webnovel

ตอนที่ 255

ตอนที่ 255 ถูกฆ่าตาย

"เธอยังจำผมได้ไม่ลืมงั้นเหรอ" ท่าทางเช่นนั้นของเสิ่นอี้ ยากจะพรรณนาเสียเหลือเกิน 

เย่หนิงส่งเสียงเหอะ "ก็เป็นอย่างนั้นล่ะ เธอเองบอกอย่างนี้ บอกซ้ำๆ ว่าคุณเป็นคู่หมั้นของเธอ คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะจำไม่ได้"

"ผมจำไม่ได้จริง" เสิ่นอี้ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี "ผมไปมีคู่หมั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้ามีผมจะจำไม่ได้เชียวเหรอ" 

"เหอะ งั้นทำไมเธอถึงจำคุณได้ล่ะ ทั้งยังจำคุณได้ไม่ลืม เอาแต่พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเป็นคู่หมั้นของคุณ" เย่หนิงมองเสิ่นอี้เหยียดๆ

"คู่หมั้นของผมงั้นเหรอ" เสิ่นอี้ตกตะลึง "ผมไปมีคู่หมั้นตอนไหน" 

"ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ คนอื่นพูดกับฉันแบบนี้นี่นา!"

"ผมไม่มีจริงๆ!" เสิ่นอี้ไม่รู้ว่าเรื่องรู้ราวเป็นอย่างไรกันแน่ "เธอพูดจาเหลวไหล คุณก็เชื่องั้นเหรอ ผมไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้นจริงๆ ครับ" 

"จริงเหรอ...แต่ทำไมฉันถึงได้ยินมาว่า คนคนนั้นบอกว่าท่านอ๋องมอบลูกสาวให้คุณ" เย่หนิงมองเขาอย่างเหยียดๆ ต่อไป

"อ๋อ" เสิ่นอี้ตกตะลึง จู่ๆ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป "เป็นเธอนี่เอง" 

เย่หนิงร้องเหอะ "คิดออกแล้วงั้นเหรอ" 

"เธอบอกว่าเธอชื่ออะไรนะ มู่หรงอะไร?" 

"มู่หรงซี! มู่หรงซี! จำได้หรือยัง" 

เสิ่นอี้ยิ้มขื่น "คิดออกแล้ว...ผมว่า...เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งพันกว่าปีมาแล้ว คุณจะทดสอบความจำของผมงั้นเหรอ"

“เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งพันกว่าปีก่อน" เย่หนิงมองเสิ่นอี้ 

"ระยะเวลาที่นานกว่าหนึ่งพันปี" เสิ่นอี้ยิ้มขื่นพลางส่ายหน้า "ขนาดชื่อผมก็ใกล้จะจำไม่ได้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าหน้าตาของเธอเป็นอย่างไร" 

พูดถึงตรงนี้เสิ่นอี้เองยังรู้สึกสงสัยเล็กน้อย "คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะยังไม่ตาย ปีนั้นไม่ใช่ว่าฮ่องเต้กวาดล้างไปหมดแล้วหรือไง...เธอ เธอยังมีชีวิตอยู่อีกงั้นเหรอ"

เย่หนิงฉีกยิ้มเงียบๆ "คาดไม่ถึงใช่ไหมล่ะ ตกใจและดีใจมากไหมล่ะ"

"พอแล้วครับ เสี่ยวหนิง คุณเองก็อย่ามาล้อผมเล่นสิ ตอนนี้ในสมองของผมยังสับสนอยู่เลย..." เสิ่นอี้เองก็ถามเย่หนิง "คุณบอกว่าฉินเฉาฮุ้ยมีผู้หญิงที่ชื่อซีซาน่าอยู่ข้างกาย ซึ่งความจริงแล้วคือมู่หรงซี ชื่อมู่หรงซีจริงๆ งั้นเหรอ"

"ใช่ค่ะ เธอเองก็พูดอย่างนี้ แล้วอีกอย่างเธอยังบอกฉันว่า เธอจะแต่งงานกับคุณ ท่านอ๋องหมั้นพวกคุณเอาไว้แล้วด้วยใช่ไหมคะ!"

