ตอนที่ 941 ความลับอันลึกล้ำยิ่ง!
ร่างของกู่ฉิงซานกลายเป็นแสงสีทอง
คนตายที่ถาโถมเข้ามานั้นสัมผัสได้ถึงพลังแสงสีทอง ทำให้ไม่มีจิตสังหารรุนแรงอีกต่อไป คนแล้วคนเล่าแข็งทื่ออยู่กับที่ ไม่ขยับไปไหน
กู่ฉิงซานมองรอบข้าง
ทุกสิ่งนิ่งเงียบ
ในภาพนอกจากเขาแล้ว ไม่มีตัวตนใดสามารถขยับได้
ในโลกแห่งหายนะ กฎเกณฑ์การทำลายล้างของความมืดหยุดนิ่งชั่วคราวด้วยการปรากฏตัวของแสงสีทอง
ภายใต้การสาดส่องของแสงสีทองแห่งความดี ในที่สุดกู่ฉิงซานพบทางรอดในภัยพิบัติ!
กฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพีค้ำจุนสิ่งมีชีวิตทั้งหมดและส่งผลกับทุกสรรพสิ่งเช่นกัน
นักพรตเหล่านั้นที่อยากสังหารและทำลายทุกสิ่งจะถูกชะล้างในหายนะและถูกลบล้างโดยกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพีอย่างไร้ความปรานี
แต่ผู้ที่ทำความดีด้วยการช่วยสิ่งมีชีวิตและพยายามรักษากฎเกณฑ์แห่งสวรรค์กับปฐพีจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากกฎเกณฑ์ดังกล่าวเพราะความดีที่ทำมา
กฎเกณฑ์หวังว่าตัวตนนี้จะสามารถมีชีวิตได้ตลอดไป
นี่คือความหมายของมหาภัยพิบัติ
ครั้งนี้กู่ฉิงซานอยู่ในมหาภัยพิบัติอย่างแท้จริง!
หลังจากพักสักครู่ การเปลี่ยนแปลงใหม่ปรากฏขึ้นในภาพ
เริ่มจากรอยข่วน
แสงวิญญาณบริสุทธิ์ยิ่งจุติลงมาจากท้องนภา เสริมแสงสีทองแห่งความดีบนร่างของกู่ฉิงซานให้เด่นยิ่งขึ้น
กู่ฉิงซานมองกลิ่นอายดังกล่าว ดูเหมือนจะมีเสียงละเอียดอ่อนนับไม่ถ้วนในหูของเขาจนเผยให้เห็นตัวตนของกลิ่นอาย
มันเหมือนกับเสียงลม ราวกับคนจำนวนมากกำลังกระซิบกระซาบไปมา
กู่ฉิงซานพลันเข้าใจ
กฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพีกำลังติดต่อสื่อสารกับเขา!
มันกำลังบอกว่านี่คือกลิ่นอายตั้งต้นที่เกิดจากสวรรค์และปฐพี เต็มไปด้วยความลับลึกล้ำที่หายากยิ่งกว่าความลึกลับของโลก
กลิ่นอายนี้มีชื่อว่าแหล่งกำเนิดความอมตะถูกคุ้มกันโดยเทพที่แท้จริงในตำนาน ไม่ง่ายที่ผู้คนจะได้รับมา
หัวใจของกู่ฉิงซานบีบรัด
กลายเป็นว่าเขาถูกโลกหวนคืนชาติภาพหกวิถีช่วยเอาไว้
กลิ่นอายคล้ายกับถูกดึงดูดโดยแสงสีทองบนร่างของเขา มันกลายเป็นเส้นด้ายบางก่อนลอยเข้าสู่วงเส้นด้ายสีทองที่อยู่ด้านหลังศีรษะของเขา
กลิ่นอายปกคลุมเส้นด้ายแสงสีทองเอาไว้ เปล่งแสงสีขาวนวลออกมา
ท่ามกลางแสงสีขาว ความรู้สึกรู้แจ้งพุ่งเข้าสู่หัวใจของกู่ฉิงซาน
เขาได้ทราบความลับที่แท้จริง
ความลับแห่งความเป็นความตาย
“เป็นแบบนี้เองสินะ”
กู่ฉิงซานพึมพำขณะมองคนตายบนปฐพีที่ไม่มีสิ้นสุด
เดิมทีแล้ว
ที่กลิ่นอายแรกปรากฏขึ้นเพราะกู่ฉิงซานทำบางสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง
เขาสังหารคนตายนับไม่ถ้วน
คนตายคือคนที่ตายไปแล้ว เป็นร่างสุดท้ายของชีวิต
ตามสามัญสำนึก ร่างชีวิตถูกแบ่งออกเป็นความเป็นกับความตาย
ร่างสลาย วิญญาณแยกออกจากร่างก่อนเข้าสู่สภาพความตาย กลายเป็นคนตาย
คนตายจะกลับชาติมาเกิดอีกครั้งเสมอ ไม่นับว่าตายอย่างสมบูรณ์
ความเป็นความตายไหลไปมาไม่มีสิ้นสุดด้วยสิ่งนี้
แต่กู่ฉิงซานใช้พลังของไม้เท้าราชาภูตผีจองจำ มันทำลายสภาพคนตายก่อนผลักไสพวกเขาเข้าสู่สภาพที่ปรากฏขึ้นได้น้อยครั้ง
