ตอนที่ 1244 อาชีพทั้งสาม
ราตรีมืดมิด
ในห้อง จ้าวเฉียงถือหนังสือโบราณ นางกำลังอ่านมันเงียบๆ
ตรงข้ามนาง หลี่ซานหลางกำลังศึกษาวิชาหมัดที่แกะสลักไว้บนกระดูก
ทันใดนั้น หลี่ซานหลางวางชิ้นกระดูกลงก่อนยืนขึ้น
“มีอะไรหรือ” จ้าวเฉียงถาม
“ไปห้องน้ำน่ะ” หลี่ซานหลางตอบ
“โอ้”
จ้าวเฉียงก้มศีรษะลงอีกครั้งเพื่ออ่านหนังสือเล่มหนาในมือ
แน่นอนว่าหลี่ซานหลางไม่ได้แสดงความเป็นปฏิปักษ์ใดๆ ในช่วงที่เกิดวันสิ้นโลก ไม่มีวิญญาณขุ่นเคืองปรากฏตัวเพื่อพรากชีวิตของเขา
ตอนนี้วันสิ้นโลกสิ้นสุดลงแล้ว ไม่มีอันตรายใดๆ อีก
ปัง!
ประตูห้องน้ำปิดลง เสียงปั๊มน้ำดังขึ้น ตามด้วยเสียงเปิดหน้าต่าง
แมวสีส้มปรากฏขึ้นในราตรีก่อนลงสู่ขอบหน้าต่างเงียบๆ
หลี่ซานหลางหายไปก่อนกลายเป็นดาบยาวมาซ่อนที่ด้านหลังแมวสีส้ม ขณะที่แมวสีส้มเคลื่อนลงไปในห้องน้ำก่อนเปลี่ยนกลับเป็นรูปลักษณ์ของหลี่ซานหลาง
ผ่านไปสักพัก
หลี่ซานหลางเดินออกมา
“พี่จ้าว ถ้าท่านง่วงแล้ว ไปพักผ่อนได้เลย คืนนี้น่าจะไม่มีอะไรแล้วล่ะ” เขากล่าว
จ้าวเฉียงยิ้มแล้วกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ในเมื่อข้ามาที่นี่แล้ว ข้าต้องทำให้แน่ใจว่าเจ้าจะปลอดภัยตลอดทั้งคืน คืนนี้ข้าจะนอนบนโซฟาเอง”
กู่ฉิงซานพยายามโน้มน้าวนางอีกสองสามครั้ง แต่ใครจะนึกล่ะว่าจ้าวเฉียงจะอ่อนโยนถึงเพียงนี้ นางยังคงยืนกรานหนักแน่นว่าจะต้องปกป้องกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานจึงต้องปล่อยให้นางทำ
เขากลับไปที่ห้องนอนด้วยตัวเอง ร่างกายล้มลงบนเตียง ไม่ช้าก็หลับไป
“เทพท่องราตรี” ทำงานอีกครั้ง!