"ใช่กับผีสิครับ! ใครจะไปแต่งงานกับเธอ พูดจาเหลวไหลทั้งนั้น!" เสิ่นอี้ทั้งอารมณ์ดีและรู้สึกตลก "เสี่ยวหนิง เธอพูดจาเหลวไหลอย่างนี้กับคุณ คุณก็ยังจะเชื่ออีกงั้นเหรอ"

"ฉันอยากจะไม่เชื่อ แต่......" เย่หนิงก้มหัวลง แล้วพูดออกมาอย่างกลัดกลุ้มใจว่า "เรื่องของคุณ เดิมทีฉันก็ไม่รู้อะไรเลยอยู่แล้ว และอีกอย่าง คุณเองก็ไม่ได้บอกฉันเกี่ยวกับเรื่องของผู้หญิงคนอื่นๆ...พอฉันถามคุณ คุณก็ไม่บอก พอคนอื่นพูดอย่างนั้น ฉันจะไม่เชื่อได้อย่างไรล่ะ!"

"ผม......" เสิ่นอี้ถอนหายใจ พูดว่า "เสี่ยวหนิง ผมไม่ได้ปิดบังคุณจริงๆ เพียงแต่เรื่องนั้นผมไม่รู้ว่าควรบอกกับคุณยังไงดี ผมกลัวว่าคุณจะรับไม่ได้"

"เหอะ อะไรที่เรียกว่ารับไม่ได้ คงไม่ใช่เรื่องที่มีคู่หมั้นที่รักกันมาหลายปีใช่ไหม"

"อะไร เรื่องนี้มู่หรงซีคนนั้นก็บอกคุณด้วยงั้นเหรอ?" 

"เธอบอกว่าคุณกับพี่สาวของคุณหมั้นกันเอาไว้แล้ว และกำลังจะแต่งงานกัน หรือว่าไม่ใช่ล่ะคะ" 

เสิ่นอี้พูดอย่างจนปัญญา "มีเรื่องอย่างนั้น"

"มีเรื่องอย่างนั้นงั้นหรอคะ" เย่หนิงกัดฟัน ปัญหานั้น ที่แท้เป็นอย่างนี้จริงๆ มาโดยตลอด สิ่งที่ติดข้างอยู่ภายในใจของเธอ เธอคิดว่าถ้าไม่ถามให้ชัดเจน เธอต้องนอนไม่หลับอย่างแน่นอน 

"งั้น…งั้นเธอล่ะ คู่หมั้นคนนั้นของคุณ" เย่หนิงไม่กล้าเงยหน้ามองเสิ่นอี้ แม้ว่าในคำพูดของมู่หรงซี ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเรื่องโกหกเสียหมด แต่มีเพียงหนึ่งเรื่องที่เป็นความจริง

สัญชาตญาณของเธอบอกเธอว่า เรื่องนั้นต้องเป็นความจริงอย่างแน่นอน

นั่นคือการตายของพี่สาวของมู่หรงซี 

ผีดิบสาวตนนั้น คู่หมั้นคนนั้นของเสิ่นอี้ คงจะตายด้วยน้ำมือของคนตระกูลเย่ 

ถึงแม้ว่าในประโยค 100 ประโยคของมู่หรงซีจะมีประโยคโกหกอยู่ 99 ประโยค ถึงยังไงประโยคนี้...ก็ต้องเป็นความจริงอย่างแน่นอน! 

เย่หนิงรู้สึกว่าประโยคนี้ต้องเป็นความจริงอย่างแน่นอน

"เสี่ยวหนิง" เสิ่นอี้ค่อยๆ พูดอย่างช้าๆ ว่า "เรื่องนี้ ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดหรอก" 

"เธอตายยังไงคะ” เย่หนิงเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นอี้ พลางถามว่า "เธอถูกนักล่าผีดิบฆ่าตายใช่ไหมคะ" 

เสิ่นอี้พยักหน้า "ช่างมันเถอะครับ" 

"ใคร คนที่ฆ่าเธอ คือใคร" เย่หนิงยิ้มเย้ยหยัน "แซ่เย่ใช่ไหมคะ" 

สีหน้าของเสิ่นอี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย "เสี่ยวหนิง เรื่องนี้มู่หรงซีก็บอกคุณงั้นเหรอ" 

เย่หนิงมองเสิ่นอี้ แล้วค่อยๆ ถามอย่างช้าๆ ว่า "คุณแค่บอกฉันว่าใช่หรือไม่ใช่" 

เสิ่นอี้ถอนหายใจ พยักหน้า โดยที่ไม่พูดอะไร 

เย่หนิงฉีกยิ้มอย่างขมขื่น "ฉันก็รู้...ฉันก็รู้ค่ะว่า..." 

