webnovel

#นั่นผีนะครับแซน 6

เวย์ยกมือขยี้กลุ่มผมสีน้ำตาลของตัวเองอย่างหงุดหงิด

เขาอุตส่าห์เสี่ยงออกมาหาหลักฐานตอนกลางคืนเพิ่มเติมแท้ๆ แต่พวกแม่บ้านเหล่านั้นกลับเก็บกวาดไปหมดจนแทบไม่เหลือร่องรอย โชคดีที่ตอนกลางวันเขายังพอได้หลักฐานบางอย่างกลับมาบ้าง

เวย์ก้มมองกระดุมเม็ดหนึ่งในมือ เขาเก็บมันมาได้เมื่อตอนที่แกล้งทำเป็นหาป้ายชื่อในที่เกิดเหตุ มันเป็นกระดุมเสื้อของพ่อบ้านแบบเดียวกับที่เขาและผู้เข้าร่วมคนอื่นๆใส่

เวย์มั่นใจว่ามันไม่ใช่กระดุมของศพที่ตายแน่นอน เพราะถึงแม้จะเป็นผู้ชายเหมือนกัน และศพนั้นก็ถูกหั่นเป็นท่อนๆ แต่พอลองสังเกตดีๆก็จะพบว่ากระดุมบนเสื้อที่ฉีกขาดของศพนั้นยังอยู่ครบ

ดังนั้น นี่อาจเป็นหนึ่งในหลักฐานที่จะทำให้สาวไปถึงตัวฆาตกรได้ ในตอนนี้ เวย์พอจะเดาได้แล้วว่าฆาตกรคนนี้เป็นผู้ชาย แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจแบบเต็มร้อย เพราะบางที ฆาตกรอาจเป็นผู้หญิงที่นำชุดพ่อบ้านมาใส่ชั่วคราว หรืออีกฝ่ายอาจจะจงใจทิ้งหลักฐานปลอมเอาไว้ก็ได้

ปริศนาที่ซับซ้อนไปหมดในโลกนี้ทำเอาเวย์รู้สึกหงุดหงิด นอกจากจะไม่แน่ใจว่าฆาตกรคนนี้จะเป็นบอสของโลกรึเปล่า หลักฐานในที่เกิดเหตุก็ยังจะไม่เหลือให้สืบต่ออีก

อันที่จริง หากเป็นในโลกอื่นๆ เวย์คงไม่รีบร้อนและหาภารกิจรองทำสักภารกิจก่อนแล้วค่อยลงมือไขปริศนาอย่างจริงจัง แต่พอมาเป็นโลกนี้ เขากลับตัดสินใจที่จะละทิ้งภารกิจรองและพยายามไขปริศนาให้ได้เร็วที่สุดแทน

เวย์ต้องการให้ทุกคนออกไปจากโลกนี้ให้เร็วที่สุด

ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะเด็กใสซื่อคนนั้น..

แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆที่พวกเขาได้รู้จักกัน แต่เพียงเท่านั้นก็ทำให้เขาพอจะรู้จักนิสัยจริงๆของแซนพอสมควรแล้ว อีกฝ่ายเป็นคนที่จริงใจเป็นอย่างมาก คิดอะไรก็แสดงออกมาบนสีหน้าจนน่าเอ็นดูไปหมด

เวย์เผลอหลุดยิ้มอ่อนโยนออกมา

และเพราะแบบนั้น เวย์เลยไม่อยากให้แซนต้องอยู่ในโลกสยองขวัญแบบนี้นานๆ เพราะในโลกใบนี้ ยิ่งใกล้ครบกำหนดเจ็ดวันมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น และเขาก็ไม่ต้องการให้เด็กคนนั้นต้องมาเสี่ยงชีวิตหรือตายที่นี่ แม้แซนจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้แม่บ้านคนนั้นมีท่าทางอ่อนลง แต่นั่นก็ไม่สามารถรับประกันได้อยู่ดีว่าอีกฝ่ายจะปลอดภัย

ทั้งๆที่ที่ผ่านมา เวย์ไม่เคยทำอะไรเพื่อใครในโลกสยองขวัญเลยแท้ๆ

ร่างสูงส่ายหัวปัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไป ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับที่พักของตัวเองเงียบๆ และเฝ้ารอโอกาสที่จะได้หาหลักฐานเพิ่มอีกครั้ง

ลับหลังของร่างสูง แซนก็ค่อยๆออกมาจากพุ่มไม้อย่างทุลักทุเล

พี่เวย์นี่สมกับเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านโลกสยองขวัญมาหลายโลกจริงๆ ในขณะที่ทุกคนกำลังหลับ อีกฝ่ายก็ลงทุนเสี่ยงออกมาหาหลักฐานด้วยตัวเองคนเดียวเลยนะ!

