webnovel

0302 มรดกแห่งร้อยบุปผา

ตอนที่ 302 มรดกแห่งร้อยบุปผา 

ในชีวิตนี้ แม้กู่ฉิงซานยังไม่ทันได้เข้าสู่เกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกาออนไลน์ แต่เขาก็ได้รับ หน้าต่างระบบเทพสงครามอันแสนจะแปลกประหลาดมาแทน 

ส่งผลให้กู่ฉิงซานไม่จำเป็นต้องทนทุกข์ทรมานจากการถูกผูกมัดโดยแต้มประสบการณ์อีกต่อไป 

ในชีวิตนี้ เขาสามารถใช้พลังวิญญาณยกระดับได้เลยโดยตรง 

เพื่อการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เขาจะต้องรีบยกระดับไปยังขอบเขตประทับเทพ  และแม้กระทั่ง ขอบเขตร่างเทวะ ขอบเขตพันวิบัติ ขอบเขตขีดสุดความว่างเปล่า และขอบเขตลมปราณจิต… 

แล้วพลังอันน่าสะพรึงของนักดาบนิรันดร์ ก็จะถูกปลดปล่อยออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบในที่สุด 

“นักดาบนิรันดร์…” 

สีหน้าของกู่ฉิงซานเผยถึงคำใบ้แห่งความคะนึงหาในห้วงความทรงจำ 

เขาเงยหน้าขึ้น จ้องมองไปบนท้องฟ้า 

เมื่อครู่ ฝนเย็นฉ่ำได้หยุดตกลงไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง 

นั่นหมายความว่าภัยพิบัติกำลังจะมาเยือนโลกใบนี้แล้ว 

ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ท่ามกลางกระแสมิติว่างเปล่าอันเชี่ยวกราก เขาก็กำลังจะถูกส่งไปยังโลกอื่นที่ไม่รู้จักและใกล้จะถึงจุดจบ 

มีศัตรูมากมายรอบตัว และหากไม่ระวัง นั่นหมายถึงการสาปส่งชั่วนิรันดร์ 

เมื่อต้องตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์อันน่าหวาดกลัวเช่นนี้ 

ฉะนั้นนับจากนี้ไป ตัวกู่ฉิงซานเองจะต้องเร่งแข็งแกร่งขึ้นให้เร็วที่สุด! 

กู่ฉิงซานลอบตัดสินใจแน่วแน่ในความคิดอย่างลับๆ 

ขณะที่คิด เส้นแสงตัวอักษรเล็กๆ ไม่กี่บรรทัดก็ปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม 

“ภารกิจปลุกนักดาบนิรันดร์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว” 

“คุณจะต้องบรรลุชุดภารกิจนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ เพื่อเตรียมการเรียกคืนพลังแห่งนักดาบนิรันดร์ในครั้งอดีต” 

“ภารกิจที่หนึ่ง ได้รับดาบสองเล่ม” 

“เริ่มต้นภารกิจได้” 

กู่ฉิงซานกวาดสายตาอ่านบรรทัดเหล่านั้นบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แม้จะไม่มีคำอธิบายใดๆ แต่ในหัวใจของเขาก็พอจะเข้าใจได้หลายส่วนว่ามันต้องการจะสื่ออะไร... 

...หนึ่งดาบใช้โจมตี อีกหนึ่งคือใช้ป้องกัน 

นักดาบนิรันดร์ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเกิดมาเพื่อยืนอยู่ท่ามกลางทะเลดาบ ดังนั้นผู้ที่ครอบครองสมญานี้ อย่างน้อยที่สุดจะต้องครอบครองดาบสองเล่ม 

อย่างไรก็ตาม กู่ฉิงซานก็มีดาบคู่กายถึงสองเล่มอยู่แล้ว 

นั่นคือดาบพิภพ และดาบเช่าหยิน 

เพียงแค่คิดถึงจุดนี้ บนหน้าต่างภารกิจจู่ๆ ก็ปรากฏตัวอักษรไม่กี่คำขึ้นมา 

“ภารกิจที่หนึ่ง ได้รับดาบสองเล่ม ไม่ตกอยู่ในสภาพเสียหาย” 

“เริ่มต้นภารกิจได้” 

กู่ฉิงซานพยักหน้าอย่างเงียบๆ 

ดาบเช่าหยินนั้นได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง และมันไม่เหมาะที่จะใช้ในการต่อสู้อันดุเดือดรุนแรง อีกต่อไป 

