ตอนที่ 1016 ซากปรักหักพังของเทพแห่งชีวิต
“ทีนี้พวกเราจะทำอะไรต่อล่ะ” เย่เฟยหลีถาม
“พักผ่อน” กู่ฉิงซานตอบ
เย่เฟยหลีถอนหายใจด้วยความโล่งอก หยิบเกมคอนโซลออกมาจากแขนเสื้อแล้วกล่าวว่า “แจ๋ว ข้าติดอยู่ระดับยากสุดด้วยสิ วันนี้ข้าเผลอคิดไปว่าถ้าตายขึ้นมา ข้าคงไม่สามารถผ่านได้แน่ๆ”
เขาพบเก้าอี้ก่อนนั่งลงไป
เปิดเครื่อง
แล้วต่อสู้
กู่ฉิงซานส่ายหน้าอย่างจนปัญญา
ลอร่ายิ้มแล้วกล่าวว่า “กู่ฉิงซาน เมื่อกี้ที่ข้าเรียกเจ้าว่านายท่านเป็นอย่างไรบ้าง”
กู่ฉิงซานแตะศีรษะนางแล้วกล่าวชม “เก่งมาก ช่วยข้าได้พอดีเลยล่ะ”
ลอร่ามีความสุข
“พวกเราต้องช่วยราชาสำรวจซากปรักหักพังจริงหรือ” นางถาม
“ข้าอยากฟังความเห็นของเหล่าต้าเกี่ยวกับเรื่องนี้” กู่ฉิงซานตอบ
เหล่าต้ากลับไปนอนบนโซฟา
เมื่อได้ยินคำพูดของกู่ฉิงซาน เขาหลับตาลงแล้วกล่าวว่า “เทพแห่งชีวิตคือหนึ่งในเทพจำนวนน้อยผู้หลบหนีจากโลกภายในสำเร็จ เขาทรงพลังและรู้ความลับมากมาย การไปดูก็เป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน”
“เจ้ามีความคิดอะไรหรือเปล่า” กู่ฉิงซานถาม
“ข้าไม่มีความคิดอะไรหรอก แต่เดาว่าวิญญาณกรีดร้องต้องตั้งใจค้นหาพวกเราจากข้างนอกแน่ ก่อนออกไป เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องสมัยก่อนให้มากขึ้นเพื่อหามาตรการตอบโต้ มันจะช่วยพวกเราได้” เหล่าต้าตอบ
กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักก่อนตัดสินใจทันที
“ถ้าอย่างนั้นเอาตามนี้ ไปดูซากปรักหักพังของเทพแห่งชีวิตกัน”
เขาโบกมือเรียกเชี่ยนหยาที่ลอยอยู่ในอากาศเพื่อส่งสัญญาณให้มาตรงนี้
“ในแง่ของกฎเกณฑ์สัญญา เด็กอายุสามขวบไม่มีความสามารถลงนามสัญญาได้อย่างอิสระ ในฐานะที่เป็นแม่ของเด็ก เจ้าคือผู้ข้องเกี่ยวทางสายเลือดโดยตรง สามารถช่วยลงนามสัญญาแทนได้”
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างจริงจังว่า
“ตอนนี้ข้าขอเชิญชวนเจ้าและลูกของเจ้าให้มาเข้าร่วมกับพวกข้าอย่างเป็นทางการ”
“ทันทีที่เจ้าเข้าร่วม เจ้าจะอยู่ฝั่งเดียวกับข้า”
“ข้าแค่ลงนามสัญญากับราชาคร่าวๆ เท่านั้น เขากังวลเกี่ยวกับเรื่องความเป็นความตายเพราะรักชีวิต เขาไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาร่วมกัน ถึงแม้จะไม่สามารถทำร้ายเขาได้ แต่เขาก็ไม่สามารถทำร้ายคนในกลุ่มของข้าได้เช่นกัน”
“ทันทีที่ตระกูลราชวงศ์เข้าใกล้เจ้าด้วยจิตมุ่งร้าย พวกเขาจะถูกสัญญาเล่นงานทันที”
“ดังนั้นตัดสินใจให้ไว”
เชี่ยนหยาประหลาดใจก่อนพยักหน้าซ้ำไปมา
“นางบอกว่านางยินยอม”
เย่เฟยหลีทวนให้โดยไม่เงยหน้าขึ้นมา
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ตามนี้ เจ้าต้องบอกด้วยตัวเองว่าเจ้ากับลูกของเจ้าเต็มใจเข้าร่วมคำสาบานแห่งดาบ”
