webnovel

ตอนที่ 3 : ไม่ยุติธรรม

'ฉับๆๆๆๆๆๆๆ'

เสียงมีดอีโต้หั่นกะหล่ำปลีรวดเร็วรุนแรงอย่างกับโกรธแค้นใครมานักหนา ทำเอาผู้คนในโรงครัวก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองโดยไร้ซึ่งเสียงพูดคุย ด้วยกลัวว่าผู้ถือมีดเล่มใหญ่จะเปลี่ยนเป้าหมายจากผักเป็นตัวเอง เว้นเพียงผู้มาเยือนใหม่ที่มองไปรอบๆอย่างตื่นตาตื่นใจ

ปกติแล้วหงส์ติดซีรี่ส์จีนตั้งแต่ดูซีรี่ส์มิตรภาพอันโด่งดังไปทั่วเอเชีย ด้วยองค์ประกอบอลังการของฉากยุคจีนโบราณ เสื้อผ้าหน้าผมของผู้คน พอได้สัมผัสกับตัวเองตรงหน้าแล้ว สิ่งเหล่านี้ยิ่งมีเสน่ห์ในตัวเองสำหรับเธอ โดยเฉพาะเตาหินยุคโบราณแบบใส่ฟืน ถึงจะเก่าไปหน่อย มีรอยไหม้ของฟืนเกือบครึ่ง แต่อาหารที่ออกมาจากเตานี้ล้วนหอมน่าทานจนท้องร้องทีเดียว ว่าแล้วสองเท้าก็ก้าวเข้าใกล้เตาหินโดยไม่รู้ตัว ทว่ามีดอีโต้แวววับก็ฟันลงกลางอากาศกั้นหน้าเธอไว้ก่อน

'ชิ้ง!'

"เหวอ!!!"

"ออกไปตักน้ำใส่ถังเตรียมต้มให้คุณหนู มายืนเซ่อทำอะไรในนี้!"

นางจวนเอ็ดใส่ดังลั่น หงส์เลยชักสีหน้าหงุดหงิดใส่กลับ เพียงเท่านั้น หญิงวัยกลางคนก็ถลึงตายกมีดชี้หน้าเธอจนถอยหลังแทบไม่ทัน

"หน็อย! นังเด็กเหลือขอ นับวันยิ่งเอาใหญ่ กล้าชักสีหน้าใส่ข้า วันนี้ข้าจะบอกเรื่องที่เจ้าหาเรื่องเย่ลู่เสียนจนเกือบทำให้ตระกูลเซิ่งต้องเดือดร้อน คุณหนูไม่เก็บเจ้าไว้แน่"

"หนวกหูน่า!! โวยวายอยู่ได้น่ารำคาญ!"

เธอเผลอตวาดกลับใส่ เพียงเท่านั้น คนทั้งโรงงครัวก็อ้าปากค้างมองเธอเป็นตาเดียว โดยเฉพาะนางจวนที่พูดไม่ออกไปชั่วขณะทีเดียว

"เจ้า....เจ้า....เจ้าๆๆ เจ้ากล้าตะคอกข้ากลับหรือ!"

"ก็ท่านตวาดใส่ข้าก่อนนี่!!"

"หน็อย!!! นังเด็กเหลือขอ เด็กบ้านนอกคอกนา ลืมบุญคุณ ข้าอุตส่าห์เลี้ยงเจ้ามาอย่างยากลำบาก ให้เจ้ากินดีอยู่ดีกว่าบ่าวในจวนจนตัวเจ้าอ้วนกลมอย่างกับหมู เจ้ายังกล้าเนรคุณตะคอกใส่ข้า ได้!! ในเมื่อเจ้าเก่งนัก ต่อไปนี้เจ้าไปหาข้าวกินเอง อย่ามากินข้าวของข้า! พวกเจ้าก็ด้วย จำไว้ว่าหากผู้ใดเอาข้าวของข้าให้นางกิน ข้าจะฟ้องให้นายท่านไล่ออกจากจวน ออกไปเลยนังเด็กเหลือขอ ออกไปจากครัวของข้าซะ!!!"

