webnovel

0973 สนทนากับศีรษะ

ตอนที่ 973 สนทนากับศีรษะ

หอกที่มีแสงสีแดงเป็นประกายถูกกู่ฉิงซานถือไว้ในมือ

สะเทือนฝันมีผลแค่ห้าวินาที

เมื่อกู่ฉิงซานเริ่มลงมือ เขาก็กำลังสนทนา

เมื่อเขาพูดจบ หอกปีศาจแดงในมือสะบัดออกไปก่อนสับมังกรหุบเหวเป็นหลายชิ้น เวลาผ่านไปเพียงสองวินาทีเท่านั้น

แขน ขา หาง ร่างกายและศีรษะของมังกรมารกระจัดกระจายบนแท่นพิธี

หลินเตือนว่า “นี่ไม่มากพอ พละกำลังของเขาแข็งแกร่งเกินไป”

กู่ฉิงซานมองบาดแผลบนร่างนางแล้วกล่าวว่า “ฝากเจ้าด้วยละกัน”

สี่วินาที

“หึ”

หลิยชำเลืองมองกู่ฉิงซาน มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย

นางเข้าใจแจ่มแจ้งว่ากู่ฉิงซานหมายถึงอะไร

เพียงแต่ว่า

เมื่อคิดถึงอดีต นางยังรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

ช่างเถอะ ยังไงเสีย ครั้งนี้ถือเป็นการระบายโทสะของข้าก็แล้วกัน…

ห้าวินาที

“สะเทือนฝัน” สิ้นสุดลงแล้ว

ร่างของหลินวูบไหว นางมาอยู่ข้างกู่ฉิงซาน

นางต่อยพื้นด้วยกำปั้น สะเทือนชิ้นส่วนร่างของมังกรมารในอากาศ

หมัดถูกชักกลับ

เพียงพริบตา มือ เท้า หางและร่างของมังกรมารถูกพัดพาโดยหลิน

นี่คือการระบายโทสะสุดกำลังของหลิน

ชิ้นส่วนร่างกายของมังกรมารถูกระเบิดอย่างรุนแรง ทะลวงผ่านขีดจำกัดของโลก จากนั้นกระจายไปตามทางที่แตกต่างกัน

มีเพียงศีรษะของมังกรมารที่ยังเหลืออยู่

มันคือมังกรหุบเหวตัวจริง ดังนั้นจึงไม่ตายทันที

เทียบกับหลินที่ได้รับบาดเจ็บมากกว่า เห็นได้ชัดว่ามังกรหุบเหวไม่อาจทนต่อความตายเช่นนี้ได้

ดังนั้นมันจึงงงงวยสักพัก

ได้ยังไง

ทำไมกัน

ทำไม

ข้าถึงมากองอยู่บนพื้นแบบนี้

มังกรมารตกตะลึงจนไม่สามารถทำความเข้าใจได้

หลินยืนอยู่หน้ากู่ฉิงซานก่อนกล่าวว่า “ถึงแม้จะเหลือเพียงศีรษะ แต่มันยังครอบครองพลังหุบเหว คงไม่ตายอีกสักพัก ดังนั้นเจ้าต้องระวังด้วย”

“มีเหตุผล”

กู่ฉิงซานพยักหน้าอย่างเห็นด้วยแล้วกล่าวกับลอร่าผู้ซ่อนอยู่ในความมืดว่า “มีของอย่างพลังผนึกบ้างหรือเปล่า”

“มี ข้าจะให้เจ้าเดี๋ยวนี้แหละ” ลอร่าก้มศีรษะก่อนหยิบกระเป๋าขึ้นมาขณะเปิดปากพูดเช่นนั้น

เขาเห็นใบไม้ส่องแสงสีเขียวมรกตปรากฏขึ้นจากอากาศบางขณะลอยรอบตัวกู่ฉิงซาน

ใบไม้สีเขียวหายไป กลายเป็นสมบัติปิดผนึกชิ้นแล้วชิ้นเล่า

สมบัติปิดผนึกที่สามารถถูกลอร่าสะสมไว้แล้วหยิบออกมาได้นั้นย่อมไม่ใช่ของธรรมดา

ลอร่ารู้เรื่องสถานการณ์ตอนนี้เช่นกันก่อนส่งสมบัติที่ทรงพลังที่สุดให้กู่ฉิงซานทันที

