webnovel

0316 ภัยพิบัติเยือกแข็ง

ตอนที่ 316 ภัยพิบัติเยือกแข็ง

 “…ก็ได้ แล้วเรื่องรางวัลล่ะจะว่าอย่างไร? นายคงจะไม่ปล่อยให้ฉันอดอยากปากแห้งหรอกนะ เพราะทางฉันยังมีลูกนกมากมายที่กำลังอ้าปากรอคอยรับอาหารอยู่เหมือนกัน” ซางหยิงฮ่าวบ่นด้วยความขมขื่น

 “เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา” กู่ฉิงซานกล่าว

 “ใครกันที่ใจกว้างถึงขนาดนั้น?” ซางหยิงฮ่าวสงสัย

 “ราชวงศ์ฟูซี”

 “นั่นมันสุดยอดลูกค้าผู้มีเกียรติ!” ซางหยิงฮ่าวยกมือขึ้นปิดปาก “ฉันจะพาใครบางคนออกไปทันที ช่วยระบุตำแหน่งให้ฉันด้วย!”

 “จักรวรรดิฟูซี วังโอเอซิสกลางทะเลทราย”

 “เห้ยๆ นี่มันวันเอพริลฟูลเดย์หรืออย่างไร? นั่นน่ะมันดินแดนของฟูซีนะ ตามข้อมูลของฉัน องค์จักรพรรดิกำลังหยุดพักร้อนอยู่ที่นั่น นี่นายยังต้องการให้ฉันไปปกป้องพวกเขาอีกอย่างนั้นเหรอ?”

 “ไม่ ฉันฆ่าเขาไปแล้ว ภารกิจนายคือคุ้มครององค์จักรพรรดินี!”

 “นายฆ่าเขา! น่ะ...นายฆ่าองค์จักรพรรดิแห่งฟูซีจินอย่างนั้นเหรอ!!”

 น้ำเสียงของซางหยิงฮ่าวไม่อยากจะเชื่อ สีหน้าของเขาเผยถึงความสยดสยอง

 “ไม่ใช่เขาตัวจริงหรอก แต่เป็นร่างโคลนน่ะ”

 ซางหยิงฮ่าวตระหนักถึงความรุนแรงของสถานการณ์ น้ำเสียงของเขาหม่นทะมึนลง

 “แล้วนายต้องการให้ฉันปกป้องใคร?”

 “องค์จักรพรรดินี”

 “ฉันจำเป็นต้องได้รับอำนาจอนุมัติการบินเหนือน่านฟ้า”

 “คำร้องขอของนายจะได้รับการอนุมัติทันที อันดับแรกเหลียวฮังจะจั๊มป์นายมายังทะเลทรายฟูซี จากนั้น ก็เป็นหน้าที่นายแล้วล่ะที่จะพามือดีมาให้เร็วที่สุด ตอนนี้สถานการณ์นับว่าเลวร้ายมาก”

 “ฉันจะรีบไปทันที!” 

การเชื่อมต่อถูกตัดขาดลง 

กู่ฉิงซานกำลังจะหันมาพูดคุยกับจักรพรรดินี แต่ทันใดนั้นก็ดันมีเสียงเคาะประตูขึ้นอย่างกะทันหันซะก่อน 

ก๊อก! 

ก๊อก! 

ก๊อก! 

“มีเรื่องอะไร?” จักรพรรดินีเอ่ยถามอย่างใจเย็น 

“รัฐมนตรีและข้าราชบริพารคนอื่นๆ มีบางสิ่งที่ต้องรายงาน” คนภายนอกเอ่ย

 ฟังจากเสียง ดูเหมือนว่าจะมีหลายสิบคน

 พร้อมด้วยพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ที่ปะทุออกมาจากตัวพวกเขา

