webnovel

ดวงใจอสุรา

เพราะเหตุพลิกผันทำให้ มู่หรงชีชีต้องย้อนอดีตมาเป็นนางซินในยุคโบราณที่เจ้าของร่างคนเดิมถูกลงโทษด้วยกฎบ้านจนตาย แต่คิดหรือว่านางจะยอมแพ้ต่อโชคชะตานี้ แม้จะถูกพี่สาวร่วมตระกูลแย่งคู่หมั้น มิหนำซ้ำยังถูกบิดาจับคลุมถุงชนเพื่อแต่งงานแก้เคล็ด แต่ดูเถอะว่ามู่หรงชีชีคนนี้จะไม่มีวันยอมแพ้แน่นอน! เนื่องด้วยพระราชโองการจากฮ่องเต้ ทำให้มู่หรงชีชีต้องยอมอภิเษกกับ เฟิ่งชาง หนานหลินอ๋องแห่งแคว้นเป่ยโจว บุรุษที่ได้สมญานามว่า ‘อ๋องปีศาจ’ ผู้ที่มีดวงพิฆาตภรรยาอย่างไม่มีทางเลือก ทว่าใครเล่าจะรู้ว่าหนานหลินอ๋องที่นางเคยได้ยินคำล่ำลือมาว่าแสนร้ายกาจนั้นจะไม่เหมือนบุรุษตรงหน้าที่นางได้พบเลยแม้แต่น้อย ยิ่งนางได้รู้จัก นางก็ยิ่งจะหลงรักเขามากขึ้นเสียแล้ว

ล่าหมี่ทู่ · 歴史
レビュー数が足りません
156 Chs

ตอนที่ 018

ตอนที่ 18 การดีดลูกคิดรางแก้วของฮองเฮา

ฮ่องเต้หลงเจ๋ออวี่มีพระโอรสสามพระองค์และพระธิดาสองพระองค์ จิ้งอ๋องหลงเจ๋อจิ่งเทียนมีพระชนมายุ 18 พรรษา เป็นโอรสในเสียนเฟยเหอซินเอ๋อร์หนึ่งในพระสนมทั้งสี่ เว่ยอ๋องหลงเจ๋อจิ่งหมิงมีพระชนมายุ 12 พรรษา พระมารดาเป็นเพียงนางกำนัลในพระราชวัง จ้าวอ๋องหลงเจ๋อจิ่งฉีมีพระชนมายุ 9พรรษา เป็นโอรสในเต๋อเฟยไป๋เมิ่งอวี่ พระธิดาคนโตองค์หญิงผิงหยางหลงเจ๋ออวี่เอ๋อร์มีพระชนมายุ 15 พรรษา พระมารดาคือตวนมู่ชิง พระธิดาคนเล็กองค์หญิงซิ่นหยางหลงเจ๋อจิ่นเอ๋อร์มีพระชนมายุเพียง 3 พรรษา เป็นธิดาในกุ้ยเฟยมู่หรงเสวี่ยเหลียน

ตอนที่ตวนมู่ชิงมีพระประสูติกาลองค์หญิงผิงหยางนั้นทรงประสูติยากมาก แม้ว่าจะปลอดภัยทั้งแม่และลูก แต่พระวรกายก็แย่ลง จนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยทรงพระครรภ์อีก การที่ไม่มีพระโอรสถือเป็นสิ่งที่ตวนมู่ชิงเสียใจที่สุด ยามนี้ในราชสำนักมีคนเรียกร้องให้แต่งตั้งหลงเจ๋อจิ่งเทียนขึ้นเป็นรัชทายาทจำนวนมาก นางจึงยิ่งรู้สึกกดดัน

ถึงแม้ตวนมู่ชิงจะคิดว่ามีเพียงโอรสของนางเท่านั้นที่เป็นทายาทสายตรง และมีสิทธิ์สืบทอดราชสมบัติ แต่สิบปีมานี้นางก็ไม่เคยทรงพระครรภ์อีกเลย ไม่ว่าจะเสวยพระโอสถไปเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล

ในยามนี้ฮ่องเต้ทรงหลงใหลในตัวมู่หรงเสวี่ยเหลียนผู้อ่อนโยนดุจสายน้ำ จะมีแค่วันที่หนึ่งและวันที่สิบห้าที่ฮ่องเต้จะปฏิบัติตามจารีตประเพณีเสด็จมาที่ตำหนังชิงหลวน นอกจากเวลานี้พระองค์ก็จะประทับที่ตำหนักเพียวเสวี่ย อยู่กับมู่หรงเสวี่ยเหลียนและธิดาคนเล็กอย่างหลงเจ๋อจิ่นเอ๋อร์

