miT
นี่ แม่พี่ตายเพราะช่วยผมตอนข้ามถนนจริงๆ เหรอ : 🐹
miT : ใช่
: ฮัน พี่ขอโทษนะ
พี่จะขอโทษผมทำไม พี่ไม่ผิดที่จะโกรธผมจริงๆ นะ : 🐹
พี่ไม่ผิดเลยที่จะต่อยผม :
ตอนนั้น ผมก็แค่เด็กเกินไป :
ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่พี่เป็นอะไร :
ผมรู้แค่ว่าพี่ต่อยผม :
ผมสิ ที่ต้องขอโทษ :
ผมขอโทษนะ พี่ทิม :
miT : ขอโทษ เหมือนกัน
: พี่คิดว่าเราจะไม่คุยกับพี่อีกแล้วซะอีก
ไม่พี่ ผมแค่ช็อกเฉยๆ : 🐹
miT : ขอบคุณนะ
ครับ? : 🐹
miT : ขอบคุณที่ไม่โกรธกันอีก
: เข้าไปได้ไหม
: เดี๋ยวเอาชีสเค้กไปให้
ครับ : 🐹
เดี๋ยวนะ :
พี่รู้ได้ไงว่าผมชอบกินชีสเค้ก :
miT : เดี๋ยวเข้าไป พี่จะเล่าทุกอย่างเลยครับ
: เปิดประตูหน่อย
👌🏼 : 🐹
จากนั้นฮันก็เปิดประตูให้ทิมเข้ามา แล้วทำไมทิมไม่เข้ามาเองล่ะเนี้ย ประตูไม่ได้ล๊อคด้วยซ้ำ อ่อ ถ้าถามว่าชาร์ลีหายไปไหนละก็อยู่ในห้องนั่นแหละ แต่แค่หลับไปแล้วเท่านั้นเอง หลังจากที่เข้ามาแล้วทิมก็ค่อยๆ เล่าเรื่องตามที่บอกเอาไว้
ฮันและทิมรู้จักกันเพราะโซลพาฮันมาที่ทำงานของพวกเขา โซลเป็นตากล้องของกองถ่ายที่ทิมทำงานถ่ายแบบด้วย การเจอกันครั้งแรกนับได้ว่าไม่ค่อยดีนัก เพราะฮันดันทำน้ำหกใส่ทิมที่เพิ่งจะเปลี่ยนชุดสำหรับถ่ายเซตต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ทิมเป็นคนใจดีกว่าที่คิดในตอนนั้นทิมไม่ได้ว่าอะไรฮันด้วยซ้ำ แถมยังถามฮันว่าเป็นอะไรไหมอีกด้วย
.
"โอ๊ย!" เสียงของใครบางคนดังขึ้นที่ข้างหลังของทิมที่ตอนนี้รู้สึกเหมือนมีอะไรเย็นๆ ที่หลังของเขา ทิมหันหลังกลับไปมองก็พบกับเด็กชายคนหนึ่งที่ลงไปนอนกองกับพื้น "เป็นอะไรไหมครับ" ทิมถามออกไปด้วยความเป็นห่วง ล้มลงไปขนาดนั้นคงเจ็บน่าดู "ไม่เป็นไรครับ" เด็กชายตอบ พร้อมกับค่อยๆ ลุกขึ้น "แต่เสื้อพี่" เด็กชายคนนั้นพูดพร้อมกับชี้มาที่ข้างหลังของทิม ไม่ต้องหันไปมองตอนนี้ทิมก็รู้แล้วว่าความรู้สึกเย็นๆ ที่ด้านหลังนี้คือน้ำที่เด็กชายคนนี้ทำหกใส่เขา
"ไม่เป็นไรหรอก ไปเปลี่ยนเสื้อเอาก็ได้" ทิมตอบ "แต่พี่ต้องถ่ายเซตนี้ด้วยเสื้อตัวนี้ไม่ใช่เหรอ" เด็กชายคนนั้นบอก "งั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน" ทิมเว้นจังหวะหายใจก่อนจะพูดต่อ "นายชื่ออะไร" "ฮันครับ" ฮันตอบด้วยน้ำเสียงสั่นๆ นี่ทิมดูน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ "โอเคฮัน เย็นนี้เราว่างไหม" ทิมถามออกไป "ครับ" "เลี้ยงข้าวฉันที" ทิมบอกก่อนจะเดินออกไปหาทีมสไตล์ลิส
"มีอะไรเหรอ" เสียงของเพื่อนสนิทของฮันกล่าวถามหลังจากเห็นเพื่อนของตนยืนคุยกับคุณนายแบบอยู่นาน "ไม่มีอะไรหรอกเกี๊ยว เราแค่ทำน้ำหกใส่เสื้อพี่เขาเอง" ฮันหันมาตอบ พอได้ยินดังนั้นโซลก็รีบจับตัวฮันพลิกไปพลิกมาราวกับตรวจสอบอะไรบางอย่าง "ทำอะไร" ฮันถามออกไปอย่างสงสัย "พี่เขาไม่ได้ทำอะไรนายใช่ไหม" โซลถาม "ไม่เลย พี่เขาแค่บอกให้เลี้ยงข้าวเขาด้วยน่ะ" "โอเค" โซลกล่าวพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ถ้าอย่างนั้นวันนี้เรากลับก่อนนะ" โซลพูดก่อนจะกลับไป ทิ้งให้ฮันต้องรอทิมถ่ายจนเสร็จและออกไปกินข้าวด้วยกัน
.