กู่ฉิงซานชำเลืองมอง

เขาหยิบยันต์สองใบออกมาก่อน ใช้พลังวิญญาณกระตุ้นพวกมันก่อนขว้างออกไป

ยันต์สองใบตกลงที่เขาแหลมของมังกรมารก่อนแผ่กลิ่นอายออกมาเล็กน้อย

นี่คือยันต์ระดับสูงของฝั่งการฝึกฝน กู่ฉิงซานเพียงรู้สึกถึงพลังอันเกรี้ยวกราดที่อยู่ภายในนั้นได้เพียงแค่ใช้จิตเทพกวาดผ่าน

ต่อไปเป็นคำสาปต้องห้ามคล้ายกับเวทมนตร์คาถาเจ็ดถึงแปดอย่าง พวกมันถูกกู่ฉิงซานขว้างออกไปก่อนตกลงใบหน้าขนาดใหญ่ของมังกรมาร

ทันใดนั้น มีลวดลายแปลกประหลาดจำนวนมากบนใบหน้าของมังกรมาร

ต่อไปเป็นสมบัติปิดผนึกในรูปแบบอัญมณีจำนวนมาก พูดง่ายๆ ก็คือมันเป็นสมบัติปิดผนึกที่ถูกสร้างมาให้เล็กประณีต สะดวกต่อการพกพาหยินและสวมใส่คน

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพัก จากนั้นควบคุมพลังวิญญาณให้มัดเส้นผมของมังกรมารเป็นปม จากนั้นเอาเครื่องประดับแต่ละชิ้นไปมัดตามจุดต่างๆ

หลังจากนั้น มีเครื่องประดับมากมาย ทำให้เส้นผมของมังกรมารถูกจำกัดเอาไว้ ทำให้ไม่มากพอที่จะเอามามัดอีก

หลินกล่าวว่า

“เอาล่ะ มีสมบัติปิดผนึกถูกใช้พอแล้ว”

กู่ฉิงซานส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ปลอดภัยไว้ก่อน”

เขามองเครายาวสีดำของมังกรมาร

ดีมาก ตรงนี้ยังเอามามัดได้อีก

อัญมณีผนึกที่เหลืออยู่ลอยมามัดกับเคราของมังกรมาร

กู่ฉิงซานมองท้องนภา

สมบัติปิดผนึกยังเหลืออยู่อีกชิ้น

นี่คือชิ้นที่มีพลังผนึกแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสมบัติปิดผนึกทั้งหมด

มันแผ่แสงสีเขียวมรกตแวววาวออกมาคล้ายกับถูกถักทอจากใบไม้สีเขียวของต้นไม้หนามโบราณ

กู่ฉิงซานโยนหมวกสีเขียวแล้วคาดไว้บนศีรษะของมังกรมาร

กู่ฉิงซานถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนถามว่า “ข้าทำเสร็จแล้ว เจ้าคิดว่าพลังของศีรษะมันถูกปิดกั้นแล้วหรือเปล่า”

“ข้าจะดูให้”

หลินมองศีรษะของมังกรมารก่อนถอนหายใจอย่างเงียบงัน

นางแค่กังวลว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปเลยก็เตือนเขาเอาไว้

แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะโหดเหี้ยมปานนี้…

นางเห็นลวดลายแม่มดฉูดฉาดถูกระบายบนใบหน้าของมังกรมาร กระดาษสองแผ่นหรือที่เรียกว่าฝูลู่ถูกแปะบนเขาแหลม เครื่องประดับต่างๆ ถูกมัดไว้ตามเส้นผมและเครา แถมยังสวมหมวกใบไม้สีเขียวไว้ที่ศีรษะ

แม้แต่สัตว์ประหลาดหุบเหวทรงพลัง ต่อให้เหลือเพียงศีรษะ วิชาลับที่สามารถใช้ได้ก็มีจำกัดมาก

ตอนนี้ ศีรษะของมังกรมารเต็มไปด้วยสมบัติปิดผนึกมากมาย ไม่มีทางปลดปล่อยพลังอะไรได้อีก