 น้ำเสียงของทั้งหมดแลดูกระสับกระส่าย และแฝงไว้ซึ่งเจตนาฆ่า

 เห็นได้ชัดว่ามีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น

 พวกเขาเลยร้อนรนเป็นกังวล

 สีหน้าของจักรพรรดินีซีดเซียว

 คนเหล่านี้ การจะฆ่าพวกเขาทั้งหมดในทีเดียว นับว่ามิใช่เรื่องง่ายดายเลย

 กู่ฉิงซานกระชับดาบพิภพในมือ และเดินตรงไปที่ประตู

 “ปล่อยเข้ามา” เขากล่าว

 ประตูถูกเปิดออก

 พลังวิญญาณจากทั่วทั้งร่างกายเริ่มหมุนวน กู่ฉิงซานรีดมันในฉับพลันและระเบิดการโจมตีออกไป

 เทคนิคลับแห่งดาบ กระแสธารอันยิ่งใหญ่!

 นี่คือเทคนิคดาบอันน่าสะพรึง ที่เขาได้รับมาจากอีกโลกหนึ่ง!

 รังสีดาบนับพันแปรสภาพเป็นธารน้ำหลาก วิ่งคำรามออกไปนอกประตู 

พริบตานั้น เหล่าผู้คนที่ออกันอยู่เบื้องหน้าก็ถูกถาโถมใส่ด้วยรังสีดาบนับไม่ถ้วน ดั่งธารน้ำหลากซัดสาดกระแทกเข้าใส่ กระเจิงออกไปทุกทิศทาง และมีบางคนถึงขั้นปลิวไปสุดกำแพงสุดทางเดิน 

แล้วมันก็พังทลาย ถล่มลงทันที 

กระแสรังสีดาบอันยิ่งใหญ่วิ่งทะลุทะลวงออกไปนอกวัง ข้ามผ่านโอเอซิสและกระจายหายอย่างไร้ร่องรอยในทะเลทรายอันไกลสุดลูกหูลูกตา 

ทั้งเลือดและเนื้อหนังส่วนใหญ่ สลายหายไปท่ามกลางกระแสรังสีดาบอันยิ่งใหญ่ 

กู่ฉิงซานเก็บดาบกลับคืนแล้วกล่าวว่า “หากกระบวนท่านี้ถูกใช้ออกมาแล้ว เกรงว่าคงจะไม่สามารถปกปิดร่องรอยได้อีกต่อไป ดูท่าว่าพวกเราต้องเตรียมเผชิญหน้ากับศัตรูแล้ว” 

ในมือของจักรพรรดินีบังเกิดแสงสีเขียวเรืองรอง ร่วงตกลงในโถงทางเดิน 

มันคือธาตุไม้จากธาตุทั้งห้า แทรกชีวา 

ไม่นานนัก ซากแขนขาหรือแม้กระทั่งเลือดเนื้อตรงโถงทางเดินก็ถูกแทรกและดูดซึมโดยแสงสีเขียว 

แสงสีเขียวแปรสภาพเป็นดอกไม้ที่สวยสดงดงาม บินกลับมายังจักรพรรดินี 

เธอคว้ารับดอกไม้เอาไว้ 

ไม่ใกล้ไม่ไกลออกไป เริ่มปรากฏเสียงต่างๆดังตามมา 

“เกิดอะไรขึ้น?” 

“รีบหนีเร็วเข้า ที่นี่มีคนตายเต็มไปหมดเลย!” มันเป็นเสียงกรีดร้องของผู้หญิง 

“มากับฉัน!” 

“องค์จักรพรรดินีเล่า?” 

“ปกป้องฝ่าบาท!” บางคนตะโกนขึ้น 

ท่ามกลางเสียงอึกทึกวุ่นวาย จู่ๆ เสียงอันหนักแน่นก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน

“ไม่จำเป็น! ข้าอยู่นี่!” 

และสรรพเสียงทั้งหลายก็เงียบลง 

เพราะนั่นคือเสียงขององค์จักรพรรดิ! 

องครักษ์วังวิ่งตามเสียงมายังพระองค์ ทวีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว 

“ทุกคนตามข้ามา พวกเราจะไปที่ห้องประชุม!” 