วิญญาณหายไป
หลังจากวิญญาณหายไปแล้ว แก่นวิญญาณสุดท้ายและสำคัญที่สุดของสิ่งมีชีวิตยังคงอยู่
ไม่ได้อยู่ในสภาพเป็น ไม่ได้อยู่ในสภาพตาย เป็นการอยู่ในสภาพดึกดำบรรพ์
ความโกลาหล
ความโกลาหลคือแหล่งกำเนิดทุกอย่าง เทียบกับทุกสิ่ง สิ่งมีชีวิตและโลกแล้ว มันคือความลึกลับที่สุดของกฎเกณฑ์ที่ปกปิดทุกสิ่งเอาไว้
ดังนั้นกู่ฉิงซานผลักไสวิญญาณคนตายจำนวนมากเข้าสู่ความโกลาหล ทำให้เกิดเหตุและผลที่หาได้ยาก
เพราะเขาใช้วิธีที่ผิดมาก สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จึงถูกขับไล่โดยความโกลาหล พวกมันจึงไม่หลอมรวมเข้ากับความโกลาหลหรือกลับคืนสู่วัฏจักรความเป็นความตาย
วิธีที่ผิดหรือ
เมื่อกู่ฉิงซานได้ยินคำบรรยายของกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพีเช่นนี้ เขาคิดอยู่ในใจมากมาย
เขาถามหน้าต่างระบบเทพสงครามอย่างเงียบงันว่า “อะไรคือวิธีที่ผิด?”
หน้าต่างระบบเทพสงครามเงียบไปสักพัก แถวข้อความขนาดเล็กจำนวนหนึ่งปรากฏขึ้น “พลังของเทวภัณฑ์หวนคืนชาติภพหกวิถีมาจากตัวหวนคืนชาติภพหกวิถีเอง ถึงแม้จะเล็กน้อย แต่พลังที่มีนั้นเป็นของจริง ดังนั้นจึงไม่เข้ากับความโกลาหล”
“ดังนั้นกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพีจึงฉวยโอกาสจากภัยพิบัติข้าด้วยการมาที่นี่หรือ”
“ใช่ ตอนนี้ท่านอาจจะต้องตัดสินใจแล้ว”
ในเวลาเดียวกัน เสียงกระซิบแผ่วเบานับไม่ถ้วนดังขึ้นในหูของกู่ฉิงซาน
ถึงแม้เขาไม่สามารถได้ยินชัดเจนว่าพูดอะไร แต่กู่ฉิงซานค่อยๆ เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร นี่คือสิ่งที่มหัศจรรย์มาก
กฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพีพึ่งกลิ่นอายตั้งต้นเพื่อบอกเขาว่าถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจแล้ว
ทางแรกคือการใช้ความดี ช่วยตัวตนเหล่านี้ที่ไม่มีแม้กระทั่งวิญญาณและปล่อยให้พวกเขากลับคืนสู่ความตาย
แบบนี้ คนตายจะกลายเป็นร่างวิญญาณก่อนกลับคืนสู่วัฏจักรความเป็นความตายปกติอีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังมีอีกทางเลือกหนึ่ง
ทางที่สองคือการใช้ความดีเช่นกัน แต่กู่ฉิงซานจะสามารถหลอมละลายตัวตนเหล่านี้ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความโกลาหลได้
นี่จะเสริมสร้างพลังโกลาหล แต่คนตายจะไม่สามารถกลับสู่วัฏจักรความเป็นความตายได้อีก
พวกเขาจะกลายเป็นพลังโกลาหลบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์
ตอนนี้สิทธิ์การเลือกอยู่ในมือของกู่ฉิงซานแล้ว
คนชั่วควรกลับยมโลกเพื่อรับความเจ็บปวดหรือพวกเขาควรสลายไปจนสิ้น
เสียงไม่มีสิ้นสุดอ้อยอิ่งอยู่ในหูของกู่ฉิงซานชั่วครู่ก่อนหายไป
กฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพีกำลังรอให้เขาเลือก
เกิดช่วงเวลาแห่งความเงียบ
กู่ฉิงซานนึกถึงฉากตอนเขาสังหารคนชั่วเหล่านี้ในอดีตอีกครั้ง
“การอยู่ในสวรรค์เป็นชีวิตที่ดี ใช่แล้ว ต่อให้พวกเราจะใช้ชีวิตอย่างปกติ แต่ก็ไม่ชอบกดดันผู้อื่นมากจนเกินไป…”