เห็นได้ชัดว่ามันเติบโตมาเป็นสัตว์ประหลาดน่าสะพรึงที่กวาดล้างโลกเก้าร้อยล้านชั้น แล้วทำไมถึงมาลงเอยแบบนี้ได้

หลินส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า

“น่าจะไม่มีพลังเหลือแล้วล่ะ”

“เยี่ยมไปเลย”

กู่ฉิงซานถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนก้าวไปข้างหน้า

คราวนี้หลินไม่ห้ามเขา

กู่ฉิงซานโน้มตัว คว้าเขายาวของศีรษะมังกรมาร ยกมันขึ้นเพื่อให้มาเผชิญหน้ากับเขา

“โทษที ข้าไม่อยากฆ่าเจ้าจริงๆ เลยนะ”

กู่ฉิงซานกล่าวขอโทษ

มังกรมารสวมหมวกสีเขียวพร้อมสมบัติที่ติดไปทั่ว ดวงตาของเขาสมกับอีกฝ่าย

ถ้าดวงตาสามารถสังหารได้ กู่ฉิงซานคงตายไปแล้ว

กู่ฉิงซานกระแอมลำคอแล้วกล่าวต่อว่า “สุดยอดจริงๆ ที่เจ้าทรงพลังได้ขนาดนี้ ข้ายังไม่รู้จักเจ้าดีพอ ดังนั้นลึกๆ ก็แอบกลัวเล็กน้อย ทำให้เตรียมมาตรการป้องกันตัวเองเผื่อไว้นิดหนึ่งน่ะ”

มังกรมารยังไม่พูด

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ให้ตายสิ ที่จริงข้าอยากเจรจาธุรกิจกับเจ้านะ”

รอบข้างเงียบสนิท

ความคิดของทุกคนสั่นคลอน พวกเขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรสักพักใหญ่

เจ้าปฏิบัติกับคนอื่นเช่นนี่แล้วยังอยากเจรจาธุรกิจกับอีกฝ่ายอีกหรือ

ผู้ชมคิดเช่นนั้นเหมือนกัน

จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีสบตากันเงียบๆ

ช่างเป็นวิธีที่คุ้นเคยนัก

แต่ลอร่ากลับไม่คิดอย่างนั้น

นางกุมหน้าอกตัวเอง ดวงตาเต็มไปด้วยความทรงจำ

ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางจำได้ว่าตอนกู่ฉิงซานขอให้มารจำนวนนับไม่ถ้วนหยุดโหลดบัญญัติโดยสมัครใจในโลกสะสมของทริสเต้บนยอดเขาน้ำแข็งหิมะของเทพ

หลินอดที่จะกลอกตาไม่ได้หลังจากได้ฟังคำพูดของกู่ฉิงซาน

นางพบว่าตัวเองไม่ได้แสดงสีหน้าเช่นนี้มานานมากทีเดียว

แน่นอนว่าขนาดมังกรมารยังอดที่จะทำหน้าแบบนั้นไม่ได้เมื่อได้ยินกู่ฉิงซานพูดเช่นนั้น

“เจ้าอยากทำธุรกิจกับข้างั้นหรือ หมายความว่ายังไง” มันถาม

กู่ฉิงซานตอบว่า “ข้าจะถามเจ้าเกี่ยวกับสถานที่ที่เขาหรือนางอยู่”

มังกรมารกล่าวด้วยใบหน้าบูดบึ้งว่า “ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร ข้าก็จะไม่มีวันบอกเจ้าหรอก”

กู่ฉิงซานกล่าวอย่างจริงจังว่า “ถ้าเจ้ายังอยากมีตัวตนอยู่ก็บอกข้ามาเถอะ”

มังกรมารหัวเราะออกมา “เจ้ารู้หรือเปล่าว่ากำลังข่มขู่ตัวตนอะไรอยู่”

