webnovel

1015 สูบบุหรี่ดีๆ สักมวน

ตอนที่ 1015 สูบบุหรี่ดีๆ สักมวน

อัครสาวกได้รับบาดเจ็บสาหัสจริง

คนที่ชื่อกู่ฉิงซานไม่มีค่าให้กล่าวถึง

ราชาเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าในการต่อสู้เมื่อครู่ เขาแข็งแกร่งที่สุดและสามารถบดขยี้ทุกคนตรงหน้าได้ตามต้องการ

เรื่องนี้ไม่มีผิดพลาดแน่นอน

เขายังออมพละกำลังเอาไว้ด้วยเกรงว่าหากระเบิดพลังออกมามากเกินไปจะสังหารคนเหล่านี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจนสิ้นในคราวเดียว

หากเป็นแบบนั้น สัตว์ประหลาดนั่นจะต้องสนใจอย่างแน่นอน

แต่การต่อสู้เริ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและจบลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน

ราชาลงไปกองกับพื้น จิตใจของเขาไม่สงบลงสักพักใหญ่

เดิมที เขาวางแผนจะใช้พละกำลังอันแก่กล้าเพื่อทำให้คนเหล่านี้หวาดกลัวจนต้องยอมคุกเข่าต่อหน้า

แต่ว่า

เกิดอะไรขึ้น

ถึงได้เป็นแบบนี้

ราชาไม่สามารถยอมรับผลลัพธ์นี้ได้

คทาถูกเสียบเข้าตรงหน้าอกของเขา ความเจ็บปวดสุดแสนได้ย้ำเตือนเขาว่าทุกสิ่งเป็นของจริง

ความกลัวที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเกาะกุมหัวใจของราชา

นี่คือความกลัวตายตามสัญชาตญาณเมื่อเผชิญหน้ากับจุดจบของการพิพากษา

เมื่อถูกครอบงำด้วยความเป็นความตายอย่างสมบูรณ์ แม้แต่วิญญาณก็ไม่สามารถขัดขืนได้

บางคนกรีดร้อง บางคนวิงวอน บางคนพยายามสุดความสามารถเพื่อให้รอดจากช่วงเวลาดังกล่าว

แต่บางคนกลับไม่ใช่

ราชาชำเลืองมองกู่ฉิงซานก่อนแผดเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง

“เอาสิ ถ้ามีปัญญาก็ฆ่าข้าเลย!”

“ข้าคือผู้ดูแลอาณาจักรเทพแห่งชีวิต คือข้ารับของทวยเทพ คือราชาเมืองเรเควี่ยม ข้าจะกลัวตายไปได้อย่างไรกัน”

กู่ฉิงซานมองเขาด้วยสายตาชื่นชม

อย่างไรเสีย ราชาคนนี้ยังได้เปรียบอยู่

กู่ฉิงซานถือคทาไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง นิ้วชี้ของมืออีกข้างยื่นออกไปก่อนขยับช้าๆ

“เจ้าทำพลาดแล้ว” กู่ฉิงซานกล่าว “ข้าไม่ได้อยากฆ่าเจ้าหรอก”

ราชาตกตะลึง

“จริงๆ นะ” กู่ฉิงซานกล่าวต่อ “พวกข้าจะไม่ฆ่าเจ้า เจ้าต้องจำเรื่องนี้ให้ขึ้นใจ”

ลมหายใจของราชาค่อยๆ ช้าลง เขาเพียงรู้สึกว่าเพิ่งทำการแสดงความกล้าหาญของคนตาบอดให้ได้เห็น แต่ลึกๆ ในใจแล้วเขาก็อดที่จะรู้สึกโชคดีไม่ได้

หากสามารถรอดไปได้ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ดี

กู่ฉิงซานเห็นว่าอารมณ์ของเขาเปลี่ยนไป จากนั้นจึงกล่าวว่า “พูดตามตรง พวกข้ายังต้องขอบคุณเจ้าด้วยซ้ำ”