เสียงขององค์จักรพรรดิดังกึกก้องไปทั่วทั้งพระราชวัง 

เมื่อได้ยินเสียงนี้ ทั้งกู่ฉิงซานและองค์จักรพรรดินีต่างก็หันมามองหน้ากัน 

เวลานี้ มันสายเกินไปแล้วที่จะวิ่งหนี และทั้งคู่ก็ต้องการที่จะเห็นเหมือนกันว่าเจ้าของเสียงที่กำลังจะมาถึงเป็นเช่นไร 

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินขบวนเข้ามาในโถงทางเดินที่เต็มไปด้วยเลือด 

โดยมีองค์จักรพรรดิที่สวมเสื้อคลุมยาว บนใบหน้ามืดมนหม่นทะมึนเดินนำอยู่หน้าสุด

 พร้อมด้วยองครักษ์วังนับสิบที่ติดตามเขามา 

เจ้าชายกับเจ้าหญิงก็มาเช่นกัน ทั้งสองคอยตามอยู่ท้ายแถวอย่างใกล้ชิด 

เมื่อองค์จักรพรรดิเห็นกู่ฉิงซาน เขาก็ชี้ไปยังอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว “จงจับเขามาให้ข้า!” 

กู่ฉิงซานกวาดจิตสัมผัสเทวะออกไปสองทิศทาง หนึ่งบนร่างขององค์จักรพรรดิตรงหน้า และอีกหนึ่งไปทางใต้โต๊ะขนาดใหญ่เบื้องหลังเขา 

และพบว่าองค์จักรพรรดิยังคงนอนแน่นิ่ง สิ้นสติอยู่ใต้โต๊ะดังเดิม 

ภายในห้องประชุม ปรากฏสององค์จักรพรรดิขึ้นในเวลาเดียวกัน! 

ตามบัญชาขององค์จักรพรรดิ กลุ่มทหารเร่งฝีเท้า วิ่งผ่านโถงทางเดินเข้ามา 

องครักษ์เหล่านี้ล้วนมีความแข็งแกร่งในขั้นสามและสี่ เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา 

องครักษ์หลายสิบคนเริ่มตีวงห้อมล้อมเขา 

กู่ฉิงซานรู้สึกปวดหัวเมื่อต้องพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้ 

พวกรัฐมนตรีขั้นห้าก่อนหน้า เห็นได้ชัดว่าเป็นตัวปัญหา กู่ฉิงซานจึงไม่ลังเลที่จะสังหารอีกฝ่าย 

แต่องครักษ์เหล่านี้คือผู้บริสุทธิ์ 

แต่หากเมื่ออีกฝ่ายเริ่มลงมือแล้ว กู่ฉิงซานก็คงไม่จำเป็นต้องแสดงความเมตตาใดๆ อีกต่อไป 

…อย่างไรก็ตาม จนแล้วจนรอด เขาก็ยังไม่เต็มใจที่จะฆ่าคนบริสุทธิ์และอ่อนแอง่ายๆ อยู่ดี 

จักรพรรดินีรู้สึกว่าเธอกำลังจะเป็นบ้า หล่อนคว้าจับมือของกู่ฉิงซานและกล่าวว่า “นี่มันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ ที่ว่าเขามีร่างโคลนหลายคน?” 

กู่ฉิงซานขบคิด ก่อนจะยกดาบพิภพขึ้น โอบเธอจากเบื้องหลังพร้อมกับวางคมของมันลงบนคอของเธอ 

เขาเฝ้ามองดูกลุ่มองครักษ์วังที่ใกล้เข้ามา พร้อมตะโกนออกไป “ทุกคนอย่าขยับ! หากเข้ามาใกล้อีกก้าวเดียว ผมจะฆ่าจักรพรรดินีซะ!” 

องครักษ์ทั้งหมดแข้งขาแข็งค้าง หยุดฝีเท้าลงอย่างกะทันหัน 

จักรพรรดินีถูกใช้เป็นตัวประกัน จึงไม่มีใครกล้าที่จะทำอะไรบุ่มบ่าม 

พวกเขาสบตากัน และหันไปมองฝ่าบาท 

สีหน้าขององค์จักรพรรดิก็แข็งค้างเช่นกัน แต่ทว่าในช่วงเวลาต่อมา มันก็ถูกแทนที่ด้วยความดุร้ายเกรี้ยวโกรธ 

เขาตะโกน “จักรพรรดินีนั่นเป็นตัวปลอม! ข้าขอสั่งให้พวกเจ้าสังหารหมู่ทั้งสองคนนั้นซะ!” 

