คนที่แบกผมมาตลอดทางแตะคีย์การ์ดเปิดเข้ามาในห้องเรือนกระจกที่มองเห็นรอบทิศทางทั้งร้อยแปดสิบองศา ด้านข้างมองเห็นเป็นสระน้ำที่ทำยื่นออกไปจากตัวตึกที่สูงเสียดฟ้า แต่ก็ทำเป็นระเบียงกันให้ดูปลอดภัย ห้องทั้งห้องตกแต่งสไตล์โมเดิร์นแบบที่เครื่องใช้ต่างๆ สามารถนำไปแปลงใช้งานเป็นอย่างอื่นได้ อย่างเช่นโซฟาตัวใหญ่สีขาวที่คนพี่กำลังวางผมลงนี่ก็ดูเหมือนจะปรับให้กลายเป็นเตียงขนาดยักได้
"ฮึก อื้อ!"
ผมถึงกับตาเบิกกว้างเพราะความตกใจเมื่อถูกคนตัวสูงดันให้ล้มตัวลงนอนราบไปกับโซฟา ไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัวก็ทาบทับริมฝีปากลงมาประกบกันทันที ผมจึงรีบยกมือขึ้นมายันอกเขาไว้แล้วออกแรงดันเต็มที่ เพื่อหวังจะให้เขาหยุดแล้วมาพูดคุยกันก่อน
แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเมื่อคนพี่ก็ยังเอาแต่ไล่ลิ้นร้อนที่มีกลิ่นไวน์จางๆ เกี่ยวกับลิ้นของผมไม่เลิก ดูดดึงลิ้นผมเข้าไปในปากร้อนของตัวเองพลางหยอกเย้ากันจนแรงที่ผมเคยมีนั้นเริ่มหดหายไป สองแขนที่เคยยันอกเขาเอาไว้เริ่มอ่อนหยวบราวกับขนนกที่ทำได้แค่วางทาบอกเขาเอาไว้เท่านั้น
"อึก อืม พี่ครับ...อ๊ะ"
ผมร้องอื้ออึงในลำคอ พร่ำเรียกคนพี่เสียงเบาหลังจากที่เขาปล่อยลิ้นของผมให้เป็นอิสระ แล้วเปลี่ยนมาขบเม้มปากล่างของผมแทน
"ว่าไงคะ?"
เสียงแหบพร่าขานรับชิดริมฝีปากของผม แล้วกลับมาดูดเม้มมันใหม่ทำเอาร่างกายผมร้อนผ่าวแทบละลายไปรวมกับโซฟา มือใหญ่ที่เคยใช้ตีก้นกันเริ่มขยับมาถอดเสื้อสูทของผมออก ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวด้านในที่ผมสวมอยู่ทีละเม็ด ไล่ตั้งแต่เม็ดบนลงมาจนถึงหน้าอกแล้วแหวกเสื้อของผมออก
"จะล้ออื้อ...น้องแรงเกินไปอึก...แล้วนะครับ"
"พี่เคยพูดหรอคะว่าพี่ล้อหนูเล่นน่ะ ฮืม?"
เขาผละจูบออกปล่อยให้ปากของผมเป็นอิสระ แล้วพร่ำถามผมด้วยใบหน้าซื่อๆ ที่ดูยังไงก็เจ้าเล่ห์เจ้ากลเป็นร้อยเท่าพันเท่าในยามนี้ ผมหอบหายใจแรงมองสบตากับคมเขานิ่งก่อนจะส่ายหน้าส่งให้แทนคำตอบ เพราะเขาไม่เคยพูดคำว่าล้อเล่นกับผมเลยสักครั้งตั้งแต่เราคุยกันมา
"แล้วมีประโยคไหนบ้างที่พี่ไม่จริงใจกับหนู"
เขาเอ่ยถามต่อด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม สายตาอ่อนโยนแต่ก็แฝงแรงปรารถนาส่งมาให้กัน และเป็นอีกครั้งที่ผมต้องส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะมันไม่มีประโยคคำพูดไหนเลยที่เขาไม่ใส่ใจผม คำพูดของเขาทุกคำที่ได้ยินและรับรู้มันอบอวลไปด้วยความอ่อนโยนและห่วงหากันเสมอ
"แล้วทำไมน้องซอถึงทำหน้าผิดหวังขนาดนั้นล่ะคะ หื้ม?"
