webnovel

จอมมารแห่งเขาหิมะแดง

Penulis: Wennuan
Fantasi
Sedang berlangsung · 4.2K Dilihat
  • 4 Bab
    Konten
  • peringkat
  • NO.200+
    DUKUNG
Ringkasan

ชีวิตพนักงานแสนธรรมดาของ ‘หงส์’ ต้องเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เมื่ออยู่ๆก็หลุดเข้ามาอยู่ในยุคจีนโบราณที่ระบุช่วงเวลาไม่ได้ เผชิญกับวิบากกรรมต่างๆนานาในบทบาทของ 'จางหงเหยียน' ผู้หญิงปริศนาที่สิ้นลมหายใจต่อหน้าต่อตาก่อนหงส์จะกลายเป็นเธอคนนั้นแทน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนต่างกล่าวขานว่าเธอคือ 'มารโลหิตแห่งเขาหิมะแดง' ผู้กระหายทำลายล้างยุทธภพเสียอีก!

Chapter 1ตอนที่ 1 : ปฐมบท

เกล็ดหิมะเย็นเยียบกระหน่ำหนักจากผืนฟ้าสีเทาสู่พื้นดินจนขาวโพลนไปทั่วทุกพื้นที่ บดบังทัศนียภาพเบื้องหน้าแทบหมดสิ้น แม้อยู่ห่างไปเพียง 3 ก้าวก็ไม่อาจมองเห็นได้ ถึงอย่างนั้น ต้นพลัมสีแดงฉานที่ทอดยาวเรียงรายไปสุดสายตาคาดคะเนเบื้องหลังม่านหิมะโปรยก็โดดเด่นดึงดูดสายตาให้จับจ้อง

ทว่าแม้ความงดงามสะดุดสายตาเพียงไหนกลับไม่มากเท่าความงุนงงราวกับถูกค้อนทุบศีรษะเข้าให้ เมื่ออยู่ๆตัวเธอที่นั่งบนโซฟาตัวใหญ่ในห้องนั่งเล่นสีเอิร์ทโทน ใช้เวลาหลังเลิกงานไปกับการเล่นเกมส์บนแท็บเลต กลับมาโผล่ท่ามกลางทุ่งหิมะกระหน่ำหนักเพียงแค่หยิบโชจูรสนมเปรี้ยวขึ้นมาดื่มเท่านั้น

ฝ่าเท้าเปล่าเหยียบพื้นหิมะหนาเย็นเฉียบมุ่งไปข้างหน้าโดยเร็วตามแนวเรียงรายของต้นพลัมแดง ที่จริงเธอไม่มีจุดหมายในใจ ต้องการแค่ที่กำบังพายุหิมะแสนหนักหน่วงเท่านั้น การเดินไปข้างหน้าย่อมดีกว่ายืนอยู่เฉย แต่แล้วก็เหลือบเห็นร่างหนึ่งสวมชุดสีแดงเช่นสีของดอกพลัมนอนคว่ำฟุบพื้นหิมะ เธอรีบเข้าไปดูทันที

"คุณ! เป็นอะไรหรือเปล่า คุณคะ"

หงส์ย่อตัวลงเขย่าบ่าของคนบาดเจ็บ พบว่านอกจากเสื้อผ้าสีแดงแล้ว บนพื้นยังอาบด้วยโลหิตสีเข้มกระจายเป็นวงกว้างอีกต่างหาก เธอตกใจกว่าเดิม มือล้วงกระเป๋ากางเกงชุดนอนลายหมีควานหาโทรศัพท์มือถือ ตั้งใจจะเรียกกู้ภัย กลับได้เพียงอากาศเท่านั้น

"อะไรวะเนี่ย! ปกติมันอยู่ตรงนี้นี่นา คุณ! ทำใจดีๆไว้นะ"

เธอร้องเรียกพลางเขย่าตัวคนบาดเจ็บให้มีสติไว้ สมองก็คิดหนักหาทางช่วยเหลือ แต่อยู่ๆ มืออันเย็นเฉียบของคนบาดเจ็บก็จับข้อมือเธอไว้ทันที

