webnovel

0317 นรก(ตอนต้น)

ตอนที่ 317 นรก(ตอนต้น)

 สายตาของกู่ฉิงซานจับจ้องอยู่แต่กับหน้าต่างระบบเทพสงคราม ในหัวใจของเขาบังเกิดความประหลาดใจขึ้นหลายส่วน

 จู่ๆ หน้าต่างระบบเทพสงครามก็ได้ปล่อยภารกิจออกมาในโลกจริงอย่างกะทันหัน

 “จุดจบของโลก” อ่านจากคำอธิบายภารกิจที่เป็นแบบนี้ เกรงว่าแม้กระทั่งหน้าต่างระบบเทพสงครามก็ยังคิดว่ามันเป็นภัยพิบัติอันเลวร้ายที่ไม่มีวันชนะใช่หรือไม่?

 อย่างไรก็ตาม ภารกิจนี้ก็ตรงกับความต้องการของกู่ฉิงซานพอดิบพอดี

 ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซมดาบเช่าหยิน หรือการค้นหาความจริงของภัยพิบัตินี้ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่กู่ฉิงซานคิดจะทำอยู่แล้ว

 ในส่วนของการซ่อมดาบเช่าหยิน นั่นคือขั้นตอนแรกของภารกิจนักดาบนิรันดร์

 หากเขาสามารถเรียกคืนพลังของนักดาบนิรันดร์มาได้ แม้จะอยู่ในขอบเขตก้าวสู่เทพช่วงต้น แต่ความแข็งแกร่งของตนเองก็จะเหนือล้ำยิ่งกว่าในชีวิตก่อนหน้าทันที!

 เขาละสายตาจากหน้าต่างระบบเทพสงคราม และหันไปมองรอบๆ ห้องประชุม

 เจ้าหญิงโผเข้าสู่อ้อมกอดของจักรพรรดินี น้ำตาอันขื่นขมร่วงโรยออกมาเป็นสาย

 เหล่ารัฐมนตรี ข้าราชบริพาร และองครักษ์ ต่างทยอยกันมาที่ห้องประชุมกันทีละคน

 กู่ฉิงซานกันพวกเขาไว้ มิให้เข้ามาใกล้ แยกเหล่าฝูงชนออกจากจักรพรรดินี

 ขณะนี้ คนเหล่านี้ยังไม่อาจวางใจได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์

 จนกว่าซางหยิงฮ่าวจะมาถึง นี่คือสิ่งเดียวที่เขาพอจะสามารถทำได้

 แม้ภายนอกจะดูเหมือนว่ากู่ฉิงซานกำลังยืนเฝ้าปกป้องจักรพรรดินีอย่างเงียบๆ ทว่าในหัวใจกลับพาลคิดไปถึงเรื่องอื่น

 นายพลกองทัพเรือ หลี่ตงหยวนแห่งรัฐบาลกลาง ถูกแทนที่ด้วยร่างโคลน…

 องค์จักรพรรดิแห่งฟูซีมีความคิดจะทำอะไรกับรัฐบาลกลางกันแน่?

 กู่ฉิงซานกล่าวขึ้นทันใด “เทพธิดากงเจิ้ง”

 “ฉันอยู่นี่ใต้เท้า” เทพธิดาขานรับ

 “ท่านประธานาธิบดีตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง” 

“เขาไม่ได้เชื่อมต่อกับฉัน แต่สัญญาณชีวิตของเขายังคงปกติดี” 

นี่มันเป็นช่วงเวลากลางดึก บางทีท่านประธานาธิบดีอาจกำลังพักผ่อนอยู่ 

กู่ฉิงซานผ่อนคลายลงเล็กน้อยและเอ่ยถาม “แล้วในวันพรุ่งนี้ ท่านประธานาธิบดีมีกำหนดการจะทำอะไร?”

 “นี่มันก็เลยเที่ยงคืนมาแล้ว อีกสี่ชั่วโมงจะถึงรุ่งสาง ดังนั้นหากจะกล่าวอย่างแม่นยำ สมควรกล่าวว่าในวันนี้ ท่านประธานาธิบดีจะมีกล่าวสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์แห่งชาติเวลาเก้านาฬิกา เพื่อระดมคนให้เข้าร่วมลงคะแนนเลือกตั้ง”

 “แล้วทางด้านเทพนักสู้ล่ะ?”

