ชีวิตพนักงานแสนธรรมดาของ ‘หงส์’ ต้องเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เมื่ออยู่ๆก็หลุดเข้ามาอยู่ในยุคจีนโบราณที่ระบุช่วงเวลาไม่ได้ เผชิญกับวิบากกรรมต่างๆนานาในบทบาทของ 'จางหงเหยียน' ผู้หญิงปริศนาที่สิ้นลมหายใจต่อหน้าต่อตาก่อนหงส์จะกลายเป็นเธอคนนั้นแทน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนต่างกล่าวขานว่าเธอคือ 'มารโลหิตแห่งเขาหิมะแดง' ผู้กระหายทำลายล้างยุทธภพเสียอีก!
เกล็ดหิมะเย็นเยียบกระหน่ำหนักจากผืนฟ้าสีเทาสู่พื้นดินจนขาวโพลนไปทั่วทุกพื้นที่ บดบังทัศนียภาพเบื้องหน้าแทบหมดสิ้น แม้อยู่ห่างไปเพียง 3 ก้าวก็ไม่อาจมองเห็นได้ ถึงอย่างนั้น ต้นพลัมสีแดงฉานที่ทอดยาวเรียงรายไปสุดสายตาคาดคะเนเบื้องหลังม่านหิมะโปรยก็โดดเด่นดึงดูดสายตาให้จับจ้อง
ทว่าแม้ความงดงามสะดุดสายตาเพียงไหนกลับไม่มากเท่าความงุนงงราวกับถูกค้อนทุบศีรษะเข้าให้ เมื่ออยู่ๆตัวเธอที่นั่งบนโซฟาตัวใหญ่ในห้องนั่งเล่นสีเอิร์ทโทน ใช้เวลาหลังเลิกงานไปกับการเล่นเกมส์บนแท็บเลต กลับมาโผล่ท่ามกลางทุ่งหิมะกระหน่ำหนักเพียงแค่หยิบโชจูรสนมเปรี้ยวขึ้นมาดื่มเท่านั้น
ฝ่าเท้าเปล่าเหยียบพื้นหิมะหนาเย็นเฉียบมุ่งไปข้างหน้าโดยเร็วตามแนวเรียงรายของต้นพลัมแดง ที่จริงเธอไม่มีจุดหมายในใจ ต้องการแค่ที่กำบังพายุหิมะแสนหนักหน่วงเท่านั้น การเดินไปข้างหน้าย่อมดีกว่ายืนอยู่เฉย แต่แล้วก็เหลือบเห็นร่างหนึ่งสวมชุดสีแดงเช่นสีของดอกพลัมนอนคว่ำฟุบพื้นหิมะ เธอรีบเข้าไปดูทันที
"คุณ! เป็นอะไรหรือเปล่า คุณคะ"
หงส์ย่อตัวลงเขย่าบ่าของคนบาดเจ็บ พบว่านอกจากเสื้อผ้าสีแดงแล้ว บนพื้นยังอาบด้วยโลหิตสีเข้มกระจายเป็นวงกว้างอีกต่างหาก เธอตกใจกว่าเดิม มือล้วงกระเป๋ากางเกงชุดนอนลายหมีควานหาโทรศัพท์มือถือ ตั้งใจจะเรียกกู้ภัย กลับได้เพียงอากาศเท่านั้น
"อะไรวะเนี่ย! ปกติมันอยู่ตรงนี้นี่นา คุณ! ทำใจดีๆไว้นะ"
เธอร้องเรียกพลางเขย่าตัวคนบาดเจ็บให้มีสติไว้ สมองก็คิดหนักหาทางช่วยเหลือ แต่อยู่ๆ มืออันเย็นเฉียบของคนบาดเจ็บก็จับข้อมือเธอไว้ทันที
'หมับ'
"! คุณ! ตั้งสติไว้นะ"
หงส์บอกกับคนบาดเจ็บ ยิ่งใจหายเมื่อเห็นเลือดสีสดรินไหลจากมุมริมฝีปากของผู้หญิงตรงหน้าไม่หยุด จนไม่รู้ว่าริมฝีปากสีแดงฉานนั้นเป็นสีลิปสติกหรือสีโลหิตกันแน่ อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าตอบ ใช้ดวงตาสีอำพันจับจ้องเธอนิ่งเงียบ หงส์รู้สึกใจหายแปลกๆ สังหรณ์ไม่ดีสักอย่างขึ้นมา
"...หง..."
