webnovel

ตอนที่ 256

ตอนที่ 256 คุณไม่รู้จักเธอจริงๆ

เสิ่นอี้พูดจนถึงตรงนี้ ทันใดนั้นเสียงก็เงียบลง สีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย บางทีเขาอาจจะกำลังคิดย้อนกลับไปยังเรื่องเมื่อปีนั้นอยู่ก็ได้ 

เห็นเสิ่นอี้เป็นเช่นนี้ เย่หนิงอดรู้สึกปวดใจขึ้นมาไม่ได้ เธอโอบกอดเขา

เสิ่นอี้ลูบผมของเย่หนิงเบาๆ แล้วพูดอย่างช้าๆ ว่า "ท่านอ๋องถูกใส่ร้าย พวกเราต่างก็รู้กันทั้งนั้น ผมก็รู้ว่าพ่อของผมเป็นคนที่ท่านอ๋องสนิทและไว้เนื้อเชื่อใจ การตามหาท่านอ๋องอาจกล่าวได้ว่าเป็นความปรารถนาสุดท้ายของพ่อ! เรื่องนี้พ่อของผมทำไม่ได้ ปกติแล้วจึงเป็นผมที่ต้องทำให้สำเร็จ! ดังนั้นผมก็เลยรับปากคนพวกนั้นว่าจะช่วยตามหาท่านอ๋อง กลับไม่คิดว่าการตามหาครั้งนี้จะต้องตามหาเกือบหนึ่งพันปี" 

เย่หนิงอดพูดขึ้นมาไม่ได้ "แต่ก็ยังดีที่พวกคุณหาเจอ" 

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม "นี่ก็ไม่ใช่ความดีความชอบของพวกเรา มู่หรงชิงต่างหากล่ะที่เป็นคนหาเจอ"

"มู่หรงชิงหรอคะ" เย่หยิงกล่าวอย่างเป็นทุกช์ "นั่นไม่ใช่คู่หมั้นของคุณงั้นเหรอ" 

เสิ่นอี้ทั้งอารมณ์ดีและรู้สึกตลก เขาจับหูของเย่หนิง "พูดเหลวไหลอะไรครับ ยัยคนขี้หึง!"

เย่หนิงพูดค้าน ว่า "ฉันไม่ได้พูดจาเหลวไหลนะ แต่เดิมเธอก็คือคู่หมั้นของคุณนั่นแหละ!"

เสิ่นอี้พูดอย่างจนปัญญาว่า "ผมกับเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน! หลังจากที่หมั้นผมก็หนีไป! จากนั้นตอนที่ไปตามหาท่านอ๋องถึงได้เจอกัน ไม่อย่างนั้นผมไม่รู้ว่าเป็นเธอหรอก! เพราะปีนั้นเพื่อหลบหนีการแต่งงานถึงได้หนีออกจากบ้าน แล้วผมก็ไม่ได้พบเจอกับพวกเขาอีกเลย หลังจากนั้นอีกหลายร้อยปีต่อมา เจอกันอีกครั้ง ผมก็จำเธอไม่ได้จริง! ยิ่งไม่ต้องพูดถึงน้องสาวของเธอ มู่หรงซีเลย คุณไม่พูด ผมคงคิดไม่ออกจริงๆ ว่าคนคนนี้คือเธอ!"

"คุณจำเธอไม่ได้งั้นเหรอ มู่หรงซีจำคุณได้ไม่ลืม! เหอะ เธอฝันว่าอยากแต่งงานกับคุณด้วยนะ!"

"เป็นอย่างนี้ได้ยังไงกัน" เสิ่นอี้อยากจะร้องไห้ออกมาจริงๆ" ใครบอกคุณ หรือว่ามู่หรงซีคนนั้นจะเป็นคนบอกคุณ คุณว่าคำพูดของเธอเชื่อได้งั้นเหรอ เธอตั้งใจทำให้คุณโกรธชัดๆ!"

"เธอไม่ได้บอกฉัน! เป็นฉันที่เดาเอาเอง! คนโง่ก็มองออก! มู่หรงซีคนนั้นคงจะชอบคุณสินะ! บางทีเธออาจจะแอบรักคุณมาหลายพันกว่าปี แต่คุณนี่ก็ดีเหลือเกิน แม้แต่ชื่อก็ยังจำไม่ได้!"