 “นายพลซางซ่งหยางยังคงอยู่ในทำเนียบประธานาธิบดี”

 กู่ฉิงซานถอนหายใจโล่งอก

 ดูเหมือนว่าเทพนักสู้จะตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าสิ่งที่ตัวกู่ฉิงซานกล่าวไม่สมควรจะเป็นเท็จ

 มีเทพนักสู้คอยปกป้อง คงสามารถรับประกันความปลอดภัยของประธานาธิบดีได้

 ภายในห้องประชุม

 จักรพรรดินีเริ่มทำการออกคำสั่งแก่บริวารทีละคนๆ

 ทั้งหมดทยอยกันรับคำสั่งเธอ และพากันออกจากหน้าห้องประชุม แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ทีละคน ทีละคน

 ภายใต้คำสั่งของจักรพรรดินี ส่งผลให้ตลอดทั้งพระราชวังประสานงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 “ฝ่าบาท ภายนอกพระราชวังมีบุคคลน่าสงสัยบุกรุกเข้ามา เขาบอกว่าได้รับคำเชิญอิเล็กทรอนิกส์จากท่าน!” องครักษ์วังกล่าวพลางโค้งกายคารวะ

 “ให้เขาเข้ามาได้!” จักรพรรดินีเอ่ยสั่ง

 จากนั้น ซางหยิงฮ่าวก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในห้องโถงวัง

 “นี่คือหุ้นส่วนของผม ซางหยิงฮ่าว เป็นคนที่น่าเชื่อถือได้” กู่ฉิงซานแนะนำแก่ราชวงศ์ทั้งสอง

 “แน่นอนว่าข้าย่อมรู้จักเขา ราชานักฆ่าผู้ทรยศต่อเก้าตระกูลใหญ่”

 กล่าวจบ จักรพรรดินีก็ยื่นมือของเธอไปยังเขา

 ซางหยิงฮ่าวก้มลงจุมพิตทักทายและกล่าว “ฝ่าบาทที่เคารพ การได้พบกับท่านถือเป็นเกียรติยิ่งสำหรับกระหม่อม” 

จักรพรรดินีเดินเรื่องเข้าประเด็นโดยตรง “ชื่อเสียงในด้านความใจกว้างของสาธารณรัฐนับว่าเป็นที่รู้จักกันเสมอมา ดังนั้นเจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องเงินรางวัล ตราบใดที่เจ้าปกป้องข้าและบุตรสาวเอาไว้ได้” 

ซางหยิงฮ่าวฉีกยิ้มทันที ปากเอ่ยกล่าวด้วยความสุภาพ “สมาคมนักล่าจะเชื่อฟัง และปฏิบัติตามความประสงค์ของฝ่าบาท” 

กู่ฉิงซานเอ่ยถามออกมา “แล้วคนของนายล่ะ?” 

ซางหยิงฮ่าวกล่าว “ทั้งหมดมาถึงที่นี่แล้ว ฉันจะเรียกพวกเขามาทันที หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากฝ่าบาท” 

“ให้พวกเขาเข้ามาได้” จักรพรรดินีกล่าวอนุมัติ 

ซางหยิงฮ่าวหยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมา และเรียกคนของเขา 

ในระหว่างที่รอ กู่ฉิงซานก็ลากซางหยิงฮ่าวมาที่มุมหนึ่ง และบอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ 

ซางหยิงฮ่าวสูดหายใจเย็นเยียบ 

“โคลนมนุษย์…แม้กระทั่งพลังอำนาจของมืออาชีพก็ยังสามารถลอกเลียนแบบได้ คนที่ชื่อถังจุนนี่มันสุดยอดจนน่าหวาดกลัวจริงๆ” เขาบ่นพึมพำ 

“แต่ความทรงจำของพวกเขาจะไม่เป็นระบบระเบียบ ทั้งหมดแทบจะลืมเลือนประสบการณ์ต่อสู้ และแน่นอน ว่าต่อให้คนของนายเจอพวกเขา ก็ยังสามารถใช้กลยุทธ์รับมือกับพวกเขา ปกป้องสถานที่นี่ได้” กู่ฉิงซานกล่าว 

