webnovel

กักขัง Lock you

“มึงจำฟ้าได้ไหม” ภีมเบิกตากว้าง ชื่อนี้ทำเขาแทบสติหลุด พี่ฟ้า พี่ที่คณะ เขาเจอตอนมารับน้องครั้งแรก ภีมถูกใจพี่ฟ้ามาก จนวันที่รับน้องวันสุดท้ายเขากับเพื่อนวางแผนมอมเหล้าพี่ฟ้า และมีอะไรกันหลังจากนั้น เขาคิดว่ามันจะจบ แต่พี่ฟ้ากลับไม่จบ หลังจากนั้นไม่นาน เขาจึงได้รู้ข่าวว่าพี่ฟ้าฆ่าตัวตาย ภีมตกใจและเสียใจ การฆ่าตัวตายของพี่ฟ้า จึงเหมือนเป็นตราบาปมาให้เขาจนถึงทุกวันนี้ “มึงกล้ามากนะที่สวมเขาให้กู มึงกล้ามากที่ทำฟ้าตาย” ภีมตกใจที่ได้ยินเสือพูด เขาจับมือเสือที่จิกหัวเขาไว้แน่นเพราะความเจ็บปวด “มึง…กับพี่ฟ้า?!” “เอากับแฟนเขา แต่ไม่รู้จักผัวเขา ไอ้เลวระยำ” เสือจับหัวของภีมกระแทกไปกับกำแพงจนเลือดไหลลงมาข้างขมับ “โอ้ย! เหี้ยเอ้ย” ภีมทั้งเจ็บทั้งจุก เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไป ต้องขอโทษ ต้องปฏิเสธ หรืออะไร สมองตีรวนไปหมด “กูอยากจะรู้ว่ามึงเอามันแค่ไหน ทำไมฟ้าถึงได้ติดใจมึงนัก” “มึง…อย่านะ!” คำเตือน  นิยายเรื่องนี้เป็นแค่เรื่องสมมุติ มีเนื้อหาและความรุนแรงไม่เหมาะสมกับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน กรุณาอ่านเพื่อความบัันเทิงห้ามลอกเลียนแบบ ถ้าใครชอบ ช่วยอุดหนุนกันด้วยนะคะ คนเขียนจะพยายามปรับปรุงเลยเขียนให้ดีีที่สุดค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตาม และสนับสนุน

Saralyman27 · Perkotaan
Peringkat tidak cukup
22 Chs

บทที่ 16 ไม่เข้าใจ

ตื๊ดดด🎶

"ฮัลโหลสวัสดีค่ะ"

"แม่ค่ะ ภีมอยู่กับแม่รึเปล่าค่ะ

"เจ้าภีมเหรอ อยู่ๆ เพิ่งมาถึงเมื่อวาน ตอนนี้นั่งอยู่ในสวน มีอะไรกันรึเปล่า เห็นภีมหน้าเศร้าๆ"

"ไม่มีอะไรค่ะแม่ หนูฝากแม่ช่วยดูภีมแทนหนูด้วยนะ"

"ได้ๆ"

เมื่อโทรเช็คเรียบร้อยว่าลูกชายปลอดภัยดี ผู้เป็นแม่ก็รู้สึกโล่งใจ แต่เธอก็ยังไม่ได้คิดจะบอกให้เสือได้รับรู้ เพราะยังไม่แน่ใจถึงต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ลูกชายสุดที่รักต้องหนีไปไกลถึงเพียงนั้น

เกือบ 1 อาทิตย์ที่เสือยังคงหาทางติดต่อภีมไม่ได้ จนเมื่อข้อความในมือถือเด้งขึ้น รูปภาพและที่อยู่ของคนที่ตามหาจากนักสืบที่จ้างไปจึงถูกส่งมาให้จำนวนมาก คนเปิดอ่านถึงกับอมยิ้มออกมาอย่างพอใจ ก่อนจะกดโทรหาเลขาให้เข้ามาในห้อง

ก๊อกๆ

"ขออนุญาตค่ะ"

"เชิญครับ"

"ท่านประธานมีอะไรรึเปล่าค่ะ"