'หมับ'

"! คุณ! ตั้งสติไว้นะ"

หงส์บอกกับคนบาดเจ็บ ยิ่งใจหายเมื่อเห็นเลือดสีสดรินไหลจากมุมริมฝีปากของผู้หญิงตรงหน้าไม่หยุด จนไม่รู้ว่าริมฝีปากสีแดงฉานนั้นเป็นสีลิปสติกหรือสีโลหิตกันแน่ อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าตอบ ใช้ดวงตาสีอำพันจับจ้องเธอนิ่งเงียบ หงส์รู้สึกใจหายแปลกๆ สังหรณ์ไม่ดีสักอย่างขึ้นมา 

"...หง..."

น้ำเสียงอ่อนแรงเอ่ยเรียก ทำเจ้าของชื่อเบิกตาโตยิ่งกว่าไข่ห่าน

"คุณรู้จักชื่อของฉันได้ไง ที่นี่ที่ไหน ใครทำร้ายคุณ ฉันงงไปหมดแล้ว"

เธอรัวคำถามใส่คนบาดเจ็บอย่างกับสติแตกเสียเอง คู่สนทนากลับส่ายหน้าตอบและบีบแขนเธอแน่นกว่าเดิม

"...หง...เหยียน...เจ้า...คือหงเหยียน...คนต่อไป..."

"หา?!"

หญิงชุดแดงกล่าวจบก็สิ้นลมหายใจทิ้งร่างแน่นิ่งไป หงส์ถึงกับตะลึงค้าง ตั้งสติไม่ถูก ตั้งแต่เกิดมาจนเลยเบญจเพสมา 2 ปี ไม่เคยเห็นคนสิ้นลมต่อหน้าสักครั้ง แถมยังพูดจาแปลกๆอีก ทว่ายังไม่ทันเรียบเรียงสติไปต่อ ร่างกายของผู้หญิงตรงหน้าก็เปล่งแสงสว่างจ้าจนหงส์ต้องยกมือบังหน้าไว้ เพียงครู่ก็แตกสลายกลายเป็นเกล็ดละอองหิมะประกายระยิบระยับงดงาม

'อะไรกันเนี่ย...'

หงส์อุทานในใจกับความอัศจรรย์เบื้องหน้า แต่แล้ว เกล็ดละอองเหล่านั้นก็พุ่งเข้าปะทะกับร่างกายเธอเข้าอย่างจัง

"!!"

ความรู้สึกมึนงงยิ่งกว่าดื่มโชจูไปห้าขวดถาโถมเข้าใส่จนไม่อาจประคองน้ำหนักตัวอยู่ได้ หญิงสาวหงายแผ่นหลังร่วงลงกระแทกพื้นหิมะเย็นเฉียบ สติสุดท้ายที่จำได้คือกลีบดอกพลัมสีแดงสดร่วงหล่นกระทบเปลือกตา และคำพูดของตัวเอง

"อะไรวะเนี่ย..." 

----------------------------------------

5 ชั่วโมงก่อน ใจกลางมหานคร

'ครึน'

สิ้นเสียงฟ้าร้อง สายฝนก็กระหน่ำหนักไม่ลืมหูลืมตาชนิดที่ยืนอยู่ใต้หลังคาสถานีรถไฟฟ้ายังเปียกไปทั้งตัว หงส์ยืนห่อไหล่หลบอยู่ข้างป้ายโฆษณา นึกโมโหที่วันนี้โชคไม่เข้าข้างซะเลย เธอกวาดตามองเพื่อนร่วมชะตากรรมโดยรอบเพื่อปลอบใจตัวเอง อย่างน้อยๆไม่ใช่เธอคนเดียวที่เคราะห์หนัก แต่นี่คือวิบากกรรมของคนเมืองกรุงที่ต้องเผชิญในหน้าฝน โดยเฉพาะช่วงหลังเลิกงาน โบราณว่าไว้ อยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝน ให้กลัวน้ำท่วมแล้วไม่มีรถกลับบ้านแทน 