“คำสาบานแห่งดาบหรือ”
เสียงของจางหยิงห่าวดังขึ้น
เขาปิดประตูก่อนเข้ามาจากข้างนอก
“ใช่ สองฝ่ายในสัญญาที่ข้าตั้งไว้คือคำสาบานของตระกูลราชวงศ์และดาบ”
กู่ฉิงซานอธิบายเสริมว่า “คำสาบานแห่งดาบคือกลุ่มที่จัดตั้งขึ้นโดยแบร์รี่และเสี่ยวเมียว กฎเกณฑ์สัญญาทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์และไม่มีปัญหาอะไร”
จางหยิงห่าวพยักหน้าก่อนถอนหายใจ “ตระกูลราชวงศ์จะไม่กล้าทำอะไรอีก เจ้าให้การดูแลนางกับลูกของนางได้ดีจริงๆ”
ตอนนี้ เชี่ยนหยาเริ่มพูดออกมา
“ข้าเต็มใจเข้าร่วมคำสาบานแห่งดาบ” นางกล่าวอย่างแผ่วเบา
ขณะพูดเช่นนั้น ประกายแสงสว่างสองส่ายตกลงมาจากความว่างเปล่า ปกคลุมเชี่ยนหยาและลูกของนางตามลำดับ
นี่คือพลังของสัญญา
กู่ฉิงซานตบถุงเก็บของ หยิบแผ่นค่ายกลออกมาแล้วเริ่มจัดวางไว้ตรงหน้าเด็กที่กำลังหลับอยู่
“เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น ข้าจะใช้พลังวิญญาณชะล้างไขกระดูกเพื่อให้ลูกของเจ้ายังหลับอยู่ นี่คือกระบวนการการปลุกศักยภาพขึ้นมา เป็นประโยชน์และไม่เป็นอันตรายกับเขา”
“ข้าจะตระเตรียมค่ายกลป้องกันให้เอง”
“หลายวันต่อจากนี้ เขาจะยังหลับอยู่จนกระทั่งเจ้าถูกข้าชุบชีวิต เมื่อเจ้ากลับมามีชีวิตก็สามารถไปพบหน้าเขาได้”
เมื่อเชี่ยนหยาได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของนางเบิกกว้าง ปากขนาดเล็กอ้าเล็กน้อย เผยให้เห็นความประหลาดใจที่ยากจะอธิบาย
“ใช่ ไม่ต้องประหลาดใจไป ข้าสามารถชุบชีวิตเจ้าได้”
กู่ฉิงซานกล่าว
…
อีกด้าน
ราชากลับถึงตำหนักแล้ว
เขานั่งบนบัลลังก์เงียบๆ ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
“ท่านพ่อ ทุกอย่างราบรื่นดีหรือไม่”
ผู้ชายสูงหล่อเหลามาที่ใต้บัลลังก์ขณะถาม
“พ่อไม่สามารถบอกได้ สิ่งเดียวที่พวกเราสามารถทำได้ในตอนนี้คือรอเงียบๆ” ราชาตอบ
“ท่านพ่อ… แล้วเรื่องผู้พิทักษ์ล่ะ” เจ้าชายถาม
“นางตายแล้ว แต่น่าเสียดายที่ลูกของนางยังมีชีวิตอยู่ ส่งคนบางส่วนไปจับตาดูไว้ ทันทีที่คนในห้องออกไปแล้ว ลูกเข้าไปฆ่าเด็กนั่นด้วยตัวเอง”
ราชาหล่อเหลาพึมพำบางสิ่งราวกับอยากพูดอะไรบางอย่าง
ดวงตาของราชาคมปลาบ เขากล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ลูกต้องเข้าใจด้วยว่าทันทีที่สายเลือดราชวงศ์และสายเลือดผู้พิทักษ์รวมเข้าด้วยกัน จะมีผลลัพธ์สองทาง ผลลัพธ์ที่หนึ่งคือเด็กนั่นจะมีชีวิตไม่ถึงสามขวบ สองคือเด็กทารกนั่นจะกลืนกินสมาชิกสองคนในตระกูลราชวงศ์ พละกำลังของเขาจะวิวัฒนาการขึ้นอย่างรวดเร็วจนได้รับทักษะวิเศษใหม่มา”
“สามปีมานี้ พ่อเฝ้ารอให้เด็กตายมาตลอด แต่เขากลับอยู่มาได้ถึงสามปี!”
