webnovel

ดวงใจอสุรา

เพราะเหตุพลิกผันทำให้ มู่หรงชีชีต้องย้อนอดีตมาเป็นนางซินในยุคโบราณที่เจ้าของร่างคนเดิมถูกลงโทษด้วยกฎบ้านจนตาย แต่คิดหรือว่านางจะยอมแพ้ต่อโชคชะตานี้ แม้จะถูกพี่สาวร่วมตระกูลแย่งคู่หมั้น มิหนำซ้ำยังถูกบิดาจับคลุมถุงชนเพื่อแต่งงานแก้เคล็ด แต่ดูเถอะว่ามู่หรงชีชีคนนี้จะไม่มีวันยอมแพ้แน่นอน! เนื่องด้วยพระราชโองการจากฮ่องเต้ ทำให้มู่หรงชีชีต้องยอมอภิเษกกับ เฟิ่งชาง หนานหลินอ๋องแห่งแคว้นเป่ยโจว บุรุษที่ได้สมญานามว่า ‘อ๋องปีศาจ’ ผู้ที่มีดวงพิฆาตภรรยาอย่างไม่มีทางเลือก ทว่าใครเล่าจะรู้ว่าหนานหลินอ๋องที่นางเคยได้ยินคำล่ำลือมาว่าแสนร้ายกาจนั้นจะไม่เหมือนบุรุษตรงหน้าที่นางได้พบเลยแม้แต่น้อย ยิ่งนางได้รู้จัก นางก็ยิ่งจะหลงรักเขามากขึ้นเสียแล้ว

ล่าหมี่ทู่ · History
Not enough ratings
156 Chs

ตอนที่ 019

ตอนที่ 19 “คุณชายเหลียน” ตัวจริงหรือตัวปลอม

“เหนียงเนียงกลัวว่าฮองเฮาจะทำให้คุณหนูสามลำบากใจก็เลยให้บ่าวมาดูเสียหน่อย นางรับสั่งว่าต่อให้ตามหาคุณชายเหลียนไม่เจอก็ไม่เป็นไร มีเหนียงเนียงอยู่ทั้งคน นางจะไม่ปล่อยให้ฮองเฮาทำอะไรคุณหนูได้”

อย่างนั้นหรือ? มู่หรงชีชียืนส่องกระจกทองแดง ใบหน้าเผยรอยยิ้มเย้ยหยันออกมา

ตอนที่เจ้าของร่างนี้ถูกมู่หรงซินเหลียนใส่ร้าย ก็ไม่ได้เห็นพี่สาวที่คลานตามกันมาอย่างมู่หรงเสวี่ยเหลียนจะออกหน้าช่วยพูดแต่อย่างใด ตอนนี้กลัวว่าตำแหน่งตนเองจะสั่นคลอน จึงใช้วิธีการเช่นนี้มาซื้อใจนาง คิดว่านางยังเป็นมู่หรงชีชีคนเก่าอย่างนั้นหรือ

“ได้รู้ว่าท่านพี่พูดเช่นนั้น ข้าก็วางใจแล้ว” มู่หรงชีชียิ้มออกมาอย่างจริงใจ “ก่อนหน้านี้ข้าทั้งกังวลทั้งกลัว ตอนนี้มีท่านพี่เป็นที่พึ่ง ข้าก็ไม่กลัวอะไรแล้ว ต่อให้ฮองเฮาเสด็จมาเอง ข้าก็ไม่กลัว!”

เมื่อได้เห็นว่ามู่หรงชีชีกล้าพูดจาเหลวไหลเช่นนี้ออกมา หูผ้อก็ยิ่งมั่นใจว่านอกจากมู่หรงชีชีจะไร้ความสามารถแล้ว นางยังคงไร้สมองอีกด้วย นางจึงพูดพอเป็นพิธีไปอีกไม่กี่คำ ก่อนจะรีบร้อนออกจากจวนอำมาตย์ เพื่อกลับวังหลวง