"ไม่! เสี่ยวหนิง! คุณไม่รู้!" เสิ่นอี้ตัดบทคำพูดของเย่หนิง แล้วพูดว่า "คุณไม่ต้องไปฟังเธอ ไม่ต้องพูด...แล้วฟังผมให้จบ ก็จะรู้ว่าเองเกิดเรื่องอะไรขึ้น! ใช่ ผมกับมู่หรงชิงเคยหมั้นกัน! ท่านอ๋องและพ่อของผมให้พวกเราหมั้นกัน แต่ผมไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอ ดังนั้นตอนที่ผมยังเด็กมากๆ ก็หนีออกไปจากบ้านเสียแล้ว!"

เย่หนิงอดตกใจขึ้นมาไม่ได้ "อะไรนะคะ" 

"ผมบอกว่า ผมไม่อยากแต่งงานกับมู่หรงชิง ดังนั้น ผมจึงหนีออกจากบ้าน! หลังจากนั้นพอทราบข่าวว่าท่านอ๋องถูกลอบสังหาร ผมถึงได้รีบกลับมาที่บ้าน ทว่าน่าเสียดายผมกลับมาช้าเกินไป ช่วยใครไม่ได้เลย...ขนาดทหารของทางการยังรอซุ่มโจมตีอยู่ใกล้บ้านของผมก่อนหน้า พอผมรู้ ก็ถูกพวกเขาตามฆ่าเสียแล้ว ผมหลบซ่อนอยู่กลางป่าเขามาโดยตลอด หลังจากนั้นก็ถูกลูกศรจนได้รับบาดเจ็บ แล้วตกจากหน้าผา...เมื่อผมฟื้นขึ้นมา ก็ผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว..." 

"พอผมตื่นขึ้นมาเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปนานมากแล้ว ทั้งยังไม่รู้ว่าต้องทำอะไร กระทั่งไม่รู้ว่าตนเองตายหรือมีชีวิตอยู่ ขนาดว่าตนเองเปลี่ยนไปเป็นตัวอะไร ผมก็ไม่รู้อะไรทั้งนั้น ไม่ต้องพูดถึงว่าต้องทำอะไร ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฮ่องเต้ยกเลิกคำสั่งไปแล้วหรือยัง ดังนั้นผมจึงหลบอยู่กลางป่าเขาไม่กล้าออกไปมาโดยตลอด นานมากผมถึงค่อยๆ รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตนเอง รู้ว่าตนเองเปลี่ยนไปเป็นอะไร ตอนนั้นผมยังรู้สึกอยากตายมากๆ ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่าถึงอยากตายก็ตายไม่ได้" 

เสิ่นอี้พูดจนถึงตรงนี้ เขาฉีกยิ้มเย้ยหยันพลางส่ายหน้า "น่าสมเพชมากใช่ไหม" 

หัวใจของเย่หนิงคล้ายกับถูกฉีก "งั้น งั้นหลังจากนั้นล่ะคะ" 

"หลังจากนั้น หลังจากนั้นซีเหมินถิงหาผมเจอ ผมถึงรู้ว่าข้างนอกนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น" 

"ซีเหมินถิงหาคุณเจอหรอคะ" เย่หนิงรู้สึกตกใจอย่างมาก

"ใช่ครับ! เขารู้ว่าผมเกิดเรื่องอยู่ใกล้ๆ นี้ ดังนั้นก็เลยมาหาผมที่นี่ หามาหลายปีในที่สุดก็หาผมเจอ" 

"งั้น งั้น งั้นเขาในตอนนั้น..." 

เสิ่นอี้พยักหน้า "เขาในตอนนั้นก็กลายเป็นผีดิบแล้วเหมือนกัน เปรียบกันแล้วช้ากว่าผมมาก ฮ่องเต้สั่งคนไล่ตามฆ่าพวกเรา ตลอดมาไม่เคยรามือ เวลานั้นซีเหมินถิงหนีไปหลายที่ ตามหาท่านอ๋องไปทั่วทุกที่ ทั้งยังนำจดหมายที่พ่อฝากเอาไว้มาให้กับผม!"

"ตอนที่พ่อของผมตามท่านอ่องเข้าไปในเมืองหลวง ท่านก็รู้อยู่แล้วว่าต้องถูกฆ่าอย่างแน่นอน ดังนั้นถึงได้ทิ้งจดหมายให้ผมเอาไว้ก่อนหน้านี้ ท่านฝากจดหมายให้ซีเหมินถิงมาโดยตลอด หลังจากที่เขารู้ว่าผมเกิดเรื่องก็ตามหาผมไปทั่วทุกที่!”