ครั้งนี้ กู่ฉิงซานไม่มีจุดประสงค์พิเศษ เขาเพียงฝึกฝนความสามารถเท่านั้น
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในคืนนั้น
เมื่อถึงรุ่งสาง หลี่ชิวอวี่กลับมา
“เมื่อคืนเขาปลอดภัยดีไหม” หลี่ชิวอวีถามจ้าวเฉียงตามตรง
“ดีมากๆ ได้นั่งกินข้าวกันสักพัก หลังจากกินเสร็จ เขาก็เข้านอนเลย” จ้าวเฉียงตอบ
“มีวิญญาณขุ่นเคืองร้ายกาจมาสร้างปัญหาเขาหรือเปล่า” หลี่ชิวอวี่ยังคงถามต่อ
“อืม… ก็มีไก่ เป็ด แกะและปลาบางส่วนล่ะนะ” จ้าวเฉียงตอบ
“พรืด”
หลี่ชิวอวี่อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ จ้าวเฉียงยิ้มออกมาเช่นกัน
จะต้องเป็นปศุสัตว์ที่ถูกสังหารตอนเรียนทำอาหารแน่ๆ
เจ้าหนูน้อยคนนี้น่าสนใจจริงๆ
พวกนางไม่รู้ว่าบางครั้งกู่ฉิงซานยุ่งกับการทำอาหาร ฉานนู่จะช่วยเขาสังหารปศุสัตว์ให้
ขณะกู่ฉิงซานกำลังเผชิญหน้ากับวันสิ้นโลกแห่งวิญญาณขุ่นเคือง ด้วยการปรากฏตัวขึ้นของวิญญาณกรีดร้อง ต่อให้พวกไก่และเป็ดตายไป พวกมันก็ไม่กล้าปรากฏตัวต่อหน้าสัตว์ประหลาดตัวนี้
ดังนั้นผลลัพธ์จึงเป็นเช่นนี้
ทั้งสองหัวเราะขณะมองห้องครัวพร้อมกัน
พวกนาเงห็นร่างของคนที่ไม่สูงจนเกินไปกำลังยุ่งอยู่ในห้องครัว
หลังจากกินข้าวเช้า จ้าวเฉียงจากไป หลี่ชิวอวี่ไปศูนย์บัญชาการเพื่อเขียนรายงานการสืบสวน กู่ฉิงซานไปสำนัก ทั้งสามคนแยกทางกัน
กลุ่มศึกษา
เช้านี้ หนุ่มสาวทุกคนนั่งในห้องเรียนเรียบร้อย ไม่มีใครลาป่วย
ชายชราเคราแพะเดินเข้ามาในห้องเรียน
เขากระแอมลำคอก่อนกล่าวออกมาตามตรงว่า “วันนี้พวกเราจะเรียนวิชาอาชีพ”
หินแผ่นหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของเขา
“อย่างที่พวกเราทุกคนรู้ มีอาชีพสามประเภทในถ้ำหมื่นอสูร”
หลายคนกล่าวเสียงดังว่า “นักรบพลังจิต ผู้สร้างอาวุธ ผู้เชี่ยวชาญกระดูก!”
“ใช่แล้ว” ชายชราโยนแผ่นหินบนโพเดียมขณะเน้นย้ำว่า “แต่จำเอาไว้ นี่เป็นเพียงอาชีพในโลกของพวกเราเท่านั้น ความจริง ในความว่างเปล่าไร้ที่สิ้นสุด ประเภทของอาชีพเพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่มีใครรู้ว่ามีอาชีพต่อสู้อยู่มากแค่ไหน”
“รับทราบ!” หนุ่มสาวตอบรับพร้อมกัน
“เอาล่ะ มาสัมผัสพลังของผู้สร้างอาวุธกันดีกว่า ข้าขอถามหน่อย มีใครบ้างที่ไม่เคยเข้าเรียนวิชาข้า” ชายชราถาม
ทุกคนหันศีรษะไปมองกู่ฉิงซาน
เขาเป็นเด็กใหม่ที่นี่ เพิ่งเข้าเรียนวิชาประวัติศาสตร์และวิชาต่อสู้
“เจ้าหนูน้อย เจ้าชื่ออะไรหรือ” ชายชราถาม
“หลี่ชิวซาน” กู่ฉิงซานตอบ
“โอ้ ข้ารู้จักเจ้า น้องเล็กของสองคนนั้นนี่เอง มา มาตรงโพเดียม” ชายชรากล่าวอย่างอ่อนโยน
กู่ฉิงซานก้าวไปที่โพเดียมตามคำพูดของเขา
เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เรียกว่าผู้สร้างอาวุธนั้นเป็นอย่างไร ในใจของกู่ฉิงซานก็เกิดสงสัยเหมือนกัน
“ถือแผ่นหินนั่นไว้” ชายชราสั่ง
“ขอรับ”
กู่ฉิงซานมองแผ่นหิน
แผ่นหินเต็มไปด้วยฝุ่น ดูเหมือนที่มุงหลังคาที่ไม่สะดุดตาใดๆ
เกิดอะไรขึ้น
กู่ฉิงซานยื่นมือออกไปแตะแผ่นหิน
ทันใดนั้น แผ่นหินส่องแสงก่อนแยกออกเป็นมีดสั้นคมปลาบสองเล่มเคลื่อนลงมาอยู่บนมือของเขา
“โอ้โห!”