“ตัวตนที่แม้จะทรงพลังแต่กลับด้อยประสบการณ์ เปรียบดั่งกับสัตว์ร้ายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเช่นนี้แหละ คือเป้าหมายที่นักฆ่าชมชอบมากที่สุด” ซางหยิงฮ่าวกล่าว 

กู่ฉิงซานตบลงบนไหล่เขา บอกออกไปว่า “งั้นนายก็อยู่ที่นี่ไปนะ ฉันคงต้องขอตัวก่อน” 

“หา? นายจะไปแล้วเหรอ?” ซางหยิงฮ่าวตกใจ “ฉันก็คิดว่านายจะคอยต่อสู้เคียงข้างกันซะอีก” 

“เอาไว้คราวหน้าแล้วกัน ตอนนี้สถานการณ์นับว่าร้ายแรงมาก และฉันจะต้องไปยังดูอีกที่หนึ่งเพื่อพิสูจน์บางสิ่งในจิตใจของฉัน” กู่ฉิงซานกล่าว 

“ก็ได้ๆ นายไปเถอะ ฉันจะดูที่นี่เอง” ซางหยิงฮ่าวกล่าว 

กู่ฉิงซานหันไปเตรียมบอกลาจักรพรรดินี แต่กลับเห็นว่าเวลานี้ เธอกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ขององค์จักรพรรดิ 

รัฐมนตรีและองครักษ์มากมายกำลังคุกเข่าอยู่ภายนอกห้อง เฝ้ารอคำสั่งมอบหมายภารกิจจากเธอในระยะไกล 

จักรพรรดินียังคงใช้มาตรการตอบโต้ในสภาวะฉุกเฉินกับฝูงชนเหล่านั้น

 จักรพรรดินีที่บัดนี้แลดูน่าเคารพและเกรงขาม เอ่ยปากกล่าวออกมา “ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะถือว่าเป็นสายลับ พวกเจ้าสามารถสังหารมันได้ในทันที เข้าใจไหม?” 

“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” 

“เอาล่ะตอนนี้ ก็ไปทำหน้าที่ของพวกเจ้าได้แล้ว!” 

“รับบัญชา!” 

องครักษ์ขานรับคำหนึ่ง และแยกย้ายกันออกไป 

ท่าทีการแสดงออกทางสีหน้าของจักรพรรดินีแลดูสงบ มั่นคง เอ่ยสั่งอย่างเรียบง่ายแต่เฉียบขาด ทุกผู้คนในวังล้วนถูกควบคุมโดยเธอ 

หลังจากนั้นไม่นาน 

คนจำนวนมากที่สวมใส่แว่นดำก็เดินเข้ามาในห้องโถง หยุดอยู่เบื้องหน้าซางหยิงฮ่าว 

ซางหยิงฮ่าวเริ่มทำการจัดแจงกำลังคน 

หนึ่งในนั้นมีสาวงามตัวน้อย เธอแอบขยับแว่นกันแดดลง และหันไปทักทายกับกู่ฉิงซาน 

เด็กตัวน้อยที่ว่านั่นคือถงถง 

กู่ฉิงซานผงกหัวรับเล็กน้อย ก่อนจะหันไปทางจักรพรรดินี 

“ฝ่าบาท ท่านวางแผนจะทำอะไรต่อไป” 

“เขาเป็นบ้าไปแล้ว แต่ข้ามิใช่ ดังนั้นจึงเหลือเพียงข้าเท่านั้นที่จะสามารถช่วยประคับประคองประเทศนี้ให้ก้าวเดินต่อไปได้” จักรพรรดินีกล่าวอย่างสงบ 

… 

ท่ามกลางความมืดมิด 

กู่ฉิงซานขับรถเหินเวหาไปยังทิศทางหุบเขาหวงหยุน 

ในอีกหลายส่วนของรัฐบาลกลาง เทพธิดากงเจิ้งยังไม่ได้ทำการตรวจพบความผิดปกติใดๆ แต่หุบเขาหวงหยุนคือหนึ่งในสถานที่กำเนิดของภัยพิบัติในอาณาเขตของฟูซี 

ที่แห่งนี้คือป่าดึกดำบรรพ์ที่ได้รับการคุ้มครอง และมันก็ยังเป็นสถานที่ที่องค์จักรพรรดิออกไปล่าสัตว์เพียงลำพังอีกด้วย

