webnovel

พันธการใจ

ในยามที่เจ้ามีภัย เจ้าจะปลอดภัยอยู่เคียงข้างกายข้า ในยามที่เจ้าโหยหาความสงบ ข้าจะเป็นสายลมคอยพัดพีให้เจ้าผ่อนคลาย ตัวข้าจะพันผูกเจ้าไว้ด้วยหัวใจของข้าเอง มิมีวันให้เจ้าลาลับหายไป เมื่อคนในอดีตยังมีลมหายใจอยู่ในอีกโลกคู่ขนาน และไม่ว่าจะด้วยเวทมนตร์ โชคชะตา หรือฟ้าลิขิตใดๆก็ตาม ทำให้ตัวเขามองเห็นชายผู้นึงซึ่งอยู่ในอีกโลกที่เขาไม่รู้จัก ผ่านภาพนิมิตรจากรูปวาดรูปใหญ่เท่าขนาดคนจริงในห้องนอนของตนเอง ซึ่งเดิมทีเคยเป็นห้องของคุณปู่ทวด น้องชายแท้ๆของปู่ทวดของเขาผู้ล่วงลับไปแล้วร่วม 40 ปี ใบหน้าหล่อเหลาคมคายของชายในรูปที่เขาเห็นมาตั้งแต่เกิด เมื่อได้หันมองครั้งใดมักทำให้เขาใจเต้นได้ทุกครา แต่สิ่งที่เพิ่มความตื่นเต้นประหลาดใจให้เขายิ่งกว่า คือ การที่เขามองเห็นภาพนิมิตรซ้อนทับของชายอีกคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายคนในรูปวาดแทบทุกอย่าง และยิ่งไปกว่านั้นยามใดที่มือของเขาได้สัมผัสภาพนิมิตรนั้น กายเขาเหมือนหลุดเข้าไปยังโลกที่ชายผู้นั้นอยู่ เขาได้เห็นตัวเป็นๆของชายผู้นั้น เห็นทุกอริยบททุกการกระทำทุกๆวันของเขา แม้แต่ในยามมีภัยด้วยคาถาบังตาและอื่นๆมากมายที่ร่ำเรียนมามักจะใช้ประโยชน์เพื่อช่วยให้เขาปลอดภัยไปได้ทุกครา แต่ชายตรงหน้ากลับไม่เคยมองเห็นตัวเขาเลย มันคงเป็นเส้นกั้นระหว่างตัวเขาและภูมินทร์ หม่อมหลวงภูมินทรบวรวงศ์ ชายผู้เกิดในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น รัชกาลที่ 3 จึงทำให้เขาทั้งคู่ไม่เคยได้พานพบกันสักครา แต่ชายตรงหน้าอย่าง "ใบบุญ" ผู้นี้ ก็ไม่เคยทำให้ตนเลิกใจเต้นได้สักครั้งเมื่อได้เห็น ในขณะที่ ใบบุญ หนุ่มรูปหล่อผู้เคร่งขรึม ผู้รัก ความเป็นส่วนตัว และมักจะใช้เวลาทั้งหมดไปกับการศึกษาโบราณคดีไทยมากมาย ไม่มีเหตุผลว่าเพราะอะไรทำไมเขาถึงชอบมันนักหนา แต่ทุกครั้งที่ได้ศึกษามันช่างมีความสุขเหลือเกินแม้มันจะไม่ใช่ทางที่ครอบครัวสนับสนุนเขาเลยก็ตาม เขาไม่เคยจะสนใจธุรกิจครอบครัว หรือภัยอันตรายใดๆที่กล้ำกรายเข้ามาใกล้ตัวเขามากขึ้นทุกขณะ แม้ว่าผู้เป็นพ่อจะตอกช้ำให้ระวังมากขึ้นทุกวัน เขาไม่รู้หรอกว่าครอบครัวมีศัตรูอะไรที่ไหน เขาแค่อยากใช้ชีวิตแบบสงบๆกับสิ่งที่ชอบเท่านั้น หารู้ไหมว่าอันตรายต่างๆอยู่รอบตัวเขาตลอดเวลา เพียงแต่มีมนตราจากภูมินทร์คอยช่วยเหลือบังตาศัตรู และคอยปกป้องดูแลเขาอยู่ จึงแคล้วคลาดมาได้ทุกครา โดยที่เขาเองไม่เคยรับรู้..... . . เมื่อถึงเวลาที่กำหนด เขาทั้งคู่จะได้พานพบหน้ากัน เมื่อถึงวันนั้น ใจของทั้งคู่จะเชื่อมโยงกันยากเกินจะคลายปมพันธนาการ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม จะไม่มีสิ่งใดแยกเขาทั้งคู่จากกันได้ นอกจากการทำลายสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่ได้มาพบเจอกันเท่านั้น.........