น้ำเสียงอ่อนแรงเอ่ยเรียก ทำเจ้าของชื่อเบิกตาโตยิ่งกว่าไข่ห่าน
"คุณรู้จักชื่อของฉันได้ไง ที่นี่ที่ไหน ใครทำร้ายคุณ ฉันงงไปหมดแล้ว"
เธอรัวคำถามใส่คนบาดเจ็บอย่างกับสติแตกเสียเอง คู่สนทนากลับส่ายหน้าตอบและบีบแขนเธอแน่นกว่าเดิม
"...หง...เหยียน...เจ้า...คือหงเหยียน...คนต่อไป..."
"หา?!"
หญิงชุดแดงกล่าวจบก็สิ้นลมหายใจทิ้งร่างแน่นิ่งไป หงส์ถึงกับตะลึงค้าง ตั้งสติไม่ถูก ตั้งแต่เกิดมาจนเลยเบญจเพสมา 2 ปี ไม่เคยเห็นคนสิ้นลมต่อหน้าสักครั้ง แถมยังพูดจาแปลกๆอีก ทว่ายังไม่ทันเรียบเรียงสติไปต่อ ร่างกายของผู้หญิงตรงหน้าก็เปล่งแสงสว่างจ้าจนหงส์ต้องยกมือบังหน้าไว้ เพียงครู่ก็แตกสลายกลายเป็นเกล็ดละอองหิมะประกายระยิบระยับงดงาม
'อะไรกันเนี่ย...'
หงส์อุทานในใจกับความอัศจรรย์เบื้องหน้า แต่แล้ว เกล็ดละอองเหล่านั้นก็พุ่งเข้าปะทะกับร่างกายเธอเข้าอย่างจัง
"!!"
ความรู้สึกมึนงงยิ่งกว่าดื่มโชจูไปห้าขวดถาโถมเข้าใส่จนไม่อาจประคองน้ำหนักตัวอยู่ได้ หญิงสาวหงายแผ่นหลังร่วงลงกระแทกพื้นหิมะเย็นเฉียบ สติสุดท้ายที่จำได้คือกลีบดอกพลัมสีแดงสดร่วงหล่นกระทบเปลือกตา และคำพูดของตัวเอง
"อะไรวะเนี่ย..."
----------------------------------------
5 ชั่วโมงก่อน ใจกลางมหานคร
'ครึน'
สิ้นเสียงฟ้าร้อง สายฝนก็กระหน่ำหนักไม่ลืมหูลืมตาชนิดที่ยืนอยู่ใต้หลังคาสถานีรถไฟฟ้ายังเปียกไปทั้งตัว หงส์ยืนห่อไหล่หลบอยู่ข้างป้ายโฆษณา นึกโมโหที่วันนี้โชคไม่เข้าข้างซะเลย เธอกวาดตามองเพื่อนร่วมชะตากรรมโดยรอบเพื่อปลอบใจตัวเอง อย่างน้อยๆไม่ใช่เธอคนเดียวที่เคราะห์หนัก แต่นี่คือวิบากกรรมของคนเมืองกรุงที่ต้องเผชิญในหน้าฝน โดยเฉพาะช่วงหลังเลิกงาน โบราณว่าไว้ อยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝน ให้กลัวน้ำท่วมแล้วไม่มีรถกลับบ้านแทน
'น่าเบื่อ อยากย้อนยุคไปจีนโบราณจะได้ใช้วิชาตัวเบา'
หงส์บ่นในใจ คิดอยู่ครู่จึงหยิบมือถือขึ้นมา ตั้งใจจะถ่ายรูปหลังคาสถานีน้ำรั่ว ไหลแรงยิ่งกว่าน้ำตกไนแองการ่าไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย เดี๋ยวซ่อมแล้วจะไม่มีโอกาสได้เห็นอีก แต่แล้วข้อความในไลน์กลับเด้งขัดจังหวะซะก่อน
'ส่งเมล์ด่วนไปแล้ว ขอข้อมูลภายในสองทุ่มนะคะ'
"ด่วนทุกอย่าง จะเอานั้นนี่โน่น นอกเวลางานก็ตามจิกตามทวงตลอด ทีเวลางานล่ะมัวไลฟ์สดขายของ สร้างภาพขยันมากไปมั้ง"
ปากบ่นหงุดหงิดขัดใจ นิ้วกลับพิมพ์ตอบข้อความน่ารักน่าชัง
'ได้ค่ะ เดี๋ยวรีบทำให้เลยค่ะ'
ชีวิตพนักงานบริษัทธรรมดาเป็นห่วงโซ่อาหารระดับล่างก็แบบนี้ เป็นฝ่ายรับตลอดไป มีรางวัลปลอบใจเป็นเงินเดือน อย่าได้ตอบทัศนคติที่แท้จริงออกไปเชียว มีแต่ตายกับตายเท่านั้น ถึงสองหน้าไปหน่อยแต่เอาตัวรอดและหาที่ยืนย่อมสำคัญกว่า เธอคิดเรื่อยเปื่อยขณะก้าวเข้ารถไฟฟ้า ใจภาวนาให้วันอันแสนน่าเบื่อผ่านพ้นไปซะที
----------------------------------
'แกเชื่อมั้ย ขนาดฉันบอกว่าตากฝนอยู่บนมอเตอร์ไซค์ นางยังทวงๆจะเอางานด่วนไม่เกินสองทุ่ม กะเอารางวัลหน้าใหญ่ดีเด่นเลยมั้ง!'