 ไม่มีทางที่เรื่องบังเอิญขนาดนั้นเกิดขึ้นได้ในโลกใบนี้ได้ในช่วงเวลาที่พอเหมาะพอเจาะ 

เมื่อกู่ฉิงซานมาถึง เขาก็พบว่าเย่เฟย์หยูกำลังรอเขาอยู่ก่อนแล้ว 

“นายมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” กู่ฉิงซานเอ่ยถามคนตรงหน้า 

“ก็ทันทีที่นายบอกว่าต้องการฉัน ฉันก็มาตั้งแต่ตอนนั้นเลย” เย่เฟย์หยูกล่าว 

“โอเค ถ้างั้นอันดับแรก พวกเรามาดูกันว่านายจะได้ยินเสียงอะไร หลังจากนั้นก็ทำการค้นหาแหล่งที่มาของเสียงกัน” กู่ฉิงซานกล่าว 

เขาถ่ายเทพลังวิญญาณอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำการปล่อยจิตเทวะ ส่งออกไปอย่างเต็มที่ 

“ทำไมนายถึงดูเป็นกังวลขนาดนี้?” เย่เฟย์หยูเอ่ยถาม 

“เพราะมันเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด และพวกเราอาจจะต้องแยกกันหา” กู่ฉิงซานตอบ 

“แล้วพวกเรากำลังตามหาอะไรกันอยู่?” 

“ก็ปรากฏการณ์ที่ผิดปกติ ตัวอย่างเช่น...น้ำแข็ง” 

“น้ำแข็ง? โอเค เข้าใจแล้ว” 

แล้วทั้งสองก็ทำการค้นหาภายในหุบเขา 

ที่แห่งนี้คือป่าดึกดำบรรพ์ มันกว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด และเต็มไปด้วยสัตว์ต่างๆ มากมาย ช่างเหมาะสมแก่การเป็นพื้นที่ล่าโดยแท้ 

ในขณะนี้ บนท้องฟ้ามืดมน และสายฝนเย็นฉ่ำก็โปรยปรายลงอยู่ตลอดเวลา ไร้ซึ่งเงาของผู้คน 

ละอองน้ำจางๆ แลดูคล้ายหมอกปกคลุมไปตลอดทั้งผืนป่า 

ละอองน้ำเหล่านี้คงอยู่เป็นเวลานาน ผสานไปกับลมพายุ ส่งผลให้พวกมันฟุ้งกระจายไปทั่ว 

“ใต้เท้า ดาวเทียมไม่สามารถมองเห็นภาพบนพื้นดินได้” เทพธิดากล่าว 

“มันไม่สำคัญหรอก” กู่ฉิงซานกล่าว “เพราะพวกเราจะเป็นคนหามันเอง” 

เขากับเย่เฟย์หยูบินออกไปท่ามกลางพายุฝนในยามค่ำคืน เวียนวนไปมาในป่าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย 

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง 

กู่ฉิงซานก็ยืนอยู่ข้างๆ กับทะเลสาบน้ำแข็ง 

มันเป็นทะเลสาบที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนา และไม่อาจมองเห็นอะไรได้เลย 

“ฉันเจอมันแล้ว” กู่ฉิงซานหันไปพูดกับสมองควอนตัม 

“โอเค” เย่เฟย์หยูวางสายไป 

หลังจากนั้นอีกไม่กี่ลมหายใจ เส้นแสงสีแดงก็บินตรงมาอย่างรวดเร็ว 

สายลมถูกพัดกระพือแยกแตกออกเป็นสองทิศทางโดยเส้นแสงที่ว่า ก่อนมันจะทิ้งตัวลงบนพื้น พร้อมกับร่างของเย่เฟย์หยูที่ปรากฏออกมา 

“นี่มันน้ำแข็งจริงๆ ด้วย” สองตาของเขาหรี่แคบลง ปากเอ่ยกล่าว 

กู่ฉิงซาน “ถูกต้อง” 

ชั้นน้ำแข็งในทะเลสาบทั้งลึกและหนา อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้จิตสัมผัสเทวะกวาดลงไป เขากลับพบว่ามันไม่มีร่องรอยของน้ำที่สมควรจะไหลวนอยู่ภายใต้เบื้องล่างทะเลสาบเลย 

ตลอดทั้งทะเลสาบ ถูกแช่แข็งโดยสมบูรณ์

………………..………………..