Can you start again
Chapter 07
[อลิส]
หาว ~ ปวดหัวตื้อเลยแฮะ สงสัยเมื่อคืนเหล้าที่กินมันคงแรงจริงๆ
หลังจากตื่นนอนก็จัดการทำความสะอาดร่างกายให้มันตื่นสักหน่อย แล้วเดี๋ยวค่อยทำอาหารกินแล้วกัน
ปกติแล้วฉันชอบทำอาหารกินเองมากกว่า เพราะว่าตอนนี้พ่อแม่ของฉันเขาอยู่ต่างจังหวัด ฉันที่เรียนจบก็เลยมาเรียนต่อที่นี่ บ้านของฉันก็ทำสวนทำไร่ธรรมดานี่แหละ เพราะงั้นเลยถูกแม่สอนให้ทำอาหารเองบ้าง ให้ไปช่วยงานในครัวบ้าง เลยทำให้ชินกับการทำอาหารเองมากว่าไปซื้อกิน
"ไหนดูสิ้ วันนี้ฉันจะทำอะไรกินดี"
หลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จก็เดินตรงมาที่ตู้เย็น ที่ในตอนนี้มันมีแค่หมู หมึก กุ้ง ที่ฉันเป็นคนแช่แข็งมันเอาไว้
"อืม วัตถุดิบใกล้จะหมดแล้ว วันนี้คงต้องออกไปช้อปสักหน่อยละนะ"
ฉันลงมือทำอาหารง่ายๆ อย่างข้าวผัดทะเล ซึ่งเมนูนี้เป็นเมนูที่ฉันชอบมากที่สุด
"ป่านนี้ยัยมะปรางจะตื่นหรือยังก็ไม่รู้"
คว้าโทรศัพท์กดเบอร์โทรหาเพื่อนสนิททันที
(ฮัลโหลลิสว่าไง)
"ตื่นอาบน้ำยังมากินข้าวกัน"
(เอ่อ คือฉันกินแล้วแก นี่กำลังกลับห้อง)
"กำลังกลับห้อง? เมื่อคืนไม่ได้กลับห้องเหรอ"
(เอ่อ คือเดี๋ยวเล่าให้ฟัง ใกล้ถึงคอนโดแล้ว)
"โอเค มีคีการ์ดใช่ไหม"
(มีๆ เอามาอยู่ เจอกันที่ห้อง)
หลังจากวางสายได้ไม่นานก็ลงมือทานอาหาร ยัยมะปรางนะยัยมะปรางรู้แบบนี้น่าจะถามก่อนซะก็ดี ดูสิทำอาหารรอเก้อเลย ข้าวผัดทะเลของแม่เป็นหมันแล้วสินะ
ตักข้าวเข้าปากไปมือก็ไถโทรศัพท์ไป สายตาก็เหลือบไปเห็นข้อความของพี่ไลก้าพอดี
(ตื่นหรือยังครับ)
"ตื่นได้สักพักแล้วค่ะ ทานอะไรหรือยังคะ"
(ยังครับพี่พึ่งแต่งตัวเสร็จ)
"ถ้าไม่รังเกียจมาทานข้าวด้วยกันไหมคะ ลิสทำข้าวผัดทะเล"
(ยินดีครับ)
"ลิฟต์ตัวไหนทักมานะคะ ลิสจะได้ไปกดรอ"
เมื่อก่อนที่ยัยมะปรางมันจะมาที่ห้องก็ใช้วิธีนี้นี่แหละ ลิฟต์ของคอนโดจะมีฝั่งละสองตัว ถ้าพี่เขาลงมาจากชั้นบนลิฟต์หมายเลขหนึ่งฉันก็จะไปกดลงที่ชั้นของตัวเอง เป็นวิธีการง่ายๆ ประหยัดเวลาอีกต่างหาก
แต่ตอนนี้ฉันกับยัยปรางเราสองคนต่างแลกคีย์การ์ดกันไว้แล้ว คราวนี้เวลาฉันอยากไปหาหรือว่ามันอยากมาหาก็แค่ส่งข้อความบอกกัน
(พี่ลงลิฟต์หมายเลขสองครับ)
ลงงั้นเหรอ แสดงว่าพี่เขาอยู่ชั้นบนสินะ
"ค่ะ ลิสกดลิฟต์ลงแล้ว"
ติ๊งง~