"เดี๋ยวผมจะลางานสัก 1 อาทิตย์ ถ้ามีงานเร่งด่วนก็ช่วยส่งเข้ามาในไลน์ให้ผมด้วย ถ้าไม่มีอะไรด่วนก็จัดการแทนผมได้เลย ผมจะให้สิงห์มาช่วยดูแทน"

"คะ รับทราบค่ะ"

เมื่อจัดการเรื่องงานเรียบร้อย เสือจึงรีบขึ้นรถเพื่อเดินทางไปหาคนที่อยากเจอจนแทบบ้า

ที่ เชียงใหม่ ตอนนี้ภีมกำลังเร่งปั่นรายงานที่เพื่อนๆส่งมาให้จนหัวฟู เพราะขาดเรียนไปหลายวัน

ตื๊ดด🎶🎶

"ฮัลโหล"

"ไอ้แดน เดี๋ยวกูส่งรายงานให้ทางเมล์นะ"

"เออๆ แล้วเมื่อไหร่มึงจะซื้อโทรศัพท์ใหม่ว่ะ กูติดต่ออะไรไม่ได้เลย ทั้งเฟสทั้งไลน์มึงก็ไม่ออน โทรศัพท์บ้านมันติดต่อยากนะมึง"

"เออๆ กูลืมไว้ที่คอนโด ไม่กี่วันกูก็กลับแล้ว มึงอย่าบ่นมากน่า"

"แล้วมึงโอเคใช่ไหมภีม…เรื่อง…เออ…เรื่องพี่เสือ"

"ไม่รู้ว่ะ กูไม่อยากคิดถึงมันว่ะ"

"ได้ไงมึง เรื่องใหญ่เลยนะเว้ย เมื่อวานกูไปถามพี่เอกมา แกก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกันเรื่องที่พี่เสือจะแต่งงาน แกก็ติดต่อพี่เสือไม่ได้ด้วย"

"อืมๆ มึงไม่ต้องไปถามใครแล้ว แล้วก็ไม่ต้องมาคุยเรื่องนี้กับกูอีก กูไม่อยากได้ยิน"

"เออๆ ถ้ามีอะไรไม่สบายใจก็โทรหากู อย่าคิดมากนะมึง"

"อืมๆ ขอบใจนะมึง"

ภีมวางสายไม่นาน เสียงจากคุณยายก็เรียกให้ลงมากินข้าวเย็น แต่พอก้าวเท้าเข้ามาในห้องครัว ใบหน้าขาวถึงกับตะลึงตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้เห็น

"มึง!?"

"ภีม พูดเพราะๆหน่อยลูก เห็นพ่อหนุ่มบอกว่าเป็นรุ่นพี่เราที่มหาลัย"

"คือ…เออ…ครับ"

"งั้นมากินข้าวกันมาลูก ยายเห็นภีมดูเศร้าๆตั้งแต่มา มีคนมาอยู่เป็นเพื่อนจะได้ไม่เครียด"

"มาอยู่เป็นเพื่อนอะไรครับยาย"

"เอ้า ก็พ่อหนุ่มบอกว่าจะมารับภีมกลับกรุงเทพฯด้วย เพราะอาทิตย์หน้าจะมีงานที่มหาลัย ยายก็เลยให้พักที่นี้ซะเลย จะได้ไม่ต้องไปเสียเงินหาที่พักแพงๆ"

'จิ…ไอ้คนตอแหล' ภีมแอบบ่นกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆคุณยายที่กำลังตักข้าวให้คนหน้าหนาที่แสดงละครเก่งจนต้องยกรางวัลให้ เสือยักคิ้วยิ้มเหยียดแกล้งหยอกคนที่นั่งหน้าบึ้งให้ยิ่งหน้างอหนักเข้าไปอีก

"เอ้า ไม่กินข้าวเหรอภีม กินเสร็จแล้วก็ไปจัดที่นอนในห้องรับแขกให้พี่เขาด้วยนะลูก"

"ผมนอนกับภีมก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องยุ่งยาก อยู่ที่กรุงเทพฯก็นอน…ด้วยกันอยู่แล้ว"

