ตอนที่ 303 แช่แข็ง
กู่ฉิงซานเปิดสมองควอนตัม และเริ่มป้อนข้อมูลของวัสดุที่เกี่ยวข้องลงไป
การซ่อมแซมดาบเช่าหยิน โดยสิ้นเชิงแล้วจำเป็นต้องทำการรวบรวมวัสดุกว่าหลายสิบชนิด ยิ่งไปกว่านั้นแต่ละอย่างมูลค่าของมันล้วนมหาศาล กู่ฉิงซานไม่แน่ใจว่าในโลกใบนี้จะมีทั้งหมดที่ว่ามาหรือไม่
ดาบโบราณแห่งโลกเทวะ...กระทั่งในโลกแห่งผู้ฝึกยุทธยังไม่กล้าที่จะกล่าวว่าตนนั้นครอบครองวัสดุทุกชนิดที่จำเป็นในการหลอมกลั่นมัน
ตอนนี้เขาเลยทำได้เพียงเก็บข้อมูลเอาไว้ก่อนเป็นอันดับแรก
“หินแม่เหล็กดำ ต้องมีคุณสมบัติ สีดำแวววาว พื้นผิวไม่สม่ำเสมอ เปล่งแสงเมื่อพบกับไฟ ถูกน้ำต้องหดตัวเป็นทรงกลม”
“เหล็กอัดหล่อเย็น ต้องมีคุณสมบัติ เป็นหินเหล็กกล้าที่พบเจอได้ในน้ำทะเลลึกหนึ่งหมื่นเมตร มีอายุอย่างน้อย หนึ่งแสนปี พื้นผิวต้องมีสีเขียวสลับฟ้า เมื่อพบเจอกับอุณหภูมิสูงจะขยายตัวขึ้น”
“เลือดของตะวันและจันทรา แม้จะมีชื่อเช่นนี้ แต่แท้จริงแล้วมันคือแกนกลางของอุกกาบาต ต้องมีคุณสมบัติ โปร่งแสงสีสดใส เมื่อถือกำเนิดขึ้นต้องไม่เคยเสื่อมสภาพมาก่อน”
…
ด้วยความพยายามกว่าหนึ่งชั่วโมงเศษ ในที่สุดกู่ฉิงซานก็ใส่รายชื่อวัสดุที่จำเป็นสำหรับซ่อมแซมดาบเช่าหยินจนเสร็จสมบูรณ์
“ปัญหาก็คือ สิ่งเหล่านี้มันไม่มีขายในโลก แต่จำเป็นต้องออกไปค้นหาจึงจะค้นพบ” เขากล่าว
“ใต้เท้าโปรดวางใจ ฉันจะส่งกองกำลังหุ่นยนต์ออกไปค้นหาโดยเร็วที่สุด” เทพธิดากงเจิ้งกล่าว
กู่ฉิงซานพยักหน้า ก่อนจะเริ่มกวาดสายตาไปสำรวจบริเวณโดยรอบ
“เทพธิดา มีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นในโลกบ้างไหม?” เขาถาม
“กรุณารอสักครู่” เทพธิดากล่าว
วินาทีนั้น ในทุกๆ ที่บนโลกใบนี้ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่
อุปกรณ์ทั้งหมดที่สามารถเก็บภาพได้ถูกเปิดใช้งานขึ้นอย่างลับๆ จากนั้นพวกมันก็เริ่มทำการสำรวจสถานการณ์โดยรอบ
แม้ว่าจะมีอยู่บ้าง ในบางแห่งที่สามารถจับภาพของอสูรแห่งท้องทะเลที่กำลังก้าวขึ้นมาบนพื้นดินได้ แต่พวกมันก็เป็นเพียงแค่มอนสเตอร์ที่ไม่มีสติปัญญาใดๆ และมนุษย์ก็สั่งสมประสบการณ์มากพอที่จะค่อยๆ หาวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรับมือกับพวกมันแล้ว ดังนั้นนี่จึงไม่นับว่าเป็นเรื่องแปลกอันใด
แม้ว่าผีดิบกินคนจะไม่สามารถล้างบางมันได้อย่างหมดจด แต่มาตรการป้องกันที่สอดคล้องก็ได้รับคำแนะนำไปทั่วทุกพื้นที่ และได้ถูกดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
เหล่ามืออาชีพและเกราะรบขับเคลื่อนประสานงานร่วมกัน เฝ้าระวังจับตาดูสถานการณ์ในทั่วทุกพื้นที่
แม้สังคมมนุษย์โดยรวมจะได้รับความเสียหายอย่างสาหัส แต่พวกเขาก็กำลังจะค่อยๆ ฟื้นฟูมันกลับมาได้อย่างช้าๆ
สรุปแล้วจึงกล่าวได้ว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมหรือเรื่องผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นในโลกนี้