ยามนี้มู่หรงเสวี่ยเหลียนก็ตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว หากเป็นโอรสขึ้นมา ประกอบกับความโปรดปรานของฮ่องเต้ที่มีต่อมู่หรงเสวี่ยเหลียน น่ากลัวว่าตำแหน่งฮองเฮาของนางจะรักษาไว้ลำบาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโอกาสที่นางจะประสูติองค์รัชทายาท

“อีอี เจ้าบอกข้าว่ามู่หรงชีชีมีโอสถผิวหิมะของคุณชายเหลียนใช่หรือไม่? หากข้ามีรับสั่งให้ให้นางตามหาตัวคุณชายเหลียนมารักษามือขวาของเจ้า เจ้าว่าดีหรือไม่?”

ถึงแม้ตวนมู่ชิงจะรู้ดีว่าตวนมู่อีอีชื่นชอบหลงเจ๋อจิ่งเทียน แต่นางก็จะไม่ยอมให้ตวนมู่อีอีเสกสมรสกับหลงเจ๋อจิ่งเทียนเป็นอันขาด

แรกเริ่ม เหอซินเอ๋อร์ได้ประสูติโอรสก่อนหน้านาง เรื่องนี้ยังคงติดอยู่ในใจของนาง ถึงแม้เหอซินเอ๋อร์ได้ตายไปแล้ว แต่ไทเฮาก็ทรงรักและเอ็นดูหลงเจ๋อจิ่งเทียนเป็นอย่างมาก ความโปรดปรานของไทเฮาส่งผลให้ฮ่องเต้ลำเอียงไปด้วย เรื่องราวเช่นนี้ นางยากที่จะรับได้

ยิ่งในตอนนี้ที่ฮ่องเต้ยังอยู่ในวัยฉกรรจ์ นางเองก็มีพระชนมายุแค่เพียง 32 พรรษา ยังมีโอกาสที่จะทรงพระครรภ์ได้ ขอเพียงแค่ฮ่องเต้ยังไม่แต่งตั้งองค์รัชทายาท นางก็จะไม่ยอมแพ้ ต่อให้ฮ่องเต้มีใจอยากแต่งตั้งคนอื่น แต่นางคือฮองเฮา รัชทายาทจะต้องเป็นโอรสของนางเท่านั้น

ตระกูลตวนมู่เป็นครอบครัวของตวนมู่ชิง ควรจะสนับสนุนฮองเฮาอย่างนางให้เต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการสมรสของตวนมู่หงเฉินหรือตวนมู่อีอีจะต้องมีผลประโยชน์กับนาง

ลงเรือลำเดียวกันแล้ว จะดีจะร้ายก็ต้องไปด้วยกัน หากไม่มีตระกูลที่ยิ่งใหญ่พอ ก็ยากจะยืนหยัดอยู่ในวังหลวงได้ สำหรับตระกูลใหญ่แล้ว ต่อให้ยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่ก็ต้องมีคนของตัวเองอยู่ในวังหลวง

ตวนมู่ชิงคิดเอาไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะให้ตวนมู่อีอีสมรสกับใคร นางจะให้ตวนมู่อีอีสมรสกับซั่งกวานอู๋จี้ แต่งเข้าตระกูลซั่งกวาน นี่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะตระกูลซั่งกวานเป็นที่เคารพในกองทัพ เมื่อนางมีพระโอรส แผ่นดินนี้ก็จะต้องตกเป็นของโอรสของนาง

ตวนมู่อีอีไม่รู้แม้แต่น้อยว่าชะตาชีวิตของนางนั้นได้ถูกตวนมู่ชิงกำหนดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ในสมองของนางมีแต่คุณชายเหลียนที่ตวนมู่ชิงพูดถึง

หมอพิลึกอย่างคุณชายเหลียนถูกผู้คนกล่าวขานว่ามีฝีมือการรักษาเป็นเลิศ หากมู่หรงชีชีสามารถเชิญคุณชายเหลียนมาได้ ไม่เพียงแค่มือของนางเท่านั้นที่มีหวังว่าจะกลับมาเหมือนเดิม ไม่แน่อาการของตวนมู่ชิงก็อาจจะรักษาให้หายได้

“ท่านอาเพคะ ถ้ามู่หรงชีชีเชิญคุณชายเหลียนมาไม่ได้จะทำเช่นไรดีเพคะ?”

