webnovel

ดวงใจอสุรา

เพราะเหตุพลิกผันทำให้ มู่หรงชีชีต้องย้อนอดีตมาเป็นนางซินในยุคโบราณที่เจ้าของร่างคนเดิมถูกลงโทษด้วยกฎบ้านจนตาย แต่คิดหรือว่านางจะยอมแพ้ต่อโชคชะตานี้ แม้จะถูกพี่สาวร่วมตระกูลแย่งคู่หมั้น มิหนำซ้ำยังถูกบิดาจับคลุมถุงชนเพื่อแต่งงานแก้เคล็ด แต่ดูเถอะว่ามู่หรงชีชีคนนี้จะไม่มีวันยอมแพ้แน่นอน! เนื่องด้วยพระราชโองการจากฮ่องเต้ ทำให้มู่หรงชีชีต้องยอมอภิเษกกับ เฟิ่งชาง หนานหลินอ๋องแห่งแคว้นเป่ยโจว บุรุษที่ได้สมญานามว่า ‘อ๋องปีศาจ’ ผู้ที่มีดวงพิฆาตภรรยาอย่างไม่มีทางเลือก ทว่าใครเล่าจะรู้ว่าหนานหลินอ๋องที่นางเคยได้ยินคำล่ำลือมาว่าแสนร้ายกาจนั้นจะไม่เหมือนบุรุษตรงหน้าที่นางได้พบเลยแม้แต่น้อย ยิ่งนางได้รู้จัก นางก็ยิ่งจะหลงรักเขามากขึ้นเสียแล้ว

ล่าหมี่ทู่ · Sejarah
Peringkat tidak cukup
156 Chs

ตอนที่ 008

ตอนที่ 8 แม่ลูกอสรพิษ

ณ เรือนโอ่วเซียง มู่หรงไท้นั่งพุงพลุ้ยพูดปลอบประโลมเจิ้งหมิ่นที่กำลังน้ำตาอาบใบหน้า “หยุดร้องเสียเถิดสุดที่รักของพี่ แค่น้องร้องไห้ ใจของพี่มันก็เจ็บปวดเป็นจะตายเสียให้ได้แล้ว”

“ท่านพี่ลำเอียง ท่านดูใบหน้าของซินเอ๋อร์สิเจ้าคะ โดนทำร้ายจนเจ็บมากขนาดนี้ อีกหน่อยก็จะถึงเทศกาลชีซี[footnoteRef:2]แล้ว ท่านจะให้ซินเอ๋อร์ทำเยี่ยงไร ก่อนหน้านี้ชายาของท่านอ๋องอันหยางยังพูดชมเชยซินเอ๋อร์เลยว่าฉลาดหลักแหลม ตอนนี้หน้าตาซินเอ๋อร์กลายเป็นแบบนี้ไปเสียแล้ว เมื่อถึงเทศกาลชีซีจะให้นางออกไปพบปะผู้คนได้เช่นไรเจ้าคะ​ ท่านพี่ หากท่านไม่ลงโทษชิงเอ๋อร์ น้องไม่ยอมจริงๆ ด้วยนะเจ้าคะ” [2: เทศกาลชีซี : เทศกาลวันแห่งความรักของจีน ตรงกับวันที่เจ็ดเดือนเจ็ดตามปฎิทินจันทรคติ ตามนิทานปรำปราคือวันที่หนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้าจะได้เจอกัน]

เจิ้งหมิ่นเมื่อเห็นว่ามู่หรงไท้รีบมาหานางก่อน ในใจก็มีความสุขไม่น้อย

มู่หรงชิงเหลียนต่อให้มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้เพียงใด แต่อย่างไรเสียก็เป็นสตรี สักวันก็ต้องแต่งงานออกไป บุรุษไม่มีทางชื่นชอบสตรีที่เก่งกาจจนเกินไป ตั้งแต่ในอดีตก็มีแต่วีรบุรุษช่วยสาวงาม ยังไม่เคยมีสาวงามช่วยวีรบุรุษเลย แบบนั้นมันสมเหตุสมผลเสียที่ไหนกัน

เจิ้งหมิ่นเชื่อมั่นในตัวบุตรสาวของตนเองเป็นอย่างมาก ในเมื่อมู่หรงเสวี่ยเหลียนยังสามารถเป็นกุ้ยเฟยได้ มู่หรงซินเหลียนบุตรสาวของนางก็งดงามไม่แพ้ผู้ใด ยิ่งตอนนี้ฮูหยินใหญ่หลี่ชิวสุ่ยไปอาศัยอยู่ที่วัด ถือศีลกินเจ ไม่อยากรับรู้เรื่องราวภายนอก แน่นอนว่าจะไม่มาขัดขวางเส้นทางเจริญรุ่งเรืองของบุตรสาวนางแน่