เมื่อบนโลกไม่มี วิสัยทัศน์ของเทพธิดากงเจิ้งจึงเบนมุ่งความสนใจไปยังอวกาศนอกโลก
เธอควบคุมดาวเทียมหลายร้อยดวงเพื่อทำการตรวจสอบสภาพของโลกและดาวเคราะห์ใกล้เคียง
ในห้วงจักรวาลอันมืดมิดและเย็นเฉียบ
เหล่ามอนสเตอร์เอกภพที่น่าสะพรึง กำลังลากร่างกายอันใหญ่โตอย่างหาที่ใดเปรียบไม่ได้ เคลื่อนกายข้ามผ่านระหว่างดวงดาวอย่างช้าๆ
ยังไม่มีมอนสเตอร์ตัวใดค้นพบดาวเคราะห์โลกของมนุษย์
ต่อมา เทพธิดากงเจิ้งก็หันไปใช้ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา และเริ่มสำรวจสภาพอากาศจากทั่วทั้งโลก
บนโลกมนุษย์
เต็มไปด้วยเม็ดฝนเย็นฉ่ำ สภาพอากาศเริ่มหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ อุณหภูมิยอดหญ้าลดต่ำลงอย่างไม่รู้จบ แม่น้ำและลำธารทุกสายเริ่มที่จะถูกแช่แข็ง
แช่แข็งไปทั่วทั้งโลก
พื้นผิวน้ำค่อยๆ แข็งตัวลงอย่างช้าๆ
แต่ทว่านี่คือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ มันมักจะเกิดขึ้นตามปกติ เป็นกฎทั่วๆ ไปที่แปรเปลี่ยนสภาพไปตามภูมิอากาศ ดังนั้นจึงไม่นับว่ามีสถานใดๆ ที่ผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องนี้
เทพธิดากงเจิ้งเฝ้าสังเกตการณ์อยู่อีกสักพัก ก่อนจะถอนตัวจากเครื่องอุตุนิยมวิทยา หลังจากที่ยืนยันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในน่านน้ำต่างๆ
อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีสถานที่ที่เครื่องมือไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้อยู่
นั่นคือบริเวณเบื้องล่างของแม่น้ำแยงซีเกียง ภายในถ้ำที่จมลึกอยู่เบื้องล่าง
ปรากฏร่องรอยของชั้นน้ำแข็งค่อยๆ จับตัวกันเป็นก้อนอย่างช้าๆ
ชั้นน้ำแข็งค่อยๆ จับตัวกันเป็นก้อนนั้นช้ามาก ช้าชนิดที่ว่าแม้กระทั่งปลาที่แหวกว่ายผ่านมันก็ยังมิตอบสนอง…
…
ในทะเลทราย
“ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ ในขณะนี้” เทพธิดากงเจิ้งกล่าวกับกู่ฉิงซาน
แต่ถึงกระนั้นกู่ฉิงซานก็ยังไม่มั่นใจ
‘นี่มันแปลกๆ สรุปแล้วมันเป็นแค่เรื่องบังเอิญจริงๆ น่ะหรือ?’
แต่อะไรแบบนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยในชีวิตก่อนหน้า
ในหัวของเขาเต็มไปด้วยความสับสนและสงสัย
บางทีมันอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญจริงๆ ก็ได้
“เข้าใจแล้ว แต่ถ้ามีสิ่งผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น ต้องแจ้งให้ฉันรู้ทันทีเลยนะ” กู่ฉิงซานกล่าว
นั่นคือทั้งหมดที่เขาจะสามารถทำได้ในตอนนี้
“ไม่ต้องเป็นห่วงใต้เท้า ฉันจะรีบติดต่อคุณก่อนเป็นคนแรกอย่างแน่นอน” เทพธิดากล่าว
“นอกจากนี้ ยังมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นในนอกโลก ที่ฉันต้องแจ้งให้คุณทราบ”
“เรื่องอะไรหรือ?”
“มีเรือรบประจัญบานขนาดเล็กกำลังพยายามที่จะขึ้นไปบนป้อมปราการเฉินเตี้ยนเฮ่า”
“ระบุตัวตนของคนที่อยู่ข้างในได้รึเปล่า?”
