webnovel

#พี่รักหนูนะ

Author: dao_25
LGBT+
Completed · 6.1K Views
  • 4 Chs
    Content
  • ratings
  • NO.200+
    SUPPORT
Synopsis

"จะล้ออื้อ...น้องแรงเกินไปอึก...แล้วนะครับ" "พี่เคยพูดหรอคะว่าพี่ล้อหนูเล่นน่ะ ฮืม?" "..." "แล้วมีประโยคไหนบ้างที่พี่ไม่จริงใจกับหนู" "..." "แล้วทำไมน้องซอถึงทำหน้าผิดหวังขนาดนั้นล่ะคะ หื้ม?"

Chapter 1#พี่รักหนูนะ 1

#พี่รักหนูนะ

•-^-•

"สวัสดีครับ"

"อ๊ะ! ครับ สวัสดีครับ"

ผมรีบเอ่ยปากทักทายกลับทันทีด้วยรอยยิ้มแห้งๆ หลังจากที่ยืนอยู่ริมกระจกใสของห้องจัดงานมองหาคนที่นัดเอาไว้มานาน สีหน้าคงจะแปลกน่าดูในยามนี้เพราะเกิดอาการทำตัวไม่ค่อยถูก ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำตัวแบบไหนกับการมารวมงานหาคู่เป็นครั้งแรกในชีวิต แถมคนตรงหน้าที่เดินเข้ามาทักทายยังเป็นคนที่นัดเอาไว้ และเป็นชายแท้ที่โคตรจะดูดีอีกด้วย

"ซอโซ่หรือเปล่าครับ?"

"ครับ คุณโฬมใช่มั้ยครับ"

"ใช่ครับ ยินดีที่ได้เจอนะครับ"

"ครับ เช่นกัน"

ผมอยู่ในชุดสูทสีชมพูอ่อน ทรงผมทูบล็อคพยักหน้ารับแล้วยิ้มตอบ แต่เพราะไม่กล้าที่จะสบตากับคนตรงหน้าตรงๆ เลยกวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อสำรวจงานแทน ซึ่งทั่วทั้งงานก็มีแต่ผู้ชายทั้งหมด

ก็แหงล่ะ มันงานหาคู่สำหรับชาวเกย์ หรือกลุ่ม Gay pride ที่มีความหมายว่า การสนับสนุนและยอมรับตัวเอง ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่ยอมรับตนอย่างเปิดเผยว่าตนนั้นเป็นเกย์ เป็นเพศที่ชอบเพศเดียวกัน

"จริงๆ ผมว่าเรานัดเจอกันข้างนอกก็ได้นะครับ...ไม่เห็นต้องมาในที่ๆ มีแต่เพศสภาพเหมือนผมเยอะแบบเลย"

ผมหันมามองหน้าคนตัวโตที่ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าตรงหน้าหลังจากแอบลอบมองดูอยู่สักพัก แล้วพูดบอกด้วยสีหน้าเป็นกังวล เพราะตอนนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหนผมก็เห็นแต่สายตาโลมเลีย จ้องจะงาบเขามาจากทุกทิศทุกทางเลย

หล่อขนาดนี้ก็ไม่แปลกหรอกที่จะถูกจับตามอง และจ้องจะเขมือบ ผมเองยังแปลกใจไม่หายเลยที่อยู่ๆ ผู้ชายแท้ที่ไม่เคยคบเพศที่สามมาก่อนคนนี้ ทักแชทมาหากันหลังจากที่ผมโพสต์สเตตัสหาคู่เดทลงในเพจหาคู่เกย์เมื่อเดือนก่อน

"ผมไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้นครับ...อีกอย่างผมแค่อยากจะลองเปลี่ยนแนวดู"

"หืม...งั้นผมคงเป็นตัวทดลองแรกสินะครับ"