“แล้วถ้าเป็นดาบของในโลกนี้จะได้ไหม?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม 

ระบบตอบกลับ “ดาบที่สามารถต้านทานศัตรูได้ นั่นแหละจึงจะเหมาะสมที่จะถูกเรียกว่าดาบ” 

นั่นย่อมถูกต้องแน่นอน ไม่อย่างนั้น นับตั้งแต่ที่เขาได้กลับมาจุติใหม่อีกครั้ง และไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เป็นสำคัญ เขาคงไล่หาดาบห่วยๆ มาใช้ไปตั้งแต่แรกแล้ว 

สำหรับตอนนี้ มีเพียงสองวิธีเท่านั้นที่จะใช้แก้ปัญหาได้ 

วิธีแรกคือกลับไปยังอีกโลก และเฝ้ารอจนกว่าจะผ่านพ้นอันตรายถึงชีวิต หลบหนีจนสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ จากนั้นก็ค่อยออกตามหาดาบที่เหมาะสม 

วิธีที่สอง คือการเริ่มต้นซ่อมแซมดาบเช่าหยิน 

กู่ฉิงซานครุ่นคิดเล็กน้อย และตัดสินใจในทันที 

เพราะตั้งแต่แรก เขาก็ได้ให้สัญญากับเช่าหยินไว้แล้วว่าจะซ่อมแซมมัน 

และผู้ฝึกดาบไม่ควรที่จะผิดคำสัญญากับจิตแห่งดาบ 

ดังนั้น นับจากนี้ไปเขาจำต้องพยายามค้นหาวิธีที่จะซ่อมแซมมัน 

นอกจากนี้ ถ้าหากเขาสามารถปลุกพลังของนักดาบนิรันดร์ให้ตื่นขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์ก่อนที่จะกลับไปยังต่างโลกที่ไม่รู้จักและกำลังจะล่มสลายลงได้ โอกาสในการเอาชีวิตรอดของตนเองจะต้องเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน 

เมื่อพูดแล้วก็ต้องทำมันทันที 

กู่ฉิงซานคว้าถุงหลากสีสันออกมา 

นี่คือมรดกของนิกายร้อยบุปผา บรรจุทุกสิ่งอย่างในนิกายเอาไว้ที่นี่ 

วิชาลับหกศิลป์ในโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ ชุดเกราะ หรือกระทั่งไอเท็มคุณภาพสูง ที่นางเซียนไป่ฮั่วมีไว้ในครอบครอง 

ภายในถุงหอม มีแม้กระทั่งห้องหลอมกลั่นวัตถุดิบ 

กู่ฉิงซานปล่อยจิตสัมผัสเทวะเข้าไปค้นในถุงเครื่องหอม และไม่นานเขาก็พบกับเป้าหมายที่ต้องการ 

วิชาที่เกี่ยวข้องกับดาบจากใบหยกที่ดูประณีต ละเอียดลออหลายแผ่นปรากฏขึ้นในมือของเขา 

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม ตัวเลือก ‘วิชายุทธเทพสงคราม’ เริ่มกะพริบไหว 

ตามด้วยหลายเส้นแสงตัวอักษรที่ปรากฏขึ้น 

“ค้นพบเทคนิคฝึกยุทธ หลอมกลั่น” 

“เทคนิคหลอมกลั่นระดับมาตรฐาน” 

“บันทึกฉบับสมบูรณ์สำหรับการแยกแยะประเภทของดาบขั้นต้น” 

“เทคนิคการหลอมกลั่นพลังของดาบด้วยไฟ” 

“วิชาลับหลอมละลายด้วยไฟ” 

“วิธีหลอมกลั่นคุณสมบัติแห่งดาบ” 

“สนับสนุนซ่อมแซมดาบ” 

“ร้องขอให้ผู้เล่นเลือกเทคนิคที่ต้องการจะเรียนรู้” 

กู่ฉิงซานเอ่ยถาม “แล้วการเรียนรู้วิชาหลอมกลั่นเนี่ย มันมีช่วงระยะเวลาคูลดาวน์ไหม?” 

ติ๊ง! 