หลังจากที่ทั้งสองกินข้าวเสร็จและฮันกำลังจะจ่ายเงิน ทิมก็ดึงมือฮันไว้และจ่ายเองซะอย่างนั้น "ไหนบอกให้ผมเลี้ยงไง" ฮันถาม "จริงๆ ฉันแค่อยากได้คนกินข้าวด้วยน่ะ" ทิมตอบก่อนจะหันหลังกลับไปที่รถของตน "จะกลับไหม เดี๋ยวไปส่ง" ทิมหันกลับมาถามฮันก่อนจะเดินต่อไป
เมื่อทั้งสองคนขึ้นมาบนรถก็มีแต่ความเงียบ พอถึงที่หมายฮันก็หันกลับมาบอกทิมว่า "ถ้าอย่างนั้นให้ผมกินข้าวด้วยทุกวันเลยดีไหมครับ แต่หารกันจ่ายนะ" จากนั้นฮันก็ออกจากรถไปทันที
หลังจากนั้นทั้งสองก็มากินข้าวด้วยกันทุกวันหลังจากที่ทิมเลิกงาน แต่วันนี้ต่างออกไปเล็กน้อย เพราะวันนี้คือวันเกิดของทิมนั้นเอง
miT
miT : วันนี้ไม่มาเหรอฮัน
ครับ : 🐹
พอดีผมไม่สบายน่ะ :
miT : เป็นอะไรหรือเปล่า ให้พี่ไปหาไหม
ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวก็หาย : 🐹
วันนี้พี่คงต้องกินข้าวคนเดียวนะครับ :
miT : ไม่เป็นไร พี่กินคนเดี๋ยวได้
: หายเร็วๆ นะ
ครับ ตั้งใจทำงานนะ : 🐹
ใช่ ทั้งหมดที่พิมพ์ไปฮันโกหก เขาไม่ได้ไม่สบาย แต่ความจริงแล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งเพื่อจะซื้อของขวัญวันเกิดให้กับทิมต่างหาก
หลังจากเลือกอยู่นานฮันก็ตัดสินใจซื้อตุ๊กตาแฮมสเตอร์ตัวหนึ่งให้ ก็ทิมนั่นแหละ ทำไมถึงชอบเรียกเขาว่าแฮมสเตอร์กันนะ ไม่เห็นจะเหมือนตรงไหนเลย
ระหว่างที่กำลังรอสัญญาณไฟจราจร ฮันที่เห็นว่าตอนนี้รถโล่งแล้วและตอนนี้ก็ถึงเวลาเลิกงานของทิมพอดีจึงตัดสินใจเดินข้ามถนนไปทั้งๆ ที่ตอนนี้สัญญาณไฟจราจรยังเป็นสีเขียว แต่ในขณะที่ฮันกำลังข้ามถนนอยู่นั้นก็มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งวิ่งตรงมาทางฮัน
.
