webnovel

ปมรัก รอยอดีต โดย ฮาร์โมนิก้า

ชีวิตที่เคยสมบูรณ์แบบของเธอในวัยสิบห้าปี ได้พังภินท์ลงเมื่อวันที่เธอและมารดาท้องแก่ถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ คืนวิปโยคในถ้ำมรณะที่คร่าชีวิตมารดาและน้องชายที่ยังไม่เคยมีโอกาสลืมตาดูโลก อนาสเตเซีย คิริยาคอส ผู้กลายเป็นทายาทเพียงคนเดียวของมหาเศรษฐีธุรกิจเดินเรือของกรีซ กลายเป็นโรคซึมเศร้า เก็บตัว และออกห่างจากบิดา ทุกคนที่รัก รวมถึงกฤช คริสตอฟ อนาโตลาคิส ผู้เป็นทั้งญาติ พี่ชายที่แสนดี และผู้ครอบครองดวงใจของเธอตั้งแต่วัยเยาว์ เพื่อใช้ชีวิตแบบโดดเดี่ยวราวกับต้องการลงโทษตัวเอง เจ็ดปีต่อมาเธอกลับมายังกรีซอีกครั้ง และได้ตัดสินใจแต่งงานกับนิโคลาโยส วาลลาซ ชายหนุ่มรูปหล่อปานเทพบุตร ผู้มีเสน่ห์เหลือล้น ทว่าเธอได้พบความจริงหลังการแต่งงานไม่นานว่าเขาไม่ใช่สามีที่ซื่อสัตย์ ที่สำคัญเขาไม่ได้รักใคร่ใยดีเธอ มากไปกว่าต้องการมีทายาทกับเธอเท่านั้น ในยามที่ลูกชายของเธออายุครบสี่ปี เหตุร้ายต่าง ๆ ได้หวนกลับคืนสู่ชีวิตเธออีกครั้ง บุตรชายที่ถูกจับเรียกค่าไถ่ บิดาผู้เป็นที่พึ่งสำคัญประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ มารดาเลี้ยงผู้ท้องแก่หายสาปสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ขณะที่หลักฐานต่าง ๆ เริ่มผูกมัดเธอมากขึ้น พร้อมกับเงื่อนงำมากมายซึ่งเชื่อมโยงไปยังสามีของเธอ และราวกับใครบางคนเจตนาทิ้งร่องรอยเศษขนมปังให้เธอตามรอยไปถึงปริศนา ณ ถ้ำมรณะ อนาสเตเซีย ผู้ติดกับดัง และต้องสูญเสียสถานะทางสังคม อิสรภาพ ทรัพย์สิน และบุตรชายสุดที่รัก เธอจะสามารถเอาชนะสามีโฉด และทวงคืนชีวิตของเธอมาจากคนเจ้าเล่ห์เช่นเขาได้อย่างไร นวนิยายรักดราม่า โรแมนติก ฆาตกรรม หักเหลี่ยม เฉือนคมที่ชวนลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบ

ANNIEmalista · 都市
レビュー数が足りません
16 Chs

บทที่ 6 ความหลัง..ความหวัง 2

by Harmonica

เช้าวันนั้นอนาสเตเซียนั่งรับประทานอาหารเช้ากับจูเลียนที่ห้องอาหารเช้าซึ่งเปิดออกสู่ระเบียงหลังบ้าน ทั้งคู่นั่งรับลมทะเล และดูเจ้าดิโน่วิ่งเล่นไล่จับนกทะเลอย่างสนุกสนานที่สนามหญ้า

อนาสเตเซียตัดอาหารในจานให้ลูกจนเสร็จก็เลื่อนจานไปคืนให้ตรงหน้าเด็กชายจูเลี่ยน

เมลานี แม่บ้านเข้ามาช่วยจิ้มอาหารในจานป้อนเด็กชายอย่างรู้หน้าที่โดยไม่ต้องขอ ทั้งที่จริงเป็นงานของซอนญ่า พี่เลี้ยง

"เมื่อคืนเรามีแขกหรือจ๊ะ อีเนียส" อนาสเตเซียเอ่ยถามพ่อบ้าน ที่ยืนรอให้บริการอยู่บริเวณนั้น

"แขกหรือครับ คิเรียอัณญ่า" อีเนียสถามอย่างแปลกใจ "เท่าที่ผมทราบ ไม่มีนะครับ ทำไมคิเรียอัณญ่าถึงคิดว่าเรามีแขกล่ะครับ"

อนาสเตเซียขมวดคิ้วนิดหนึ่งอย่างแปลกใจ แล้ววางสีหน้าเรียบเฉย

"เปล่าหรอก บังเอิญฉันแว่วเสียงน่ะ คงจะหูฝาดไป เลยนึกว่าบ้านเรามีแขกมา" อนาสเตเซียกล่าวแก้ เธอคงจะหูฝาดไปจริงๆ ด้วย

หญิงสาวนั่งรับประทานอาหารเช้าและดื่มกาแฟเงียบ ๆ สายตามองจับจ้องไปยังลูกชายตัวน้อยที่ส่งเสียงร้องเชียร์เจ้าดิโน่ซึ่งวิ่งไล่จับนกอย่างแสนสุข