กู่ฉิงซานกรีดร้องด้วยความประหลาดใจ
มีดสั้นสองเล่มอยู่ในมือของเขาขณะแทงใส่ในความว่างเปล่าตรงหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อสำแดงวิชาลอบสังหารอันดุดันทันที
หลังจากนั้น แสงไฟที่ลุกโชติช่วงหลอมรวมเป็นเส้นตรงขระวนรอบกู่ฉิงซานไม่มีสิ้นสุด
นี่คือการป้องกันอย่างหนึ่งหรือ
ขณะกู่ฉิงซานกำลังครุ่นคิด เขาเห็นแสงเย็นเยือกปรากฏขึ้นบนมีดสั้น มันพุ่งออกไปในอากาศบางหลายฟุตเพื่อฟาดฟันใส่อากาศจนเกิดเสียงเสียดแทงหู
“ปล่อยได้แล้ว!”
ชายชราตะโกนขณะฟาดมือของกู่ฉิงซานจนมีดสั้นสองเล่มตกลงพื้น
เขายื่นมือออกไปกดความว่างเปล่าอย่างแผ่วเบา
แสงเย็นเยือกคมปลาบที่พลันพุ่งออกมาหายไปแล้ว
กู่ฉิงซานก้มมองลงไปจนเห็นว่ามีดสั้นสองเล่มกลับมาเป็นแผ่นหินมีฝุ่นอีกครั้งขณะกองอยู่บนพื้นไม่ขยับไปไหน
“เอาล่ะ กลับไปนั่งที่ได้”
“ขอรับ อาจารย์”
กู่ฉิงซานเดินกลับไปที่นั่งที่ตัวเอง
สุดยอด
อาวุธนี้ถึงกับครองวิชาต่อสู้ แถมยังมีพลังที่คล้ายกับ “พลังเหนือธรรมชาติ” อยู่ด้วย
เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ขีดจำกัดของมีดสั้น
มันยังมีพลังมากกว่านี้
ชายชรากล่าวว่า “เอาล่ะ ขอข้าพูดหน่อยแล้วกัน”
“ในสุสาน มีอาวุธ ชุดเกราะและสมบัติอื่นๆ มากมาย”
“เมื่อวันสิ้นโลกเคลื่อนลงมาบนโลกของพวกเราจากสุสาน บางครั้งมันจะนำสมบัติทรงพลังมาด้วย”
“สมบัติเหล่านี้ล้วนเต็มไปด้วยพลังเหลือเชื่อและยังคงรักษาซึ่งภูมิปัญญาเอาไว้เพื่อให้สามารถช่วยพวกเราใช้พลังจิตจนได้รับความสามารถ มรดกและวิชายุทธ์มา”
“ในบรรดาพวกเรา บางคนสื่อสารกับสมบัติเหล่านี้ได้ง่ายกว่าคนอื่นจนถึงขั้นเป็นที่โปรดปรานของสมบัติจนกลายเป็นเจ้าของคนใหม่”
“นี่แหละคือผู้สร้างอาวุธ”
“ส่วนผู้เชี่ยวชาญกระดูก สิ่งจำเป็นก็คือพลังจิตที่สูงส่งขึ้นไป”
หลังจากชายชรากล่าวจบ เขาหยิบชิ้นกระดูกสีขาวบางออกมาก่อนวางบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา
“เจ้านี่อันตราย พวกเจ้าไม่สามารถสัมผัสได้”
ขณะพูด เขาสัมผัสกระดูกอย่างแผ่วเบา
กระดูกสั่นไหวเล็กน้อย