BlackBubble · アクション
レビュー数が足りません
3 Chs

ปฐมบทความรู้สึก

ใบบุญ บุญกฤษ ชายผู้รักความสงบ ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่เคยให้ใครหน้าไหนมารุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของตนได้เลยสักครั้ง ในแต่ละวันของเขาดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ความเงียบขรึมเป็นทุนเดิมทำให้หน้าตาของเขาไม่ค่อยเป็นมิตรกับใครนัก แต่ด้วยความคมเข้มหล่อเหลาของเขานั้น ก็สร้างความอึดอัดใจให้เจ้าตัวไม่น้อย เพราะชีวิตวัยเรียนมหาลัยมักจะวุ่นวายกับการคอยหลีกเลี่ยงคำทักทายเชิงเข้าหาหวังได้ครองใจเขาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะสาวสวยหมวยน่ารักเซ็กซี่ หรือเหล่าหนุ่มหล่อหน้าใส ที่มักแวะเวียนคอยทักทาย ทั้งที่เขาเองไม่เคยรู้จักคนเหล่านั้นเลย สำหรับเขาแล้วทั้งชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยคิดจะมีใคร เขาชอบการใช้ชีวิตคนเดียวที่สุด สบายใจ ไม่ต้องคอยกังวลใดๆ แต่ชีวิตเขาก็ยังหนีไม่พ้นความวุ่นวาย นอกจากชีวิตมหาลัยอันแสนจะ popular ด้วยความหล่อเป็นเหตุ ซึ่งเขาเองไม่เคยต้องการแล้ว ชีวิตครอบครัวเขาก็เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตไม่น้อย ด้วยครอบครัวทำธุรกิจต่างๆมากมายหลายอย่างทั้งด้านสว่างและด้านมืด แน่นอนว่าตัวเขาไม่เคยสนใจใยดีกับงานของที่บ้าน แม้ว่าพ่อแม่จะพยายามเคี่ยวเข็นให้เรียนรู้งานเท่าไหร่ก็ตาม เขาก็มักจะทำพอผ่านๆไปให้มันจบๆ เพราะเป้าหมายเดียวที่เขามุ่งหวัง คือ การได้เป็นนักโบราณคดีไทย ซึ่งขัดแย้งต่อความต้องการของผู้เป็นพ่ออย่างที่สุด เขาคาดหวังไว้มากกับใบบุญว่าต้องสืบทอดธุรกิจอย่างน้อย 70 % แทนตนเอง แต่ความหวังยิ่งจะริบหรี่ลงเรื่อยๆ เพราะใบบุญไม่เคยทำในสิ่งที่พ่อต้องการจริงๆเลยสักครั้ง

.

.

"ก็ผมไม่ได้ทำนี่ครับพ่อ ผมจะทำในสิ่งที่ผมอยากทำ" ใบบุญพูดตอบพ่อของเขา

"แต่อะไรที่แกว่าอยากทำนั่นน่ะ มันไร้ประโยชน์!! เข้าใจมั้ยย ฮะ!" บดินทร์เองก็ตอบกลับลูกชายด้วยความโมโห ด้วยลูกชายคนโตไม่เคยได้ดั่งใจเขาเลยจริงๆ

"มันไร้ประโยชน์สำหรับพ่อคนเดียวนะสิครับ สำหรับผมมันคือความฝัน คือ เป้าหมาย มันไม่เคยไร้ประโยชน์สักนิด" ผมเหลือจะทนกับความคิดพ่อ ทำไมต้องคิดว่าการที่ผมจะทำความฝันของตัวเองแล้วจะทำธุรกิจต่อให้พ่อไม่ได้ ทุกๆวันก็เอาแต่กดดันให้ผม ทำทุกอย่างที่ผมไม่อยากทำ และให้เลิกทำในนิ่งที่ผมรักอยู่ได้ โคตรอึดอัดสุดๆ ผมแทบไม่อยากเจอหน้าเขาเลยจริงๆ