“เชิญมาไม่ได้งั้นหรือ?” ตวนมู่ชิงเผยรอยยิ้มโหดเหี้ยมออกมา “‘เช่นนั้นข้าก็จะทำให้นางไม่ได้เป็นจิ้งหวางเฟย ยังไม่ทันได้สมรสก็ต้องเป็นม่ายขันหมาก”

“ท่านอาเพคะ......”ตวนมู่อีอีดีใจมากที่ท่านอาไม่ลืมนาง ตวนมู่ชิงจะจัดการมู่หรงชีชีเพื่อแก้แค้นให้นางจริงๆ แต่เมื่อคิดถึงมือขวาของตัวเองแล้ว นางก็มีความรู้สึกขัดแย้งกัน คุณชายเหลียนเป็นความหวังเดียวที่จะทำให้มือขวาของนางกลับมาเป็นเหมือนเดิม นางไม่อยากจะพิการไปตลอดชีวิต

ตวนมู่ชิงราวกับรับรู้ถึงความคิดของตวนมู่อีอี นางจึงตบมือตวนมู่อีอีเบาๆ “อารู้ความในใจของเจ้า เจ้าวางใจได้ อาจะไม่มีวันปล่อยให้มู่หรงชีชีได้เป็นจิ้งหวางเฟยอย่างแน่นอน พวกนางสองคนพี่น้อง คนหนึ่งได้เป็นกุ้ยเฟยไปแล้ว จะให้เป็นจิ้งหวางเฟยอีกคน จะให้สูงส่งโดดเด่นอยู่เพียงตระกูลเดียวได้เช่นไร”

“ท่านอาช่างดีกับข้ามากนักเพคะ” ตวนมู่อีอีเผยรอยยิ้มเย็นออกมา

มู่หรงชีชีอีกไม่นานเจ้าก็จะกลายเป็นม่ายขันหมาก ดูสิว่า เจ้าจะอวดดีไปได้ถึงเมื่อไหร่

ใช้เวลาเพียงไม่นาน คนในตระกูลมู่หรงก็ได้รู้ว่าฮองเฮาทรงมีพระราชเสาวนีย์รับสั่งไว้อย่างชัดเจน โทษตายนั้นละเว้นได้ แต่โทษเป็นละเว้นไม่ได้ มู่หรงชีชีจะต้องชดใช้ความผิด โดยการเชิญคุณชายเหลียนมารักษามือขวาของตวนมู่อีอีให้หายภายในสิบวัน

“คุณหนูเจ้าคะ ฮองเฮากับตวนมู่อีอีกำลังรวมหัวกันชัดๆ” ซูเหมยหั่นลูกท้อรสหวาน ใช้ไม้จิ้มป้อนให้กับมู่หรงชีชี “คุณหนูคิดจะทำเช่นไรเจ้าคะ? จะไปรักษามือให้นางจริงๆ หรือเจ้าคะ? ข้าน้อยว่านะเจ้าคะ นางกล้าหันดาบใส่คุณหนู มือข้างนั้นจะพิการสักสิบรอบก็ยังไม่พอเสียด้วยซ้ำ”

มู่หรงชีชีกินลูกท้อหวานทีละน้อยอย่างเบิกบานใจ นางชอบผลไม้รสหวานมาแต่ไหนแต่ไร

ไม่มีใครรู้ว่าคุณชายเหลียนผู้เลื่องลือก็คือคุณหนูสามแห่งตระกูลมู่หรง ตวนมู่อีอีและตวนมู่ชิงยิ่งคาดคิดไม่ถึงว่าคนที่พวกนางกำลังตามหานั้น กำลังนั่งตากลมกินลูกท้ออย่างสบายอกสบายใจ

“ซูเหมย ช่วยชีวิตคนหนึ่งชีวิตได้บุญเยอะกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้นเสียอีก มือของตวนมู่อีอีข้าต้องรักษาอยู่แล้ว ข้าไม่เพียงแค่จะรักษาตวนมู่อีอี แต่ข้าจะรักษาสาเหตุการไม่ตั้งครรภ์ของตวนมู่ชิงด้วย ให้นางได้ตั้งครรภ์ สมปรารถนาที่นางอยากมีโอรสมานาน รอวันที่นางจะให้กำเนิดโอรสสายตรง เมื่อถึงเวลานั้นแคว้นซีฉีก็จะคึกคักมีชีวิตชีวาขึ้นมา”

แม้รอยยิ้มของมู่หรงชีชีจะหวานหยดย้อย น้ำเสียงอ่อนโยน แต่ซูเหมยก็รับรู้ได้ว่ารอยยิ้มของมู่หรงชีชีนั้นแฝงไปด้วยแผนร้าย

คุณหนูนี่เป็นคนที่กลัวว่าโลกจะไม่วุ่นวาย นางคงคิดเรื่องสนุกอะไรได้อีกแล้ว......ซูเหมยสวดมนต์ขอพรให้คนที่ถูกมู่หรงชีชีกลั่นแกล้งอย่างเงียบๆ อยู่ในใจ