ส่วนน้ำเสียงเย็นๆของพี่เวย์ แซนคิดว่าเขาคงจะแค่หูฝาดไป เพราะหลังจากที่จ้องมองพี่เวย์ดีๆอีกครั้ง อีกฝ่ายก็ยังคงมีรอยยิ้มละมุนอยู่บนใบหน้าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

พี่เวย์ต้องเจอหลักฐานอะไรบางอย่างแล้วแน่ๆถึงได้ยิ้มดีใจแบบนั้น

แซนค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าในโลกใบนี้จะต้องมีปริศนาให้แก้ไขอยู่แน่นอน และพี่เวย์ก็กำลังทำมันอยู่เช่นกัน หรือบางทีมันอาจเป็นภารกิจลับที่ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่จะรู้?

แซนเริ่มตื่นเต้น นี่เขามารู้ความลับสุดยอดเข้าแล้วสินะ!

ผีสาวที่ล่องหนอยู่เริ่มปรากฏกายขึ้นมาอีกครั้งข้างๆคนตัวเล็ก แซนจึงเพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้เขาควรหาลูกตาให้กับพี่สาวคนนี้ก่อน

"อะ..ขอโทษด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะรีบหาให้เดี๋ยวนี้เลยครับ!"

ไม่ว่าเปล่า แซนได้ทำตามที่พูดจริงๆโดยการมุดหัวเข้าไปหาในพุ่มไม้ต่างๆอย่างจริงจัง หลังจากจับๆคลำๆที่พื้นแถวนั้นอยู่ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง ในที่สุด เขาก็สามารถหาลูกตาทั้งสองข้างให้พี่สาวได้จนครบ

"เจอแล้ว!" แซนชูลูกตาทั้งสองข้างขึ้นมาก่อนจะเผยยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

กว่าจะหาลูกตาทั้งสองข้างของพี่สาวเจอก็ใช้เวลานานเอาเรื่อง เพราะมันไม่ได้อยู่บนพื้นดินหรือในพุ่มไม้ตามปกติ แต่กลับถูกดินฝังกลบไปจนเกือบหมด

หากแซนไม่เอะใจตอนที่คลำเจอหลุมดินนุ่มๆ ป่านนี้เขาก็ยังคงหาไม่เจอหรอก

ใบหน้าน่ารักของแซนในตอนนี้เปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยคราบดิน ส่วนกลุ่มผมสีดำของเขาก็มีแต่เศษใบไม้ติดอยู่เต็มไปหมดราวกับลูกแมวที่แอบเข้าไปเล่นซนในสวน มองดูแล้วน่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก

ผีสาวมองสภาพของเด็กตรงหน้าอย่างเอ็นดู

อีกฝ่ายอุตส่าห์ลงทุนทำเพื่อเธอขนาดนี้ และจะไม่ใช้เธอรู้สึกเอ็นดูได้ยังไงกัน

"ผมหาตาให้พี่สาวเจอแล้วครับ!" แซนเอ่ยขึ้นอย่างดีใจขณะที่ยื่นลูกตาทั้งสองข้างไปให้พี่สาวตรงหน้า แต่เขาก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นว่าตัวเขาและลูกตาทั้งสองข้างนั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบดินเต็มไปหมด

ไม่ได้การแล้ว ถ้าให้พี่สาวไปทั้งแบบนี้ ดินได้เข้าตากันก่อนพอดี ต้องไปหาที่ล้างก่อน!

"ด..เดี๋ยวผมไปล้างตาให้พี่สาวก่อนดีกว่าครับ ตอนนี้มันเลอะมากๆเลย!"

พูดจบ แซนก็ไม่ปล่อยให้ผีสาวต้องรอนาน เขาวิ่งดุ๊กดิ๊กไปหาก๊อกน้ำข้างๆสวนอย่างน่าเอ็นดู ก่อนจะลงมือล้างลูกตาให้อีกฝ่ายอย่างทะนุถนอม

ถึงจะไม่มั่นใจก็เถอะว่าลูกตาทั้งสองข้างนี้จะเป็นของพี่สาวจริงๆรึเปล่า แต่ถ้าไม่ใช่จริงๆค่อยมาหาเอาใหม่วันอื่นก็ยังไม่สาย ตอนนี้ทำให้พี่สาวมีตาไว้มองเห็นรอบข้างชัดๆก่อนดีกว่า

หลังขัดๆถูๆจนสะอาด แซนก็วิ่งเอาลูกตาทั้งสองข้างไปให้พี่สาวที่ยืนรออยู่อย่างกระตือรือร้น