ผมครางงึมงำในลำคอพึมพำกับตัวเองเสียงหงอย รู้สึกผิดหวังขึ้นมาดื้อๆ เพราะตัวเองนั้นตั้งใจจะมาหาคนรักแบบจริงจัง แล้วก็คาดหวังกับการมาเจอกันในครั้งนี้มาก ที่ผ่านๆ มาก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยคบหรือคุยกับใคร แต่สุดท้ายคนที่เคยคุยเคยคบมันก็ไปกันไม่รอด บ้างก็บอกว่าเราอยู่ไกลกัน บ้างก็ไม่กล้าที่จะเปิดเผย บ้างก็บอกว่าผมไม่ใส่ใจสนใจแต่งานทั้งๆ ที่ผมก็พยายามที่จะปรับตัวเข้าหาสุดความสามารถ ท้ายที่สุดก็กลายเป็นผมที่พยายามปรับตัวเข้าหาคนเหล่านั้นอยู่ฝ่ายเดียว

"แต่จากที่เราได้คุยกันทางแชทมาเป็นเดือนแล้วผมว่า...คุณก็โอเคนะ"

คนตัวสูงพูดขึ้นเสียงทุ้มนุ่มบนใบหน้ามีรอยยิ้มบางอย่างคนเอ็นดูประดับอยู่ แต่ทว่ามันไม่ได้ช่วยทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด คงเป็นเพราะผมคาดหวังมากเกินไปพอได้ยินอะไรที่มันไม่ตรงใจไม่เป็นดั่งที่หวังก็เลยใจเสียไปทันทีแบบกู้คืนไม่ได้

"ไม่ต้องปลอบกันหรอกครับ ผมรับได้แค่รู้สึกผิดหวังนิดหน่อยแค่นั้นเอง"

"ยังพูดจาเถตรงเหมือนเดิมเลยนะครับ"

"หืม? อ่อ...ขอโทษครับผมมันปากพล่อยเอง"

ผมรีบเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนตัวสูงที่อยู่ในชุดสูทสีฟ้าอ่อน เสื้อเชิ้ตด้านในเป็นสีฟ้าแต่อ่อนกว่าเสื้อสูท ผูกเนกไทสีขาวสะอาดกางเกงเข้ากับชุด และรองเท้าขัดมันสีขาวเงาวับ ทรงผมปอมปาดัวร์ที่เซ็ตเปิดหน้าผากเผยให้เห็นโครงหน้าสุดเพอร์เฟ็ค คิ้วดกดำ ตาเฉี่ยวคมเข้ม จมูกโด่งรับกับริมฝีปากหยักหนา แล้วเอ่ยปากขอโทษทันที เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น

มันคงจะเป็นคำพูดที่ไม่รักษาน้ำใจเขาสินะ

"ไม่ใช่แบบนั้นครับ ผมแค่จะหมายถึงผมชอบที่ซอโซ่เป็นคนพูดตรงแบบนี้น่ะ"

"///"

ผมถึงกับชะงักมองหน้าคนตัวสูงนิ่ง ก่อนที่แก้มทั้งสองข้างจะร้อนผ่าวขึ้นมาจนต้องหันหน้าหนีสายตาคมเข้ม แต่อ่อนโยนของเขาไปมองทางอื่น

"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ? ทำไมหน้าแดง?"

"ผม...แค่เขินน่ะ คุณไม่ต้องสนใจก็ได้ครับ"

ผมพูดตอบปัดพลางจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าของตัวเองเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาเห็น ทว่ากลับโดนมือใหญ่ของคนตรงหน้ามาจับตรึงเอาไว้เสียก่อน

"ไม่สนใจไม่ได้หรอกครับ...น่ารักขนาดนี้"

ไอ้บ้าเอ๊ย!

ตอนคุยแชทก็คุยกันธรรมดาแท้ๆ ทำไมต่อหน้าเขารุกเก่งจังอ่ะ ไหนบอกว่าไม่เคยคบผู้ชายไงทำไมทำให้หวั่นไหวเก่งจริง หรือเป็นเพราะผมมันใจง่ายเกินไปกันเนี่ย

"ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าแอบบ่นผมในใจแน่ๆ...ใช่มั้ยครับซอโซ่"

ตายยยยย~~

ผมหลับตาแน่นแล้วสบถในใจคนเดียวรอบสอง เมื่อคนตัวสูงตรงหน้าขยับตัวแล้วก้มหน้าเข้ามาใกล้กัน รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัวอย่างบอกไม่ถูกเพราะไม่บ่อยนักที่จะรู้สึกเขินจนตัวแทบแตกขนาดนี้ ไม่ก็คงเป็นเพราะไม่มีใครเคยทำให้ผมรู้สึกแบบนี้ได้มากกว่า