ระบบเอ่ยตอบ “การเรียนรู้หกศิลป์จะไม่นำพาไปสู่ความแข็งแกร่งของผู้เล่นที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างกะทันหัน ดังนั้นจึงไม่ก่อให้เกิดภาระมากเกินไปต่อร่างกาย กล่าวคือไม่มีระยะเวลาคูลดาวน์” 

กู่ฉิงซานกล่าวด้วยสุข “ถ้างั้น ฉันต้องการเรียนรู้เทคนิคฝึกยุทธเหล่านี้ทั้งหมดเลย”

“หากต้องการเรียนรู้เทคนิคฝึกยุทธข้างต้น โดยสิ้นเชิงแล้วจำเป็นต้องจ่ายแต้มพลังวิญญาณ หนึ่งพันหนึ่งร้อยแต้ม ผู้เล่นยินดีที่จะจ่ายแต้มพลังวิญญาณตามข้อกำหนดหรือไม่?” 

“ฉันยินดี!” 

“ผู้เล่นได้ใช้หนึ่งพันหนึ่งร้อยแต้ม เรียนรู้เทคนิคหลอมลั่นข้างต้นอย่างสมบูรณ์” 

“แต้มพลังวิญญาณคงเหลือ ห้าพันหกส่วนสามร้อย” 

กระแสความร้อนอันอบอุ่น ไหลบ่าออกมาจากใบหยกแต่ละชิ้น ถ่ายเทลงในมือของกู่ฉิงซาน เคลื่อนผ่านช่วงแขน และในที่สุดก็ไปรวมตัวกันในทะเลแห่งห้วงสติ 

เนื่องจากข้อมูลของเทคนิคฝึกยุทธนี้มีปริมาณค่อนข้างมาก กู่ฉิงซานจึงจำต้องใช้เวลากว่าหลายก้านธูป จึงจะสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับพวกมันได้อย่างสมบูรณ์ 

เขาหยิบดาบเช่าหยินออกมา และโยนมันไปในอากาศ 

ดาบเช่าหยินบินเวียนวนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเริ่มพยายามบินออกไปสำรวจโดยรอบ 

มันลอยตัวเหนือขึ้นไปบนก้อนเมฆ ว่ายวนไปมาอย่างไร้ทิศทาง จากนั้นจึงค่อยๆ ร่อนกลับลงมายังพื้นดินอย่างช้าๆ 

ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่ง มันจึงตกลงมาข้างกายกู่ฉิงซาน 

มันส่งเสียงหึ่งๆ อย่างแผ่วเบา 

“ถูกต้อง ที่นี่ไม่ใช่โลกใบเดิมของท่าน” กู่ฉิงซานกล่าว 

ดาบเช่าหยินจิ้มปลายหักๆ ของมันลงบนพื้นทราย เริ่มเอ่ยถามซอกแซกด้วยความสงสัย 

และเมื่อมันพบว่าใบดาบของตนกำลังถูกดูดจมลงไปในทะเลทราย มันก็เร่งดีดตัวออกมาด้วยความตื่นตระหนก 

“ไม่ใช่หรอก พื้นดินบนโลกใบนี้ไม่ได้เหมือนกับโลกของท่าน” กู่ฉิงซานอธิบาย 

“แน่นอน ว่าการที่ถึงขั้นต้องเรียกท่านออกมาเช่นนี้ เนื่องเพราะมันเป็นเรื่องสำคัญ” 

“นั่นก็คือ ในกรณีนี้ แม้ว่าข้าจะสามารถเรียนรู้กฎแห่งการหลอมกลั่นแล้วก็ตาม ทว่าก็ยังคงต้องการใช้วัสดุในการซ่อมแซมท่านอยู่ดี แต่วัสดุเหล่านั้นท่านจำเป็นต้องมาดูด้วยตนเองเสียก่อน ข้าจึงจะกล้าใช้มัน” 

เสียงหึ่งๆ ของดาบเช่าหยินดังขึ้นเล็กน้อย แสดงถึงการอนุญาต 

“วัสดุในโลกของท่าน แน่นอนว่ามันย่อมแตกต่างจากโลกของข้า ข้าต้องการให้ท่านอธิบายถึงลักษณะของวัสดุต่างๆ เผื่อว่าจะมีชิ้นใดที่พอจะสอดคล้องกันได้” 

“ถูกต้อง หลังจากที่รวบรวมชุดวัสดุได้เสร็จสมบูรณ์ ข้าก็จะเริ่มซ่อมแซมท่าน” 

ดาบเช่าหยินพอได้ฟังคำเขา มันก็เริ่มตื่นเต้น ทะยานตัวโบยบินฉวัดเฉวียนไปรอบกายเขาครั้งแล้วครั้งเล่า 

ทันใดนั้นร่างเงาของปลาตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งก็ลอยออกมาจากด้ามดาบ และแหวกว่ายน้ำอยู่ในอากาศ 