หากจะถามว่าทำไมแซนถึงดูไม่กลัวลูกตาของมนุษย์ ก็อย่างที่เขาเคยบอก เขาเห็นอะไรสยองๆพวกนี้มาจนชินแล้ว แม้จะเป็นชิ้นส่วนจากร่างกายของมนุษย์ก็ตาม แต่แซนก็ไม่ได้รู้สึกกลัวมันอยู่ดี

ผีสาวยืนอมยิ้มกับท่าทางน่าเอ็นดูของเด็กตรงหน้า ตอนนี้มันราวกับว่าเธอโดนอีกฝ่ายตกเข้าอย่างเต็มเปา

และเมื่อเธอได้รับลูกตาคืนมา หญิงสาวก็ค่อยๆใส่ลูกตากลับเข้าไปในดวงตากลวงโบ๋ของเธออีกครั้ง แม้ภาพตรงหน้ามันอาจจะดูน่าสยองไปหน่อยสำหรับใครบางคน แต่สำหรับแซน เขากำลังยืนลุ้นเรื่องภารกิจอยู่อย่างเงียบๆต่างหาก

หากภารกิจสำเร็จ นั่นก็แสดงว่าลูกตาคู่นั้นเป็นของพี่สาวจริงๆ แต่ถ้าไม่ แซนก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องมาหาลูกตาให้พี่สาวใหม่

'ภารกิจรอง : สำเร็จ'

'รางวัลจะได้รับหลังภารกิจหลักสำเร็จ'

ทันทีที่เห็นตัวอักษรสีเลือดอันคุ้นเคย แซนก็พลันยิ้มกว้างออกมาทันที ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะค่อยๆจางลงเมื่อเห็นข้อความบรรทัดที่สอง

ให้หลังภารกิจหลักสำเร็จ นั่นก็คือหลังจากที่กลับไปในโลกความเป็นจริงแล้วไม่ใช่หรอ?

แซนหน้ายู่ เขาก็คิดว่าจะได้พลังอะไรสักอย่างมาช่วยให้เขาอยู่รอดในโลกนี้ได้มากขึ้นเลยเสียอีก

แต่ก็เอาเถอะ ภารกิจรองก็สำเร็จไปแล้ว ต่อจากนี้เขาจะทำหน้าที่ของตัวเองในคฤหาสน์หลังนี้ต่อไปอย่างเงียบๆจนกว่าจะครบเจ็ดวันก็แล้วกัน

"..ขอบคุณมากนะ"

ผีสาวเอ่ยขอบคุณแซนอย่างจริงใจ ใบหน้าของเธอในตอนนี้กลับมาดูคล้ายกับมนุษย์อีกครั้ง แถมยังเป็นใบหน้าที่งดงามมากเสียด้วย นอกจากนี้ หากสังเกตดีๆ วิญญาณสาวตนนี้สามารถพูดได้คล่องกว่าเดิมมาก ราวกับว่าพลังของเธอนั้นกำลังค่อยๆถูกฟื้นฟูกลับมาทีละนิด

"ไม่เป็นไรเลยครับ ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวกลับไปอาบน้ำก่อนนะครับ แหะๆ"

แซนเอ่ยพูดพลางยิ้มแห้ง ตอนนี้ตัวของเขานั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเศษดินโคลนและเศษใบไม้เต็มไปหมด แม้จะยังอยู่ในชุดนอน แต่เขาก็กลับไปนอนต่อในสภาพนี้ไม่ลงจริงๆ

เมื่อเรื่องทุกอย่างจบลง แซนก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับมาที่ห้องของตัวเอง ก่อนจะจัดการอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเสียใหม่ แล้วกลับไปนอนต่อที่เตียงของเขาราวกับว่าที่ผ่านมานั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทางด้านผีสาวที่ถูกแซนช่วยเอาไว้ เธอก็ตัดสินใจที่จะตามดูแลอีกฝ่ายอย่างห่างๆ ในใจของเธอนั้นมองแซนด้วยความเอ็นดูราวกับเป็นลูกแท้ๆเลยทีเดียว

เช้าวันต่อมา แซนก็ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น เพราะถึงแม้เมื่อคืนเขาจะต้องตื่นขึ้นมาทำภารกิจรองกลางดึก แต่เวลาที่เขาได้นอนพักผ่อนนั้นก็ถือว่ามากกว่าวันที่เขาต้องไปทำงานในโลกจริงอยู่มาก

แซนเปิดประตูห้องของเขาออกและเตรียมไปทำงานอย่างอารมณ์ดีเนื่องจากที่ทำภารกิจรองสำเร็จ แต่เมื่อเขาเปิดประตูออกมา เขาก็ต้องชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นว่ามีใครบางคนยืนรอเขาอยู่หน้าห้องอยู่ก่อนแล้ว

"..พี่เวย์?"