องครักษ์ลังเล 

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์มาถึงขั้นปฏิเสธที่จะประนีประนอม เจ้าหญิงเจ้าชายที่อยู่เบื้องหลังก็แหวกฝูงชนออกมา 

“ไม่นะ นั่นมิใช่ตัวปลอม นั่นคือท่านแม่ของข้าจริงๆ!” เจ้าหญิงอุทาน 

“อย่ามาทำตัวไร้สาระที่นี่ แล้วก็จงหุบปากที่เปล่งวาจาไร้ความรับผิดชอบนั่นลงซะ” องค์จักรพรรดิกล่าว 

“นั่นคือท่านแม่ของข้า! ข้าคุ้นเคยกับทุกๆ การเคลื่อนไหวของนางดี นั่นต้องเป็นท่านแม่ข้าแน่ๆ ห้ามลงมือนะ!” เจ้าหญิงเริ่มกระวนกระวายและร่ำไห้ 

“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว! ใครก็ได้มาช่วยข้าสังหารพวกมันที!” องค์จักรพรรดิเอ่ยบัญชา 

ทว่าในตอนนั้นเอง จักรพรรดินีก็แสยะยิ้มเย้ยหยันออกมา “องครักษ์ทั้งหมดจงฟังคำสั่งข้า จงสังหารมนุษย์ที่แสร้งปลอมตัวเป็นองค์จักรพรรดิที่อยู่เบื้องหน้าพวกเจ้าเสีย!” 

องครักษ์งง ตอนนี้ทั้งหมดไม่รู้แล้วว่าตนสมควรจะทำสิ่งใดดี 

กู่ฉิงซานเอื้อมมือของเขาออกมาและโต๊ะตัวใหญ่ก็ถูกผลักออกไปอย่างกะทันหัน 

ร่างของชายสิ้นสติ ปรากฏตัวต่อสายตาทุกผู้คน 

นั่น องค์จักรพรรดิแห่งฟูซ๊! 

กู่ฉิงซานผละดาบที่วางรอบคอของจักรพรรดินีออก และชี้มันไปทางองค์จักรพรรดิในโถงทางเดิน 

“แกนั่นแหละเป็นตัวปลอม” เขากล่าว 

“ข้าน่ะรึตัวปลอม?” องค์จักรพรรดิหัวเราะ 

พระองค์ปลดปล่อยพลังอำนาจทั้งหมดออกจากร่างกาย และตลอดทั้งพระราชวังก็สั่นไหว 

มือของกู่ฉิงซานวูบไหวอย่างรวดเร็ว 

ทันใดนั้นดาบพิภพก็แปรเปลี่ยนเป็นภาพติดตา พุ่งข้ามผ่านเหล่าองครักษ์ หันปลายแหลมทิ่มแทงไปยังทิศทางขององค์จักรพรรดิ 

“ช่างโง่เขลา!” 

ชั้นแสงเรืองรองสีเทาปรากฏขึ้นบนมือองค์จักรพรรดิ ฟาดตบลงบนดาบพิภพ 

ปัง!

บังเกิดเสียงหนักทึบ ดาบพิภพถูกรั้งไว้โดยแสงสีเทา 

นี่คือทักษะของธาตุดินจากธาตุทั้งห้าในขั้นห้า สรรพสิ่งล่มสลาย! 

“กับอีแค่...” องค์จักรพรรดิเอ่ยปาก ทว่าเสียงของเขาก็กลับขาดห้วงลงอย่างฉับพลัน 

เริ่มปรากฏสายโลหิตทั้งห้าออกมาจากมือของเขา 

ตามต่อด้วยร่างขององค์จักรพรรดิที่ถูกระเบิดออก บังเกิดหมอกโลหิตพร้อมซากร่างกระจัดกระจายไปทั่ว 

มือของกู่ฉิงซานวูบออก และดาบพิภพก็ลอยกลับเข้ามาหาเขาอย่างเงียบๆ 

บงการดาบ! 