'น่าเบื่อ อยากย้อนยุคไปจีนโบราณจะได้ใช้วิชาตัวเบา'

หงส์บ่นในใจ คิดอยู่ครู่จึงหยิบมือถือขึ้นมา ตั้งใจจะถ่ายรูปหลังคาสถานีน้ำรั่ว ไหลแรงยิ่งกว่าน้ำตกไนแองการ่าไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย เดี๋ยวซ่อมแล้วจะไม่มีโอกาสได้เห็นอีก แต่แล้วข้อความในไลน์กลับเด้งขัดจังหวะซะก่อน

'ส่งเมล์ด่วนไปแล้ว ขอข้อมูลภายในสองทุ่มนะคะ'

"ด่วนทุกอย่าง จะเอานั้นนี่โน่น นอกเวลางานก็ตามจิกตามทวงตลอด ทีเวลางานล่ะมัวไลฟ์สดขายของ สร้างภาพขยันมากไปมั้ง"

ปากบ่นหงุดหงิดขัดใจ นิ้วกลับพิมพ์ตอบข้อความน่ารักน่าชัง

'ได้ค่ะ เดี๋ยวรีบทำให้เลยค่ะ'

ชีวิตพนักงานบริษัทธรรมดาเป็นห่วงโซ่อาหารระดับล่างก็แบบนี้ เป็นฝ่ายรับตลอดไป มีรางวัลปลอบใจเป็นเงินเดือน อย่าได้ตอบทัศนคติที่แท้จริงออกไปเชียว มีแต่ตายกับตายเท่านั้น ถึงสองหน้าไปหน่อยแต่เอาตัวรอดและหาที่ยืนย่อมสำคัญกว่า เธอคิดเรื่อยเปื่อยขณะก้าวเข้ารถไฟฟ้า ใจภาวนาให้วันอันแสนน่าเบื่อผ่านพ้นไปซะที

----------------------------------

'แกเชื่อมั้ย ขนาดฉันบอกว่าตากฝนอยู่บนมอเตอร์ไซค์ นางยังทวงๆจะเอางานด่วนไม่เกินสองทุ่ม กะเอารางวัลหน้าใหญ่ดีเด่นเลยมั้ง!'

เสียงของเพื่อนร่วมงานหนุ่มดังลั่นสปีกเกอร์โฟนมือถือทำหงส์หัวเราะในคอ เธอยกขวดโชจูรสนมเปรี้ยวขึ้นดื่มก่อนตอบ

"มิน่าล่ะถึงส่งเมล์มาหาฉัน แกไม่ทำนี่เอง"

'งี้แหละ สมน้ำหน้า แกอยากทำตัวเป็นลูกรักก็แบกรับไป ฉันไม่ไหวจะเคลียร์กับนางหรอก ในสัญญาจ้างระบุทำงาน 9 ชั่วโมง ไม่ใช่ 24 ชั่วโมง เวลาทำงานไม่ยอมทวง มาทวงเอาหลังเลิกงาน ปลอมค่ะแบบนี้ ขยันปลอม' 

"เอาน่า ฉันรับเคราะห์แทนแกแล้วนี้ไง เลิกบ่นได้แล้ว พรุ่งนี้เลี้ยงชาบูด้วย อยากกิน"

'ได้ๆ เดี๋ยวเลี้ยงเอง อ้อ! แกอย่าลืมเติมวีไอพีเน็ตฟลิกด้วย ซีรี่ส์กำลังมันส์ พระเอกของฉันกำลังจะแก้ผ้าถ่ายทอดกำลังภายในให้นางเอกแล้ว ชีวิตการทำงานอันโหดร้ายของฉันมีซิกแพ็คพระเอกปลอบใจแค่นั้นแหละ'

"เว่อร์ตลอด ใช้ล็อกอินคนอื่นยังจะทวงให้เขาเติมเงินอีก"