“เป็นกลุ่มนายทหารหลายคนของรัฐบาลกลาง”
“แล้วพวกเขาต้องการอะไร”
“ฉันได้ทำการแจ้งเตือนไปแล้ว แต่พวกเขาบอกว่านี่คือขั้นตอนการบำรุงรักษาเครื่องจักร”
กู่ฉิงซานเอ่ยถาม “อ้างอิงจากระเบียบการที่เกี่ยวข้อง ตามปกติแล้ว เฉินเตี้ยนเฮ่าจะถูกซ่อมบำรุงอัตโนมัติโดยหุ่นยนต์ แล้วอีกอย่างโดยทั่วไปแล้วระยะเวลาซ่อมบำรุงมักจะห่างกันหลายปี นี่มันถึงเวลาแล้วหรือ?”
“ช่วงเวลานี้ก็นับว่าเหมาะสม แต่คนที่มาซ่อมบำรุงกลับแตกต่างไปจากทุกครั้ง”
“คราวนี้ นอกเหนือไปจากผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเครื่องจักรอวกาศ ยังมีมืออาชีพที่ทรงพลังติดตามมาด้วยอีกคนหนึ่ง”
เทพธิดากงเจิ้งเผยรายชื่อบุคลากรและรูปถ่ายประจำตัวพร้อมกับขีดเส้นวงกลมบนหนึ่งในรายชื่อเหล่านั้น
“พันเอกจางหยงแห่งกองทัพเรือ เป็นผู้ใช้เทคนิคเทียนซวนขั้นสี่ มีความสามารถในการสร้างมิติอิสระขนาดเล็ก”
พอได้ฟัง คิ้วของกู่ฉิงซานก็ขมวดเข้าหากัน
โดยทั่วไปแล้วผู้ที่มีส่วนร่วมในการบำรุงรักษาเฉินเตี้ยนเฮ่า ทั้งหมดจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเครื่องจักรอวกาศ แต่ทำไมคราวนี้ถึงมีมืออาชีพติดตามมาด้วย?
ผู้คนเหล่านี้ต้องการที่จะทำอะไรกันแน่?
เทพธิดากงเจิ้งกล่าว “ฉันกำลังปฏิเสธการเข้าถึงของพวกเขา ใต้เท้าคุณคิดเห็นอย่างไร?”
กู่ฉิงซานขบคิดและกล่าว “ไม่ล่ะ แบบนั้นมันจะดูน่าสงสัย พวกเราควรที่จะตรวจสอบวัตถุประสงค์ของพวกเขาซะก่อนจะดีกว่า”
“ร้องขอให้ใต้เท้าจัดเตรียมแผนการ”
“อันดับแรก พยายามหาเหตุผลถ่วงเวลาพวกเขาเอาไว้ก่อน และใช้หุ่นยนต์ทั้งหมดเริ่มสร้างระบบภาพจำลองบนเฉินเตี้ยนเฮ่า จากนั้นพวกเราจะมาจับผิดพวกเขากัน”
“รับทราบแล้ว”
“ยิ่งไปกว่านั้น ช่วยส่งฉันไปยังยานอวกาศที่อยู่ใกล้เคียงด้วย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้น ฉันจะได้พร้อมสนับสนุนตลอดเวลา”
“รับทราบแล้ว”
หลังจากนั้นอีกไม่กี่นาที
บนเรือรบประจัญบานขนาดเล็ก
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ไหนว่าเทพธิดากงเจิ้งอนุญาตให้พวกเราขึ้นป้อมปราการแล้วไง?” พันเอกผู้บัญชาการเรือรบถาม
ลูกเรือกล่าว “เทพธิดากงเจิ้งทำการอนุมัติแล้ว แต่ป้อมปราการเฉินเตี้ยนเฮ่ากำลังดำเนินการตรวจสอบตัวเองอย่างเต็มรูปแบบอยู่ คาดว่าน่าจะเสร็จสิ้นในเวลาสามสิบนาที แล้วพวกเราก็สามารถลงจอดได้”
“นี่เป็นเรื่องปกติใช่รึเปล่า?” ผู้บัญชาการเอ่ยถามผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม
“มันเป็นเรื่องปกติ พวกเราเคยรอมายาวนานที่สุดตั้งครึ่งวันแน่ะ” ผู้เชี่ยวชาญกล่าว
“งั้นก็ดี คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นผมจะเชื่อในการวินิจฉัยของคุณ” ผู้บัญชาการพยักหน้า
สามสิบห้านาทีต่อมา
เรือรบประจัญบานขนาดเล็กก็ร่อนลงจอดสู่ป้อมปราการดวงดาวเฉินเตี้ยนเฮ่า
ตามด้วยวิศวกรทั้งสิบสามคนในชุดเครื่องแบบที่กรูกันลงมาในเฉินเตี้ยนเฮ่า