“พอได้แล้ว ไม่ต้องร้องไห้ไป รักษาใบหน้าของซินเอ๋อร์ให้หายก่อนแล้วค่อยว่ากัน” มู่หรงไท้หยิบยากล่องเล็กๆ กล่องหนึ่งขึ้นมา “นี่คือขี้ผึ้งแก้ว เป็นโอสถที่คุณชายเหลียนปรุงขึ้นมา เสวี่ยเหลียนเป็นคนเอากลับมา เอาไปให้ซินเหลียนใช้ก่อน อย่าปล่อยให้เสียโฉมเสียเล่า มิเช่นนั้นก็คงมีเรื่องวุ่นวายอีก”

เมื่อได้รู้ว่าเป็นขี้ผึ้งแก้วของคุณชายเหลียนหมอพิลึก เจิ้งหมิ่นก็รีบรับมาเปิดกล่องดู กลิ่นหอมรื่นรมย์ก็ลอยออกมา “เป็นยาชั้นดีจริงๆ ด้วย”

“แน่นอนสิ เสวี่ยเหลียนได้มาแค่สองกล่อง ตอนนี้กล่องนี้ก็ยกให้ซินเหลียนแล้วกัน รักษาแผลบนหน้าให้หายเสีย”

มู่หรงไท้อดทนเอาใจเจิ้งหมิ่นอยู่พักหนึ่ง ก่อนออกไปก็สัมผัสใบหน้านางเป็นการบอกลา จากนั้นเขาก็รีบร้อนเดินไปทางเรือนหลันเซียงซึ่งเป็นเรือนของหลิวเยียนจือ

เมื่อเห็นว่าร่างอ้วนของมู่หรงไท้ได้หายลับไปจากสายตา เจิ้งหมิ่นก็เปล่งเสียงออกมาอย่างฮึดฮัด หยิบเอาขี้ผึ้งแก้วมาทาลงบนใบหน้าของมู่หรงซินเหลียนอย่างระมัดระวัง

“ท่านแม่ อย่างไรเสียท่านพ่อก็สนใจมู่หรงชิงเหลียนมากกว่าข้า” มู่หรงซินเหลียนก้มหน้าลง ขนตายาวบดบังความรู้สึกในแววตาของนาง

“ซินเอ๋อร์ เจ้าจงจำไว้ให้ดี ไม่ว่าจะน้อยอกน้อยใจเพียงใด เจ้าก็ต้องทนให้ได้ เจ้าฉลาดกว่าชิงเหลียน ยิ่งไปกว่านั้นคือเจ้างดงามกว่านาง ต่อไปเจ้าจะได้สมรสกับบุรุษที่ดีกว่านาง” เจิ้งหมิ่นไม่มีบุตรชาย ที่พึ่งอย่างเดียวของนางคือมู่หรงซินเหลียน เมื่อเห็นบุตรสาวไม่ได้รับความยุติธรรม ใจของนางก็พลอยเจ็บปวดไปด้วย

“ท่านแม่ ข้าอยากเป็นชายาจิ้งอ๋อง ข้าอยากสมรสกับหลงเจ๋อจิ่งเทียน”

ได้ยินเจิ้งหมิ่นพูดถึงเรื่องการสมรส มู่หรงซินเหลียนก็เงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาที่มีน้ำตาคลอนั้นสาดแสงบางอย่าง

“เหตุใดคนไร้ประโยชน์ทำอะไรก็ไม่เป็นอย่างมู่หรงชีชี ถึงได้เป็นชายาของจิ้งอ๋อง ข้ารับไม่ได้ ท่านแม่ ข้ายอมรับไม่ได้จริงๆ นะเจ้าคะ นางแค่ฐานะสูงส่งกว่าข้า แต่นางไม่มีความสามารถแม้แต่น้อย” มู่หรงซินเหลียนกำหมัดแน่น

“ท่านแม่ วันนี้ชิงเหลียนเยาะเย้ยข้าว่าเป็นลูกอนุ ต่อไปก็เป็นได้แค่อนุ ท่านแม่ ท่านไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นข้าอยากจะฆ่านางให้ตายเสียด้วยซ้ำ ข้าแค้นยิ่งนัก!”