รับสั่งของฮองเฮาไม่ได้ทำใช้มู่หรงชีชีตกใจกลัวแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้มู่หรงเสวี่ยเหลียนที่ประทับอยู่ตำหนักเพียวเสวี่ยรู้สึกกังวลขึ้นมา

มู่หรงเสวี่ยเหลียนรู้ดีว่า ตวนมู่ชิงที่จะรักษาตวนมู่อีอีเป็นเพียงข้ออ้าง นางทำเพื่อตัวเองต่างหาก สตรีผู้นี้อย่างมีโอรสจนใกล้จะบ้าเต็มที แต่คนไร้ประโยชน์อย่างมู่หรงชีชีไปรู้จักคุณชายเหลียนได้เช่นไร? หากคุณชายเหลียนรักษาฮองเฮาจนหายได้จริง แล้วเกิดฮองเฮาทรงพระครรภ์ขึ้นมา นางจะทำเช่นไรดี?

“ไม่ได้! ตำแหน่งองค์รัชทายาทจะต้องเป็นของโอรสของนางเท่านั้น ข้าจะไม่ยอมวางมืออย่างเด็ดขาด” มู่หรงเสวี่ยเหลียนลูบไล้หน้าท้องที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย เรียกหูผ้อบ่าวรับใช้คนสนิทเข้ามา บอกกล่าวไม่กี่คำ จากนั้นก็ให้หูผ้อกลับไปจวนอำมาตย์บอกความต้องการของนาง

“คุณหนูสามเจ้าคะ นี่เป็นเครื่องประดับผมที่เหนียงเนียง[footnoteRef:2]มอบให้คุณหนูเจ้าค่ะ” หูผ้อวางกล่องที่บรรจุเครื่องประดับผมไข่มุกลงตรงหน้ามู่หรงชีชี [2: เหนียงเนียง(娘娘):คำเรียกฮองเฮาหรือกุ้ยเฟย(娘ตัวที่สองไม่ออกเสียง“เหนียง”แต่ให้ออกเสียงเบาแบบไม่มีวรรณยุกต์)]

“สวยจังเลย! ให้ข้าจริงๆ หรือ?” มู่หรงชีชีทำหน้าไม่เชื่อ ลูบไล้ไข่มุกที่มีขนาดแค่เท่าเม็ดถั่วอย่างระมัดระวัง ราวกับว่าเพิ่งได้เห็นของมีค่าเช่นนี้เป็นครั้งแรก ถูกมันดึงดูดสายตาเสียจนละไปไหนไม่ได้

เมื่อเห็นท่าทาง “ไร้ความรู้” ของมู่หรงชีชี หูผ้อก็เบ้ปาก มองนางอย่างดูถูกดูแคลน “คุณหนูสามชอบก็ดีแล้วเจ้าค่ะ ว่าแต่คุณหนูสามไปรู้จักคุณชายเหลียนได้เช่นไรเจ้าคะ?”

“อ้อ รู้จักตอนไปเก็บยาสมุนไพรบนภูเขาน่ะ เหลียนใจดีกับทุกคนเลยนะ” เมื่อเห็นว่าฝั่งตรงข้ามพูดถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงออกมา มู่หรงชีชีก็ยิ้มขึ้นซื่อๆ จนเห็นฟันซี่เล็กขาวสะอาด

“เหลียนหรือเจ้าคะ?” เมื่อเห็นว่ามู่หรงชีชีเรียกคุณชายเหลียนอย่างสนิทสนม หูผ้อก็รู้สึกแปลกใจ แต่สีหน้าของนางก็ไร้ซี่งการเปลี่ยนแปลง “แล้วตอนนี้คุณชายเหลียนอยู่ที่ไหนหรือเจ้าคะ?”

“ไม่รู้สิ” มู่หรงชีชีส่ายหน้า นัยน์ตาเต็มไปด้วยความฉงน “ข้าไม่เจอเขามาสามปีแล้ว”

หูผ้อถอนหายใจออกมาเบาๆ ดูเหมือนมู่หรงชีชีกับคุณชายเหลียนจะไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว

“พี่หูผ้อ เหตุใดท่านถึงถามข้าเรื่องนี้ล่ะ? ดูนี่สิ ข้าประดับผมด้วยปิ่นมุกสวยหรือไม่?” มู่หรงชีชียืนอยู่หน้าบานกระจกทองแดง หยิบปิ่นมุกมาวางทาบบนศีรษะ

หูผ้อเบ้ปากมองบนอีกครั้ง นางหมดความอดทนในการเอาใจมู่หรงชีชีแล้ว