"เห้ออ ความฝันงั้นหรอ ฝันไปเถอะ แกคิดว่าชีวิตแกจะหมกมุ่นกับอะไรแบบนั้นไปเรื่อยๆได้ยังไง แกดูรอบตัวแกตอนนี้สิ ถ้าแกอยากจะมีชีวิตรอด ช่วยฟังที่ชั้นพูดบ้างก็แล้วกัน" ใจจริงบดินทร์เองไม่ได้กังวลเรื่องสืบทอดธุรกิจอะไรมากมายนัก เพียงหวังให้ลูกชายใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย เพราะธุรกิจต่างๆของเราใช่จะมีแค่ด้านที่ดีใสสะอาดเท่านั้น อีกด้านนึงนั้นมีทุกสิ่งผิดกฏหมาย แต่อย่างเดียวที่เขาไม่คิดจะแตะต้องคือสารเสพติดทุกชนิด เขาเกลียดมันที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นธุรกิจด้านมืดที่ทำก็ส่งผลให้มีทั้งมิตรและศัตรูมากมาย มิตรที่คงเรียกได้ว่าทำมาค้าขายกันด้วยดีมาตลอดในเบื้องหน้า แต่เบื้องหลังแล้วคิดกันยังไงไม่มีทางไว้ใจกันได้เต็มร้อย ไม่ต้องพูดถึงพวกที่เป็นศัตรูกัน จ้องแต่จะล้างผลาญกันทั้งสิ้น แบบนี้ไงเขาถึงรบเร้าให้ใบบุญไปเรียนการต่อสู้ต่างๆไว้ป้องกันตัวเอง แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะสนใจ จนวันนี้ก็มาทะเลาะกันอีกตามเคย เพราะผมคะยั้นคะยอให้เขาไป

.

"อะไรของพ่อ เอาชีวิตรอดอะไร ผมไม่ได้จะไปยิงรันฟันแทงกับใครที่ไหนสักหน่อย ผมก็เรียนของผมใช้ชีวิตของผมปกติเนี่ย"

"พี่ก็เถียงพ่อเก่งจริงๆเลยนะครับ"

"แกยุ่งอะไร ไอบลู เงียบเหอะ" ไอบลู บูรพา น้องชายตัวยุยงส่งเสริมให้พ่อด่าว่า คัดค้าน ทุกอย่างที่ผมทำ มันอายุห่างจากผมแค่ 2 ปี ดีที่ยังเห็นหัวกันเรียกผมว่าพี่ ไม่รู้จะจงเกลียดจงชังอะไรผมนักหนา ให้ผมมีชีวิตที่มีความสุขสักหน่อยก็ไม่ได้

"โอเค เงียบก็ได้ เกิดอะไรขึ้นว่าก็อย่าหาว่าไม่เตือนละกันน" พูดจบยังทำหน้ากวนบาทาใส่ผมอีก ไอน้องเวร ผมละเบื่อการออกจากห้อง เบื่อการอยู่บ้านที่สุด เพราะแบบนี้ไง บ้านไม่ใช่พื้นที่ที่ทำให้ผมรู้สึกมีความสุข สบายใจได้สักครั้งเลย

"ชั้นขอร้องได้มั้ยใบบุญ ชั้นขอ แกช่วยฟังชั้นสักครั้ง ชั้นไม่บังคับให้แกไปเรียนอะไรก็ได้ ไม่ได้บังคับให้ทำธุรกิจต่อจากชั้นก็ได้ แต่แกช่วยระมัดระวังตัวเองบ้าง อย่าลืมว่า..."

"อย่าลืมว่าศัตรูที่พ่อสร้างไว้มันมีมากมายเหลือเกิน จะเกิดอะไรขึ้นตอนไหนก็ได้ งั้นใช่ไหมครับ ผมพูดถูกมั้ย" เขาพูดเรื่องนี้ซ้ำๆมาตลอด และนับวันมันก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ

"ชั้น...แค่เป็นห่วงแกนะใบบุญ แล้วนั่นกำลังจะออกไปไหนอีก"

"ไปมหาลัยครับ มีงานต้องทำ"

"โอเค แล้วจะไปยังไง ให้คนขับรถไปส่งมั้ย" เห้ออ ผมล่ะอดห่วงลูกชายคนนี้ไม่ได้จริงๆ ทั้งที่เป็นลูกคนโต แต่เขาดูใสสอาดบริสุทธิ์ซะจน...อาจกลายเป็นเป้าหมายของคนที่ไม่หวังดีได้

"ผมจะเอารถไปเองครับ สะดวกกว่า"

"โอเคๆ ดูแลตัวเองดีๆ"

"ครับ" ผมตอบกลับพ่อไปสั้นๆ แล้วรีบก้าวเดินออกมาให้พ้นประตูบ้าน และขึ้นรถขับออกมาทันที อึดอัดจนแทบจะคลั่งตาย ผมว่าผมน่าจะเกิดผิดที่ผิดทาง ผมถึงได้ไม่มีความสุขกับคนในครอบครัวนี้เลย สถานที่นี้เลย แต่ในฐานะลูก ผมก็รักและอยากเห็นเขามีความสุขครับ ผมรู้ว่าเขาหวังดี แต่ขอให้ผมได้ทำในสิ่งที่ผมรักก็พอ เรื่องอื่นผมจะพยายามทำให้อย่างสุดความสามารถของผม