ขอบคุณหรือ

ราชาประหลาดใจ ปากของเขาอ้าออก เขาไม่อาจขานตอบได้สักพัก

กู่ฉิงซานกล่าวจากใจจริงว่า “ฟังนะ เจ้าให้ใครบางคนมาส่งข้อความมาถึงพวกข้าเพื่อเตือนให้ระวังตัวล่วงหน้า แถมยังส่งคนให้มารอพวกข้าในเส้นทางลับเพื่อนำทาง ถึงแม้สุดท้ายพวกข้าจะใช้วิธีอื่นเพื่อออกจากที่นั่นมา แต่เจ้าก็ทำทุกสิ่งนี้เพื่อพวกข้าจริงๆ”

“ไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธีการใดมาเล่นงานลูกน้องของตัวเอง แต่ความจริงนี้ก็ไม่อาจปฏิเสธได้”

“เหตุผลที่พวกข้าสู้กับเจ้าเมื่อครู่ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกข้าไม่อยากเป็นลูกน้องของเจ้า มันก็แค่นั้นแหละ”

ราชาถามอย่างเย็นชาว่า “เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อคำพูดของเจ้าหรือ”

กู่ฉิงซานตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า “ไม่สำคัญหรอกว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ เพราะข้ามีเพียงสิ่งเดียวที่จะถามเจ้าเท่านั้น หลังจากถามแล้ว พวกข้าจะทำเหมือนกับว่าเรื่องพวกนี้ไม่เคยเกิดขึ้น เจ้าจะยังคงเป็นราชาต่อไป พวกข้าจะออกจากเมืองเรเควี่ยมเมื่อได้ในสิ่งที่ควรจะได้มาแล้ว”

“เจ้าต้องการอะไร”

“ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดนั่นและสี่เทพ พวกข้าต้องการข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับพวกมัน”

ราชาประหลาดใจ

“เจ้าไม่ได้ต้องการสิ่งอื่นอย่างนั้นเหรอ” เขาถามด้วยความไม่แน่ใจ

“ไม่ต้องการ ข้าเพียงต้องการข้อมูลจากสัตว์ประหลาดและสี่เทพเท่านั้น” กู่ฉิงซานตอบอย่างเรียบง่าย

“เจ้าอยากเอาของพวกนั้นไปทำอะไร”

“ฆ่าพวกมัน ข้าต้องการไพ่จากพวกมัน”

ราชาเผยสีหน้าครุ่นคิดออกมา

ไพ่…

กลายเป็นว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อเศษไพ่จากสี่เทพ

ราชาเผยสีหน้าไม่เชื่อก่อนถามว่า “เจ้าไม่ปรารถนาในอำนาจและความมั่งคั่งของเมืองเรเควี่ยมหรือ”

กู่ฉิงซานไอเล็กน้อยก่อนตอบด้วยสีหน้าเขินอายว่า “พูดตามตรง เจ้าดูยาจกเกินไป แม้แต่สัตว์ประหลาดนั่นยังดูตื่นเต้นเมื่อได้เห็นสิ่งประดิษฐ์วิญญาณกับตาตัวเอง แสดงว่าไม่มีอะไรควรค่าที่จะให้พวกข้ากระตือรือร้นได้”

ราชาผงะอีกครั้ง

นี่คือวันที่ทำให้เขาเจ็บหนักมากที่สุดในชั่วชีวิตอันยาวนานที่ผ่านมา

แต่เขาก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างอธิบายไม่ถูก

หากอีกฝ่ายไม่ปรารถนาเมืองเรเควี่ยม เขาก็อาจจะรอด

แต่ถึงยังไง สัตว์ประหลาดนั่นกำลังรวบรวมสิ่งประดิษฐ์วิญญาณอย่างบ้าคลั่งจริง

แต่สิ่งประดิษฐ์วิญญาณเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่ง ในเมืองเรเควี่ยมมีสิ่งประดิษฐ์วิญญาณไม่มากนัก ปกติแล้วสิ่งประดิษฐ์วิญญาณจะโดนมันยึดไป

ราชาเย้ยหยันว่า “เจ้าคิดว่าพวกข้ายาจกหรือ แต่เจ้ารู้หรือเปล่าว่าเดิมทีพวกข้าร่ำรวยมาก ทั่วทั้งอาณาจักรมีสิ่งประดิษฐ์วิญญาณทั้งสิ้นสิบสองชิ้น แต่ทุกชิ้นถูกสัตว์ประหลาดยึดไป”

กู่ฉิงซานมองเขาด้วยสีหน้าเห็นใจ

สีหน้าเย้ยหยันของราชาค่อยๆ แข็งทื่อ

ท่าทีของกู่ฉิงซานทำให้เขารู้สึกต้อยต่ำเล็กน้อย

“อืม ลอร่า มานี่หน่อย” กู่ฉิงซานกล่าว

“มาแล้ว นายท่าน!”