เทคนิคลับแห่งดาบ ประทับดารา! 

“เสียใจด้วยนะ แต่ถ้าหากแกไม่สามารถทนรับมือกับกระบวนท่าของฉันได้ นั่นก็พอจะบอกได้แล้วว่าแกนั่นแหละคือตัวปลอม!” กู่ฉิงซานกล่าว 

“พวกเจ้าเห็นหรือไม่? ฝ่าบาทตัวจริงจะอ่อนแอถึงเพียงนี้เชียวหรือ?” จักรพรรดินีเปล่งเสียงสูง

 องครักษ์วังหันมามองหน้ากันด้วยความตกใจ 

ดูเหมือนว่านี่จะเป็นความจริง พวกเขานั้นคุ้นเคยกับพลังอำนาจของฝ่าบาทดี และมันมิได้ไร้ประสิทธิภาพถึงเพียงนี้!

 “ขอองค์จักรพรรดินีทรงประทานอภัย” 

เหล่าองครักษ์คุกเข่าลง 

เจ้าชายกับเจ้าหญิงรีบวิ่งเข้ามาในห้องประชุม หยุดอยู่เบื้องหน้าจักรพรรดินี 

“ท่านแม่ นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่?” เจ้าชายเอ่ยถาม 

“มีใครบางคนแสร้งปลอมตัวเป็นบิดาเจ้า แล้วพยายามที่โค่นล้มสาธารณรัฐฟูซี และตอนนี้ก็ถูกจับได้แล้ว” จักรพรรดินีกล่าวสรุปง่ายๆ 

“ใครก็ได้ เรียกองครักษ์ทั้งหมดมาที” เธอเอ่ยสั่ง 

“ระวัง!” ในขณะนั้นเอง กู่ฉิงซานก็ตะคอกคำหนึ่ง 

นั่นเพราะเจ้าชายคว้ากริชปลายแหลมออกมา และจ้วงแทงเข้าใส่จักรพรรดินีอย่างแรง 

ฉากนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และทุกคนไม่มีเวลามากพอที่จะช่วยเหลือเธอได้ 

ฟุ่บ! 

ร่างของจักรพรรดินีหายวับไป ตามด้วยกู่ฉิงซานที่ปรากฏขึ้นแทนที่ เขายกดาบขึ้นปัดกริชแหลมจนมันกระเด็นลอยออกไป 

“แกเป็นใครกันแน่?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม 

“ให้ตายสิ รู้บ้างไหมว่าที่สิ่งที่เจ้าทำลงไปมันเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน” เจ้าชายเอ่ยอย่างรวดร้าว 

กู่ฉิงซานยกดาบขึ้นและกล่าวว่า “พูดจาให้มันชัดเจน ถ้าทำแบบนั้นฉันยังจะพอปล่อยให้แกมีชีวิตอยู่ต่อไปได้” 

บนใบหน้าของเจ้าชายเผยรอยยิ้มแปลกๆ ออกมา “อยากจะรู้อย่างนั้นเหรอ? แต่เสียใจด้วยนะข้าจะไม่บอกเจ้า” 

“ก็ลองดู ฉันจะทำให้แกพูดเอง!” กู่ฉิงซานเอ่ยเสียงหม่นทะมึน 

รอยยิ้มหยันผุดขึ้นบนใบหน้าของเจ้าชาย “เจ้าไม่มีโอกาสนั้นหรอก ยามนี้ข้าขอจากไปก่อน และจะต้องกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน!” 

ไม่ต้องรอให้กู่ฉิงซานจะได้ทันกระทำการสิ่งใด ร่างของเจ้าชายก็สิ้นเรี่ยวแรง ทิ้งตัวลงบนพื้น แน่นิ่งไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวใดๆ อีกต่อไป

กู่ฉิงซานรีบวิ่งไปข้างหน้า และบีบเปิดปากเจ้าชายออก 

ปรากฏให้เห็นถึงเลือดสีดำที่ไหลย้อยออกมาจากปากของเจ้าชาย 

เขาได้ฆ่าตัวตายไปแล้วโดยการใช้ยาพิษ 

กู่ฉิงซานมองไปที่ศพบนพื้นดิน ปากเอ่ยงึมงำ “บอกว่าจะกลับมาอย่างงั้นเหรอ?” 