นางจวนไม่พูดเปล่า ยังเอาอีโต้ไล่ฟันหงจนเธอต้องวิ่งหัวซุกหัวซุนออกมาจากครัว 

'ปึง!'

ประตูปิดทบกันดังสนั่นหวั่นไหวทำเธอสะดุ้งโหยง เหลือไว้เพียงความเงียบและลมหนาวยะเยือกพัดผ่านร่างกายจนต้องห่อไหล่กอดตัวเอง ชุดที่เธอสวมเป็นเพียงผ้าฝ้ายธรรมดา แม้หลายชั้นกลับไม่อาจบดบังลมหนาวยามเย็นได้ เธอหงุดหงิดจนขอบตาร้อนผ่าว อยู่ๆก็ถูกพรากจากโซฟาอุ่นๆในห้องแสนสวยที่ทำงานเก็บเงินผ่อนแทบตายมาโผล่ในเกมส์ชีวิตรันทดของผู้หญิงคนหนึ่ง ซวยชะมัด! 

"จางหงเหยียน! ปัญหาของตัวเองก็จัดการตัวเองไปสิ ดึงคนอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยทำไม! เอาฉันจากออกไปจากเกมส์บ้าๆนี่นะ!!!"

ในที่สุด หงส์ก็ตะโกนออกมาสุดเสียง หากแต่สิ่งตอบกลับคือมีดอีโต้ที่ลอยแหวกผ่านอากาศเข้ามาหา เธอเบิกตาโตรีบกระโดดหลบแทบไม่ทัน เมื่อหันมองคนทำก็เห็นนางจวนเชิดหน้าใส่อยู่ตรงหน้าต่าง หงส์ไม่อาจยอมรับการการกระทำแย่ๆของนางได้จึงหันหลังหนีทันที

"ไม่อยู่ก็ได้ ใครอยากอยู่ที่นี่ให้ถูกกดขี่ ฉันมีมือมีเท้า ทำมาหากินเองได้ ใครจะอยู่กับยายแก่จอมบงการได้ล่ะ!!"

เธอตัดสินใจหันหลังเดินหนีไปทางประตู อยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไงต่อไป ทว่าจมูกสัมผัสกลิ่นหอมของดอกไม้เสียก่อน เธอหยุดฝีเท้าเงยมองต้นทิศของกลิ่น จึงพบผู้หญิงคนหนึ่ง สวมชุดจีนโบราณเนื้อผ้าแพรสวยงามเหมือนอย่างที่เห็นในซีรี่ส์ รูปร่างสะโอดสะอง หน้าตาจิ้มลิ้มอย่างกับตุ๊กตา แต่สีหน้าไม่เป็นมิตร ผู้หญิงคนนั้นอยู่กับสาวใช้หน้าตาน่ารักแต่ท่าทางน่าหมั่นไส้ จ้องเธอเหมือนเป็นศัตรู

"เอะอะอะไรกัน ที่นี่หาใช่หอนางโลมที่เจ้าเติบโตมา จะทำสิ่งใดให้ระวังกริยาไว้บ้าง"

'หอนางโลม!!??'

หงส์อุทานในใจหลังจากได้ยินวาจา ยังไม่ทันได้โต้กลับ สาวใช้ด้านหลังอีกฝ่ายก็กล่าวเสริมทัพเสียก่อน

"คุณหนูอย่าเสียเวลาอบรมเลยเจ้าค่ะ รากเหง้าเป็นเช่นใด สันดานก็เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ ลงโทษให้หลาบจำดีกว่าเจ้าค่ะ"

"จริงอย่างเจ้าว่า เด็กๆ! นำตัวสาวใช้จางไปขังไว้ ห้ามให้ทั้งน้ำและอาหารจนกว่าจะสำนึก"