ภีมถึงกับขบกรามแน่นเมื่อได้ยินสิ่งที่เสือจงใจพูด

"อ๋อ…แบบนั้นก็ได้ ว่าไงเจ้าภีม"

"อะ…ครับ"

ภีมทำได้เพียงตอบรับและก้มหน้าตักข้าวใส่ปากอย่างโกรธเคือง จนเมื่อข้าวมื้อเย็นหมดลงคุณยายจึงสั่งให้หลานๆขึ้นไปจัดห้องเตรียมตัวนอน ส่วนเรื่องจานชามเธอจะเป็นคนจัดการเอง ภีมหน้ามุ่ยเดินนำทางเสือขึ้นมาบนห้อง เขาอยากจะด่าอยากไล่อยากจะต่อยอีกคนให้น้วมคามือ แต่เนื่องจากตอนนี้อยู่บ้านคุณยาย จึงไม่อยากจะทำอะไรให้เจ้าของบ้านต้องเป็นกังวล

"เข้ามา มึงนอนพื้นไปละกัน ที่นอนผ้าห่มอยู่ในตู้ จัดการเอาเอง กูจะไปทำรายงานต่อ…ห้ามกวน"

คนพูดหันมาแยกเคี้ยวขู่ฟ้องใส่ แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานตั้งหน้าตั้งตาทำรายงานที่ต้องส่งอาจารย์ต่ออีกวิชา

"อืมม…ให้กูช่วยไหม วิชานี้กูเคยเรียนมาแล้ว"

เสือเดินมายืนคร่อมคนที่นั่งกดแป้นพิมพ์อย่างเอาเป็นเอาตาย เมื่อสัมผัสอุ่นของลมหายใจประทับลงไปบนกลุ่มผมนิ่ม คนที่นั่งปากเม้มปากเเน่นจึงหยุดชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะแกล้งทำเป็นไม่สนใจกดแป้นพิมพ์ต่อ เสือที่ยืนอยู่ด้านหลังจึงฉวยโอกาสกอดลงไปเต็มแรง พร้อมวางหน้าซบไหล่ขาวอย่างจงใจ

"อีก 2 เดือน งานแต่งจะจัดขึ้น"

"มึง…ปล่อยกู"

"ฟังกูพูดให้จบก่อนภีม"

เสือพยายามบีบรัดคนในอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีก เพราะเเรง ต้านของอีกคนก็มีไม่ใช่น้อย

"ที่กูทำไปทุกอย่าง มันมีเหตุผล และกูก็ไม่ได้…"

ก็อกๆ

"จัดห้องเสร็จรึยังเจ้าภีม"

"ครับๆ เสร็จแล้วครับ"

ภีมรีบดันแขนแกร่งที่รัดตัวออก แล้วเดินไปเปิดประตูให้ผู้เป็นยายเข้ามา

"งั้นเดี๋ยวภีมไปเดินเล่นที่วัวลายก่อนนะครับ ว่าจะไปซื้อของฝากด้วย"

"แล้วเพื่อนเราละลูก"

"เขาเพิ่งมาถึง คงอยากพัก ภีมไปคนเดียวดีกว่าครับ แล้วภีมจะรีบกลับนะครับ"

"อ้าว…ดะ เดี๋ยว…เจ้าภีม" ขี่สตา

คนตัวขาวรีบวิ่งหน้าตั้งออกไปโดยไม่สนใคร เขาขึ้นขี่ขับรถมอไซค์ออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้ทั้งสมองและจิตใจตีรวนจนแยกแยะไม่ออก ทุกอย่างมันอึดอัด เจ็บปวด สับสนจนไม่รู้จะระบายออกมาแบบไหน

ปรี้นน!

"เฮ้ย!"