ราชาคว้าเจ้าชายแล้วคำรามออกมา “ตอนนี้ลูก พ่อและเด็กนั่นคือสายเลือดของตระกูลราชวงศ์ ลูกอยากให้พลังของพวกเราถูกกลืนกินโดยเด็กนั่นจนเสียเปล่าอย่างช้าๆ หรือ”
“ไม่ ลูกไม่ต้องการ!” เจ้าชายตอบด้วยความหวาดกลัว
ราชามีอะไรจะพูดอีก แต่ทันใดนั้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
เขาปล่อยมือก่อนผลักเจ้าชายออกไป
ราชาเผยรอยยิ้มบนใบหน้าแล้วกล่าวกับความว่างเปล่าที่อยู่ไม่ไกลจากข้างหน้านักว่า “แขกผู้มีเกียรติมาที่นี่แล้ว พวกเจ้าตัดสินใจได้แล้วหรือ”
ในใจกลางของตำหนัก คลื่นค่ายกลเคลื่อนย้ายพริบตาค่อยๆ ปรากฏขึ้น
พวกกู่ฉิงซานปรากฏขึ้นในตำหนัก
“ใช่แล้ว พวกข้าตัดสินใจจะช่วยเจ้าสำรวจซากปรักหักพังเพื่อแลกกับการให้เจ้าช่วยฆ่าสี่เทพ”
กู่ฉิงซานตอบ
ราชาหัวเราะก่อนยืนขึ้นแล้วกล่าวว่า “โปรดมากับข้า หลังจากลงนามสัญญาแล้ว พวกเราจะไปซากปรักหักพังกัน”
“ได้ รบกวนด้วย” กู่ฉิงซานกล่าว
ราชาก้าวลงจากแท่นก่อนมองเจ้าชายเป็นครั้งสุดท้าย
“อืม ไปจัดการให้เรียบร้อย!”
ราชากล่าว
“ขอรับ!”