จนสาย ซอนญ่าจึงลงมาจากชั้นบนห้องนอนเพื่อมารับหน้าที่ดูแลจูเลียนต่อ

อนาสเตเซียเหลือบมองพี่เลี้ยงสาวชาวรัสเซียของลูกชายแว่บหนึ่ง

ระยะหลังซอนญ่ามักมีอาการประหลาด ๆ อยู่บ่อยครั้ง เธอดูลุกลี้ลุกลน และมักมีโทรศัพท์แปลก ๆ โทรเข้ามาหาเธออยู่เรื่อย น่าเสียดายที่เธอดูสนิทสนมใกล้ชิดกับจูเลียนอย่างจริงใจ และจูเลียนเองก็ดูจะผูกพันรักใคร่พี่เลี้ยงของเขาอยู่ไม่น้อย ไม่เช่นนั้นอนาสเตเซียอาจต้องรับสมัครพี่เลี้ยงใหม่

อาการเหม่อลอย ป้ำเป๋อ จิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวในระยะเดือนสองเดือนมานี้ ทำให้พี่เลี้ยงสาวชาวรัสเซียหย่อนประสิทธิภาพในการทำงานไปมากจนอนาสเตเซียเริ่มวิตก

ซอนญ่าอายุอ่อนกว่าอนาสเตเซียไม่กี่ปี แต่มีประสบการณ์ในการเลี้ยงเด็กมากกว่ามาก เธอมาจากครอบครัวที่ยากจนในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในชนบทของรัสเซีย หญิงสาวเป็นหลานของลีย่า เหมือนว่าจะเป็นลูกของพี่สาวทำนองนั้น ลีย่าได้ช่วยให้ซอนญ่าได้มาอยู่กรีซเมื่อประมาณสิบปีก่อน

หลังจากที่สมรสกับคิโรส คิริยาคอส บิดาของเธอ และด้วยเงินของคิโรสจึงช่วยให้ลีย่าสามารถส่งเสียซอนญ่าจนได้ร่ำเรียนหนังสือในเอเธนส์จนจบการศึกษา ได้ปริญญาบัตรสาขาบริบาลเด็กเล็ก หลังจากทำงานอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กวัยแรกเกิดได้สองปี ลีย่าก็แนะนำซอนญ่าเข้ามาทำงานกับนิโคลาโยสและอนาสเตเซีย โดยทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงของจูเลียน

อนาสเตเซียรับซอนญ่าเข้าทำงานหลังจากสัมภาษณ์คนอื่นหลายคนตอนช่วงที่เธอท้องแก่ใกล้คลอด หญิงสาวถูกใจท่าทางซื่อ ๆ และดูจริงใจของซอนญ่า นอกจากนี้ซอนญ่ายังมาจากครอบครัวที่มีพี่น้องเยอะ และทุกคนใกล้ชิดกัน โดยมีซอนญ่าเป็นพี่สาวคนโต จากการที่ต้องช่วยพ่อแม่เลี้ยงดูน้องทั้งหมดเจ็ดคนตั้งแต่เด็ก ทำให้เธอมีประสบการณ์การเลี้ยงดูเด็ก เข้าใจเด็ก และใจเย็นพอที่จะอยู่กับเด็กเล็ก ๆ ได้ ด้วยเหตุผลเหล่านี้อนาสเตเซียจึงตกลงใจรับเธอเข้าทำงาน

"อรุณสวัสดิ์ค่ะ มาดาม" ซอนญ่ากล่าวทักอย่างเก้อเขินที่ตื่นสายจนไม่ได้มาดูแลจูเลียนตามหน้าที่

"อรุณสวัสดิ์" อนาสเตเซียกล่าวตอบแล้วนั่งนิ่งเฉยไม่กล่าวอะไรต่อ ท่าทางเรียบเฉยของเธอ มักสร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึงให้กับพี่เลี้ยงสาวชาวรัสเซียเสมอ

"ขอโทษจริง ๆ ค่ะ เมื่อคืนดิฉันไม่ค่อยสบาย ปวดหัวมาก นอนไม่ได้เลยตื่นสายไปหน่อยค่ะ มาดาม" ซอนญ่าละล่ำละลักกล่าวขอโทษ

อนาสเตเซียพยักหน้าเงียบๆ โดยไม่ต่อความ ยิ่งสร้างความไม่สบายใจให้กับพี่เลี้ยงสาวยิ่งขึ้น เจ้าหล่อนก้มหน้าก้มตาตรงไปที่โต๊ะวางถาดอาหารเช้าซึ่งตั้งอยู่ติดผนังห้องด้านตรงข้ามกับประตูเฉลียง แล้วรีบตักอาหารใส่จานของตนด้วยมือไม้ที่สั่นจนน่ากลัวอาหารจะหกจากจาน