รถมอเตอร์ไซค์ของภีมเกือบจะเฉี่ยวชนปะทะกับรถอีกคันที่วิ่งสวนมา ทำให้ภีมต้องหักหลบล้มลงไปข้างทาง คู่กรณีที่อยู่ข้างถนนจึงวิ่งหน้าตื่น รีบเข้ามาพยุงคนที่นอนกองอยู่กับหญ้าข้างทาง

"คุณ เป็นอะไรไหม"

"ซี๊ด…เจ็บขานิดหน่อยครับ…ขอโทษด้วยครับ คือผมขับรถผิดเลน ผมผิดเองครับ"

"ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ไม่ได้เป็นอะไร…อ้าว! นาย…"

ภีมมองหน้าคนที่ทำท่าทางเหมือนรู้จักเขามาก่อนอย่างงงงวย

"เราเจอกันที่น้ำตกไง…แล้วนายก็มาจูบ…"

"อะ อ๋อออ แฮะๆ ขอโทษอีกครั้งนะ…เออ ทั้งสองเรื่องเลย"

"ไม่เป็นไร แล้วลุกไหวไหม"

"ไหวๆ ขอบใจ"

"แล้ว…นี่นายจะกลับบ้านเหรอ"

"เปล่า…ว่าจะไปเดินเล่นที่ถนนวัวลาย"

"เฮ้ย งั้นไปด้วยกันเลย เราก็กำลังจะไปหาเพื่อนที่นั้น…เราชื่อนุ แล้วนายชื่ออะไร"

"ภีม"

"ภีมเหรอ…ชื่อน่า…รักดี" คนพูดชมพูดตะกุกตะกักจนเสียงเบา ทำให้ภีมต้องเงี้ยหูฟังว่าอีกคนต้องการจะสื่อสารอะไร

"หืม…อะไรนะ?"

"เปล่าๆ ไปกันเถอะ"

นุประคองคนตัวขาวให้ยืนขึ้น กก่อนจะพากันขี่รถไปยังปลายทาที่ถนนคนเดินวัวลาย วันนี้คนเยอะกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากใกล้จะถึงวันหยุดเทศกาล นักท่องเที่ยวจึงหลั่งไหลเข้ามาจนคนแน่นเอียด ภีมเดินดูของที่ขายตามร้านและข้างทางไปเรื่อยไม่ได้เจาะจงอะไรเป็นพิเศษ ผิดกับอีกคนที่เดินอยู่ข้างๆ นุดูเหมือนจะจดรายการของที่อยากได้เอาไว้หมดแล้ว

"ภีมอยู่ที่นี้เหรอ"

"เปล่าๆ มาหายายนะ เราเรียนอยู่ที่กรุงเทพฯ"

"อืมมม…น่าเสียดายนึกว่าจะได้เรียนใกล้กัน"

"นุ เรียนที่นี้เหรอ…อืมมม งั้นคงเรียนที่มช.สินะ"

"555 ใช่ๆ สอบติดไกลโคตร แต่ก็ต้องมาเรียนอะเนอะ"

ทั้งคู่คุยกันถูกคอจนแทบจะลืมไปเลยว่าเพิ่งรู้จักกันเป็นครั้งแรก จนเมื่อนุชวนให้ภีมไปนั่งดื่มกันในร้านที่นัดเพื่อนเอาไว้ ภีมเองก็ไม่ได้ขัดอะไร ถือว่าได้เจอเพื่อนใหม่และจะได้ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่านถึงคนที่ทำให้เขาต้องหนีมาอยู่ที่นี้

"เอ้า ชนนนน"

"เฮ้ย ภีม…ไหวไหมเนี่ย"

เข้ามานั่งในร้านไม่ถึงชั่วโมง ภีมก็เอาแต่นั่งซดเหล้าจนแทบอาบ เพื่อนๆที่อยู่ในโต๊ะเดี๋ยวกันต่างกุมขมับและงงงวยไปตามๆกัน

"ไอ้นุ กูว่ามึงพามันกลับไปก่อนเถอะว่ะ แม่งนั่งไม่ติดแล้ว"

"เออๆ งั้นกูกลับก่อนนะ เอ้านี้…ค่าเหล้ากูกับไอ้ภีม"

นุประคองคนเมาเดินมายังรถที่จอดไว้ ระหว่างทางภีมก็เอาแต่พูดพร่ำในเรื่องที่เขาไม่เข้าใจ

"ภีม เดินดีๆ"

"อึก…ไอ้ชั่ว มึงมันชั่ว มึงหลอกกู"

"ภีม...เดี๋ยว…เฮ้ย!"