เจ้าชายพยักหน้าก่อนหันหลังแล้วออกจากตำหนักไป
ราชาพาทุกคนออกไปอีกทางหนึ่ง
เขาพาพวกกู่ฉิงซานข้ามตำหนัก ผ่านสถาบันกับเส้นทางลับต่างๆ ในที่สุดก็มาถึงใต้ดินก่อนอยู่ตรงห้องที่ปิดตาย
“มาลงนามสัญญาก่อน ว่าไง” ราชายิ้ม
“ข้าขอถามอีกสักข้อ” กู่ฉิงซานกล่าว
“ว่ามา”
“ตามสัญญาก่อนหน้านี้ พวกเราจะไม่สามารถทำร้ายกันเองได้ แต่พวกข้ามาที่นี่เพื่อช่วยเจ้าสำรวจซากปรักหักพังแล้ว ทำให้ไปไหนไม่ได้สักพัก ระหว่างสำรวจ ข้อมูลทั้งหมดที่เจ้าเคยรู้และเพิ่งได้รับมาจะต้องแบ่งให้พวกข้าด้วย”
ราชาครุ่นคิดสักพัก จากนั้นพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ได้”
“ถ้าอย่างนั้นก็ยินดีให้ความร่วมมือ” กู่ฉิงซานยิ้ม
ทั้งสองฝ่ายลงนามสัญญาอย่างรวดเร็ว
ราชาลงนามด้วยความเต็มใจ
การแบ่งข้อมูลหรือบางสิ่งเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น สมบัติที่ถูกเทพแห่งชีวิตทิ้งเอาไว้คือสิ่งสำคัญที่สุด
ถึงแม้เขาจะรู้ว่าอีกฝ่ายมั่งคั่ง แต่ตอนนี้อีกฝ่ายไม่ได้ต้องการสิ่งใดจริงๆ นี่เกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก
แน่นอนว่าเขารับได้กับเรื่องนี้
เนื่องจากข้อจำกัดของสัญญา ทั้งสองฝ่ายจึงไม่สามารถทำร้ายกันเองได้
หลังจากเข้าซากปรักหักพังแล้ว ทั้งสองฝ่ายจะไล่ตามสิ่งที่ต่างกันออกไป
ไม่มีความขัดแย้ง
นี่คือพื้นฐานของการร่วมมือที่ดีที่สุด
“โปรดตามข้ามา”
ราชายิ้ม
เขาพาทุกคนเดินเข้าสู่ส่วนในที่สุดของห้อง
ราชากรีดฝ่ามือก่อนละเลงเลือดบนผนัง
ผนังสัมผัสเลือดของเขาได้ ทันใดนั้นมันส่งเสียงครืนก่อนแยกออกทั้งสองฝั่งช้าๆ
ไม่ช้า ประตูทองแดงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคน
ประตูราบเรียบ ไม่มีอะไร แต่กลับแผ่ความรู้สึกที่เปี่ยมด้วยความนองเลือดอันแรงกล้าออกมา
ความรู้สึกโบราณจากผันผวนก่อตัวขึ้นในใจของทุกคน
“รู้สึกไม่ค่อยดีเลย” จางหยิงห่าวกล่าวอย่างไม่สบายใจ
“ข้าก็รู้สึกเหมือนกัน” เหล่าต้ากล่าว
ประตูทองแดงเงียบสนิท แต่ดูเหมือนมีเสียงร้องนับล้านเรียกหาอย่างเลือนรางตลอดเวลา
จากนั้นเสียงของราชาดังขึ้น
“ตั้งแต่ยุคโบราณแล้วที่ประตูนี้ผนึกบางสิ่งเอาไว้ข้างใน ข้าไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ในเมื่อเป็นสิ่งที่เทพแห่งชีวิตหลงเหลือไว้ให้ มันก็น่าจะเป็นผลประโยชน์มหาศาลที่ซ่อนอยู่ที่นี่”
กู่ฉิงซานถามว่า “เจ้าจะบอกว่าไม่ได้ตกทอดมาจากบรรพบุรุษหรือ”
ราชาไม่อยากพูด แต่ในใจมีสัญญาณเตือนขึ้นมา
นี่คือพลังของสัญญา
เขาต้องบอกอีกฝ่าย
ไม่อย่างนั้น สัญญาจะทำร้ายเขาอย่างสาหัส
ราชาจึงกล่าวว่า “มันข้องเกี่ยวกับความลับของเทพ บรรพบุรุษส่งต่อประโยคมาว่า: ประตูนี้สามารถเปิดได้เมื่อตระกูลราชวงศ์ตกอยู่ในอันตราย มันสามารถเปิดได้ครั้งเดียว ไม่มีทางเปิดได้อีกเป็นครั้งที่สอง”
“ดังนั้นพวกเราต้องทุ่มทุกอย่างที่มี”
กู่ฉิงซานมองประตูทองแดงขนาดใหญ่ก่อนกล่าวว่า “ไม่มีปัญหา”
……………………..