เสียงของเพื่อนร่วมงานหนุ่มดังลั่นสปีกเกอร์โฟนมือถือทำหงส์หัวเราะในคอ เธอยกขวดโชจูรสนมเปรี้ยวขึ้นดื่มก่อนตอบ
"มิน่าล่ะถึงส่งเมล์มาหาฉัน แกไม่ทำนี่เอง"
'งี้แหละ สมน้ำหน้า แกอยากทำตัวเป็นลูกรักก็แบกรับไป ฉันไม่ไหวจะเคลียร์กับนางหรอก ในสัญญาจ้างระบุทำงาน 9 ชั่วโมง ไม่ใช่ 24 ชั่วโมง เวลาทำงานไม่ยอมทวง มาทวงเอาหลังเลิกงาน ปลอมค่ะแบบนี้ ขยันปลอม'
"เอาน่า ฉันรับเคราะห์แทนแกแล้วนี้ไง เลิกบ่นได้แล้ว พรุ่งนี้เลี้ยงชาบูด้วย อยากกิน"
'ได้ๆ เดี๋ยวเลี้ยงเอง อ้อ! แกอย่าลืมเติมวีไอพีเน็ตฟลิกด้วย ซีรี่ส์กำลังมันส์ พระเอกของฉันกำลังจะแก้ผ้าถ่ายทอดกำลังภายในให้นางเอกแล้ว ชีวิตการทำงานอันโหดร้ายของฉันมีซิกแพ็คพระเอกปลอบใจแค่นั้นแหละ'
"เว่อร์ตลอด ใช้ล็อกอินคนอื่นยังจะทวงให้เขาเติมเงินอีก"
'ไม่ทวงแกก็ไม่เติม ว๊าย! สามทุ่มกว่าแล้ว พระเอกของฉันมาแล้ว แค่นี้ก่อนนะ แกเองก็เหอะอย่าสตีมเกมส์ทั้งคืน บางทีตีหนึ่งฉันตื่นขึ้นมาปิ๊งป่องยังเห็นแกออนอยู่เลยนังหงส์ ติดเกมส์กำลังภายใน เดี๋ยวก็หลอนเหาะลงมาจากดาดฟ้าออฟฟิศหรอก'
"พูดมากเดี๋ยวไม่เติมเน็ตฟลิกเลยนะ"
'อย่านะ โกรธจริงๆด้วย นางมารร้าย!'