"ครับ...ผมแอบบ่นพี่อยู่— อื้อ~"

ผมถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นใบหน้าหล่ออยู่ห่างแค่ปลายจมูกชนกัน ทำให้ผมต้องหลับตาลงอีกครั้งแล้วค่อยๆ เปิดเปลือกตาทีละนิดมามองหน้าเขา

คนอายุเยอะกว่ามองตาผมนิ่งก่อนจะแนบปากมาแตะปากของผมเบาๆ แล้วถอนหน้ากลับไปพูดพึมพำคนเดียว

"น่ารักชะมัด..."

"คุณว่าอะไรนะ?"

"ไม่เรียกว่าพี่แล้วหรอคะ...น้องซอ"

ได้ยินคำถามนั้นก็ทำให้ผมต้องเม้มปากตัวเองแน่นอีกหน หน้าร้อนแล้วร้อนอีกกับสิ่งที่เขาทำแม้จะตกใจที่เขาแตะปากจูบกันแบบไม่ทันให้ตั้งตัว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีที่เขากล้าแสดงออกต่อหน้าคนเยอะๆ โดยที่ผมไม่ต้องเรียกร้อง

"แล้ว...อยากให้น้องเรียกแบบไหนกันเล่า"

ผมถามเสียงเบาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก แอบเขินเอามากๆ ที่ใช้สรรพนามแทนตัวเองตามที่เคยใช้พูดคุยกันในแชท ตอนคุยกันแรกๆ ก็คุณกับผม พอวันต่อไปก็เป็นชื่อตัวเอง แต่หลังจากที่เราเริ่มคุยกันมาได้อาทิตย์นึงเขาดันพูดแทนตัวเองว่าพี่ ผมเลยตอบกับไปเป็นคำว่าน้องตั้งแต่นั้นมา เช่น

'วันนี้ตอนเที่ยงน้องมีประชุมด่วนนะครับ ไม่ได้อยู่คุยด้วย'

เขาก็จะตอบกลับมาประมาณว่า

'ครับ สู้ๆ นะคะคนเก่ง เดี๋ยวเย็นๆ พี่จะโทรไปหา'

อะไรประมาณนี้ ซึ่งบอกตามตรงว่าไม่เคยคุยกับใครแล้วยิ้มได้แบบนี้มาก่อนเลย ต้องยอมรับตามความรู้สึกจริงๆ ว่าผมชอบเขามากๆ มันก็เลยทำให้ผมคาดหวังเอาไว้เยอะอย่างที่บอก

"ก็เรียก...แบบที่เราเคยใช้เรียกกันไงคะ"

"พอเถอะครับ อย่าทำให้ผมคาดหวังนักเลยตกมาจากที่สูงๆ มันเจ็บเจียนตายเลยนะ"

ผมหันหน้าหนีแล้วบอกเสียงหงอยปนเศร้าสร้อย ไม่อยากจะรู้สึกเสียใจจากการคาดหวังอีกแล้ว ถ้าเขาแค่อยากจะลองเปลี่ยนแนวตัวเองเฉยๆ ผมก็จะช่วยเป็นตัวทดลองให้ แต่ได้โปรดอย่าให้ความหวังผมเลย เพราะผมคิดเล่นๆ กับใครไม่เป็นหรอก รักทุกครั้งผมก็ทุ่มสุดตัวมาตลอดแต่สุดท้ายก็ต้องซมซานกลับมารักษาแผลให้ตัวเองอยู่คนเดียว

"อ๊ะ! พี่โฬมปล่อยน้องลงนะ จะพาน้องไปไหน?"