เสิ่นอี้ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า "ไม่ได้มีแค่ผมที่จำไม่ได้! ขนาดซีเหมินถิงที่เคยเจอเธอยังจำไม่ได้เหมือนกัน เหตุการณ์มันผ่านมาหลายปีขนาดนี้ ใครบ้างล่ะที่จะจำได้ชัดเจนขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่ผมหนีออกไปจากบ้าน พวกเธอทั้งสองคนยังเด็กนัก คงจะประมาณ สิบเอ็ด สิบสองปีได้...มู่หรงซีคงจะเด็กเสียยิ่งกว่า ตอนนั้นเธออายุเท่าไหร่กันเชียว ไหงถึงได้แอบรักผมแล้วล่ะ ขนาดผมหน้าตาเป็นยังไงเธอยังไม่รู้! ตอนเธอเป็นเด็กต้องไม่เคยเจอผมแน่นอนอยู่แล้ว!"

ทำไมถึงไม่เคยเจอเลยล่ะ คุณไม่ได้บอกว่าไปหาท่านอ๋องบ่อยๆ งั้นเหรอ" เย่หนิงยังไม่เชื่อ 

"ผมเคยไปหาท่านอ๋อง แต่คุณคิดว่าหนึ่งพันกว่าปีก่อนกับตอนนี้เหมือนกันงั้นเหรอ ตอนนั้นกฎเกณฑ์มีมากมาย! พระราชวังมีบุตรสาวสองคนที่ยังไม่ออกเรือน คนภายนอกอย่างพวกเราจะไปเจอพวกเธอได้อย่างไรกัน! ต้องถูกเลี้ยงดูอยู่ส่วนในของพระราชวังอยู่แล้ว บุตรสาวทั้งคนเล็กและคนโตจะไม่ถูกคุ้มกันเลยหรือไง แล้วผมจะเคยเจอเธอที่ไหนกันล่ะ!"

"เอ่อ..." เย่หนิงโง่งัน "เป็นอย่างนี้นี่เอง" 

"เป็นอย่างนี้แน่นอนอยู่แล้ว คุณอย่าคิดว่าเป็นเหมือนตอนนี้สิ มีอิสระเสรีที่จะตกหลุมรัก อยู่ด้วยกันทั้งที่ไม่ได้แต่งงาน ก่อนหน้านี้เกิดเรื่องเช่นนี้ไม่ได้เป็นอันขาด!"

อยู่ด้วยกันทั้งที่ไม่ได้แต่งงานเหรอ ใบหน้าของเย่หนิงแดงก่ำอย่างรวดเร็ว ทั้งกระแทกร่างของเสิ่นอี้อย่างแรง "คุณพูดจาเหลวไหล พูดจาเหลวไหลทั้งนั้นเลย!"

"ผมพูดผิดอะไรอีกล่ะ" เสิ่นอี้รู้สึกจนปัญญาเป็นอย่างมาก เย่หนิงใกล้จะเป็นหญิงวัยทึนทึกแล้วใช่ไหม ทำไมอารมณ์ถึงได้รุนแรงขนาดนี้นะ!

"เหอะ ใครบอกให้คุณพูดจาเหลวไหลกันล่ะ ใครอยู่กับคุณทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงานกันเล่า" เย่หนิงหันกายอยากจะวิ่งหนี ทว่ากลับถูกเสิ่นอี้กอดเอาไว้เสียก่อน เสิ่นอี้กลั้นยิ้ม "พวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกันโดยที่ไม่ได้แต่งงานครับ พรุ่งนี้พวกเราไปจดทะเบียนสมรสกันดีไหม ว่าไงครับ"

"ไม่ ไม่เอา!" 

"งั้นทำอย่างไรดีล่ะ" 

"คุณ...คุณยังอธิบายให้ฉันฟังไม่หมดทีนะคะ!" 

"ไม่หมดตรงไหน! ผมบอกไปแล้วว่าคู่หมั้นอะไรนั้น ไม่เคยเกิดขึ้นจริง!" เสิ่นอี้กอดเย่หนิงแน่น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยโยนว่า "ไม่ได้บอกไปแล้วเหรอไง ปีนั้นเพราะไม่พอใจกับการหมั้นครั้งนี้ ผมถึงได้หนีออกจากบ้าน เรื่องนี้ซีเหมินถิงเองก็รู้! ส่วนมู่หรงซีนั้นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย เธอเป็นใครผมยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ!"

เสิ่นอี้พูดถึงตรงนี้ ถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า "ปีนั้นพระราชวังเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ผมยังคิดอยู่เลยว่าไม่มีคนที่มีชีวิตเหลือรอด คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนแอบพาบุตรสาวทั้งสองของท่านอ๋องแอบหนีออกมาได้ เพียงแต่น่าเสียดาย หลังจากนั้นเธอจะหนีความโชคร้ายไปไม่ได้!"