'ไม่ทวงแกก็ไม่เติม ว๊าย! สามทุ่มกว่าแล้ว พระเอกของฉันมาแล้ว แค่นี้ก่อนนะ แกเองก็เหอะอย่าสตีมเกมส์ทั้งคืน บางทีตีหนึ่งฉันตื่นขึ้นมาปิ๊งป่องยังเห็นแกออนอยู่เลยนังหงส์ ติดเกมส์กำลังภายใน เดี๋ยวก็หลอนเหาะลงมาจากดาดฟ้าออฟฟิศหรอก'

"พูดมากเดี๋ยวไม่เติมเน็ตฟลิกเลยนะ"

'อย่านะ โกรธจริงๆด้วย นางมารร้าย!' 

กว่าจะวางสายจากเพื่อนร่วมงานได้ก็ทำเอาแบตเกือบหมด หงส์ส่ายหน้าหัวเราะน้อยๆ เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเธอหรือเพื่อนร่วมงานกันแน่ที่เมา ว่าแล้วหญิงสาวก็ลุกไปหยิบที่ชาร์จแบตมาเสียบโดยเร็ว แต่เมื่อเดินผ่านกระจกเงาของตู้โชว์ พบเงาสะท้อนผู้หญิงคนหนึ่ง สวมชุดนอนลายหมีขาวขั้วโลก สูงตามมาตรฐานผู้หญิงทั่วไป รูปร่างใกล้ได้เข้าโรงเชือดไว้ทำเสต็กเนื้อนุ่มเข้าไปทุกที หน้าตาไม่โดดเด่นอะไร ทุกอย่างธรรมดาไปหมด เลยต้องใช้ชีวิตธรรมดา แถมยังต้องเผชิญด่านเคราะห์ในทุกๆวันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เธอแอบหวังว่าสักวันชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง หรือมีอะไรให้ตื่นเต้นซะหน่อยนอกจากวันเงินเดือนกับวันโบนัสออก รู้สึกเหมือนชีวิตใกล้เฉาจะแย่

หงส์คิดเรื่อยเปื่อยขณะหยิบแท็บเลตเครื่องโปรดมาตั้งตรงหน้า หยิบขวดโซจูดื่มอีกสัก 2-3 อึก แล้วจึงเข้าเกมส์ออนไลน์แนวต่อสู้กำลังภายในที่กำลังติดงอมแงม ช่วงนี้คือช่วงเจ้าสำนักในเกมส์เรียกรวมพลเข้าตีดันเจี้ยน เธอเลยต้องทำตัวให้คึกซะหน่อยเผื่อนิ้วจะเร็วมากพอทำแต้ม 

'ยอดฝีมือ สวอน'

เธอมองชื่อสมาชิกสำนักที่พุ่งขึ้นมาเป็น Top 5 ด้วยแรงค์สูงเกินสิบล้านอย่างภาคภูมิใจ ถึงชีวิตจริงจะธรรมดาแบบสุดๆ แต่ในเกมส์เธอคือยอดฝีมือที่ขึ้นแรงค์เร็วกว่าคนอื่นในเซิร์ฟ หงส์ภูมิใจถึงขั้นอยากเปลี่ยนอาชีพเป็นนักกีฬา E-sports ด้วยซ้ำ 

"หืม?"

ขณะที่เธอกำลังเลือกอาวุธเข้าเตรียมดันเจี้ยน สัญลักษณ์แจ้งเตือนข้อความในช่องเพื่อนก็เด้งขึ้นมาซะก่อน เมื่อกดเข้าไปดูก็ต้องขมวดคิ้วมุ่นเพราะเธอไม่ได้เพิ่มอีกฝ่ายเป็นเพื่อนมาก่อน 

"จางหงเหยียน ชื่อจี๊นจีน ใครอะ"

หงส์กดเข้าไปดูหน้าประวัติก็ต้องเลิกคิ้วสูงแปลกใจกับแรงค์ทะลุร้อยล้าน กับประวัติอันเลิศเลอที่ดูยังไงก็ขิงใส่ชัดๆ

"เจ้าสำนักหอหิมะแดง ฉายาจอมมารโลหิต แข่งไม่เคยแพ้สักครั้ง อัพอาวุธขั้นวิเศษ วีไอพีศูนย์ ไม่เติมเงินเล่นด้วย เก่งขนาดนี้มาแอดคนไม่เก่งทำไม จะขิงเหรอ?"