มันคือจิตแห่งดาบที่กู่ฉิงซานพบในถ้ำลาวา 

ปลาเล็กว่ายวนไปมา ก่อนจะมาตกลงเบื้องหน้าของกู่ฉิงซาน และแตะลงบนหน้าผากของเขาอย่างแผ่วเบา 

จากนั้นปลาเล็กก็ผลุบหายเข้าไปในดาบเช่าหยินอีกที 

กู่ฉิงซานชะงักงันไปชั่วครู่ ก่อนจะบ่นอุบว่า “แท้จริงแล้วกลับจำเป็นต้องใช้วัสดุมากมายถึงขนาดนี้ นี่นับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย” 

เมื่อดาบเช่าหยินได้ฟัง มันก็รีบว่ายวนรอบตัวเขา แสดงออกถึงความกังวล 

“หยุดเถอะ ข้าเริ่มจะเวียนหัวแล้ว” กู่ฉิงซานหัวเราะเบาๆ “โปรดมั่นใจ หากข้าเปล่งวาจาออกไปแล้ว ข้าย่อมจะต้องทำตามที่กล่าวอย่างแน่นอน” 

“มันไม่สำคัญหรอก ขอแค่ทรัพยากรทั้งหมดในโลกใบนี้ยังไม่หายไปไหน สิ่งที่ท่านต้องการย่อมมีเพียงพออย่างแน่นอน” 

ในโลกจริง แท้จริงแล้วมีทรัพยากรไม่ด้อยไปกว่าโลกแห่งผู้ฝึกยุทธหรือโลกอื่นๆ เลย 

เพียงแต่ว่ามนุษย์ในโลกจริง ไม่เคยใช้ทรัพยากรที่ว่า ก็เท่านั้นเอง 

รวมไปถึงตัวกู่ฉิงซานเองด้วย 

เพราะนับตั้งแต่ที่เขาได้จุติใหม่ ในทุกๆ วันเขาก็วุ่นอยู่แต่กับการเอาชีวิตรอด 

จนกระทั่งวันนี้ ในที่สุดเขาก็มีเวลาและได้รับโอกาสที่จะสำรวจทรัพยากรเหล่านั้นเสียที 

กู่ฉิงซายเอ่ยด้วยความมั่นใจ “วางใจเถอะ ข้าจะซ่อมแซมท่านอย่างแน่นอน ตอนนี้ก็ขอให้ท่านกลับไปพักผ่อนก่อน ข้าจะเรียกท่านออกมาอีกครั้งเองเมื่อถึงเวลา” 

ดาบเช่าหยินเปล่งเสียงหึ่งๆ ก่อนจะหายวับไปในอากาศที่ว่างเปล่า 

กู่ฉิงซานปิดตาทั้งสองข้างลง และเริ่มตรวจสอบสภาวะของตนเอง 

จากการตรวจสอบนี้ แท้จริงแล้วเข้ากลับพบว่าลมหายใจของตนปั่นป่วนกระจัดกระจาย พลังวิญญาณจากทั้งร่างกายมีความผันผวนบ้างสูง บ้างต่ำ เปลี่ยนแปลงสลับไปมาบ้างเป็นครั้งคราว 

การยกระดับขอบเขตใหม่ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว แต่พลังวิญญาณยังคงอยู่ในสภาวะปั่นป่วน 

ในกรณีนี้ มันจึงนับว่าไม่ควรนัก หากคิดจะตัดผ่านต่อเนื่องไปยังขอบเขตถัดไป 

กู่ฉิงซานเก็บใบหยกหลายชิ้นลงในถุงเครื่องหอมหลากสี 

และในตอนที่เขากำลังจะเก็บมันลง จู่ๆ ในสมองก็พลันตระหนักถึงบางสิ่งขึ้นมาในทันใด 

เดี๋ยวก่อนนะ 

กู่ฉิงซานก้มมองลงไปยังถุงในมือ 

นี่คือถุงเครื่องหอมที่ทอจากเส้นด้ายที่มีสีสัน แม้จะหลากสีแต่มันกลับดูไม่เด่นสะดุดตา ทว่าน้ำกับไฟมิอาจรุกราน สร้างความเสียหายใดๆ แก่มันได้เลย 

ในเวลานั้น นางเซียนไป่ฮั่วรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์แห่งความตายของตน จึงมอบมรดกทั้งหมดของเธอให้แก่กู่ฉิงซาน วิชาลับ ทั้งหมดล้วนอยู่ภายในนี้ 

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ สกิลเทวะ สายธารแห่งการหลงเลือนก็สมควรที่จะอยู่ในนี้ด้วยถูกไหม? 