ลอร่าวิ่งเข้ามา พลิกกระเป๋าใบเล็กก่อนเขย่าอย่างรุนแรง

‘กรุ้งกริ้งๆ’

สมบัติจำนวนมากถูกเทออกมาจากกระเป๋าก่อนค่อยๆ กองเป็นภูเขาข้างราชา

พวกมันปลดปล่อยความผันผวนพลังลึกลับออกมา ผู้คนสามารถเข้าใจได้ด้วยการสัมผัสเพียงเล็กน้อยว่าพวกมันล้วนเป็นสมบัติประมาณราคามิได้ในโลกเก้าร้อยล้านชั้น

สิ่งประดิษฐ์วิญญาณ

สิ่งประดิษฐ์วิญญาณทุกชิ้นเลย

หากนับสิ่งประดิษฐ์วิญญาณเหล่านี้คร่าวๆ จำนวนมีไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยชิ้น

ดวงตาของราชาเบิกกว้าง แทบจะไม่สามารถยอมรับฉากตรงหน้าได้

หากไม่ใช่เพราะความเจ็บปวดตรงหน้าอก เขาคงคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่แน่ๆ

ราชาอ้าปาก พยายามจะพูดบางสิ่ง แต่คิดอีกที เขาไม่รู้จะพูดอะไรออกมา

เขากำลังพูดถึงสิ่งประดิษฐ์วิญญาณสิบสองชิ้น

นี่มันมากเกินไป

กู่ฉิงซานชำเลืองมองเขาแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “คงเพราะเจ้าอาศัยอยู่ในประเทศที่ยาจก ทำให้ได้รับผลกับสถานการณ์เช่นนี้”

ราชาคล้ายกับถูกต่อยเข้าอย่างหนัก

เขาหลับตาก่อนลืมขึ้นอย่างแน่วแน่ รู้สึกเพียงแค่ว่าเปลวไฟพลันปรากฏขึ้นในใจ

คิดว่าเป็นใครถึงกล้ามาพูดแบบนี้

เพียงเพราะมีสิ่งประดิษฐ์วิญญาณกองอยู่บนพื้นก็เลยมีคุณสมบัติมาพูดกับเขาแบบนี้งั้นหรือ!

บัดซบ!

ราชาอดที่จะตะโกนออกมาไม่ได้ว่า “ความมั่งคั่งก็เรื่องหนึ่ง ก่อนหน้านี้ข้าก็บอกเจ้าไปแล้ว ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าไม่ปรารถนาสิ่งนี้แน่”

“สิ่งไหนล่ะ” กู่ฉิงซานถาม

“เจ้าไม่อยากรู้ความลับของเทพแห่งชีวิตหรือ”

กู่ฉิงซานโบกมือก่อนกล่าวอย่างเหยียดหยันว่า “ในเมื่อแม้แต่เทพเองยังไม่สามารถฆ่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้ เช่นนั้นความลับของเทพก็ไม่เป็นประโยชน์กับข้าหรอก”

“อีกอย่าง ยิ่งรู้ความลับมากเท่าไหร่ ปัญหาที่เจอก็ยิ่งมากตามไปด้วย โปรดอย่าบอกพวกข้าเลย”

ราชาตกตะลึงอีกครั้งก่อนกล่าวทันทีว่า “หากอยู่ต่อหน้าสัตว์ประหลาด เจ้าไม่มีทางหนีได้หรอก มีเพียงร่างของเทพแห่งชีวิตเท่านั้นที่หนีได้”

“ช่างตื้นเขินนัก” กู่ฉิงซานถอนหายใจขณะพึมพำ

สี่คำนี้ยั่วโมโหราชาได้สำเร็จ

“เจ้าคิดว่าจะสามารถรับมือกับสัตว์ประหลาดนั่นได้หรือ” เขาหัวเราะเสียงดัง

กู่ฉิงซานส่ายหน้าอย่างจนใจราวกับพบผู้มาใหม่ที่ไม่ได้เข้าใจอะไรเลย

เขาดีดนิ้ว

จางหยิงห่าวก้าวเข้ามา หยิบกระบอกปืนใหญ่ยาวทอประกายโลหะมันวาวออกมา วางไว้ตรงหน้าราชาแล้วตบเบาๆ