เรื่องอะไรจะเป็นเพื่อนกับคนเก่งให้ดูด้อยกว่า หงส์คิดในใจจึงเลื่อนนิ้วจะกดลบเพื่อน แต่ข้อความกลับเด้งขึ้นมาซะก่อน

'ข้าเห็นฝีมือของเจ้า อยากชวนเข้าร่วมสำนัก อย่ารอช้า มีเหรียญทอง 1 พันเหรียญเป็นอั่งเปาแรกเข้า'

ข้อความน่าสนใจ แถมยังได้เหรียญทองเกมส์ตั้งพันเหรียญ หงส์ชั่งใจอยู่ครู่ก็เห็นแก่เหรียญทองในเกมส์ กดเข้าร่วมสำนัก ไว้ไม่ถูกใจค่อยย้ายสำนักใหม่ก็ได้

'วิ้ว...~'

"หืม?...!! หนาวจัง"

เพียงแค่กดปุ่มเข้าร่วมสำนัก หน้าจอมือถือก็สว่างวาบ เกิดเสียงสายลมพัดแรงสะท้อนออกมาพร้อมกับความหนาวยะเยือกยิ่งกว่าอุณหภูมิติดลบ หงส์ก้มลงมองรีโมตแอร์ ตั้งใจจะปรับอุณหภูมิ เธอกลับถูกลมวูบหนึ่งกระแทกหน้า พลันภาพทุกอย่างเลือนหายไปทันใด

Anda Mungkin Juga Menyukai

จอมทัพตื๊อรัก(2 เล่มจบ)

“ข้าจะขอยกเลิกการเป็นคู่หมายของท่าน ท่านว่าดีหรือไม่” ถ้อยคำที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มทำให้แม่ทัพหนุ่มชะงัก รอยยิ้มหายไปทันที ใบหน้าหล่อเหลาเครียดขึงและเย็นชาขึ้นจนดูน่ากลัว ดวงตาคมทรงเสน่ห์จ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มเขม็งและดุดันยิ่ง น้ำเสียงหนักแน่นและสีหน้าจริงจังจากเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน อีกทั้งแววตารักใคร่เทิดทูนที่มีให้ บัดนี้กลับไม่มีให้เห็นแม้สักเสี้ยว ส่วนสิ่งที่สัมผัสได้จากดวงตากลมโตกลับมีเพียงความมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว และว่างเปล่าไร้ระลอกคลื่นแห่งเสน่หา เห็นแล้วชวนให้หงุดหงิดอารมณ์เสียยิ่งนัก ‘มารดาเจ้าเถิด!’ แม่ทัพหนุ่มสบถในใจ แรงโทสะทำให้เขาเผลอปล่อยจิตสังหารออกมา ทำเอาหญิงสาวรู้สึกหนาวเยือกไปถึงกระดูก ความกล้าที่พกมาเต็มเปี่ยมลดฮวบจนแทบไม่เหลือ

SARABIYA_1501 · Fantasi
Peringkat tidak cukup
107 Chs

ท่วงทำนองในสายฝน (Melody in the rain)