หลังจากที่ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ตั้งแต่เส้นผมยันไปถึงเครื่องมือซ่อมบำรุงแต่ละชิ้น แล้วถูกพิจารณาว่าไม่มีอันตรายใดๆ พวกเขาถึงได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ส่วนกลางของเฉินเตี้ยนเฮ่า
ในส่วนลึกของป้อมปราการ ถูกเฝ้าระวังไว้ด้วยเกราะรบเพลิงนางฟ้าโหมดติดอาวุธ ที่ถูกเปิดใช้งานและเตรียมพร้อมทุกเมื่อ
หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น เหล่าหุ่นรบก็จะมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการเก็บกวาด
ดังนั้นคนเหล่านี้จึงไม่อาจทำอะไรผิดสังเกตได้
พวกเขาตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ แม้กระทั่งพันเอกก็เช่นกัน
ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับเครื่องจักรอวกาศมาอย่างเข้มงวด
กู่ฉิงซานจับจ้องไปที่พันเอกอย่างรอบคอบผ่านจอม่านแสง
“ไหนลองแสดงให้ฉันดูหน่อยซิ ว่าแกต้องการจะทำอะไร” เขาบ่นพึมพำ
ภายใต้สายตาของเขา ชายคนนั้นตั้งใจทำงานอย่างพิถีพิถัน เวลาล่วงเลยไปนานกว่า สี่ชั่วโมงแล้วแต่เขากลับยกมือขึ้นปาดเหงื่อเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
และแน่นอน ว่ากูฉิงซานก็เฝ้าดูอีกฝ่ายเงียบๆ ตลอดทั้งสี่ชั่วโมงไม่ได้จากไปไหน
สี่ชั่วโมงต่อมา ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรอวกาศก็ทำทุกอย่างเสร็จสิ้น และกลับไปยังเรือรบประจัญบานขนาดเล็กเพื่อเตรียมออกเดินทาง
“ตอนเวลาสามชั่วโมง สามสิบเจ็ดนาที ห้าสิบเก้าวินาที ดูเหมือนว่าเขาจะใส่อะไรบางอย่างลงไปไว้ใกล้กับระบบจ่ายไฟขนาดใหญ่” กู่ฉิงซานกล่าว
“กำลังทำการค้นหาภาพที่สอดคล้องกัน” เทพธิดากล่าว
“ดึงภาพออกมาเรียบร้อยแล้ว”
บนจอม่านแสง พันเอกที่พึ่งเสร็จงาน ยกมือขึ้นปากเหงื่อบนคอของเขา
เขากำลังยืนอยู่ถัดออกไปจากบ่อจ่ายพลังงานที่ถูกส่งต่อไปให้เทพธิดากงเจิ้ง
“หยุด” กู่ฉิงซานกล่าว
และภาพบนหน้าจอก็ค้างไป
“ซูมเข้าไปใกล้มือขวาของเขาหน่อยซิ”
ภาพขยายขนาดเข้าไปใกล้ยังมือขวาของชายคนนั้น
พบว่ามันเป็นกล่องสีดำขนาดเท่าเล็บมือถูกกำไว้ในมือของเขา
“เล่นวิดีโอต่อไปอีกหนึ่งวินาที”
ภาพบนหน้าจอเปลี่ยนแปลงไป แต่ทว่าแทบจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“คราวนี้ลองย้อนกลับไปสองวินาที”
และภาพก็บ่งบอกว่าไม่มีอะไรอยู่ในมือของผู้ชายคนนั้น
“น่าสนใจดีนี่” กู่ฉิงซานหัวเราะ
บนเฉินเตี้นเฮ่า ไม่มีสิ่งใดสามารถนำเข้ามาได้
อย่างไรก็ตาม ชายคนนี้คือผู้ใช้เทคนิคเทียนซวนที่สามารถสร้างมิติขนาดเล็กขึ้นได้ และนำวัตถุขนาดเท่าเล็บมือเข้ามา
“มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะตัดสินว่าของชิ้นนั้นคืออะไร หรือกำลังจะถูกส่งไปที่ไหน”
“ฉันก็คิดเหมือนกัน”
“ใต้เท้า แล้วฉันควรจะทำเช่นไรดี?”
“เขาน่าจะสร้างพื้นที่มิติขนาดเล็กไว้แถวๆ บริเวณนั้น และเจ้ากล่องดำที่ว่าก็คงจะอยู่ในมิติที่ว่านั่นแหละ” กู่ฉิงซานกล่าว
........................................