“เจ้ารู้สึกถึงพลังของมันหรือเปล่า” จางหยิงห่าวกระซิบ

ความเย็นจากโลหะที่ได้สัมผัสทำให้ราชาหุบปาก

ความโกรธในใจของเขาถูกระบายออกไปทันที

ในฐานะราชาของประเทศ เขายังดูเล็กจ้อยเมื่ออยู่ต่อหน้านักฆ่าผู้ยิ่งใหญ่

อาวุธล้ำยุคชิ้นนี้สามารถทำลายโลกได้

หากเมืองเรเควี่ยมถูกทำลาย สัตว์ประหลาดย่อมได้รับบาดเจ็บแสนสาหัส

แบบนี้ ต่อให้สัตว์ประหลาดไม่ถูกสังหาร แต่อย่างน้อยก็สามารถช่วยให้พวกเขาหนีได้ทันเวลา!

พวกเขาถึงขั้นมีอาวุธแบบนี้อยู่กับตัว!

ราชาไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร เขารู้สึกเพียงว่าตัวเองช่างไร้ประโยชน์นัก

แม้กระทั่งตอนที่ถูกคทาแทงเมื่อครู่ พอคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย เขาก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด

เขาย่อมไม่รู้ว่านี่คือสมบัติที่ลอร่าสัมผัสมาจากสุดขอบหุบเหวโกลาหลของเศษเสี้ยวโลก

เพื่อสัมผัสอาวุธชิ้นนี้ ลอร่าผิดสัญญาที่จะไม่แตะต้องสิ่งใดอีก

แม้กระทั่งตอนปืนพกจู่โจมเห็นอาวุธชิ้นนี้ เขาถึงขั้นเรียกมันว่าพี่ปืนใหญ่

นี่คือของพิเศษ!

กู่ฉิงซานสะบัดมือ

จางหยิงห่าวเก็บพี่ปืนใหญ่กลับไป

กู่ฉิงซานไอเล็กน้อยแล้วกล่าวกับราชาว่า “เอาล่ะ เอาข้อมูลของสี่เทพที่เจ้ารวบรวมมาหลายปีมาเสีย พวกเราจะได้หายกัน ไม่มีอะไรติดค้างอีก”

“จริงหรือ” ราชาถามขณะมองคนอื่น

คนอื่นคล้ายกับไม่มีความเห็นอะไร

สาวน้อยโยนสิ่งประดิษฐ์วิญญาณออกไปแล้วก็ทิ้งมันไว้อย่างนั้น

ผู้ชายที่ออกมาโอ้อวดอาวุธที่จะทำลายโลกได้ถอยกลับออกมาแล้วจุดบุหรี่ เขาถอนหายใจก่อนเก็บมันกลับไป

เห็นได้ชัดว่าเขาเสพติดการสูบบุหรี่

ทุกคนเมินสิ่งประดิษฐ์วิญญาณบนพื้น

สารเลวเอ๊ย นั่นสิ่งประดิษฐ์วิญญาณเชียวนะ สิ่งประดิษฐ์วิญญาณที่แม้แต่สัตว์ประหลาดยังบ้าคลั่งได้เลย!

ราชาระลึกถึงช้าๆ

ไม่สงสัยเลยว่ากู่ฉิงซานที่อยู่ตรงนี้ถึงบอกว่าเมืองเรเควี่ยมเป็นสถานที่ยาจก

หากเทียบกันด้วยวิธีนี้ เมืองเรเควี่ยมก็ยาจกจริงๆ

แม้กระทั่งสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงยิ่งก็เป็นผู้ยาจกเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกมัน

บัดซบ สถานะของคนเหล่านี้เป็นอย่างไรกันแน่

ไม่มีใครในบ้านหลังนี้ที่สนเรื่องความมั่งคั่งของเมืองเรเควี่ยมจริงหรือ

แม้กระทั่งซากปรักหักพังที่เทพแห่งชีวิตเหลือไว้ให้ก็ไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากพวกเขาได้งั้นหรือ

นั่นมันบ้าชัดๆ!