ทันใดนั้น ความว่างเปล่าบิดเบี้ยวก่อนถอยออกจากทั้งสองฝั่ง ซากศพแปลกประหลาดปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน
นี่คือผู้หญิงสวมชุดเกราะแตกหัก ผิวของนางเป็นสีม่วงเข้ม ดวงตาหลับ นางปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าอย่างเงียบงัน
“ชิ้นส่วนกระดูกบางชิ้นเต็มไปด้วยเจตจำนงของบรรพบุรุษ ด้วยวิธีการสื่อสารพิเศษ พวกเราสามารถสื่อสารกับเจตจำนงนั่นจนทำให้มันปรากฏขึ้นมาอย่างเต็มรูปแบบได้”
ชายชราชี้ไปที่ซากศพผู้หญิงแล้วกล่าวว่า “อย่างที่พวกเจ้าเห็น กระดูกสีขาวนี้เป็นกระดูกของร่างนาง ข้าสามารถใช้วิชาลับของผู้เชี่ยวชาญกระดูกเพื่อใช้งานกระดูกสีขาวได้ จากนั้นเจตจำนงของนางจะสามารถปรากฏขึ้นมาได้”
“ด้วยวิธีนี้ทำให้อัญเชิญเจ้าของกระดูกออกมาได้ ส่วนพลังต่อสู้จะมากแค่ไหนนั้นจะเป็นไปตามนี้ หนึ่ง เจ้ากระดูกช่วงที่ยังมีชีวิตทรงพลังแค่ไหน สอง พละกำลังความสามารถพลังจิตของผู้เชี่ยวชาญกระดูกยามที่สื่อสารด้วยวิชาลับ”
“ซากศพนักรบผู้หญิงคนนี้ ข้าใช้พลังจิตมานานกว่าหนึ่งร้อยปี ตอนนี้จึงสามารถแสดงพลังสามระดับตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่ได้”
“ในการต่อสู้กับวันสิ้นโลก นางจะต่อสู้ร่วมกับข้า”
ทั่วชั้นเรียนเงียบ
หนุ่มสาวมองซากศพผู้หญิงด้วยความหวาดกลัวและตื่นเต้น
“จำที่ข้าพูดได้หรือเปล่า นี่คือพลังจิตระดับสูงมาก ต้องใช้ความรู้และความลับมากมาย แน่นอน ต้องใช้พรสวรรค์ด้วย” ชายชรากล่าวเสียงดัง
เขาชี้ไปที่กระดูกสีขาว
ร่างผู้หญิงหายไปในพริบตา
ชายชราถกแขนเสื้อแล้วกล่าวต่อว่า “เอาล่ะ ต่อไปก็มาพูดเรื่องนักรบพลังจิตกันดีกว่า”
“นี่นับว่าน่าสนใจ มรดกของนักรบที่ได้รับผ่านวิถีพลังจิตล้วนมาจากส่วนลึกของสุสาน มันคือสถานที่ที่พวกเราไม่สามารถเข้าไปพัวพันได้”
“การที่สามารถเป็นนักรบพลังจิตได้จะได้รับความลับวิชายุทธ์ที่ทรงพลังไร้ใครเทียบขึ้นมา”
“พูดง่ายๆ สามอาชีพของถ้ำหมื่นอสูร ต่อให้ไปอยู่ในโลกหลายร้อยล้านใบในความว่างเปล่าก็ล้วนเป็นตัวตนที่มีชื่อเสียง”
“เพราะพวกเรามีสุสานเช่นนั้น ทำให้มีวันสิ้นโลกและสมบัติจำนวนนับไม่ถ้วน”
“มันคือความลับของหกวิถีที่รอให้พวกเราไปค้นหา”
……………………………………….