อีเนียสเดินเข้ามาเติมกาแฟให้อนาสเตเซียพร้อมกับรินให้เธอด้วยแก้วหนึ่ง

"ของฉันไม่ต้องค่ะคุณพ่อบ้าน ว่าจะดื่มชาดีกว่าเช้านี้" ซอนญ่ากล่าวขึ้น

อีเนียสชะงักด้วยความรู้สึกประหลาดใจเช่นเดียวกับอนาสเตเซีย ทุกเช้าและโดยปกติซอนญ่าจะชอบดื่มกาแฟ โดยเฉพาะวันที่เธออ้างว่านอนไม่พอแบบนี้เธอยิ่งต้องดื่มกาแฟมากขึ้น และไม่เพียงแต่กาแฟธรรมดา ซอนญ่านั้นติดกาแฟดำที่ไม่ใส่ทั้งน้ำตาลและนม

พ่อบ้านวัยสี่สิบปีพยักหน้าเงียบ ๆ แล้วเก็บถ้วยกาแฟที่เทไว้แล้วไปโดยไม่พูดว่าอะไร ซอนญ่าวางอาหารของตัวเองบนโต๊ะแล้วก็ลุกไปเทชาใส่แก้ว เติมทั้งนมและน้ำตาล

"เอาโกโก้อีกแก้วไหมจ๊ะ จูเลี่ยน" ซอนญ่าถามแก้เก้อ เธอรู้สึกประหม่ามากกว่าทุกครั้งจากความนิ่งเฉยของนายสาว ที่จริงเธอน่าจะชินแล้วด้วยทำงานและอยู่ร่วมบ้านกับอนาสเตเซียมานานถึงสี่ปีกว่าแล้วตลอดชั่วอายุของจูเลียน ซึ่งซอนญ่าเข้ามาเริ่มงานตั้งแต่ก่อนที่จูเลียนจะเกิดถึงสองเดือน

ความเป็นผู้ดีคงจะแทรกซึมถึงทุกอณูกระดูกและสายเลือดของอนาสเตเซีย พี่เลี้ยงสาวชาวรัสเซียไม่เคยเห็นอนาสเตเซียหลุดกิริยา หรือออกอาการใด ๆ ทางสีหน้ามากไปกว่ารอยยิ้มเพียงนิดหนึ่ง หรือการเม้มริมฝีปากหน่อย ซึ่งบอกอารมณ์เพียงนิดเดียวและเฉพาะคนใกล้ชิดเท่านั้นจึงจับสังเกตได้

"ไม่เอาครับ ผมอิ่มแล้ว" เด็กชายตอบ "ซอนญ่าตื่นสาย หัวยุ่งเลย"

ประโยคนี้ของจูเลียนยิ่งทำให้พี่เลี้ยงสาวหน้าแดงและเงอะงะมากขึ้นอีกทวีคูณ เธอยกมือขึ้นลูบผมสีทองที่ปกติจะยาวตรงสลวยเป็นธรรมชาติ หากแต่เวลานี้ดูยุ่งเหยิง กะเร้อกะรัง ดวงตาสีน้ำเงินเหลือบมองอนาสเตเซียอย่างขลาดกลัว หากพบเพียงแต่ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ราวกับว่าเธอกำลังมีสมาธิกับการดื่มกาแฟตรงหน้า

"ยังไม่ได้ทำผมจ้ะ กลัวลงมาไม่ทันอาหารเช้า" เธอกล่าวแก้ "วันนี้มาดามจะพาจูเลียนไปไหนหรือเปล่าคะ"

อนาสเตเซียนิ่งคิด แม้เธอจะวางเฉยเหมือนไม่ใส่ใจอะไรรอบข้างเป็นพิเศษ แต่ความผิดปกติของซอนญ่านั้นชัดเจนจนแม้แต่เด็กอย่างจูเลียนยังมองเห็น

ซอนญ่าเลือกตักแต่ขนมปัง ชีส และผลไม้สำหรับมื้อเช้า ซึ่งผิดไปจากปกติที่เธอจะรับประทานทั้งไข่ เบคอน และไส้กรอก รวมทั้งครัวซองต์อย่างครบชุด

"ตอนบ่ายว่าจะพาไปเที่ยวสักหน่อย" อนาสเตเซียกล่าวตอบก่อนพูดต่ออย่างอารี "ถ้าเธอไม่สบายเช้านี้จะกลับไปพักก็ได้ บ่ายนี้ค่อยไปกัน"

"ขอบคุณค่ะมาดาม" ซอนญ่าก้มศีรษะขอบคุณ เธอจงใจหลบสายตาอนาสเตเซียด้วยรู้สึกละอายใจ "บ่ายนี้มาดามจะให้ดิฉันแต่งตัวจูเลียนยังไงคะ"

พี่เลี้ยงสาวถามขึ้น

"เลือกชุดที่เหมาะกับการไปเที่ยวสมบุกสมบันหน่อยแล้วกันจ้ะ ฉันว่าจะพาแกไปเที่ยวไร่มะกอกของครอบครัวคาคาราสที่เกาะนักซอสสักหน่อย"

"ค่ะ มาดาม" ซอนญ่ารีบรับคำอย่างขึงขัง