เงียบไปสักพัก เสิ่นอี้จึงพูดว่า "เพียงแต่ว่าซีซาน่าคนนี้เป็นบุตรสาวของท่านอ๋องจริงๆ งั้นเหรอ...ทำไมถึงได้น่าสงสัยมากๆ ขนาดนี้" 

เย่หนิงสะดุ้งตกใจ "คุณคิดว่าเธอปลอมตัวมางั้นเหรอ" 

"มีความเป็นไปได้!" เสิ่นอี้พูดขึ้นว่า "พูดตามจริง ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบุตรสาวของท่านอ๋องโตขึ้นมาแล้วมีหน้าตายังไง ปีนั้นตอนที่ได้เจอกับมู่หรงชิง ท่านอ๋องเป็นคนแนะนำให้พวกเรารู้จักกัน แต่มู่หรงซี...ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินคนในวังพูดถึงมาก่อนเลย เธอยังมีชีวิตอยู่หรอ ปีนั้นตอนนี้ไปช่วยท่านอ๋องก็ไม่เคยเจอเธอเช่นกัน......" 

เย่หนิงยิ่งรู้สึกประหลาดใจ "ปีนั้นเธอไม่ได้อยู่กับพวกคุณเหรอคะ" 

"แน่นอนว่าไม่ครับ!" เสิ่นอี้ปฏิเสธทันที พูดขึ้นว่า "ถ้าเธออยู่กับพวกเรา ผมและซีเหมินถิงจะจำเธอไม่ได้เชียวเหรอ ก็เป็นเพราะว่าไม่ได้อยู่ด้วยกันถึงไม่รู้จักกันไงล่ะ! เอาจริงผมนึกหน้าของเธอคนนี้ไม่ออกเลยด้วยซ้ำ!"

"ถ้าเธอเป็นลูกสาวของท่านอ๋องจริงๆ งั้นก็น่าแปลก ทำไมเมื่อปีนั้นเธอถึงไม่อยู่กับมู่หรงชิง ถ้าพวกเธอพลัดหลงกัน แต่หลังจากนั้นตอนที่ท่านอ๋องเคลื่อนทัพผีดิบคิดอยากชิงเอาเมืองเซียงซาน สถานการณ์เอิกเกริกใหญ่โตขนาดนี้ เธอเองก็คงรู้ แล้วทำไมถึงไม่ไปหาท่านอ๋องล่ะ กลับกันรอจนท่านอ๋องตายจู่ๆ ถึงได้ปรากฏตัวขึ้นมา น่าแปลกจริงๆ เลย!"

เย่หนิงครุ่นคิด แล้วพูดว่า "ฉันดูแล้ว มู่หรงซีคนนี้...ความจริงแล้วเธอเป็นคนที่หึงหวงรุนแรงมาก คล้ายกับว่าเธอหึงหวงพี่สาวของเธอมู่หรงชิงมาโดยตลอด"

เสิ่นอี้หัวเราะร่า "คุณรู้จักเธอมานานแล้วงั้นเหรอ ทำไมถึงรู้ลึกขนาดนี้ล่ะ" 

"สัญชาตญาณของผู้หญิง รู้ไหมคะว่าสัญชาตญาณของผู้หญิงน่ะน่ากลัวมากๆ!" เย่หนิงพูดต่อว่า "ความจริงแล้ว วันนี้ฉันยังลองทดลองกับมู่หรงซีเล็กน้อย ถึงได้รู้สึกได้ไงล่ะ น่าจะเป็นเพราะว่าเธอเป็นลูกสาวคนรอง"

"นี่กลับมีความเป็นไปได้!" เสิ่นอี้พยักหน้า แล้วพูดว่า "เวลานั้น ลูกสาวคนโตและคนรองต่างก็มีสถานะไม่เหมือนกัน! นอกจากว่าไม่มีบุตรสาวคนโต ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีบุตรสาวคนรอง หลายครั้งก็คล้ายกับสาวใช้ อยู่ที่ไหนก็ต้องตามไปด้วย"

เย่หนิงเม้มปากแล้วพูดว่า "อีกอย่างมู่หรงซีคนนี้ก็รู้ว่าตนเองนั้นดีเด่ คิดว่าตนเองไม่มีตรงไหนแย่กว่าพี่สาวของเธอเอง ก็แค่ชาติกำเนิดที่ไม่ได้ดีเลิศเท่าพี่สาวของเธอเท่านั้น ดังนั้นเธอจึงรู้สึกอิจฉา ริษยาและเกลียดชังพี่สาวคนนั้นของเธอ!"