คนอายุเยอะกว่าทำหน้าเป็นห่วงระคนไม่สบายใจถามผมต่อเสียงอ่อน พลางใช้มือลูบแก้มของผมเบาๆ อย่างปลอบประโลม ผมกัดริมฝีปากของตัวเองที่เริ่มบวมเจ่อจากการถูกคนพี่ดูดเม้มแน่น ก่อนจะคลายมันออกมาแล้วพูดตอบ
"น้องแค่ไม่อยากเสียใจเพราะความคาดหวังอีกแล้วครับ...ไม่อยาก...เสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทุ่มเททำมาตลอดอีกแล้ว แค่นี้มันก็ช้ำมามากพอ...จนน้องแทบจะแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ เพราะงั้น..."
ผมหยุดพูดไปแล้วไล่สายตามองคนตรงหน้านิ่ง ก่อนจะฝืนยิ้มออกมาทั้งที่ในใจรู้สึกปวดหนึบไปหมด ถึงมันจะเป็นแค่เวลาเดือนครึ่งที่เราได้ทำความรู้จักกัน แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นมันทำให้ผมมีความสุขที่สุดในชีวิตแล้ว และผมจะขอเก็บมันเอาไว้เป็นความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตของผม
"เลิกให้ความหวังน้องนะ...ฮึกได้โปรด"
พูดยังไม่ทันจบประโยคดีเสียงก็สั่นขึ้นมาพร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้าจนผมต้องกัดปากตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อข่มความรู้สึกเสียใจของตัวเอง อยากจะเบือนหน้าหนีก็กลัวว่าน้ำตาตัวเองจะไหลออกมาให้เขาเห็นแล้วเกอดความสงสาร แต่เพราะทนไม่ไหวเลยหันหน้าไปด้านข้างแล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาปิดช่วงตาของตัวเองเอาไว้ ปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาแล้วกัดปากตัวเองไว้แน่นเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น
"เด็กโง่..."
"อึก"
"พี่ไม่เคยพูดสักคำเลยนะว่าพี่ไม่ชอบหนู"
"พอฮึก...แล้ว"
ผมบอกเสียงสั่นปนสะอื้น เพราะตอนนี้ตัวเองใจเสียไปหมดแล้ว ใจเสียแบบที่ว่ามันกู้กลับคืนมาไม่ได้เลย มันเจ็บมันจุกไปหมดทั้งอกจนหายใจแทบไม่ออก แค่ได้รู้ว่าจะเป็นตัวทดลองผมก็รู้สึกแย่ไปหมดแล้ว
คนตัวโตที่ยังคร่อมทับตัวผมอยู่เงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเบา
"...พูดแบบนี้คือจะทิ้งพี่หรอคะ?"
น้ำเสียงของเขาฟังดูสั่นเทาไร้เรี่ยวแรงจนน่าตกใจ และสิ่งที่มันทำให้ผมตกใจยิ่งกว่าคือน้ำที่หยุดแหมะลงมาโดนมือของผมที่ยกขึ้นมาปิดตาตัวเองเอาไว้เมื่อก่อนหน้า ด้วยความตกใจผมจึงยกมือออกทันที แล้วกลับกลายเป็นว่าหยดน้ำเหล่านั้นตกกระทบลงมาบนใบหน้าเต็มไปหมด
และสิ่งที่ทำให้เกิดหยดน้ำพวกนี้ก็คือคนที่คร่อมทับตัวของผมเอาไว้ น้ำสีใสไหลออกมาจากตาคมที่ยังจ้องมองผมอยู่หยดกระทบหน้าถี่รัวราวกับฝนตก แต่ไร้ซึ่งเสียงสะอื้นมีเพียงใบหน้าที่โศกเศร้าเสียใจ และแววตาที่ฉายความเจ็บปวดออกมาเท่านั้น
"หนู...จะทิ้งพี่ไปใช่มั้ยคะ?"