ผมที่กำลังเพ้อพกรำพึงกับตัวเองร้องเสียงหลง เมื่ออยู่ๆ ก็ถูกคนตัวสูงอุ้มขึ้นมาพาดบ่า ทำราวกับว่าผมตัวเบานักหนาพาเดินตรงไปยังประตูทางออกของห้องจัดงาน ท่ามกลางสายตาของเหล่าชาวคณะมากมายที่หันมามองอย่างสนใจ

"พาเด็กขี้ใจน้อยไปลงโทษไงคะ"

"ห๊า? น้องเปล่าใจน้อยนะปล่อยน้องลงเลย"

"ไม่ปล่อยค่ะ"

"ไอ้พี่โฬม!"

"แปะ!"

"โอ๊ย! น้องเจ็บนะ ตีก้นน้องทำไมเนี่ย"

ผมร้องครวญที่โดนคนพี่เอามือฟาดก้นกันดังแปะจนรู้สึกแสบๆ คันๆ ก่อนจะเอี่ยวตัวไปมองด้วยใบหน้ายุ่งติดจะไม่พอใจ แต่ก็เห็นแค่ด้านหลังของเขาเท่านั้น

"ก็หนูพูดไม่เพราะไง"

"ก็น้องบอกให้ปล่อยแล้วพี่ไม่ยอมปล่อยนิ"

"แปะ!"

"อื้อ~ มันเจ็บนะ"

"เถียงเก่งจริงๆ"

"ฮึ่ย!"

ผมขมวดคิ้วทำหน้าบึ้งทันที ยอมหยุดโวยวายแล้วอยู่นิ่งๆ ไม่เอ่ยปากเถียงใดๆ ปล่อยให้เขาได้แบกผมเดินต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่คิดจะถามเซ้าซี้อีก แต่คาดไม่ถึงว่าที่ๆ เขาพามามันจะเป็นชั้นบนสุดของโรงแรมที่จัดงานแบบนี้

#พี่รักหนูนะ

TW : https://twitter.com/dao_25?s=09

You May Also Like

บันทึกฝึกสอน

บันทึกฝึกสอน ครั้งที่ 26 วันนี้ก็น้ำตาแตกเหมือนเดิม Past simple tense ที่ผมสอนไปเมื่อวันก่อน ทั้งที่ในคาบแทบจะบอกข้อสอบอยู่แล้ว วันนี้พวกหัวขวดห้องพละก็ยังตกกันระนาว “จารย์จักร ขอซ่อมง่าย ๆ นะจารย์” ให้ตายเถอะ ทำเอาผมท้อจนเกือบจะร้องไห้แน่ะ แต่ ‘พี่เคน’ ครูพี่เลี้ยงก็ลูบหัวปลอบผม แล้วบอกว่า “ไม่เป็นไรน่า ไว้ค่อยปรับการสอนไป ไม่ต้องเครียด” แล้วจะไม่ให้เครียดได้ยังไงกัน ทั้งห้องมี 41 คน ผ่านอยู่คนเดียว โว๊ยยยยยย ผมเอาหน้าซุกอกพี่เคนแล้วปล่อยโฮออกมา หน้าอายชะมัด แต่มันไม่ไหวแล้วจริง ๆ ชีวิตฝึกสอนของผมคงจะทุลักทุเลกว่านี้แน่ ถ้าไม่มีแฟนคนนี้อยู่ข้าง ๆ ละก็... เดี๋ยว...ผมเผลอหลุดไปเหรอ ที่จริงแล้วแฟนของผม…พี่เคน ก็คือครูพี่เลี้ยงของผมนั่นแหละ เพราะงั้น รู้แล้วก็อย่าไปบอกใครนะ ถ้าใครรู้เรื่องความรักต้องห้ามนี้ละก็ ผมซวยแน่ บี จักรวาร