ณ ตำหนักเพียวเสวี่ย “เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?” มู่หรงเสวี่ยเหลียนเมื่อได้ฟังที่หูผ้อเล่ามา นางก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก “เช่นนี้ข้าค่อยวางใจหน่อย แล้วฝั่งตำหนักชิงหลวนเล่ามีข่าวอะไรหรือไม่? ฮองเฮาได้มีรับสั่งไว้หรือไม่ ว่าถ้าหากชีชีเชิญคุณชายเหลียนมาไม่ได้จะถูกลงโทษเช่นไร? ”

“ตามที่บ่าวได้ฟังมา ฮองเฮาจะไม่ให้คุณหนูสามได้เป็นจิ้งหวางเฟยเจ้าค่ะ”

“ฮ่าๆ” เมื่อมู่หรงเสวี่ยเหลียนได้ทราบข่าวนี้ก็ปรบมือชมเชย จนต่างหูทับทิมสั่นไหวตามร่างของนางที่ขยับ

“ผลลัพธ์ช่างสมใจข้านัก! ตอนนี้จิ้งอ๋องเป็นตัวเต็งในการคัดเลือกผู้ที่จะขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาท ถ้าหากเขาได้เป็นรัชทายาทขึ้นมา มู่หรงชีชีก็จะได้เป็นพระชายาเอก ในอนาคตก็จะได้ขึ้นเป็นฮองเฮา ข้ายังไม่ได้เป็นฮองเฮาเลย นางก็อย่าได้หวังเสียให้ยาก ตำแหน่งรัชทายาทต้องเป็นของโอรสของข้า ถือว่าฮองเฮาช่วยข้าไว้ได้เยอะทีเดียว”

มู่หรงชีชีพักผ่อนเพียงไม่กี่วัน เดิมทีนางอยากทดสอบความอดทนของตวนมู่ชิงและตวนมู่อีอี แต่คาดไม่ถึงว่าแค่เพียงวันที่ห้าคนของตระกูลตวนมู่ก็มารับนางด้วยตัวเอง พวกเขาบอกกับนางว่าคุณชายเหลียนกำลังที่อยู่จวนตระกูลตวนมู่ แล้วยังต่อเอ็นข้อมือของตวนมู่อีอีเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้คุณชายเหลียนเอ่ยปากว่าอยากพบนาง

“คุณหนูเจ้าคะ เป็นใครกันที่อ้างตัวเป็นคุณหนู”

บนรถม้า คิ้วของซู่เยว่ขมวดหากันแน่น คุณหนูก็คือคุณชายเหลียน เหตุใดยามนี้ถึงมีคุณชายเหลียนโผล่มาอีกคนเล่า ฝั่งนั้นอ้างว่าเป็นคุณหนู ที่แท้มีจุดประสงค์อะไรกันแน่?

เมื่อมู่หรงชีชีเห็นคิ้วสองข้างบนใบหน้ารูปไข่งดงามของซู่เยว่ขมวดเข้าหากัน นางก็ยื่นมืออกไปคลายคิ้วที่ขมวดอยู่นั้น “ใครสนกันว่าเขาเป็นใคร ทหารมาก็เอาขุนพลสู้ น้ำมาก็เอาดินต้าน จะมาไม้ไหนข้าก็เอาอยู่”

“ถ้าหากซูเหมยรู้ว่ามีคนอ้างตัวเป็นคุณหนู นางคงจะสับอีกฝ่ายออกเป็นชิ้นๆ แน่” เมื่อได้ฟังที่มู่หรงชีชีพูดแล้ว ซู่เยว่ก็เผยรอยยิ้มออกมา จนแก้มซ้ายของนางปรากฏเป็นลักยิ้มลางๆ

“ก็ด้วยเหตุนี้ข้าถึงไม่พานางออกมาด้วยอย่างไร นางใจร้อนเกินไป เจ้าสุขุมกว่านางมากนัก ข้ากลัวว่านางจะพังจวนตระกูลตวนมู่ก็เลยสั่งให้นางไปหอทงเป่า จะว่าไปข้าก็แปลกใจกับคุณชายเหลียนคนนี้ อยากเจอเขาเร็วๆ”

“คุณหนูเจ้าคะ นี่เรียกว่า ‘การปะทะของคุณชายเหลียนตัวจริงกับคุณชายเหลียนตัวปลอม’ ใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

“ใช้คำได้ไม่เลว!”