สำหรับ “ท้องฟ้า” สายฝนคืออ้อมกอดอันอบอุ่น ตั้งแต่เล็กจนโตเธอมักหนีออกไปเล่นน้ำฝนอยู่บ่อย ๆ ทุกครั้งที่ฝนตก ท้องฟ้าจะรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย ราวกับว่า “ใครบางคน” กำลังโอบกอด ปลอบประโลม และช่วยชะล้างความไม่สบายใจทั้งมวลให้หมดสิ้นไป โดยเฉพาะความเศร้าจากฝันร้ายที่หลอกหลอนเธอมาตั้งแต่เด็ก ภาพหญิงสาวในชุดสีแดงสดเปื้อนเลือดยังติดตาเธออยู่เสมอ ท่ามกลางสายฝนในคืนพระจันทร์เต็มดวง เลือดสาดกระจายไปทุกทิศ แต่หญิงสาวในชุดสีแดงก็ยังคงร่ายรำอยู่ท่ามกลางหยาดเลือดอย่างไม่รู้จักจบสิ้น “ระบำสีเลือด” คือคำที่เธอใช้เรียกความฝันนั้น ความรักที่มีให้ต่อสายฝนและความหวั่นกลัวจากฝันร้ายนี้ผูกพันกับเธอมาตลอดตั้งแต่เด็กจนกระทั่งเติบใหญ่ เป็นความผูกพันที่เธอเองก็ไม่อาจหาคำอธิบายได้ กระทั่งวันหนึ่งสายฝนที่เธอรักก็ไม่ได้มาพร้อมกับเสียงสายฟ้าที่คุ้นชิน แต่กลับมีเสียงบรรเลงลอยคลอมาด้วย ท่วงทำนองประหลาดหากแต่ให้ความรู้สึกแสนคุ้นเคย ท้องฟ้าไม่รู้เลยว่านับตั้งแต่วินาทีนั้นชีวิตของเธอจะไม่อาจเหมือนเดิมได้อีก

Aksorn · Fantasi
Peringkat tidak cukup
8 Chs

เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH] (รีอัพ+ย้ายนามปากกา)