กว่าจะวางสายจากเพื่อนร่วมงานได้ก็ทำเอาแบตเกือบหมด หงส์ส่ายหน้าหัวเราะน้อยๆ เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเธอหรือเพื่อนร่วมงานกันแน่ที่เมา ว่าแล้วหญิงสาวก็ลุกไปหยิบที่ชาร์จแบตมาเสียบโดยเร็ว แต่เมื่อเดินผ่านกระจกเงาของตู้โชว์ พบเงาสะท้อนผู้หญิงคนหนึ่ง สวมชุดนอนลายหมีขาวขั้วโลก สูงตามมาตรฐานผู้หญิงทั่วไป รูปร่างใกล้ได้เข้าโรงเชือดไว้ทำเสต็กเนื้อนุ่มเข้าไปทุกที หน้าตาไม่โดดเด่นอะไร ทุกอย่างธรรมดาไปหมด เลยต้องใช้ชีวิตธรรมดา แถมยังต้องเผชิญด่านเคราะห์ในทุกๆวันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เธอแอบหวังว่าสักวันชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง หรือมีอะไรให้ตื่นเต้นซะหน่อยนอกจากวันเงินเดือนกับวันโบนัสออก รู้สึกเหมือนชีวิตใกล้เฉาจะแย่
หงส์คิดเรื่อยเปื่อยขณะหยิบแท็บเลตเครื่องโปรดมาตั้งตรงหน้า หยิบขวดโซจูดื่มอีกสัก 2-3 อึก แล้วจึงเข้าเกมส์ออนไลน์แนวต่อสู้กำลังภายในที่กำลังติดงอมแงม ช่วงนี้คือช่วงเจ้าสำนักในเกมส์เรียกรวมพลเข้าตีดันเจี้ยน เธอเลยต้องทำตัวให้คึกซะหน่อยเผื่อนิ้วจะเร็วมากพอทำแต้ม
'ยอดฝีมือ สวอน'
เธอมองชื่อสมาชิกสำนักที่พุ่งขึ้นมาเป็น Top 5 ด้วยแรงค์สูงเกินสิบล้านอย่างภาคภูมิใจ ถึงชีวิตจริงจะธรรมดาแบบสุดๆ แต่ในเกมส์เธอคือยอดฝีมือที่ขึ้นแรงค์เร็วกว่าคนอื่นในเซิร์ฟ หงส์ภูมิใจถึงขั้นอยากเปลี่ยนอาชีพเป็นนักกีฬา E-sports ด้วยซ้ำ
"หืม?"
ขณะที่เธอกำลังเลือกอาวุธเข้าเตรียมดันเจี้ยน สัญลักษณ์แจ้งเตือนข้อความในช่องเพื่อนก็เด้งขึ้นมาซะก่อน เมื่อกดเข้าไปดูก็ต้องขมวดคิ้วมุ่นเพราะเธอไม่ได้เพิ่มอีกฝ่ายเป็นเพื่อนมาก่อน
"จางหงเหยียน ชื่อจี๊นจีน ใครอะ"
หงส์กดเข้าไปดูหน้าประวัติก็ต้องเลิกคิ้วสูงแปลกใจกับแรงค์ทะลุร้อยล้าน กับประวัติอันเลิศเลอที่ดูยังไงก็ขิงใส่ชัดๆ
"เจ้าสำนักหอหิมะแดง ฉายาจอมมารโลหิต แข่งไม่เคยแพ้สักครั้ง อัพอาวุธขั้นวิเศษ วีไอพีศูนย์ ไม่เติมเงินเล่นด้วย เก่งขนาดนี้มาแอดคนไม่เก่งทำไม จะขิงเหรอ?"
เรื่องอะไรจะเป็นเพื่อนกับคนเก่งให้ดูด้อยกว่า หงส์คิดในใจจึงเลื่อนนิ้วจะกดลบเพื่อน แต่ข้อความกลับเด้งขึ้นมาซะก่อน
'ข้าเห็นฝีมือของเจ้า อยากชวนเข้าร่วมสำนัก อย่ารอช้า มีเหรียญทอง 1 พันเหรียญเป็นอั่งเปาแรกเข้า'
ข้อความน่าสนใจ แถมยังได้เหรียญทองเกมส์ตั้งพันเหรียญ หงส์ชั่งใจอยู่ครู่ก็เห็นแก่เหรียญทองในเกมส์ กดเข้าร่วมสำนัก ไว้ไม่ถูกใจค่อยย้ายสำนักใหม่ก็ได้
'วิ้ว...~'
"หืม?...!! หนาวจัง"
เพียงแค่กดปุ่มเข้าร่วมสำนัก หน้าจอมือถือก็สว่างวาบ เกิดเสียงสายลมพัดแรงสะท้อนออกมาพร้อมกับความหนาวยะเยือกยิ่งกว่าอุณหภูมิติดลบ หงส์ก้มลงมองรีโมตแอร์ ตั้งใจจะปรับอุณหภูมิ เธอกลับถูกลมวูบหนึ่งกระแทกหน้า พลันภาพทุกอย่างเลือนหายไปทันใด