมามองเชี่ยนหยา
มุมมองของผู้หญิงคนนี้มันยังไงกัน
ทุกคนครุ่นคิดเงียบ
ทว่า ลอร่าพยักหน้าเล็กน้อยด้วยความรู้สึกที่เห็นด้วย
เมื่อเห็นว่ากู่ฉิงซานไม่มีอะไรจะพูด เชี่ยนหยาจึงเป็นฝ่ายพูดต่อ
เย่เฟยหลีแปล “นางถามว่าแหวนสีทองที่เป็นของราชาอยู่ในมือพวกเราหรือเปล่า”
“อยู่” ลอร่ารีบตอบ
นางถอดแหวนก่อนส่งคืนให้กู่ฉิงซาน จากนั้นมีสีแดงระเรื่อแปลกประหลาดบนใบหน้าของนาง
ในซากปรักหักพังของเทพแห่งชีวิต กู่ฉิงซานต้องจากมาชั่วคราว เพราะงั้นนางจึงรับแหวนวงนี้ไว้
ตอนนี้มันถูกส่งกลับคืนแล้ว
เชี่ยนหยาจ้องแหวนสีทอง คล้ายกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
นางพยักหน้าแล้วกล่าวต่อ
“นางบอกว่าตอนนี้เข้าใจเจ้าแล้ว นางตัดสินใจที่จะเผชิญหน้าในการต่อสู้นี้ร่วมกับเจ้าและหวังว่ามันจะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายสำหรับเทพทั้งหมดในเมืองเรเควี่ยม”
“สู้ยังไงล่ะ” กู่ฉิงซานถาม
“นางบอกว่ามีแหวนสี่วงในเมืองเรเควี่ยม วงหนึ่งเป็นของราชา อีกสามวงเป็นของผู้พิทักษ์”
“เมื่อแหวนสี่วงนี้รวมเข้าด้วยกัน เจ้าจะสามารถบัญชาเทพทั้งหมดจากระดับวิญญาณได้”
ตึกตัก!
หัวใจของกู่ฉิงซานเต้นะรัว
นี่คือความลับอย่างแท้จริง!
กู่ฉิงซานตอบสนองอย่างรวดเร็วก่อนถามว่า “เดิมสี่เทพจอมปลอมเกิดมาจากเทพ ดังนั้นพวกเขาก็อยู่ในขอบเขตของบัญชานั้นหรือเปล่า”
“ถูกต้องที่สุด นางบอกว่าตอนนี้เจ้ามีแหวนของราชากับแหวนผู้พิทักษ์หนึ่งวงแล้ว ขอแค่หาแหวนอีกสองวงที่เหลือเจอ เจ้าจะสามารถบัญชาให้พวกเขาส่งสิ่งที่ต้องการได้”
“สี่เทพไม่สนเรื่องนี้เพราะทันทีที่ตระกูลราชวงศ์และผู้พิทักษ์สัมผัสพวกเขา หลังจากนั้นสัตว์ประหลาดจะต้องเข้ามาข้องเกี่ยวอย่างแน่นอน”
“แสดงว่าวิธีนี้ใช้ได้เพียงครั้งเดียวสินะ”
กู่ฉิงซานยิ้มแล้วกล่าวว่า “ครั้งเดียวก็มากเกินพอแล้ว”
ถ้าสี่เทพสามารถถูกบัญชาได้จริง เช่นนั้นมันก็ง่ายมากที่จะรวบรวมไพ่เทพวารี!