NIMAJNEB · LGBT+
Not enough ratings
4 Chs

ONMYOJI องเมียวจิ

แนะนำตัวละคร อวี้ อันฉี (อัลฟ่า) (184 ซม. / 74 กก.) นักเรียนแลกเปลี่ยนจากจีนที่ต้องมาอาศัยอยู่กับตระกูลอาคาวะ ถูกคุณปู่ (อาคาวะคนปู่บังคับให้เรียกเพื่อความสนิทสนม) ฝากฝังให้ต้องไปอยู่ภายใต้การดูแลของ ชิโนบุ และ แบล็ก อาคาวะ ชิโนบุ (182 ซม. / 67 กก.) ทายาทตระกูลอาคาวะที่มีชื่อเสียงเป็นตระกูลใหญ่อันดับต้น ๆ ในเกียวโต เพราะชีวิตผูกพันอยู่กับเรื่องภูตผีมาตั้งแต่เด็ก เลยไม่ค่อยจะกลัวอะไรเหมือนคนอื่นเขาสักเท่าไร อาคาวะ แบล็ก (179 ซม. / 72 กก.) เด็กหนุ่มขี้เล่นอารมณ์ดีที่ตัวติดกับชิโนบุตลอดเวลา เป็นคนที่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ยังยิ้มได้ ยกเว้นเวลาที่โกรธมากจริง ๆ เจ้าตัวมักจะคอยอธิบายเรื่องต่าง ๆ ให้อัลฟ่าฟังอยู่เสมอ

LyLyAiAi · LGBT+
Not enough ratings
34 Chs

จะยอมเป็นที่รักไหม? Secret Night -Boyslove

Mature Content 18+ เพราะเหล้าและความเมาเป็นเหตุ ทำให้เทนทำอะไรห่าม ๆ ทำแบบที่ไม่เคยทำ ชวนเด็กน้อยหน้ามนคนหล่อขึ้นเตียง สุขแบบไม่เคยสุข หัวใจที่เคยร้าวรานและเดียวดายได้รับการเติมเต็ม ท่ามกลางความสับสนกับคำว่า “เริ่มต้นใหม่ได้แล้ว” เทนดันมาเจอว่า เด็กน้อยหน้ามนคนหล่อที่เขาลากขึ้นเตียงนั้น เป็นเด็กฝึกงานในบริษัทของเขาเอง ค่ำคืนที่น่าประทับใจ ตะวันที่ถูกเจ้าของบริษัทเปิดซิง จะตามหลอกหลอนให้เทนต้องชดใช้ และยอมเป็น "ที่รัก" ของเขาให้จงได้ โชคชะตาที่ฟ้ากำหนดมาแล้ว ใครจะเปลี่ยนมันได้ จริงไหม?

Papaya24 · LGBT+
Not enough ratings
2 Chs

The Lost City...นครที่สาบสูญ

ธารา / ทาร่า นักโบราณคดีหนุ่มผู้มากความสามารถ แถมยังเป็นคนยิ้มง่ายเลยเข้ากับคนอื่นได้ดี จู่ ๆ ก็ได้รับคำสั่งให้มาจัดการเกี่ยวกับเรื่องนครสาบสูญที่เพิ่งถูกค้นพบ เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นก่อนที่มหานครแห่งนี้จะล่มสลายค่อย ๆ ถูกรื้อฟื้นขึ้นมา อดีตชาติและยุคสมัยใหม่ค่อย ๆ ถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันจากคนเพียงคนเดียว... อาเธอร์ นายทหารมากฝีมือ เป็นหัวหน้าหน่วยที่ถูกส่งมาดูแลความปลอดภัยให้กับงานครั้งนี้โดยเฉพาะ เป้าหมายหลักคือให้ความคุ้มครองจนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น เป็นคนหน้านิ่งไม่ค่อยยิ้มเลยดูดุจนทำให้คนอื่นกลัวตลอดเวลา แต่ความจริงถือว่าเป็นคนที่ใจดีมาก ๆ คนหนึ่ง ทั้งที่ดูแล้วไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไร แต่เจ้าตัวกับเป็นคนที่มีความสำคัญมากต่อเหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบันที่กำลังจะเกิดขึ้น ศรุต / แซค หนุ่มเลือดไทยเต็ม 100% แต่มาเรียนต่อที่ต่างประเทศเลยได้พบกับธารา เพราะอีกฝ่ายเป็นลูกครึ่งไทยเลยพูดกันรู้เรื่อง ตั้งแต่นั้นมาศรุตจึงติดรุ่นพี่ใจดีคนนี้เอามาก ๆ แม้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในอดีต แต่เพราะตัวติดกับธาราตลอดจึงต้องรู้เรื่องอะไรต่อมิอะไรไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ เบน หนุ่มขี้เล่น อารมณ์ดี มีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าจึงมีอำนาจรองจากอาเธอร์คนเดียวเท่านั้น และเพราะเป็นคนอัธยาศัยดีจึงเข้ากับคนอื่นได้เร็ว พอมีเวลาว่างก็มักจะไปคุยเล่นกับธาราและศรุตเสมอจึงสนิทกันพอสมควร และอีกเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครรู้คือเจ้าตัวเป็นเพื่อนกับอาเธอร์มาตั้งแต่เด็กจึงสนิทกันมากชนิดรู้ไส้รู้พุงดี ไม่มีความลับใด ๆ ต่อกันทั้งสิ้น