เครื่องบรรณาการของเทพงู 蛇神之致敬 เล่ม 1 [ Tribute of the Serpent ] [เวอร์ชันภาษาไทย] โปรย : 简介 ในวสันตฤดูเดือนยี่ เวียนครบรอบในทุกสิบสองปี เป็นปีที่มนุษย์จะเข้าใกล้โลกของเหล่าทวยเทพมากที่สุด เจ้าสาวของท่านเทพหลงเหนียนได้รับการคัดเลือกแล้วในปีนี้ อาเป้ย ไม่เห็นด้วยกับการส่งเครื่องสังเวยแด่เทพ นางไม่เคยยินยอม! นางเพิ่งอายุสิบแปดปีไม่กี่วันมานี้โดยที่นางไม่เคยได้มีชีวิตเป็นของตนเองเลย นางไม่เคยได้ปิ่นปักผมเยี่ยงสตรี นาน ๆ ครั้งนานนางจะได้กินอาหารดี ๆ แล้วนี่มันเรื่องอะไร! ท่านเจ้าเมืองผู้สูงศักดิ์ผู้ปกครองแคว้นทั้งสิบหกแคว้น ทั้งที่ปกติจะมีธุระยุ่งวุ่นวายตลอดเวลา ยังอุตส่าห์มาส่งนางด้วยตนเอง พร้อมทั้งทหารองครักษ์ผู้เป็นจอมยุทธฝีมือเก่งฉกาจหกนาย ถืออาวุธครบมือเพื่อมาคุ้มครองนางไปส่งให้ถึงมือท่านเทพ "ไปเถิด บัดนี้ก็ถึงเวลาของเจ้าแล้ว เจ้าจะได้ไปอยู่กับเหล่าทวยเทพ เพื่อเป็นเกียรติยศแก่บ้านเมืองและบิดามารดาของเจ้า การที่เจ้าเป็นสตรีจิตใจกล้าหาญยอมเป็นผู้เสียสละในวันนี้ ขอให้เจ้าจงภูมิใจ ข้าเองก็จะไม่ลืมเจ้าเช่นกัน... อาเป้ย" "ท่านคงไม่ลืมข้าแน่ล่ะใต้เท้า ข้าทราบดีว่าเส้นทางนี้มิใช่ไปเป็นเจ้าสาวของทวยเทพแต่อย่างใด ข้ากำลังจะไปเป็นอาหารงูต่างหาก" --------------------------- เรื่องราวการเสียสละของเครื่องบรรณาการ ผู้กลายมาเป็นสมบัติเทพปีศาจในเทวโลก --------------------------- "ดู ๆ ไปแล้ว... เจ้าในยามป่วยไข้ช่างงดงามนัก ยิ่งเสียกว่าพัดสีทอง น้ำเต้าวิเศษ กระจกหยินหยาง ข้าว่ามีสิ่งของหลายอย่างที่ข้าโปรดปราน ข้ามีของหายากอีกหลายชิ้น การที่เจ้าผ่ายผอมไปสักหน่อย ไม่ใช่ปัญหา..." เสียงของบุรุษเทพดังก้องในห้องสี่เหลี่ยม ประตูหน้าต่างเปิดกว้างให้ลมพัดผ่าน งูสีนิลสนิทเลื้อยคลานมากระซิบอยู่ข้างหูของนาง "...อย่างไรเสีย ข้าขอให้เจ้าเข้าใจว่าข้าไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการที่เจ้าเป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง หาใช่สตรีของข้าแต่อย่างใด" แล้วเหตุใดท่านต้องเอาอกเอาใจนาง ขนาดใต้เท้าจีกงและนางฟางเหนียงเอ่ยปากตำหนิว่าบุรุษไม่ควรอยู่ในห้องนอนตามลำพังกับสตรีซึ่งมิใช่ภริยาของตน และอาเป้ยมิใช่สมบัติธรรมดา นางมีใบหน้าอันงดงามมากพอจะทำให้ท่านกลายเป็นข่าวฉาวในเทวโลกได้ เทพอู่เฉินก็หาได้ฟังผู้ใหญ่ จำแลงกายเป็นอสรพิษ เปิดประตูหน้าต่างทุกบานอย่างเปิดเผย คอยเฝ้านางอย่างไม่ให้คลาดสายตา จะมีเพียงเวลาที่สตรีทั้งสองเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางเท่านั้น เทพอู่เฉินถึงออกไปยืนรอด้านนอกในร่างบุรุษ อาเป้ยคิดถึงบุรุษเทพปีศาจยามนี้ นางคิดว่าสมองของท่านน่าจะไม่ปรกติ "ข้าว่าข้าคงจะเป็นสมบัติที่ท่านโปรดปรานมากที่สุด มากกว่าชิ้นใด ท่านจึงหวงแหนข้าถึงเพียงนี้ ไม่เช่นนั้นข้าคงเข้าใจผิดไปว่าท่านเป็นบุรุษเทพประหลาด การกระทำของท่านจึงมักขัดแย้งกันเองอยู่เสมอ" "เจ้าควรพักผ่อนให้มากกว่าพูดจาหยอกล้อกับข้า อาเป้ย ข้าไม่ใช่มิตรสหายของเจ้า" นางกำลังยิ้ม! หัวเราะเทพอู่เฉินด้วยเสียงแหบแห้งของนางอย่างไม่มีผู้ใดหาญกล้ากระทำมันมาก่อน ดวงตาเรียวรีของนางราวจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ จิ้งจอกไม่ว่าจะตระกูลไหน ล้วนมีนิสัยเช่นนางในเวลานี้ นางช่างทำตัวขวางหูขวางตา ทว่านำพาความรู้สึกชุ่มชื้นหัวใจอย่างน่าประหลาด เทพอู่เฉินนึกขัดหูขัดตานางนัก ทว่ายังคงจ้องมองดวงตากลมโต สดใสราวดอกไม้ผลิบานในสวนของทวยเทพ ในร่างอสรพิษ ชูคอตระหง่านอยู่ตรงหน้านาง "ใช่แล้วล่ะ... เป็นบุญของข้ายิ่งนัก ได้เป็นสมบัติอันโปรดปรานของท่าน... เทพอู่เฉิน"

ManGu_Author · Fantasi
Peringkat tidak cukup
45 Chs