คนถูกเรียกหันมามองตามเสียง ก่อนจะเผยยิ้มละมุนออกมาเสียจนแซนรู้สึกตาพร่า "พี่กำลังรอแซนอยู่พอดี เดินไปห้องครัวด้วยกันนะครับ"

"ด..ได้ ได้เลยครับ"

แซนพยักหน้าหงึกหงักพลางพูดตอบกลับไปด้วยท่าทางเลิ่กลั่ก ยิ่งได้เห็นรอยยิ้มพี่เวย์ใกล้ๆแบบนี้ เขาก็ยิ่งทำตัวไม่ถูกมากกว่าเดิม

ใบหน้าน่ารักเริ่มขึ้นสีแดงจางๆอย่างไม่อาจห้าม

เวย์ที่เห็นแบบนั้นก็เผลอหลุดหัวเราะเสียงทุ้มออกมาด้วยความเอ็นดู สายตาที่มองไปยังคนตัวเล็กดูอ่อนลงโดยที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้สึกตัว

"ขนมเมื่อวาน..แซนชอบมั้ยครับ"

"อื้อ ผมชอบครับ อร่อยมากเลย ขอบคุณพี่เวย์มากๆเลยนะครับที่อุตส่าห์เอามาให้" เมื่อคิดถึงมาการองเมื่อวาน แซนก็อดรู้สึกหิวขึ้นมาอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้

ตั้งแต่แซนเกิดมา เขาก็ยังไม่เคยกินอะไรที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน เขาเคยเห็นพวกขนมแบบนี้แค่ในหนังสือหรือตามร้านขนมเท่านั้น แต่ก็ไม่เคยซื้อกินหรอก เพราะราคาของพวกมันก็ไม่ใช่ว่าจะถูกๆเสียเมื่อไหร่

"ถ้าอย่างนั้น.." เวย์พูดพลางโน้มตัวลงเข้าไปใกล้ๆคนข้างตัวราวกับจะแกล้ง ก่อนจะกระซิบเสียงเบาด้วยใบหน้ายิ้มๆ "..เดี๋ยวพี่จะไปแอบคุณแม่บ้านเอาขนมมาให้แซนบ่อยๆดีมั้ยครับ?"

"ครับ..ดี.." แซนที่ถูกรอยยิ้มของคนตรงหน้าชักจูงก็เผลอพูดตามไปอย่างไม่ทันได้คิด ก่อนจะมาเพิ่งนึกความหมายของประโยคเมื่อครู่ได้ทีหลัง "เอ๊ย! ไม่ครับ ไม่เป็นไรเลยครับพี่เวย์"

ถ้าพี่เวย์แอบคุณแม่บ้านเอาขนมมาให้เขา นั่นก็เท่ากับว่าอีกฝ่ายจะไปแอบขโมยมาน่ะสิ!

ไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ!

เวย์หลุดหัวเราะกับท่าทางน่าเอ็นดูของแซนขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปห้องครัวของคฤหาสน์ด้วยกัน บรรยากาศรอบๆนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายความอบอุ่นอย่างประหลาด

ทางฝ่ายของผีสาวตาโบ๋ที่กลายเป็นผีสาวแสนสวยก็ได้แต่มองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วกำผ้าเช็ดหน้าที่ลูกแซน- น้องแซนให้มาจนยับยู่ยี่ด้วยความอิจฉา

หนอย..เจ้าผู้ชายคนนั้นคิดจะล่อลวงลูก- แค่ก! น้องชายของเธอด้วยหน้าตาหล่อๆนั่นหรอ!?

เธอไม่ยอมหรอกนะ น้องแซนของเธอเพิ่งจะสามขวบเท่านั้น!

___________________________

เห่ยย นายคนนั้นน่ะเอ็นดูลูกเรามากไปป่าววว มันเกินไปมุ้ยยย

ส่วนน้องแซน หนูโดนพิเขาล่อลวงแบบถอนตัวไม่ขึ้นไปแล้วลูกเอ้ย พี่เวย์อย่างนั้นพี่เวย์อย่างนี้ พี่เขายิ้มให้ก็เขินหน้าแดงไปหมด คนเป็นมัมหมีแบบเราน่ะมันใจเจ่บ

ทุกคน นี่เพิ่งจะตอนที่หกเท่านั้นนะ แต่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอาหารหมาแล้วใช่มั้ยคะ 5555555

#นั่นผีนะครับแซน