เขาคร่ำครวญแล้วกล่าวต่อว่า “แต่สำหรับคนชั่ว ข้าไม่คิดว่าพวกเจ้า จะต้องได้รับการให้อภัย ตายกันให้หมดนั่นแหละ”
ทันทีที่พูดจบกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพีก็ตอบรับ
แสงทั่วร่างของกู่ฉิงซานทะยานขึ้นอีกครั้ง ทั่วร่างกลายเป็นดวงตะวันแผดเผา ลอยขึ้นสูงกลางท้องนภา
ภายใต้แสงสว่าง ร่างนับร้อยล้านของคนตายกลายเป็นทรายดูดก่อนค่อยๆ จมสู่ทะเลทราย
คนตายนับร้อยล้านกระจายอยู่ตามทะเลทราย ไม่มีทางกลับคืนสู่ความเป็นความตายได้
บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กผุดขึ้นมา
“ท่านได้เรียนรู้ความลับแห่งความเป็นความตาย”
“ท่านกลายเป็นผู้พิทักษ์ความลับแล้ว”
“ท่านได้รับพลังโกลาหลเพิ่มเติม”
“กฎเกณฑ์โลกเติบโตขึ้นเพราะการกระทำที่แสนเล็กน้อยของท่าน”
“กฎเกณฑ์ได้เปลี่ยนทัศนคติของท่าน”
“ท่านได้รับของขวัญจากกฎเกณฑ์ของโลกภายใน: แหล่งกำเนิดพลังโลก”
“วิชาโลกของท่านมั่นคงมากขึ้น”
“นับจากนี้ ท่านมีโลกภายในที่สมบูรณ์ที่ก่อเกิดเป็นโลกมากมายตามวิธีการสร้างโลก”
“อีกอย่างมหาภัยพิบัติของท่านเสร็จสมบูรณ์แล้ว”
ตูม
ทั้งโลกพังทลาย
ภาพแล้วภาพเล่าล้วนแตกสลาย
ความมืดที่เป็นตัวแทนกฎเกณฑ์แห่งการทำลายล้างหายไป
กู่ฉิงซานถูกผลักด้วยแรงมหาศาลยิ่งก่อนพลันกลับสู่ยานอวกาศต้นไม้หนามโบราณ
เบื้องหน้าของเขา แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏข้อความสุดท้ายขึ้นมา
“ท่านกลายเป็นผู้ฝึกยุทธระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์แล้ว”
กู่ฉิงซานตกตะลึง
“นี่คือระดับ…สี่เสาศักดิ์สิทธิ์หรือ?”
ทำไมถึงไม่รู้สึกอะไรเลยล่ะ
เขากำลังคิดอยู่ แต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเย็นเยือกที่หน้าผาก
แสงวิญญาณพุ่งออกมาจากหน้าผากก่อนยิงตรงเข้าสู่วังวนความว่างเปล่า
พลังวิญญาณก้าวกระโดดด้วยความเร็วที่น่าสะพรึง
สิบส่วน
ยี่สิบส่วน
สี่สิบส่วน
เจ็ดสิบส่วน!
พลังวิญญาณเพิ่มขึ้นถึงเจ็ดสิบส่วน!
ตามสามัญสำนึก ปริมาณพลังวิญญาณจะขึ้นอยู่กับพลังวิชาของนักพรต
ด้วยพรวิญญาณที่ทะยานขึ้น ประสิทธิภาพการต่อสู้ของกู่ฉิงซานแทบจะเพิ่มเป็นเท่าตัว
เขากำหมัด ทั่วร่างเต็มไปด้วยวิญญาณต่อสู้ไม่มีสิ้นสุด เขามองตัวตนนับไม่ถ้วนในกระแสวงวันความว่างเปล่า
พลัง!
ในที่สุดเขาก็มีพลังแก่กล้า!
ตอนนี้ภายใต้พรวิญญาณอันโอ่อ่า กู่ฉิงซานรู้สึกว่าเขาสามารถต่อสู้กับศัตรูทรงพลังเหล่านี้ได้
เขาสามารถลุยคนเดียวได้
“เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?”
ทันใดนั้นเสียงผู้หญิงดังขึ้น ความคิดของกู่ฉิงซานถูกขัด
กู่ฉิงซานหันศีรษะไปมอง
หลิน
ขณะสวมเกราะศึกทรงพลังและถุงมือธาตุในมือทั้งสองข้าง หลินอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่ไร้บาดแผล
หลินมองกู่ฉิงซานแล้วยิ้มออกมาก่อนกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ในที่สุดข้าก็พัฒนาสำเร็จแล้ว หรือข้าควรพยายามอีกสักหน่อยเพื่อจะได้สู้ร่วมกับเจ้า?”
“อึ่ก…”
“อืม เมื่อครู่วิญญาณต่อสู้เต็มเปี่ยมเลย ทำไมจู่ๆ เจ้าถึงถอนหายใจแล้วขมวดคิ้วกันล่ะ”
“ข้าไม่อยากคุยเรื่องนี้กับเจ้า”
........................................