ไม่ว่าจะเป็นสกิลเทวะ หวนคืนไร้ลักษณ์ หรือกระทั่งสกิลเทวะประเภทเทคนิคมนตราจากธาตุทั้งห้าที่นางเซียนได้พบเจอมา ทั้งหมดล้วนอยู่ภายในนี้! 

พอคิดได้ กู่ฉิงซานก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที 

ท่านอาจารย์ได้มอบความไว้วางใจให้แด่เขาโดยการฝากฝังเจ้าสิ่งนี้เอาไว้ เช่นนั้นมิเท่ากับว่านางยินยอมให้เขาใช้เจ้าสิ่งนี้ได้หรอกหรือ 

กู่ฉิงซานกวาดสายตาไปยังหน้าต่างระบบเทพสงคราม 

“แต้มพลังวิญญาณคงเหลือ ห้าพันหกร้อยส่วนสามร้อย” 

สำหรับแต้มพลังวิญญาณที่จะใช้ในการเรียนรู้ นับว่ามีมากมายจนเกินพอ 

หากไม่เรียนรู้พวกมันในตอนนี้ แล้วจะให้เขารอไปถึงเมื่อไหร่กัน? 

ทันทีที่คิดได้ เขาก็กวาดจิตสัมผัสเทวะลงไปในถุงเครื่องหอมทันที เพื่อเริ่มต้นค้นหาเทคนิคฝึกยุทธ 

หลังจากนั้นไม่นาน สีหน้าของกู่ฉิงซานก็พลันเปล่งประกาย เขาหยิบใบหยกแผ่นหนึ่งที่อยู่ภายในขึ้นมา 

เขาคว้าจับมัน พร้อมด้วยบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม ที่เริ่มปรากฏเส้นแสงตัวอักษรขึ้นมาทันที 

“สกิลเทวะประเภทปรภพ สายธารแห่งการหลงเลือน” 

“การที่จะฝึกฝนสกิลเทวะนี้ จำเป็นต้องมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้” 

“เป็นผู้ฝึกยุทธหญิง” 

“มีพรสวรรค์ทางพลังวิญญาณในการใช้ธาตุทั้งห้าในขั้นห้า” 

“ครอบครองเทคนิคเทียนซวน เพรียกวิญญาณ” 

“ครอบครองเทคนิคลับ ผนึกร่างสู่หยิน” 

“ครอบครองเทคนิคลับ วิญญาณหวนคืน” 

“ครอบครองเชื่อมต่อหกวิถี เรือข้ามปรภพ” 

พอได้อ่าน กู่ฉิงซานก็ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ส่ายหัว 

เพียงแค่กฎข้อแรก ตัวเขาก็ไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขแล้ว 

นี่ยังไม่นับรวมข้อสอง ที่ต้องเป็นผู้ใช้ธาตุทั้งห้าอีกนะ 

ส่วนข้อสาม ที่เป็นเทคนิคเทียนซวน เจ้าสิ่งนี้คือพรที่สวรรค์มอบให้ แม้ตัวเขาเองต้องการจะฝึกฝน แต่ก็มิอาจทำได้ 

ข้อที่ สี่ ห้า หก ก็จะคำอธิบายไว้ตามลำดับ 

“เทคนิคลับ ผนึกร่างสู่หยิน คือการปิดผนึกร่างกาย เพื่อให้ตนสามารถเข้าสู่สภาวะแห่งความตาย มิแตกต่างอันใดไปจากเหล่าผู้คนที่สิ้นชีพลงในโลก” 

“เทคนิคลับ วิญญาณหวนคืน แม้ตนจะตกตาย หรือกระทั่งจิตแห่งตนล่องลอยสู่ปรภพ ก็ยังสามารถที่จะเรียกมันกลับคืนมาได้” 

“เชื่อมต่อหกวิถี เรือข้ามปรภพ คุณได้ลงนามสัญญาชีวิตกับสายธารแห่งการหลงเลือน คนแจวเรือในสายธารแห่งการหลงเลือนจะเป็นตัวแทนของกฎแห่งสวรรค์และโลก เธอจะตอบสนองต่อเทคนิคมนตราที่คุณใช้เรียกหา” 

กู่ฉิงซานอ่านมันอีกครั้ง และอีกครั้ง เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา 