เขาถามทวนคำเดิมซ้ำอีกครั้งน้ำตายังหยดใส่หน้าผมไม่ยอมหยุด ในวินาทีนีผมได้แต่นอนนิ่งชะงัดไม่ขยับตัวไปเป็นนาทีเพราะตกตลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้าจนสติหลุด แต่ได้หยาดน้ำตาที่ไหลลงจนเปียกชื้นต้นคอเป็นทางช่วยเรียกสติเอาไว้ ผมถึงได้ยกแขนขึ้นไปคล้องคอหนาแล้วโอบกอดร่างกายกำยำเอาไว้แน่น
"ไม่ครับ น้องไม่ได้จะทิ้งพี่ไปไหน...ขอโทษครับ อึก...ขอโทษนะ น้องมันขี้กลัวคิดมากเกินไปเอง ฮึก"
"พี่รักหนูนะคะ...พี่รักหนูจริงๆ นะ...พี่ไม่ได้โกหก"
คนตัวโตกอดตอบผมกลับแน่นซุกหน้าลงกับคอของผม พูดบอกเสียงอู้อี้ขึ้นจมูกผมเลยกดปากจูบที่หัวเขาเบาๆ พลางยกมือมาลูบแก้มขาวของคนอายุเยอะกว่า
"รู้แล้วครับ น้องรู้แล้ว"
"รู้แล้วยัง...จะทิ้งกันไปอีกมั้ยคะ? รู้ว่าพี่รักแล้ว...หนูยังอยาก...จะไปจากพี่หรือเปล่า?"
"น้องไม่ไปไหนแล้วครับ จะอยู่ตรงนี้กับพี่ตลอดไป...ต่อให้พี่จะไม่ต้องการแล้วก็ตาม"
ผมละมือออกจากแก้มขาวมาเช็ดหยาดน้ำบนใบหน้าของตัวเองออก พลางสูดน้ำมูกเบาๆ แล้วกลับไปโอบกอดคนตัวใหญ่ที่นอนทับตัวผมเอาไว้แน่น เพื่อยืนยันให้เขารู้ว่าผมจะไม่ไปไหนจริงๆ
"พี่ต้องการหนู...ไม่ว่าจะตอนนี้หรือหลังจากนี้...พี่ก็ต้องการหนูแค่คนเดียว"
เขาผงกหัวเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา สีหน้ายังคงเจ็บปวดเสียใจไม่คลาย ผมยิ้มบางใช้มือของตัวเองช่วยเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าหล่อ ก่อนจะดันหลังคอคนพี่เข้ามาหาตัวเองแล้วเป็นฝ่ายป้อนจูบให้
"ฮึก อืม"
"จุ๊บ แฮก"
เสียงอื้ออึงปะปนกับเสียงจูบและหอบหายใจดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้โพลงจมูกจะยังไม่สามารถหายใจได้เป็นปกติ แต่คนตัวโตก็ไม่ด้อยไปกว่าเดิมเลยเขายังจูบเก่งไร้ที่ติ ปลุกเร้าอารมณ์ของผมให้ลุกโชนจนแทบไหม้ ละริมฝีปากหนาออกจากปากของผมลากชิ้นเลียพร้อมกับกดปากจูบขบเม้มตามลำคอ ขบกัดหยอกล้อที่ติ่งหูจนได้ยินเสียงลมหายดังสนั่น ลมร้อนจากปากปะทะกับใบหูชวนให้รู้สึกวูบวาบในช่องท้อง
มือใหญ่ทั้งสองข้างถูกเจ้าของร่างกำยำสั่งการให้มาบดขยี้ยอดอกของผมจนมันแข็งชูชัน ซุกไซร้ไล่ดอมดมที่คอผมสักพักก็กดจูบไล่ต่ำลงไปยังหน้าอก ก่อนที่เขาจะแหวกเสื้อเชิ้ตสีขาวของผมออกแล้วแตะลิ้นลงบนยอดอกผะแผ่ว แต่ทำตัวผมสั่นสะท้านไปทั้งตัว
"อ๊ะ พี่ครับ...อื้ม~"
ผมร้องเรียกคนบนตัวที่เริ่มจะทำรุนแรงอย่างการขบกัดตุ่มไตของผมเสียงพร่า แอ่นอกเข้าหาสัมผัสหวาบวามนั้นอย่างลืมตัว สองมือยกขึ้นมาวางไว้เหนือหัวตัวเองเพราะไม่รู้ว่าควรจะวางไว้ตรงไหนดี มันดูเกะกะเป็นส่วนเกินไปหมดในยามนี้
"อื้อ ฮึก อ่าส์"
"หนูคะ..."