LyLyAiAi · LGBT+
Not enough ratings
6 Chs

เอาไงดีมีสามีเป็นอินคิวบัสอสูรสูบวิญญาณทีเดียวสองตน (pwp, ตลก, 3p, dem

คำโปรย อินคิวบัสคืออสูรลึกลับหายากที่มีมาแต่ดึกดำบรรพ์ แฝงเร้นในร่างมนุษย์ผู้ชายหล่อเหลา แต่ทันใดโดยไม่ทันตั้งตัว มันจะสูบ...ดูด...จนแห้งเหือด แต่อ๊ะ..แต่ถ้าหล่อจริงหล่อจัง ยอมให้สูบก็ได้ อิอิ เรื่องย่อ ดอกเตอร์ฟินเนเกน หรือหมอฟิน ภายนอกเขาคือหมอห้องฉุกเฉินที่มากความสามารถ แถมยังร่ำรวยมีคุณธรรม มิหนำซ้ำหน้าตายังล้อหล่อ แต่ไม่มีใครรู้ว่า เขาเป็นอสูรอินคิวบัสที่มีอายุเกือบสามศตวรรษ ฟินเบื่อหน่ายที่เกิดมาเป็นแบบนี้ เขาต้องเปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัยว่าเหตุใดเขาถึงไม่แก่ ฟินอยากมีชีวิตเรียบง่ายเหมือนคนทั่วไป มีเพื่อนมีคนรักที่แก่เฒ่าไปด้วยกัน การเป็นอินคิวบัสทำให้เขากระหาย และต้องสูบพลังของมนุษย์เรื่อย ๆ ไม่งั้นเขาจะแห้งตาย ฟินมีความคิดอยากฆ่าตัวตายอยู่เสมอ เขาอยากจบชีวิตที่แปลกประหลาดต่างจากคนอื่นแบบนี้ แต่จู่ ๆ ชีวิตของดอกเตอร์ฟิน ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในคืนหนึ่ง คืนนั้น ฟินก็ได้เจอคนไข้ฉุกเฉินผู้ชายที่ถูกพลเมืองดีพามาส่งที่โรงพยาบาลที่ฟินทำงานอยู่ หนุ่มคนนั้นประสบอุบัติเหตุในรถยนต์รับจ้างแล้วความจำเสื่อม เขาจำอะไรไม่ได้เลย เว้นแต่มีเป้เก่า ๆ ติดตัวมาใบหนึ่ง กับเข็มกลัดที่มีข้อความบนนั้นบอกว่า ‘เขาชื่อเดวอน’ จุดเด่นของเดวอนคือดวงตา เขามีตาดำสองสี สีตาแต่ละข้างไม่เหมือนกัน ฟินรู้สึกแปลก ๆ ราวกับเดวอนมีบางอย่างคอยดึงดูดเขา และเมื่อเดวอนแข็งแรงพอจะออกจากโรงพยาบาล แต่ความจำของเดวอนก็ยังไม่กลับมา เขาไม่มีที่ไป และไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ฟินเลยพากลับเดวอนมาอยู่ด้วยที่บ้านด้วยกัน คาโคคือเด็กหนุ่มวัยรุ่น เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงโดยคนในซ่องโสเภณีชายแห่งหนึ่ง ตอนแรกคาโคมีหน้าที่เป็นเด็กรับใช้จิปาถะให้คนในซ่อง แต่ยิ่งโตเป็นหนุ่ม คาโคก็ยิ่งหล่อเหลาแถมยังหุ่นดีจนเจ้าของซ่องอยากเคลมขึ้นมาซะอย่างงั้น ในวันที่คาโคอายุครบสิบแปด เจ้าของผู้หื่นกามก็ใช้อำนาจบังคับกึ่งโน้มน้าวให้คาโคมามีอะไรด้วย ในช่วงเวลาเปิดบริสุทธิ์อันวาบหวามของหนุ่มน้อย ความทรงจำของเขากลับขาดหายไปในช่วงดังกล่าว