ภีมผลักคนข้างๆจนเซไปกระแทกกับต้นไม้ ก่อนจะรีบเดินตามมาทุบตีเพราะคิดว่าเป็นคนที่กำลังนึกถึง

"ภีม…หยุด…กูเจ็บ ภีมหยุด!"

นุรวบข้อมือคนที่กำลังไม่ได้สติมาแนบอก ใบหน้าแดงก่ำของคนเมาจึงเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาจนอีกคนถึงกับตกใจ

"ฮึก…มึง…มึงมันไม่มีหัวใจ…ฮือออ ทำไมมึงทำแบบนี้"

"ภีม…"

เสียงสะอื้นร้องไห้พร้อมตัวที่สั่นเทา ทำให้นุต้องรีบดึงคนตรงหน้าเข้ามากอดปลอบ

"ไม่เป็นไรนะ ใจเย็นๆ ไม่เป็นไร"

เสียงนุ่มทุ้มพร้อมกอดปลอบอุ่นๆทำให้คนที่ร้องไห้เริ่มหยุดนิ่ง นุค่อยๆดึงคนในอ้อมกอดออกมามองหน้าให้เห็นชัดๆ ใบหน้าแดงกล่ำบวกกับดวงตาที่ปรือฉ่ำด้วยคราบน้ำตา ทำให้คนมองต้องกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ มือหนาเอื้อมไปปาดคราบน้ำตาที่ไหลข้างแก้มออกให้ พร้อมไล่นิ้วลงมาคลึงเกลี่ยปากแดงที่เม้มเข้าหากันจนคลายออก

"อย่าร้องนะคนดี…"

ใบหน้าที่อยู่ห่างกันไม่ถึงเซน เริ่มขยับเข้าหากันเรื่อยๆจนจมูกแทบจะชิดชนกัน ก่อนที่ริมฝีปากของทั้งคู่จะได้แตะสัมผัสกัน ก็มีฝามือหนามาทาบทับคันกลางไว้

"มึงจะทำอะไรเมียกู"

เสียงเย็นยะเยือกบ่งบอกถึงความไม่พอใจดังก้อง ก่อนที่ภีมจะถูกดึงออกไปอยู่ในอ้อมกอดของคนยืนเหงื่อท่วมกาย

"มึงเป็นใคร"

"มึงน่าจะรู้ว่ากูเป็นใคร…อย่ามายุ่งกับคนของกู"

"หึ…คนของมึงงั้นเหรอ…มึงดูแลคนของมึงแบบไหน เขาถึงได้ร้องไห้มาซบอกกูได้"

"สัด…อย่ามาเสือกเรื่องของกู"

"กูก็ไม่อยากเสือก…แต่ต่อไปกูเสือกแน่ ถ้าภีมมันร้องไห้เพราะมึงอีก

"มึง…!"

เสือกัดฟันขบกรามแน่น เขาจ้องมองหน้าอีกคนอย่างเครียดแค้น ซึ่งนุเองก็ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวใดๆ เขาจ้องมองกลับตอบไป ก่อนจะยิ้มเหยียดแล้วเดินไปที่รถขึ้นขี่มอไซค์ตัวเก่งก่อนสตาร์ทรถเร่งเครื่อง

"ถ้ามึงดูแลไม่ดีอีก ครั้งหน้า…อย่าหวังว่าจะได้กลับไป"

"สัด…มึง!"

ยังไม่ทันที่เสือจะได้พูดจบ นุก็ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปจบเกือบลับตา เสือพ้นลมหายใจเพื่อไล่ความโกรธก่อนจะพาคนเมาขึ้นรถกลับบ้าน ในระหว่างทางถึงแม้จะโกรธจนแทบบ้า เขาก็ต้องตั้งสติและระงับอารมณ์ให้ได้มากที่สุด เพราะเมื่อถึงบ้านคุณยายเขาต้องเข้าไปคุยรายละเอียดบางอย่างและขอตัวภีมกลับกรุงเทพฯทั้งๆที่ยังเมาค้างอยู่แบบนั้น