"คะ อื้อ ครับ"
ผมขานรับเสียงกระเส่า ผงกหัวขึ้นมาสบตากับคนเรียกที่แววตาฉายแต่ความปรารถนา แรงอารมณ์อันร้อนแรงออกมาอย่างชัดเจนจนตัวผมแทบมอดไหม้ แต่เขาก็ยังคงมองผมด้วยสายตาอ่อนโยนไม่ต่างจากเดิมเลย แม้ว่าตัวเองจะอยากทำมากแค่ไหนก็ตาม
"ออรัลเซ็กซ์ให้พี่หน่อยได้มั้ยคะ"
ผมชะงักนิ่งไม่ได้พูดตอบอะไรกลับไป แต่เลือกที่จะดันตัวเขาออก ซึ่งเขาก็ยอมขยับตัวลุกอย่างง่ายดายไม่มีต่อต้านแล้วลุกขึ้นนั่ง ผมหันไปมองเขานิ่งก่อนจะถามขึ้นเสียงเรียบ
"หิวน้ำมั๊ยครับ?"
"ไม่ค่ะ"
เขาตอบพร้อมกับส่ายหน้ามองหน้าผมด้วยท่าทีฉงน ผมเลยยิ้มบางแล้วพูดบอก
"แต่น้องหิว...ไปเอาน้ำให้น้องดื่มหน่อยได้มั้ยครับ?"
"ได้ค่ะ งั้นหนูรอพี่แป๊บนึงนะคะ เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำมาให้"
เขาพูดบอกด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนเหมือนเดิม แม้ว่าตาจะแดงก่ำจากการร้องไห้มาแต่การแสดงออกก็ยังใส่ใจและเอาใจผมอย่างเดิม ผมมองตามแผนหลังหนาที่เดินเข้าไปยืนหน้าตู้เย็นที่อยู่ไม่ไกลนิ่ง รอยยิ้มที่เคยมีประดับบนใบหน้าหายไป พลั้นในหัวก็เริ่มขบคิดตีกันวุ่นวายเพราะความสับสนและไม่เข้าใจของตัวเอง
"เขาชัดเจนขนาดนี้แล้วมึงยังกลัวอะไรอีกวะซอ..."
ผมพึมพำกับตัวเองเสียงเบาพลางยกมือขึ้นมาลูบหน้าตัวเอง และเป็นเวลาเดียวกันกับที่คนพี่เดินกลับมาพอดี
"น้ำค่ะ...หนูอยากได้อะไรเพิ่มอีกมั้ยคะ?"
เขายื่นแก้วน้ำเย็นมาให้ผม จัดการถอดสูทตัวนอกของตัวเองออกไปพาดไว้กับโซฟา แล้วพับแขนเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่สวมขึ้นทิ้งตัวพิงไปกับพนักพิงของโซฟา ผมมองตามท้วงท่าของเขาเงียบๆ ยกน้ำในแก้วขึ้นมาดื่มไปหลายอึก ก่อนจะอมน้ำอีกคำเอาไว้ในปากว่างแก้วน้ำลงบนโต๊ะหน้าโซฟา หันกลับมาหาคนอายุเยอะกว่าอีกครั้งส่งมือไปจับบังคับหน้าของคนตัวโตให้หันมามองกัน แล้วประกบปากจูบทันที
ผมยืดตัวขึ้นนั่งชันเข่าคร่อมตักเขาให้ตัวเองอยู่สูงกว่าแล้วค่อยๆ ปล่อยน้ำที่อมไว้เข้าไปในปากคนพี่ เขาก็ยอมรับแล้วกลืนมันลงคอทันทีอย่างไม่นึกรังเกียจ ผมผละหน้าออกเพียงนิดมามองใบหน้าหล่อ สายตาคมเข้มที่มีความออดอ้อนกันเพียงเสี้ยววินาที ก็กดปากจูบปากหยักแล้วบดขยี้แรงๆ อย่างมันเขี้ยวจนคนถูกกระทำหัวเราะขำในลำคอ
เอาวะ! ลองดูสักตั้งมันจะเป็นอะไร
#พี่รักหนูนะ
TW : https://twitter.com/dao_25?s=09