เมื่ออีกฝ่ายกล่าวจบ คนรับใช้ผู้ชายมากมายก็แห่กันเข้าหาเธอทุกทิศทางอย่างกับซุ่มอยู่ตามพุ่มไม้ในสวน หงส์ใจหายวาบตกตะลึงค้าง รู้ตัวอีกทีเธอก็ถูกหิ้วปีกลากผ่านหน้าโรงครัวไปเสียแล้ว เธอเห็นกลุ่มคนรับใช้ในโรงครัวแอบดูทางหน้าต่างโดยเฉพาะนางจวนที่สีหน้าเหมือนเวทนามากกว่าสมน้ำหน้า หญิงสาวได้เพียงกัดกรามอย่างโกรธจัดและแค้นใจเท่านั้น

-----------------------------

'จิ๊ดๆ' 

"!!"

หงส์สะดุ้งโหยงกับเสียงร้องแสนคุ้นหู เมื่อหันมองก็พบสัตว์ตัวใหญ่ที่เห็นบ่อยๆในเขตถังขยะของกทม. ทว่าหนูของกทม.เวลาเห็นคนจะวิ่งลงท่อ แต่หนูของจวนตระกูลเซิ่งเห็นคนกลับยืนจ้องตาแดงก่ำ ดุเสียยิ่งกว่าเสือ แถมตัวใหญ่อย่างกับลูกสุนัข เธอทำตัวให้นิ่งที่สุดขณะจ้องมันตอบ นึกในใจให้มันหวาดกลัวสายตาบ้าง ทันใดนั้น...

"เหวอ!!!"

หญิงสาวยกมือกันหน้าตัวเองไว้ทันทีที่เจ้าหนูตัวใหญ่กระโจนใส่ เธอกระโดดเหยงหนีมันไปทั่วห้องขังอันคับแคบและชื้นแฉะจนเหยียบเศษฟางลื่นล้มหน้าคะมำกับพื้น ทั้งจุกเจ็บจนร้องไม่ออก โชคดีที่หนูตัวใหญ่ยอมรามือ วิ่งหายไปทางที่เธอนั่งแต่เดิม หงส์เลยเดาเอาว่าเธอคงนั่งบังรูหนูอยู่แน่ 

เธอประคองตัวเองลุกขึ้นนั่งมองรอบกายด้วยใจหดหู่ ที่แห่งนี้อยู่ใต้ดิน ทั้งมืด ชื้น และหนาวเย็น มีเพียงกองฟางเล็กๆไว้ให้ความอบอุ่น แต่ก็คันคะเยอไปทั้งตัวเมื่อเข้าใกล้ ดูเหมือนถูกสร้างไว้ขังคนรับใช้ที่กระทำผิด ไม่สิ...ทำไม่ถูกใจต่างหาก ป่าเถื่อนเสียจริง ไม่คิดว่าต้องมาเจออะไรแบบนี้ เจอทั้งคนทั้งหนูรังแก

ใจของเธอรุ่มร้อนด้วยไฟแห่งโทสะ เพราะชาติกำเนิดต้อยต่ำถึงถูกกดขี่ข่มเหงสารพัด คอยดูเถอะ สักวันหนึ่ง เธอต้องเอาคืนคนพวกนี้ให้สาสมเชียว!

"เอ๊ะ...."

อยู่ๆเธอก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา พลันได้ยินเสียงสะอื้นดังก้องอยู่ในสมอง รู้ตัวอีกที หยดน้ำตาของเธอเองก็รินไหลไม่ขาดสาย ทั้งที่ไม่ได้คิดจะร้องไห้ด้วยซ้ำ

'ข้าจะฆ่าพวกมันให้หมด!' 