นายบ่าวพูดคุยกันจนถึงจวนตระกูลตวนมู่ พ่อบ้านตระกูลตวนมู่นำทางมู่หรงชีชีด้วยตัวเอง ตลอดทางพ่อบ้านปฏิบัติต่อมู่หรงชีชีอย่างให้เกียรติ เรื่องนี้น่าจะมีสาเหตุมาจากคุณชายเหลียน ทำให้มู่หรงชีชีอยากเจอ ‘คุณชายเหลียน’ คนนี้มากขึ้นไปอีก

“ถึงแล้วขอรับ”

มู่หรงชีชีเพิ่งจะเดินเข้าไปในห้อง สายตาก็เห็นร่างสูงร่างหนึ่ง

“คุณชายเหลียนขอรับ คุณหนูมู่หรงมาถึงแล้ว” น้ำเสียงของพ่อบ้านแสดงความเคารพออกมาอย่างไม่รู้ตัว

“ชีชี เจ้ามาแล้ว......” เมื่อเขาหันกลับมา มู่หรงชีชีถึงได้เห็นใบหน้าของเขา

ชุดสีฟ้าสง่างาม เมื่ออยู่บนร่างของเขากลับดูมีชีวิตชีวา ไพฑูรย์สีเงินบริสุทธิ์ที่ประดับอยู่บนแขนเสื้อและคอเสื้อบ่งบอกถึงความพิถีพิถันของเจ้าของ แค่นับไพฑูรย์ขนาดเท่าถั่วเหลืองไม่กี่เม็ดก็รู้แล้วว่ามีราคาไม่น้อย

คิ้วของเขาเรียวยาวประดุจปีกครุฑ นัยน์ตาที่หรี่ลงเล็กน้อยแฝงไปด้วยความฉลาดหลักแหลมยากเกินจะมองข้าม จมูกโด่งเป็นสัน มุมปากยกขึ้น รอยยิ้มแฝงไปด้วยความเย็นชา

คนๆ นี้เป็นใครกัน?​ มู่หรงชีชีเริ่มระวังตัวขึ้นมา เหตุใดบุรุษที่ทั้งหล่อเหลาสง่างามทั้งฉลาดหลักแหลมเช่นนี้จึงปลอมตัวมาเป็นคุณชายเหลียน เหตุใดเขาถึงรู้จักนาง? นี่เป็นคำถามที่ผุดขึ้นมาภายในใจของมู่หรงชีชี

โดยเฉพาะน้ำเสียงที่เรียกชื่อ “ชีชี” อย่างอ่อยอิ่งร่ำไรนั่น ยิ่งทำให้มู่หรงชีชีรู้สึกขนลุก

นางมั่นใจว่านางไม่เคยพบเจอบุรุษตรงหน้ามาก่อน แต่คำเรียกสนิทสนมและน้ำเสียงที่ให้ความรู้สึกกำกวม ทำให้ทุกสายตาในที่แห่งนี้มารวมกันที่มู่หรงชีชี หนึ่งในสายตาที่มองมานั้นเป็นสตรีอายุราวสามสิบกว่าปีที่สวมใส่อาภรณ์หรูหรา

“ไม่ได้เจอกันสามปี ชีชียิ่งมีเสน่ห์น่าหลงใหล” มู่หรงชีชียังไม่ทันได้ตั้งตัว คุณชายเหลียนก็มายืนอยู่ตรงหน้าของนางเสียแล้ว นิ้วเรียวที่เย็นเยียบของเขาสัมผัสกับใบหน้าของนาง “เปลี่ยนไปไม่น้อยเลย ทั้งสูงขึ้นและสวยขึ้นมากด้วย”

“เจ้าเป็นใคร?” มู่หรงชีชีหลีกหนีสัมผัสจากเขา ใช้เสียงที่ได้ยินกันแค่สองคนเอ่ยถามออกมา

“ข้าคือเหลียนเช่นไรเล่า เหลียนของเจ้า”

ถ้าไม่ใช่เพราะที่นี่ยังมีคนอื่นอยู่ด้วย มู่หรงชีชีคงกระอักเลือดไปแล้ว นางไปรู้จักบุรุษคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? เขายังมีหน้ามาพูดว่า “เหลียนของเจ้า” อีก หากไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย หมัดของนางคงลอยไปทักทายใบหน้าของเขาแล้ว