เมื่อได้ฟังที่มู่หรงซินเหลียนพูด น้ำตาของเจิ้งหมิ่นก็ไหลออกมา

เพียงไม่มีบุตรชาย นางอยู่ที่จวนแห่งนี้ก็แพ้หลิวเหยียนจือไปหลายขุมแล้ว ยามปกติแล้วหลิวเหยียนจือจะเยาะเย้ยถากถางนางเช่นไรก็ช่าง แต่ตอนนี้มู่หรงชิงเหลียนยังดูถูกดูแคลนบุตรสาวผู้เป็นแก้วตาดวงใจของนางอีก มันทำให้เจิ้งหมิ่นเคียดแค้นจนต้องกัดฟันกรอด

“ซินเอ๋อร์ แม่จะไม่ให้ลูกต้องทนกับความอยุติธรรมเช่นนี้อีก เจ้าอยากสมรสกับหลงเจ๋อจิ่งเทียนมิใช่หรือ ข้ามีทางให้เจ้าได้เป็นชายาของจิ้งอ๋อง”

คำพูดของเจิ้งหมิ่นทำให้มู่หรงซินเหลียนดีใจขึ้นมาก นางจับมือเจิ้งหมิ่นขึ้นมาเขย่า

“ท่านแม่ ท่านพูดจริงหรือเจ้าคะ แต่ว่าการหมั้นหมายของจิ้งอ๋องนั้นเป็นราชโองการจากฮ่องเต้เชียวนะ ท่านมีวิธีดีๆ เยี่ยงไรให้จิ้งอ๋องสมรสกับข้า อย่างไรเสียข้าจะไม่ยอมเป็นอนุหรอก หากจะต้องถูกคนไร้ประโยชน์อย่างมู่หรงชีชีรังแก ข้าขอยอมตายเสียดีกว่า ท่านแม่ ถ้าหากข้าได้สมรสกับหลงเจ๋อจิ่งเทียน ได้เป็นหวังเฟย ต่อให้ฝันอยู่ข้าก็คงจะหัวเราะจนตื่น”

เมื่อได้เห็นท่าทางของมู่หรงซินเหลียน เจิ้งหมิ่นก็รับรู้ได้ว่าบุตรสาวของนางมีใจให้หลงเจ๋อจิ่งเทียน

ท่านอ๋องคนนี้เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊ หน้าตาก็หล่อเหลา อีกทั้งอาจจะได้เป็นองค์รัชทายาท ในอนาคตก็จะกลายเป็นฮ่องเต้ หากหลงเจ๋อจิ่งเทียนได้เป็นฮ่องเต้ มู่หรงซินเหลียนก็จะได้เป็นฮองเฮาผู้เป็นแม่ของแผ่นดิน

แค่คิดถึงอนาคตอันสดใสของมู่หรงซินเหลียน เจิ้งหมิ่นก็กัดฟัน ภายในใจมีแผนร้ายผุดขึ้นมา มู่หรงชีชีในเมื่อเจ้ามาขวางทางสว่างของบุตรสาวข้า ก็อย่าหาว่าข้าใจดำอำมหิตก็แล้วกัน!

เจิ้งหมิ่นกระซิบที่ข้างหูมู่หรงซินเหลียน เมื่อมู่หรงซินเหลียนได้ฟังสิ่งที่มารดาของนางพูด ก็ยกมือขึ้นมาปิดปาก ตะโกนออกมา “ท่านแม่ แน่ใจหรือเจ้าคะ แค่ทำลายชื่อเสียงของมู่หรงชีชี ทำให้นางตกเป็นของชายอื่น จะทำให้ท่านอ๋องถอนหมั้นได้จริงหรือ ​แต่เราจะไปหาบุรุษมาจากไหนกันเจ้าคะ”

“บุรุษหรือ? ก็มีอยู่แล้วนี่” ใบหน้าอ่อนโยนของเจิ้งหมิ่นปรากฏความโหดเหี้ยมขึ้นมา

ไม่ใช่เพราะหลิวเหยียนให้กำเนิดมู่หรงจวิ้นบุตรชายคนเดียวของตระกูลมู่หรงหรอกหรือ มู่หรงไท้จึงได้โปรดปรานเป็นนักหนา มิหนำซ้ำยังมักจะเอาเรื่องนี้มาข่มนาง ทำให้นางไม่พอใจอยู่บ่อยครั้ง

หากบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของหลินเหยียนจือมาอยู่บนเตียงของคุณหนูสามอย่างมู่หรงชีชี เรื่องผิดศีลธรรมของสองพี่น้องคู่นี้ ถึงเวลานั้นจะไม่ใช่แค่มู่หรงชีชีคนเดียวที่จะเสียหาย แม้มู่หรงจวิ้นก็ต้องโดนไปด้วย นางอยากจะรู้นักว่าถึงตอนนั้นหลิวเหยียนจือยังจะยิ้มออกอยู่หรือไม่

“ท่านแม่ แผนนี้ช่างล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว มู่หรงจวิ้นมักจะใช้สายตาหื่นกระหายมองข้า น่าสะอิดสะเอียนจะแย่ หากกำจัดได้ทีเดียวสองคน ก็จะดีทีเดียวเจ้าค่ะ” เมื่อได้รู้ว่าเจิ้งหมิ่นคิดจะทำอะไร มู่หรงซินเหลียนก็ชื่นชมไม่ขาดปาก

มู่หรงชีชี เจ้าลงนรกเสียเถอะ! กล้ามาแย่งชายในฝันของข้า ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าใครมันจะแน่กว่ากัน! ครั้งก่อนไม่ทำให้เจ้าถึงตายนั่นเป็นโชคดีของเจ้า ครั้งนี้ข้าจะทำให้เจ้าตายทั้งเป็น เอาชาติกำเนิดอันสูงส่งของเจ้าลงนรกไปด้วยกัน!

นัยน์ดาดอกท้อน่าดึงดูดคู่นั้นของมู่หรงซินเหลียนเหมือนเจิ้งหมิ่นมารดาของนางไม่มีผิด ในตอนนี้ก็ส่องประกายความโหดเหี้ยมไม่ต่างจากมารดาของนาง ทั้งสองคนเปรียบดั่งอสรพิษดุร้าย มุมปากของพวกนางปรากฏร้อยยิ้มอำมหิต

ณ เรือนหลันเซียง มู่หรงไท้ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ปลอบแม่ลูกคู่นี้ได้สำเร็จ

เดิมทีมู่หรงชิงเหลียนก็มีวรยุทธ์สูงกว่ามู่หรงซินเหลียนอยู่แล้ว อีกทั้งยังบาดเจ็บน้อยกกว่ามู่หรงซินเหลียน ส่วนใหญ่ก็แค่แผลถลอกภายนอก มู่หรงไท้สัญญากับนางว่าจะส่งดาบชั้นดีให้หนึ่งเล่ม นางก็ตอบตกลงเป็นที่เรียนร้อย

ส่วนหลิวเหยียนจือ วิธีที่ปลอบนางได้ดีที่สุดคือบนเตียง มู่หรงไท้เชื่อมาตลอดว่าทะเลาะกันบนหัวเตียง พอถึงปลายเตียงก็ดีกันแล้ว เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่พูดมาก จับมือของหลิวเหยียนจือเข้าห้องทำศึกกันไม่กี่รอบ จนสาวงามหอบกระเซ่าอยู่ในอ้อมแขนของเขา เรื่องวันนี้ก็ถือว่าผ่านไปด้วยดี

หลายวันมานี้ จวนอำมาตย์ก็เงียบสงบมาโดยตลอด มู่หรงชีชีก็ “เชื่อฟัง” เก็บตัวอยู่ในสวนชุ่ยจู๋ “สำนึกผิด” มู่หรงซินเหลียนกับมู่หรงชิงเหลียนก็ไม่ได้ออกไปไหน พักรักษาตัวอยู่ในเรือนของตนเอง

สิบวันให้หลัง เฟ่ยชุ่ยบ่าวรับใช้คนสนิทของมู่หรงซินเหลียนก็มาปรากฏที่สวนชุ่ยจู๋ มาเชิญมู่หรงชีชีไปร่วมชมจันทร์ที่ศาลาหูซิน

“ชมจันทร์งั้นหรือ ข้าไม่ไป ข้อต้องเก็บตัวสำนึกผิด” แค่กระดิกหัวแม่เท้าก็รู้แล้วว่านางไม่ได้หวังดี ตอนนี้มู่หรงชีชีกำลังยุ่ง ไม่มีเวลามาเล่นเล่ห์เล่นเหลี่ยมกับเด็กน้อยอย่างพวกนาง จึงพูดปฏิเสธเฟ่ยชุ่ยไป