พอรู้สึกตัวอีกทีก็เห็นว่าเจ้าของซ่องนอนแห้งตายไม่ต่างจากใบไม้แห้งกรอบ เพราะแท้จริงแล้ว คาโคเองก็คืออินคิวบัสเช่นกัน และพออายุครบสิบแปดเขาจะจำเป็นต้องดูดพลังมนุษย์ เพียงแต่หนุ่มน้อยยังไม่รู้สภาวะแท้จริงของตัวเองก็เท่านั้น คาโคตกใจมาก พอเจอเรื่องแบบนี้แล้วทำอะไรไม่ถูก เขาเลยหนีไปกับเฮมิส เพื่อนร่วมซ่องอีกคน เฮมิสชักชวนให้คาโคมาเป็นกะหรี่อิสระ รับงานโดยไม่พึ่งสังกัด นั่นเลยทำให้คาโคได้รับลูกค้าเป็นครั้งแรก และทำให้รู้ว่าพอได้มีเซ็กซ์ อาการกระหายแปลก ๆ ที่เริ่มเป็นตั้งแต่อายุสิบแปดก็หายไป ด้วยเหตุนี้คาโคจึงคิดยึดอาชีพนี้ต่อไป แถมยังภูมิใจและรักในการเป็นกะหรี่ แต่ชีวิตกะหรี่ของคาโคก็ไม่ราบรื่นอีกจนได้ เมื่อเฮมิสชวนเขาให้ไปรับงานที่คฤหาสน์ใหญ่โตแห่งหนึ่งราวกับปราสาท ที่ต้องเดินทางจากเมืองที่เขาอยู่ไปหลายร้อยกิโล ที่ปราสาทนั่นคาโคได้ให้บริการลูกค้าตามปกติ แต่พอเสร็จ เขาก็ตกใจแทบช็อกเมื่อพบว่าเฮมิส เพื่อนของเขาถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมในปราสาท คาโครีบเผ่นจากปราสาทหัวซุกหัวซุน แต่ก็รอดจากการตามล่าของคนในปราสาทมาได้ เขาไม่มีทั้งเงินแถมทำมือถือหาย เลยขอโบกรถขอติดเข้าเมือง ด้วยโชคชะตาพลิกผันราวกับละคร คาโคมาถึงในเมืองได้อย่างไรไม่รู้ เขามานอนหลับด้วยความอ่อนเพลียอยู่หน้าบ้านของหมอฟิน และคนที่มาเจอคาโคก็คือเดวอน ที่น่าแปลกคือทันทีที่คาโคตื่นขึ้นมาเจอเดวอน เขาก็รู้สึกราวกับเดวอนมีพลังดึงดูดอะไรบางอย่าง ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่หมอฟินเคยรู้สึก เดวอนสงสารคาโคที่ไร้ที่พึ่ง เงินก็ไม่มีแถมยังถูกคนที่ปราสาทตามล่า เขาเลยขอหมอฟินให้คาโคอยู่ด้วยอีกคน หมอฟินก็อนุญาต เพราะหมอเองรู้ดีว่าคาโคคือสิ่งมีชีวิตแบบเดียวกับเขา และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของเราสามคน สองอินคิวบัสกับหนึ่งคน ที่จะนำไปสู่เรื่องราวอันน่าตื่นเต้นประทับใจ ที่สำคัญคือ ‘ฟิน’

telltopia · LGBT+
Not enough ratings
1 Chs

ratings

  • Overall Rate
  • Writing Quality
  • Updating Stability
  • Story Development
  • Character Design
  • world background
Reviews
WoW! You would be the first reviewer if you leave your reviews right now!

SUPPORT