“ชีชีอยากต่อยข้าอย่างนั้นหรือ?” ราวกับว่าเขาจะรับรู้ถึงความโกรธในแววตาของมู่หรงชีชีได้ ใบหน้าของคุณชายเหลียนประดับด้วยรอยยิ้ม จับมือที่กำหมัดแน่นของนาง ทั้งสองคนสบสายตากัน มู่หรงชีชีเห็นความรู้สึกสนุกที่แฝงอยู่ในแววตาของเขา

มู่หรงชีชียังไม่ทันได้ขัดขืน คุณชายเหลียนก็จูงมือของนางไปหยุดอยู่ตรงหน้าของสตรีในอาภรณ์หรูหราที่สะดุดตานางตั้งแต่ก่อนหน้านี้ “สิ่งที่รับปากกับเหนียงเนียงไว้ ชีชีก็ทำได้แล้ว หวังว่าเหนียงเนียงคงจะไม่ทำให้นางตกที่นั่งลำบากเพราะเรื่องนี้อีก”

ที่แท้สตรีผู้นี้นี่คือฮองเฮาตวนมู่ชิง มู่หรงชีชีรีบดึงมาออก แล้วทำการคำนับตวนมู่ชิง “หม่อมฉันขอถวายพระพรฮองเฮา ขอพระองค์ทรงพระเจริญพันปีพันปีพันๆ ปี”

ท่าทางสำรวมกิริยาของมู่หรงชีชีทำให้ตวนมู่ชิงดูแล้วสบายตา ในวังหลวงนางต้องชิงดีชิงเด่นกับมู่หรงเสวี่ยเหลียน ถึงเวลานี้น้องสาวของนางต้องทำความเคารพตนเอง ทำให้คนที่เย่อหยิ่งอย่างนางรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก

“ลุกขึ้นได้ ไหน มาให้ข้าดูหน่อยสิ” ตวนมู่ชิงจับมือของมู่หรงชีชีแล้วดึงนางขึ้นมา มองดูอย่างพินิจพิเคราะห์ หน้าตาของมู่หรงชีชีแค่สวยพอใช้ได้ ไม่ได้งดงามมีเสน่ห์ดังเช่นมู่หรงเสวี่ยเหลียน ยิ่งทำให้ตวนมู่ชิงพออกพอใจมากยิ่งขึ้น

“หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู มิน่าเล่าคุณชายเหลียนถึงได้ห่วงนักห่วงหนา......”

“เหนียงเนียง!” คุณชายเหลียนดึงมู่หรงชีชีเข้ามาใว้ในอ้อมแขน “สิ่งที่รับปากเหนียงเนียงไว้ ข้าทำได้แน่นอน หวังว่าเหนียงเนียงก็คงไม่ลืมสิ่งที่รับปากข้าเอาไว้ กระหม่อมทูลลา......”

ไม่รอให้ตวนมู่ชิงได้พูดอะไรอีก คุณชายเหลียนก็ลากมู่หรงชีชีออกจากที่นี่ไป

เมื่อเห็นคุณชายเหลียนและมู่หรงชีชีออกไปแล้ว ตวนมู่เหล่ยก็เขาไปหาตวนมู่ชิง “น้องหญิง เจ้าเชื่อเขาหรือ?”

“ท่านพี่ ตอนที่เขารักษาอีอีท่านก็ได้เห็นฝีมือของเขาแล้ว ช่างล้ำเลิศอย่างมิเคยพบเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ข้ารู้สึกว่าเขาจะรักษาข้าให้หายได้ ท่านพี่ ข้าเสวยโอสถมากี่ขนานก็ไร้ผล คุณชายเหลียนเป็นความหวังเดียวของข้า ข้าจะต้องประสูติพระโอรสให้จงได้”

“ถ้าเกิดเขาถูกจูงใจให้อยู่ฝั่งกุ้ยเฟยจะทำเช่นไร? ในเมื่อมู่หรงชีชีเป็นน้องสาวแท้ๆ ของนาง”