เสียงของจางหงเหยียนตัวจริงดังก้องอยู่ในใจ หงส์จึงรู้ทันทีว่าร่างกายและจิตใจของเธอยามนี้เป็นเสื้อคลุมให้จางหงเหยียนตัวจริงใช้แก้อดีตซ้ำแล้วซ้ำเล่า

"ที่ตามหายอดฝีมือในเกมส์ก็เพื่อยืมร่างคนอื่นมาสู้กับพวกสำนักคุ้มภัยอะไรนั่นสินะ! แย่มาก เธอดึงคนอื่นเข้ามาแก้ไขชีวิตตัวเองแบบนี้ เห็นแก่ตัวเกินไปแล้วนะ ชีวิตของฉันก็มีเรื่องยากลำบากเหมือนกัน เธอคิดว่าชีวิตเธอรันทดอยู่คนเดียวหรือไง"

หงส์ต่อว่า กลับมีแค่ความเงียบขานรับ เธอสูดหายใจลึกกลั้นสะอื้น จะยอมให้ตัวตนของตัวเองถูกนางมารจางหงเหยียนครอบงำทั้งหมดไม่ได้เด็ดขาด และต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้ 

"...ใช้อาวุธของมนุษย์เงินเดือน พิมพ์ลภัทร แกต้องใช้ความนอบน้อมแบบสองหน้าของมนุษย์เงินเดือน....มีใครอยู่ที่นี่มั้ย! ข้าสำนึกผิดแล้ว ข้ายอมแล้ว ปล่อยข้าออกไปที"

ว่าแล้วหงส์ก็ร้องดังลั่น หากแต่ไร้ซึ่งความก้าวร้าว ชวนให้คนฟังนึกเวทนา ไม่นานนัก บ่าวใช้หนุ่มคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหา 

"พี่ชาย ข้าสำนึกผิดแล้ว ท่านปล่อยข้าออกไปที ให้ข้าทำอะไรก็ยอมทั้งนั้น"

"จริงหรือ?"

ทว่าสียงตอบรับกลับเป็นของนางจวน ผู้ซึ่งเดินถือปิ่นโตอาหารใบใหญ่เข้ามาหา ถึงแม้ท่าทีตะบึงตะบอนอยู่บ้าง หงส์รีบพยักหน้ารับ

"แม่นมจวน ข้าผิดไปแล้ว เมื่อครู่ข้าแค่เหนื่อยและหิวมากเลยหงุดหงิดไปหน่อย ท่านเคยได้ยินหรือไม่ คนโมโหหิวมักอารมณ์ร้อนเหมือนถูกผีเข้าสิง ท่านสงสารข้าเถอะนะ"

คราวนี้เธอทำเสียงออดอ้อนเหมือนเด็กสาววัย 18 ปี ทั้งยังทำตาละห้อย เรียกได้ว่ามีไม้ตายอะไรก็งัดออกมาใช้ให้หมด เหมือนตอนอ้อนแม่ แรกเริ่มนางจวนขมวดคิ้วสงสัย ก่อนจะถอนหายใจยาวเหยียด พยักพเยิดให้บ่าวใช้เปิดประตูห้องขัง เพียงเท่านั้น หงส์ก็วิ่งออกมาขาแทบขวิด เกือบหน้าคะมำ เธอสาบานเลยว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรจะไม่กลับเข้าคุกใต้ดินอันโสโครกนี่อีก 

เมื่อออกมาแล้วกลัวไม่สมบทบาท หงส์จึงคุกเข่าลงเบื้องหน้านางจวน ร้องไห้สะอึกสะอื้นตัวโยนจนนางถอนหายใจอีกครั้ง

"ข้าผิดไปแล้ว ท่านยาย ข้าจะไม่ตะคอกใส่ท่านอีกแล้ว"

"เดี๋ยวเถิด ใครยายเจ้า ถูกหนูกัดจนเพี้ยนหรือ ปกติเจ้าเรียกข้าแค่ท่านน้า ไม่ต้องเพิ่มอายุให้ข้า เฮ่อ...ลุกขึ้นๆๆ เห็นแก่ที่แม่เจ้าฝากฝังไว้ อยากให้เจ้ามีอนาคตที่ดี นางเองก็มีบุญคุณต่อข้านัก ข้าจะละเว้นเจ้าไว้ครั้งหนึ่ง แต่ถ้าเจ้าดื้อด้านไม่เจียมตัวอีก หนหน้าข้าไม่ช่วยเจ้าแล้วเป็นแน่"

"ฮือๆๆๆ ท่านป้า ข้าผิดไปแล้ว ฮือๆๆๆ"