พอเล่ามาถึงตรงนี้ทิมก็เงียบไปทันที ฮันสังเกตได้ว่าตอนนี้ทิมตาเริ่มแดงขึ้นราวกับกำลังกลั้นน้ำตาของตนไม่ให้ไหลลงมา
"พี่ไม่ต้องเล่าต่อก็ได้นะ" ฮันบอก "ไม่ พี่อยากให้เราได้รู้เรื่องทั้งหมด" จากนั้นทิมก็เล่าต่อ
.
รถจักรยานยนต์คันนั้นพุ่งเข้ามาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ฮันตัวแข็งทื่อไปหมด ขยับไปไหนไม่ได้ แต่อยู่ฮันก็รู้สึกเหมือนมีแรงผลักเขาอย่างแรง หันไปก็เจอกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ตอนนี้ถูกจักรยานยนต์คันนั้นพุ่งชนจนร่างกระเด็นออกไป ฮันที่รู้สึกตัวก็รีบวิ่งออกไปดูผู้หญิงคนนั้นต่างกับเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ขับหนีออกไปไกลแล้ว
เมื่อฮันมองหน้าผู้หญิงคนนี้ดีๆ ฮันก็ถึงกับน้ำตาไหลออกมา เมื่อคนที่ช่วยเขาเอาไว้คือแม่ของทิม ฮันรีบโทรเรียกรถพยาบาลและโทรทิมทันที เมื่อมาถึงโรงพยาบาลทิมก็รีบวิ่งมาหาฮันทันที
"เป็นอะไรหรือเปล่าฮัน" ทิมถาม "ไม่เป็นไรครับ แต่แม่พี่" ฮันยังตอบไม่จบทิมก็ถามต่อทันที "มันเกิดอะไรขึ้นฮัน" หลังจากได้ยินคำถามนั้นฮันก็เล่าเรื่องทั้งหมด รวมถึงเรื่องที่เขาข้ามถนนทั้งๆ ที่ยังไฟเขียวอยู่ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่ของทิมต้องอยู่ในโรงพยาบาลตอนนี้ด้วย
เมื่อทิมรู้เรื่องก็ไม่ได้ตอบอะไรแต่ลงไปนั่งกับเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ แทน
ผ่านไปไม่นานนักหมอก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน
"ไม่ทราบว่าใครคือญาติของคุณธันยาการณ์ครับ" ทิมที่ได้ยินก็เด้งตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีแต่ก็ต้องทรุดลงไปนั่งที่พื้นแทนเมื่อได้ยินประโยคต่อไปที่หมอพูด "หมอเสียใจด้วยนะครับ คนไข้เสียชีวิตแล้วครับ" จากนั้นหมอก็แจ้งรายละเอียดต่างๆ แต่ตอนนี้ทิมไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ทิมพุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อของฮันพร้อมกับต่อยเข้าไปอย่างแรงจนฮันลงไปนอนกองกับพื้นตรงนั้น หมอและคนอื่นๆ ที่เห็นก็รีบวิ่งเข้ามาห้าม
ทำไมแม่ของเขาต้องตายในวันเกิดของเขาด้วยล่ะ แล้วทำไมต้องเป็นฮัน ทำไมต้องข้ามถนนแบบนั้น มันรีบขนาดนั้นเลยหรือไง ทำไมรถคันนั้นถึงไม่รับผิดชอบอะไรเลย ถ้าฮันไม่รีบข้ามถนนขนาดนั้นแม่ของเขาก็จะไม่ต้องตายใช่ไหม ตอนนี้ภายในหัวของทิมมีแต่คำถามเต็มไปหมด ทำไมกันนะ
.
เป็นอีกครั้งที่ทิมหยุดเล่าไป ฮันไปมองหน้าทิมก็เห็นว่าตอนนี้ทิมกำลังร้องไห้อยู่ นี่พี่เขาร้องไห้แบบไม่มีเสียงเหรอเนี้ย "พอแล้วพี่ ผมเข้าใจแล้ว ขอโทษนะ ผมอยู่นี่แล้ว ไม่ได้โกรธพี่แล้วนะ" ฮันพูดก่อนจะดึงผู้เป็นพี่เข้ามาในอ้อมกอด "ขอบคุณ" ทิมพูดออกมาทั้งๆ ที่ไม่มีเสียงแต่ฮันก็เข้าใจและกระชับกอดนั้นให้แน่นขึ้น