ประตูลิฟต์เปิดออกเผยให้เห็นรูปร่างของพี่ไลก้าที่ตอนนี้ใส่แค่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงสีครีมธรรมดา นี่ขนาดแต่งตัวด้วยเสื้อยืดยังหล่อขนาดนี้ เวลาใส่สูทผูกไทไม่ต้องพูดถึง ตาค้างยิ่งกว่ากินกาแฟอีกละมั้ง
"เชิญค่า"
ทีแรกที่ชวนนี้ฉันไม่คิดด้วยซ้ำว่าพี่เขาจะยอมมากินข้าวด้วย แต่ก็นะเผื่อฟลุ๊ค แต่ก็ดันฟลุ๊คจริงๆ ที่พี่เขามา
"ไม่รู้พี่จะกินได้ไหมนะคะ ลิสทำไว้เยอะเลยเผื่อยัยปรางด้วย แต่มันดันกินไปแล้ว"
"ขอบใจนะ หน้าตาใช้ได้เลย"
"ขอบคุณค่ะ ทานเลยนะคะไม่ต้องเกรงใจ"
เดินมาฝั่งตรงข้ามก่อนจะนั่งทานอาหารเช้าที่เกือบจะเที่ยงแล้ว ในใจก็แอบหวังลึกๆ ว่าเขาจะชอบฝีมือการทำอาหารของฉัน
"อร่อยอยู่นะ เหมือนแม่พี่ทำเลย"
"จริงเหรอคะ ถ้างั้นทานเยอะๆ หนูทำไว้เต็มเลย"
ทำไว้เยอะจริงแหละ เพราะคิดว่าวันนี้ต้องออกไปซื้อของเข้าตู้เย็นเลยกะจะเคลียร์ตู้ไปด้วย เลยจัดหนักจัดเต็มทำอาหารอย่างกับกินทั้งครอบครัว
"ทำไมทำเยอะ"
"อ๋อ พอดีวันนี้ว่าจะออกไปซื้อของเข้าตู้เย็นหน่อย เลยเอาที่เหลือมาทำอาหารค่ะ แล้วก็คิดว่าเพื่อนอยู่ที่ห้องด้วยปกติก็ทำเผื่อมันตลอด แต่เมื่อเช้ามันดันกินไปแล้วหนูก็ไม่ได้ถามด้วย"
ร่ายซะยาว แถมยังติดเรียกแทนตัวเองว่าหนูอีก เป็นผลพวงมาจากที่บ้านฉันแทนตัวเองแบบนั้น เวลาคุยกับคนที่อายุมากกว่ามันเลยติด
"เอ่อ ขอโทษค่ะขอใช้สรรพนามเรียกแทนตัวเองว่าหนูนะคะ พอดีติดเรียกเวลาคุยกับคนที่อายุมากกว่าน่ะค่ะ เรียกแทนด้วยชื่อไม่ค่อยชินเท่าไหร่"
"ครับ แทนตัวเองว่าอะไรก็ได้ พี่ไม่ถือ แต่พี่ชอบนะที่เราแทนตัวเองว่าหนู"
"ฮ่าๆ ใช่ไหมล่ะคะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ หนูจะพยายามหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับคนที่อายุมากกว่า เพราะเวลาเรียกแทนตัวเองแบบนั้นมักจะโดนหัวเราะใส่ตลอดเลย หลังจากนั้นเลยพยายามแทนด้วยชื่อแต่มันดันรู้สึกแปลก"
ใช่แล้วล่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันต้อง พยายามหลีกเลี่ยงจริงๆ ไม่รู้ว่าทำไมเวลาแทนตัวเองแบบนั้นมักจะมีสายตาแปลกๆ มองมาที่เธอทุกที
"เอาเป็นว่า พี่ชอบ ให้เราแทนตัวเองแบบนั้นแหละ มันดูน่ารักดี"
สายตา ท่าทางคำพูดของเขา ทำเอาใจฉันเต้นแรงอีกแล้ว ขาเน้นคำว่าพี่ชอบด้วยอะ พี่จะน่ารักไปถึงไหนกันคะ หัวใจน้องก็มีอยู่แค่นี้