หากคนตายต้องการจะกลับมา มันก็จะต้องเป็นสิ่งนั้น… 

สีหน้าของกู่ฉิงซานแปรเปลี่ยนกลับกลายไปอย่างสมบูรณ์ 

ถ้าหากเจ้าชายไม่ยอมพูดอะไรเลย กู่ฉิงซานก็คงจะไม่ได้รับแรงดลใจเช่นนี้ 

ทว่าเจ้าชายดันกล่าวประโยคนี้ ต่อหน้าผู้ที่ได้รับชีวิตใหม่จากการกลับมาจุติอีกรอบเช่นตนเอง…

 บางทีเขาคงจะคิดว่าหากเอ่ยออกไปแบบนั้น ย่อมไม่มีใครรู้ว่ามันหมายถึงสิ่งใด 

แต่สำหรับกู่ฉิงซาน เขาดันสามารถเข้าใจถึงมันได้ในทันที 

ภัยพิบัติเยือกแข็ง! 

มันปรากฏขึ้นแล้ว และมันอยู่ที่นี่! 

แถมองค์จักรพรรดิแห่งฟูซีก็ยังมีความคิดเช่นนั้น! 

กู่ฉิงซานถอนหายใจและส่ายหัว “ช่วงเวลาของวันสิ้นโลกกำลังจะมาถึงแล้ว…” 

มนุษย์ไม่สามารถต่อกรกับภัยพิบัติเยือกแข็งได้ 

ชายที่แข็งแกร่งขององค์จักรพรรดิฟูซี เดิมทีสามารถบัญชาให้ทั่วทั้งประเทศเข้าต่อสู้กับภัยพิบัติได้ แต่ทว่าเขากลับหลงผิด จมอยู่กับความทะเยอทะยานของตัวเอง 

นี่คือระเบิดที่จะนำไปสู่ชะตากรรมของโลกมนุษย์ทั้งใบ 

กู่ฉิงซานหยุดนิ่งอย่างกะทันหัน 

ในวิสัยทัศน์ของเขา ปรากฏเส้นแสงตัวอักษร ร้อยเรียงขึ้นมาหลายบรรทัด 

กู่ฉิงซานเลื่อนสายตาลงบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม 

“ผู้เล่นได้ค้นพบจุดเริ่มต้นของภัยพิบัติ” 

“เนื้อเรื่องจุดจบของโลกได้ปรากฏขึ้น” 

“คำอธิบายภารกิจ: เมื่อสัญญาณเตือนทั้งหมดถูกประสานเข้าด้วยกัน และผู้เล่นคิดว่าภัยพิบัตินี้ร้ายแรงมากพอที่จะทำลายโลกทั้งใบได้มาถึงแล้ว ดังนั้นขั้นต่อไป ขอจงพิสูจน์การคาดเดาของตัวคุณเอง” 

“วัตถุประสงค์ภารกิจ: ผู้เล่นจะต้องเป็นสักขีพยานในการดำรงอยู่ของภัยพิบัติด้วยตาของตัวเอง” 

“รางวัลภารกิจ: เมื่อการคาดเดาได้รับการยืนยันแล้ว ผู้เล่นจะสามารถใช้แต้มพลังวิญญาณ เร่งกระบวนการซ่อมแซมดาบเช่าหยินได้” 

“คำอธิบาย: แต้มพลังวิญญาณคืออำนาจขั้นพื้นฐานที่สุดของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล มันถือกำเนิดขึ้นจากจิตวิญญาณ ด้วยพลังอำนาจอันคงกระพันของมัน จะสามารถช่วยเร่งความเร็วในการซ่อมแซมอาวุธเทวะได้”

………………..………………..