กู่ฉิงซานมองคนอื่นๆ พวกเขาล้วนรู้สึกว่าในที่สุดก็เริ่มเห็นประกายแสงสว่าง
กู่ฉิงซานบังคับให้ตัวเองสงบสติลง
เขาถามเชี่ยนหยาว่า “ช่วงกลางวันนี้ พิธีบรมราชาภิเษกของราชาองค์ใหม่จะจัดขึ้น ถ้างั้นในเวลานี้ สี่เทพจะปรากฏตัวจริงๆ หรือเปล่า”
เชี่ยนหยาพยักหน้าขณะกล่าวบางสิ่ง
เย่เฟยหลีแปล “นางบอกว่าสี่เทพจะไม่รวมตัวกันเว้นแต่จะเป็นช่วงเวลาพิเศษยิ่ง”
“ครั้งนี้เป็นเพราะตระกูลราชวงศ์ตายเกือบหมดแล้ว ทำให้เหลือสายเลือดพวกเขาเพียงคนเดียว สี่เทพจึงปรากฏตัวพร้อมกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อเป็นประธานในพิธีคืนพระชนม์ของราชาองค์ใหม่”
“ดังนั้นข้าอยากพบสี่เทพ ครั้งนี้คือโอกาสเดียวเท่านั้น”
กู่ฉิงซานพยักหน้าช้าๆ ขณะฟัง
“ขอบคุณสำหรับข้อมูล ความลับของเจ้าสำคัญกับพวกข้ามาก” เขากล่าวจากใจจริง
เชี่ยนหยาเหมือนมีอะไรอยากจะพูดต่อแต่ก็หยุดกลางคัน ในที่สุดนางกัดฟันก่อนกล่าวบางสิ่งออกมา
กู่ฉิงซานเป็นคนฉลาด ไม่ต้องรอให้เย่เฟยหลีแปล เขากล่าวทันทีว่า “อย่าห่วงไปเลย ข้ารับปากว่าลูกของเจ้าจะปลอดภัย”
“ไม่ นางหวังว่าเจ้าจะสามารถช่วยเทพทั้งหมดในเมืองเรเควี่ยมได้”
เย่เฟยหลีกล่าวต่อว่า “ถึงแม้มันจะไม่มีเหตุผลที่จะมาขอเจ้า แต่เทพบริสุทธิ์ นางขอให้เจ้าช่วยทุกองค์ไว้”
กู่ฉิงซานดูเขินอายแล้วกล่าวว่า “ไม่ง่ายที่จะช่วยคนจำนวนมากหรอกนะ เทพก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในความมืดตลอด พวกเขาไม่รู้อะไรเลย พวกเขาต้องมีผู้นำเพื่อให้มาร่วมมือกับข้า”
เชี่ยนหยาถาม
เย่เฟยหลีกล่าวว่า “นางถามว่าเจ้าสามารถชุบชีวิตนางได้จริงหรือเปล่า”
กู่ฉิงซานกวาดทะเลแห่งความตระหนักรู้ด้วยจิตเทพ เขามองเห็นดาบศักดิ์สิทธิ์กำลังสั่นไหวอยู่ในทะเลแห่งความตระหนักรู้เล็กน้อย
ลั่วปิงหลีเพิ่งตื่นขณะหาว
กู่ฉิงซานลอบกล่าวขอโทษกับลั่วปิงหลีในใจ จากนั้นตอบว่า “…ได้ ข้าสามารถชุบชีวิตนางได้”
เชี่ยนหยาพยักหน้าก่อนกล่าวบางสิ่งเพิ่ม
เย่เฟยหลีประหลาดใจขณะแปล “นางบอกว่าเจ้าชายเพิ่งอายุสามขวบ ยังไม่เป็นผู้ใหญ่ ตามกฎของอาณาจักร สมาชิกครอบครัวที่ใกล้ชิดกับเขาจะต้องเข้ามาทำหน้าที่ปกครองแทน”
“นางติดต่อกับผู้พิทักษ์สองคนมาตลอด แต่ละคนก็เข้ากับนางได้ดี”
“นางบอกว่าในโลกของเมืองเรเควี่ยม เทพล้วนรู้เรื่องเกี่ยวกับผู้พิทักษ์และรู้ว่ามีผู้พิทักษ์อยู่ในอาณาจักร แต่ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นผู้พิทักษ์”
“นางบอกว่านางคือผู้พิทักษ์และแม่ของราชา ตราบใดที่ยังอยู่ นางย่อมได้รับการสนับสนุนอย่างแน่นอน”
“นางเต็มใจที่จะเป็นผู้สำเร็จราชการแทนของเมืองเรเควี่ยม”
“นางจะนำเทพทั้งหมดมาต่อสู้ร่วมกับพวกเรา!”
………………………..