มันหัวเราะเสียงดังจนอัญมณีบนศีรษะยังคงสั่นไหวจนเกิดเสียงกรุ้งกริ้ง

ยันต์สองใบที่ติดบนเขาของมังกรมารเหมือนกับหนวดที่ยังคงลอยอยู่

หมวกใบไม้สีเขียวบนศีรษะของมังกรมารสั่นตามเสียงหัวเราะจนเกือบจะหลุดออกมา

หลินขมวดคิ้ว

ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องดีที่พูดแบบนั้น แต่สีหน้าของมังกรมารตัวนี้ย่ำแย่เช่นกัน ถือเป็นเรื่องน่าอับอายสำหรับหุบเหวนิรันดร์นัก

กู่ฉิงซานจงใจช่วยมังกรมารสวมหมวกกลับก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าหมายถึงอะไร เพราะว่าเป็นศีรษะ เจ้าสามารถหลับเมื่อไหร่ก็ได้ ดังนั้นพวกเรามาคุยกันอย่างจริงจังจะดีกว่า”

“เหลวไหล คุยเรื่องธุรกิจกับคนอย่างเจ้าเนี่ยนะ คิดว่าข้าโง่หรือไง” มังกรมารหัวเราะ

“ข้าแนะนำว่าเจ้าควรคิดให้มากกว่านี้” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยน้ำเสียงเนิบช้า “มีอันตรายมากมายระหว่างเดินทางทั่วโลก ก่อนหน้านี้เจ้าอาจจะเคยเป็นเทพก็เลยไม่มีใครช่วยให้ตระหนักถึงเรื่องนี้เลย”

“แต่ในเมื่อเจ้ามีชะตาให้มาพบกับข้า ข้าก็เต็มใจที่จะให้เจ้าได้รู้จักโลกใบนี้อีกครั้ง”

“เจ้าจะไปทำอะไรได้ มดไม่อาจควบคุมความเป็นความตายได้แท้ๆ ยังกล้ามาขู่ข้าอีกหรือ” มังกรมารหัวเราะ

กู่ฉิงซานตอบช้าๆ ว่า “ทีนี้ลองเดาซิว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าโยนศีรษะเจ้าไปใกล้ประตูโลก”

หัวใจของมังกรมารพลันดิ่งวูบ

สัตว์ประหลาดนิรันดร์เป็นอมตะและจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาหลังจากหลับใหล

แต่มีสถานการณ์เดียวกันเป็นข้อยกเว้น

ใกล้กับประตูโลก โลกคู่ขนานทรงพลังยิ่งนั่นกำลังต่อสู้กับวันสิ้นโลกอย่างเอาเป็นเอาตาย

การต่อสู้ระหว่างโลกคู่ขนานและวันสิ้นโลกคือสาเหตุของการกัดกร่อนโชคชะตาที่ยังคงกระจายไม่หยุดหย่อน

นี่คือสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด ส่งผลโดยตรงกับชะตากรรมของแต่ละคน ผลลัพธ์เดียวของผู้ที่เผชิญนั้นก็คือการทำลายล้างจนสิ้น

“ไร้สาระ สหายเช่นเจ้ากล้าไปประตูโลกจริงหรือ”

มังกรมารกล่าวอย่างเหยียดหยัน

“ก็กล้าน่ะสิ” กู่ฉิงซานพยักหน้าอย่างจริงจัง

“เจ้าจะตายเอานะ”

“ถึงจะตาย แต่ข้าสัญญาเลยว่าศีรษะของเจ้าจะหายไปก่อนแน่นอน”

“เจ้าไม่รู้วิธีไปประตูโลกแน่ๆ แม้แต่ในหุบเหวก็ถือว่าเป็นความลับ”

“หลินยืนอยู่ข้างข้า ลองเดาสิว่าทำไมข้าถึงเป็นพันธมิตรกับนาง”

“ที่นั่นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นหรอกนะ แล้วแต่เจ้าเลย”

“พวกเราพร้อมจะไปแล้ว ข้าสัญญา”

หนึ่งคนกับหนึ่งศีรษะมังกรมารมองหน้ากันสักพัก

มังกรมารพลันนึกสิ่งหนึ่งออก

ใช่แล้ว

หลายปีมานี้ ทุกสิ่งที่หลินทำก็คือการผ่านประตูโลก

นี่คือสิ่งที่นางหมกมุ่น

หรือก็คือ พวกเขาจะไปที่นั่นกันจริงๆ

……….……….……….……….