หงส์กอดขานางจวน แกล้งร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่น นางจวนเลยรีบดึงแขนให้ลุกขึ้นยืนพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาเด็กสาวส่งๆ จิ้มเข้าตาบ้างจมูกบ้าง ไร้ซึ่งความอ่อนโยน แต่ก็แฝงความห่วงใยไว้ไม่น้อย หงส์จึงอยู่ในบทบาทเด็กขี้แย จับชายเสื้อแม่นมจวนเอาไว้แน่น

"ตามข้ามา ข้าจะพาเจ้าไปหลบที่ห้องเก็บฟืนก่อน อย่างน้อยก็อุ่นกว่าที่นี่ เสร็จแล้วยามฟ้าสางให้เจ้ารีบออกไปตักน้ำใส่ถังไม้ ต้มน้ำให้นายหญิงอาบ เพียงเท่านี้ คุณหนูก็จะไม่กล้าเอาความกับเจ้าอีก ทำได้หรือไม่"

นางถาม เธอพยักหน้ารับ 

"ดี ถือปิ่นโตนี่ไว้ แล้วอย่ากินให้มากเล่า พักนี้เจ้าอ้วนกว่าคนรับใช้ในจวน ดีไม่ดีเสี่ยวเหลียนอาจยุแยงคุณหนูให้หาเรื่องแกล้งเจ้าอีก"

คำก็อ้วน สองคำก็อ้วน หงส์ขมวดคิ้วใส่นางจวนพลางก้มลงมองตัวเอง เป็นสาวไซต์ L ใช้ชีวิตยากลำบากทุกยุคทุกสมัยเสียจริง นึกถึงคุณหนูใหญ่จอมโหดรูปร่าง XXS คนนั้น ทั้งผอมทั้งสูง รัชทายาทจะถูกใจคงไม่แปลก เอาเถิด เธอต้องระวังไม่ให้จางหงเหยียนครอบงำ โดยเฉพาะจุดพีคที่เธอต้องถูกทำร้ายปางตายจนเกิดไฟแค้น มันจะต้องไม่เกิดขึ้นแน่นอน

หงส์คิดในใจขณะเดินตามนางจวนออกมาถึงใจกลางสวนหย่อมยามค่ำคืน สัมผัสกับอากาศเย็นยะเยือกและความมืดชนิดที่มองไม่เห็นแม้แต่หลังเท้าของตัวเอง หากไร้แสงโคมในมือพ่อบ้านก็เหมือนคนตาบอดดีๆนี่เอง เธอเดินใกล้นางจวนมากขึ้นเรื่อยๆด้วยความกลัว กระทั่งถึงหน้าห้องเก็บฟืน นางจวนก็ยัดปิ่นโตใส่มือก่อนจะรีบพากันเดินจากไปพร้อมคนรับใช้ 

หญิงสาวถอนหายใจออกมายาวเหยียด บอกไม่ถูกว่าโล่งอกหรือหนักใจ อดีตของจางหงเหยียนที่เธอเห็นคือความอยุติธรรมของเด็กสาวผู้มีหัวใจบริสุทธิ์ แต่สิ่งที่เธอเผชิญคือโชคชะตาอันอยุติธรรมของเด็กสาวผู้ต่ำต้อย เพราะถูกกดขี่ ไฟแค้นจึงสุมอกมากขึ้นเรื่อยๆ ทางเดียวที่จะรอดออกจากเกมส์ได้คือล้างตระกูลเซิ่งและรัชทายาทคนนั้น แต่นั่นเป็นหนทางเดียวจริงหรือ

"หืม?"

ทว่าในความมืด หงส์กลับได้ยินเสียงบางอย่างคล้ายอาภรณ์ต้องสายลมอยู่เหนือหลังคา เธอเงยมองตามกลับไม่พบสิ่งใดนอกจากยอดไม้ที่เอนไหวไปมา ดูราวกับมือยักษ์โบกสะบัด เธอขนลุกซู่ รีบกลับเข้าห้องเก็บฟืนทันที

Bab berikutnya