ปรากฏว่าการเรียนรู้สกิลเทวะหกวิถีนี้ เงื่อนไขที่จำเป็นช่างโหดร้ายอย่างคาดไม่ถึง 

ไม่น่าแปลกใจเลยว่า เพราะเหตุใดท่านอาจารย์จึงไม่คิดสอนสั่งวิชานี้แก่เขา 

ในช่วงต้นๆ เมื่อครั้งที่ท่านอาจารย์สอนย่นระยะเหลือเพียงหนึ่งนิ้ว ท่านเคยพูดอะไรบางอย่างออกมา 

“เทคนิคฝึกยุทธอื่นๆ ของข้าค่อนข้างมีข้อจำกัดมากมาย และมันจำเป็นต้องใช้เวลาหลายปีในการคลำหารากวิญญาณและผนึกมนตราที่สอดคล้องกัน นอกจากนี้มือยังต้องไว…” 

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีโอกาสที่จะได้ใช้สกิลเทวะชนิดนี้ได้เลย 

อย่างไรก็ตาม สกิลเทวะที่โดดเด่นของท่านอาจารย์ก็ยังมีอีกมากมาย 

‘หากฉันไม่สามารถเรียนรู้เจ้าสิ่งนี้ได้ งั้นก็ลองมองหาสกิลต่อไปก็แล้วกัน’ 

กู่ฉิงซานเก็บใบหยกชิ้นนี้กลับคืน และเริ่มทำการค้นหาวิชาลับ 

และแล้ว เขาก็ค้นพบพวกมัน ไม่ว่าจะเป็น ‘ค้นวิญญาณจากความว่างเปล่า’ ‘สวรรค์ล่มสลาย’ และ ‘ตัดแบ่งขุนเขาไร้ตัวตน’ กระทั่งสกิลเทวะประเภทอาชูร่าอย่าง ‘ยักษาวิปัสสนา’ 

อย่างไรก็ตาม สกิลเทวะเหล่านี้ ล้วนมีเงื่อนไขมากมายหากคิดจะเรียนรู้มัน 

มีแค่เพียง ‘สวรรค์ล่มสลาย’ เท่านั้นที่ไม่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขใดๆ เพราะมันเป็นสกิลเทวะประเภทหวูเต๋า 

ทว่าเมื่อกู่ฉิงซานคิดอย่างรอบคอบอยู่พักหนึ่ง เขาก็ยังไม่เลือกที่ฝึกฝนมัน 

เหล่ามืออาชีพหลายคนสามารถตัดสินใจฝึกฝนวิชาอันหลากหลายควบคู่ไปกับวิถีหลักในเส้นทางของตนได้ก็จริง 

แต่สำหรับผู้ฝึกดาบมันจะต่างออกไป นอกเหนือไปจากวิธีการฝึกฝนที่ยากเย็นแล้ว ลักษณะการต่อสู้ของพวกเขายังไม่เหมือนใครอีกด้วย 

สำหรับผู้ฝึกดาบ หากคิดจะเรียนรู้ เพลงหมัดควบคู่ไปด้วยจริงๆ นั่นย่อมจะเป็นอุปสรรคต่อเส้นทางของพวกเขา 

ตัวตนอย่างผู้ฝึกดาบ หากคิดจะฝึกฝนสกิลอื่นควบคู่ไปด้วย มันจะต้องเป็นสกิลเทวะประเภทสนับสนุนอย่าง ย่นระยะเหลือเพียงหนึ่งนิ้ว กับร่างเงาแทนที่ ต่างหากจึงจะเหมาะสม 

แม้สกิลเทวะประเภทหกวิถีเป็นสิ่งที่ดี แต่น่าเสียดายที่เงื่อนไขในการเรียนรู้มันโหดร้ายเกินไป ตัวเขาเองฝึกฝนมันไม่ได้

ส่วนสกิลเทวะประเภทอาชูร่า ‘ยักษาวิปัสสนา’ นั้นจำเป็นต้องเติมเต็มเงื่อนไขของมันถึง สิบเก้าข้อ! 

เพียงกวาดสายตาผ่าน กู่ฉิงซานก็ยอมแพ้ทันที 

เขาเก็บเหล่าสกิลเทวะและวิชาลับทั้งหมดกลับเข้าไปในถุงหอม และหยุดความคิดที่ว่านี้เอาไว้ชั่วคราว 

ลืมมันเถอะ ตอนนี้อันดับแรกที่สมควรทำคือเริ่มออกตามหาวัสดุมาใช้ซ่อมแซมดาบเช่าหยินก่อนก็แล้วกัน

.........................................