ราชารู้สึกว่าเขาไม่สามารถผ่อนคลายได้

ความรู้สึกนี้เหมือนกับการเป็นโจร หลังจากพยายามอย่างหนัก สุดท้ายก็ขโมยสมบัติได้เป็นจำนวนมาก แต่กลับถูกศัตรูพบเข้าในวินาทีสุดท้ายก่อนจะเข้าต่อสู้กับศัตรูอย่างเอาเป็นเอาตาย

ในท้ายที่สุด เขาถูกอีกฝ่ายจัดการจนลงไปนอนกองกับพื้น

ตอนนี้ ศัตรูพลันบอกว่าไม่ต้องการสมบัติพวกนี้ก่อนชี้ว่าของพวกนี้ล้วนเป็นขยะ

ไม่มีค่าที่จะถูกเรียกว่าขยะด้วยซ้ำ

ศัตรูเพียงขอแค่อย่างเดียว

พวกเขาหมกมุ่นกับคำถามที่ว่าวันนี้อากาศดีหรือไม่ ฝนจะตกหรือเปล่า

ฝนจะตกหรือเปล่า…

ใช่ แค่เรื่องเล็กน้อยแบบนั้นแหละ

ราชารู้สึกว่าดวงตาของเขาชื้นเล็กน้อย

เขาจ้องกู่ฉิงซานแล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ข้าจะตรวจสอบให้อีกครั้งแล้วจะบอกข้อมูลที่เจ้าอยากรู้ให้ เจ้าจะปล่อยข้าไปหรือเปล่า”

กู่ฉิงซานตอบว่า “แน่นอน พวกเราสามารถทำสัญญากันได้ ข้าหวังว่าเจ้าจะจัดการเรื่องข้อมูลอย่างจริงจัง อย่าคิดที่จะปลอมแปลงเด็ดขาด”

ราชาไม่พูด

เขาเอื้อมมือออกไปยกคัมภีร์ขึ้น

กู่ฉิงซานมองคัมภีร์ก่อนรับมันไว้แล้วส่งให้ลอร่า

หลังจากอ่านแล้ว ลอร่าส่งมันให้เหล่าต้า เขาพยักหน้าเช่นกันก่อนส่งให้กู่ฉิงซาน

“ไม่มีปัญหา” ลอร่ากล่าว

“เป็นคัมภีร์ที่เข้มงวดมาก” เหล่าต้ากล่าว

“ดี”

กู่ฉิงซานเปิดคัมภีร์ก่อนร่างประโยคสัญญาว่า “ขอเพียงราชาจัดหาข้อมูลจริงมาให้ ทั้งสองฝั่งจะไม่ละเมิดสัญญาต่อกัน”

เขาเฉือนนิ้วก่อนหยดโลหิตบนสัญญา

คัมภีร์ถูกส่งให้ราชา

ราชาทำแบบเดียวกัน

ลำแสงสาดส่องจากคัมภีร์

“ดี” กู่ฉิงซานกล่าว

หัวใจของราชาพลันผ่อนคลาย

ถึงอย่างนั้น ตราบที่ข้อมูลที่ได้มาเป็นของจริง อีกฝ่ายจะไม่สามารถพรากชีวิตได้ แต่การได้เห็นท่าทีเฉยชาของกู่ฉิงซาน ราชากลับรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ความคิดของราชาขยับอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้เขาไม่สามารถพึ่งใครได้

เมืองเรเควี่ยมถูกปิดตาย หากไม่ใช่ตระกูลราชวงศ์ ทุกคนจะถูกสัตว์ประหลาดจ้องมองอยู่

คนเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้นที่นี่อย่างคาดไม่ถึง

พวกเขาเป็นเพียงตัวตนเดียวในเมืองเรเควี่ยมที่ไม่ถูกสัตว์ประหลาดสังเกตเห็น

ถึงแม้คนเหล่านี้จะไม่แข็งแกร่ง

แต่ความสามารถของพวกเขาพิเศษมาก

ร่ำรวย

อุปกรณ์ล้ำยุค

สมองของผู้นำปราดเปรื่อง

หรือก็คือ พวกเขาคือความหวังเดียว

ความหวังที่จะสำรวจซากปรักหักพัง!

ราชาสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนหยิบคริสทัลออกมา

“ข้อมูลทั้งหมดที่ข้องเกี่ยวกับสี่เทพอยู่ที่นี่แล้ว”

“ดี”

กู่ฉิงซานรับคริสทัลมา

คัมภีร์สัญญาถูกเผาเป็นเถ้าถ่านดัง ‘พรึ่บ’

สัญญาเสร็จสิ้น

นับจากนี้ไป ไม่ว่าฝั่งไหนก็ไม่สามารถทำร้ายได้

กู่ฉิงซานดึงคทาราชาภูตผีแห่งการจองจำออกจากหน้าอกของอีกฝ่าย

“ทำให้ขุ่นเคืองเสียแล้ว”

เขาขอโทษ

ราชากุมหน้าอกก่อนยืนขึ้นช้าๆ

ถ้าไม่ใช่เพราะพลังพิเศษจากคทานั่น บาดแผลนี้คงไม่หนักหนาสำหรับเขา

ราชาลังเล ในที่สุดก็ตัดสินใจพูดออกมา “ข้ามีอีกสิ่งหนึ่ง จำเป็นต้องทำสัญญากับเจ้า”

“อะไรล่ะ”

“ข้าอยากให้พวกเจ้าสำรวจซากปรักหักพังของเทพแห่งชีวิตกับข้า”

“ไม่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกข้า พวกข้าย่อมไม่เสียพลังงานไปกับเรื่องนี้แน่” กู่ฉิงซานส่ายหน้าซ้ำไปมา

ราชาเงียบแล้วถามว่า “…เจ้าไม่ได้จะไปจัดการกับสี่เทพหรือ”

“จัดการสิ”

“ถ้าเจ้าช่วยข้าสำรวจซากปรักหักพัง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ข้าจะช่วยเจ้าจัดการกับสี่เทพด้วย ยังไงเสีย พวกเขาก็เป็นศัตรูของข้า”

“ถ้าแบบนี้… ก็เป็นไปได้ที่จะเจรจา ถ้าเจ้าเต็มใจจะจ่ายด้วยทุกสิ่งที่มี พวกข้าก็ต้องขอเวลาคิดอย่างจริงจัง”

“มูลค่าไม่ใช่ปัญหา ข้าอยู่ในตำหนัก หากเจ้าเต็มใจไปสำรวจซากปรักหักพังกับข้า โปรดมาหาข้าด้วยสิ่งนี้”

ราชาส่งคัมภีร์เคลื่อนย้ายพริบตาให้กู่ฉิงซาน จากนั้นมองอีกฝ่ายอีกครั้งก่อนหายไป

ห้องกลับสู่ความเงียบ

ไม่มีใครพูด

หลังจากเงียบอยู่นาน ในที่สุดลอร่าก็อดจะถามไม่ได้ว่า “ใครบอกข้าทีได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

“ทำไมหรือ” จางหยิงห่าวถาม

“เห็นได้ชัดว่าราชาคนนี้มาหาพวกเราพร้อมจิตสังหารใช่หรือเปล่า”

“อืม ถ้าพวกเราไม่ยอมจำนน เขาจะฆ่าพวกเรา เรื่องนั้นไม่ต้องสงสัยเลย”

“แต่ตอนเขาไป มันไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ”

“เจ้าคิดว่าไง”

“เขาให้ข้อมูลในสิ่งที่พวกเราต้องการและเต็มใจจ่ายทุกสิ่งเพื่อเชื้อเชิญให้พวกเราไปสำรวจซากปรักหักพังของเทพ แถมยังสัญญาอีกว่าจะทำสัญญาเพื่อช่วยพวกเราจัดการกับสี่เทพ จู่ๆ เขาเกิดเพี้ยนขึ้นมาหรือเปล่า”

“เขาไม่ได้เพี้ยน เขาเพิ่งพบกับคนโกหกของจริงก็เท่านั้น”

หลังจากจางหยิงห่าวพูดจบ เขาเดินออกจากบ้านพร้อมห่อบุหรี่

ตอนนี้น่าจะปลอดภัยแล้ว

อย่างน้อยหนึ่งกองกำลังของโลกใบนี้ก็ไม่มาเล่นงานพวกเขาแล้ว ส่วนอีกกลุ่มยังคงลบล้างความจริงของสัตว์ประหลาดอยู่

เขาจึงสามารถออกไปสูบบุหรี่ดีๆ สักมวนได้

………………………….