เกือบ 4 ชั่วโมงของการประชุม เสือหน้านิ่วกลับเข้ามาในห้องคนตัวสูงนั่งพิงเก้าอี้เอนตัวลงไปกับพนักพิงอย่างเหนื่อยหน่าย
"ไงมึง เหนื่อยมากเลยเหรอว่ะ"
"อืม ก็มีหลายอย่างที่ยังไม่ลงตัว"
ภีมมองคนที่นั่งหมดแรงอย่างกังวล ใบหน้าเหนื่อยล้าบวกกับคิ้วที่ขมวดอยู่ตลอดเวลายิ่งทำให้รู้สึกแย่ที่ตัวเองไม่สามารถทำอะไรเพื่อคนที่รักได้เลย
"หืมม"
สัมผัสอุ่นนุ่มของนิ้วมือค่อยๆกดนวดลงไปที่ข้างขมับหนาทั้งสองข้าง สีหน้าเคร่งเครียดของเสือเริ่มผ่อนคลายลงเมื่อรู้สึกถึงความห่วงใยของคนรักที่ส่งมาให้
"มึงกินอะไรไหม เดี๋ยวกูไปซื้อมาให้ ประชุมมาตั้งนาน"
"กูยังไม่หิว กูหิวมึงมากกว่า"
"สัด…จะไม่วนเข้าเรื่องลามกสักวันจะตายไหมห๊ะ!"
"หึ…ก็มึงทำตัวน่ารัก"
"จิ…น่ารักบ้านมึงสิ"
"ได้ไหมภีม…"
"อะไร?"
"กูกินได้ไหม"
"เชี้ย อะไรของมึงเนี่ย"
"จูบได้ไหมครับ"
เหมือนภูเขาไฟกำลังระเบิดออกจากตัว คนที่ถูกจู่โจมด้วยความอ่อนโยนและเสียงทุ้มนุ่ม กำลังชะงักเหมือนตกอยู่ในพะวัง
"อืออออ"
คนเจ้าเล่ห์อาศัยช่วงที่อีกคนเผลอกดคอขาวลงมาจูบ ริมฝีปากหนาบดเบียดดูดเม้มจนคนด้านบนตาลาย เมาไปกับรสจูบที่กดลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ไม่เคยจะทำใจให้ชินได้สักที
"อื้อ เสือ อย่า…เดี๋ยวมีคนเข้ามา"
"เวลาเลิกงาน"
"อ๊ะ เสือ!"
ท่านประธานใหญ่รีบอุ้มคนรักขึ้นนั่งบนโต๊ะทำงาน คนตัวสูงเร่งถอดเสื้อผ้าที่ขว้างกันออกจนหลุยลุ่ย ปากหนาขบกัดไปทั่วหน้าอกเนียนจนขึ้นรอย
ก๊อกๆ
"เสือ!"
เสียงเคาะประตูดังอยู่หลายครั้ง แต่ดูเหมือนเจ้าของห้องแทบจะไม่ได้ใส่ใจ
"ท่านประธานค่ะ ดิฉันขอเข้าไปเก็บของว่างที่นำไปเสริฟค่ะ"
"ชิบ…เดี๋ยว! รอแปบหนึ่ง"
เสือตอบกลับอย่างหัวเสีย เขาควรจะขึ้นเงินเดือนให้กับเลขาที่ทำงานเกินหน้าที่ หรือควรจะย้ายไปอยู่แผนกอื่นที่เหมาะกับความขยันนี้ดี ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออก เสือจึงหยิบเสื้อโค้ทตัวใหญ่ของตนมาคลุมร่างคนที่นั่งบนตักเขาไว้จนมิด
"เออ…คือ…ขออนุญาตค่ะ…งั้นดิฉันขอตัวกลับบ้านเลยนะคะ ท่านประธานไม่มีอะไรเรียกใช้แล้วใช่ไหมคะ"
"ครับ เชิญครับ แล้วล็อกประตูให้ผมด้วย"
เลขาสาวก้มหน้าก้มตาเก็บจานและแก้วบนโต๊ะ ก่อนจะเดินเลิ่กลักหน้าตื่นออกจากห้อง พร้อมล็อกประตูให้ตามที่เจ้านายสั่ง
"เชี่ย…ปล่อยเลยไอ้เสือ"
คนบนตักดิ้นพล่านหลังจากที่ต้องค่อยเอาหน้าซุกกับอกแกร่งอยู่นานสองนาน ความอับอายและความกลัวแปรเปลี่ยนมาเป็นความตื่นเต้นเข้าแทนที่
"เสือ…เดี๋ยว!"
ร่างสูงอุ้มคนรักนั่งบนโต๊ะแล้วผลักให้นอนราบลงไป กางเกงยีนส์สีซีดถูกดึงรั้งลงมากองไว้ที่พื้น ขาขาวจึงปรากฎเด่นชัดอยู่ตรงหน้า เสือรีบจับมันขึ้นมาเกี่ยวพาดบ่า ปากหนาค่อยๆบรรจงจูบลงไปบนข้อเท้าแล้วไล่เลียมาจึงถึงโค่นขาอวบ
"อ๊าาา เสืออ อย่า…มันเสียว"
ฟันคมขบกัดช่วงโค่นขาอยู่นานจนพอใจ คนตัวสูงจับแท่งกายแข็งของภีมที่ตั้งอยู่ตรงหน้ารูดสาวจนมันบวมเปร่ง ร่างขาวร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่านเมื่อมือใหญ่เร่งชักให้จนแทบเสร็จ
"อ่าาาห์ เสือ ไม่ไหวแล้ว"
"หึ…กูยังไม่ให้มึงเสร็จ ภีม"
เสือจับท่อนเอ็นใหญ่ดุดันเข้าไปในรูแคบ พร้อมเร่งชักของอีกคนขยับไปด้วย ก่อนจะอุ้มร่างที่นอนร้องครางอยู่บนโต๊ะขึ้นมากระแทกในท่ายืน จังหวะเร่งเร้าทำคนโดนสอดใส่แทบขาดใจ
เพี๊ยะ!
"อ๊ะ เสือ…ซี๊ดดด"
"กอดคอแน่นๆ…ซี๊ดด เดี๋ยวตก"
เสียงตีก้นขาวผสมกับเสียงกระแทกรูแคบ ยิ่งกระตุ้นความปราถนาให้ถึงขีดสุด
"อ๊าาา ภีม…อือออ"
"เสืออ ดะ เดี๋ยว อย่า…"
"ซี๊ดดดด ไม่ไหวแล้วจะแตกแล้ว อ่าาาห์"
เสือบีบก้นคนที่อุ้มไว้แน่นก่อนจะฉีดน้ำขุ่นเหนียวใส่รูเล็กจนล้นทะลัก เขาวางคนรักลงบนโต๊ะทำงานแล้วค่อยๆถอดแท่งกายออก คราบน้ำขุ่นจึงไหลเปื้อนลงมาตามง่ามขา
"เสือ…"
ท่านประธานนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง ดวงตาหรี่ตามองคนรักที่กำลังรูดสาวแท่งกายอูมสีชมพูเข้มอย่างเว้าวอน
"อะไร ภีม"
"ช่วย อื้อออ"
คนที่ยังไม่เสร็จพยายามอ้อนวอนให้คนรักช่วยปลดปล่อยความอึดอัดนี้ให้ออกไปเสียที
"ขึ้นมาขย่มเอง ถ้าอยากเสร็จ"
"เสือ…มึง!"
แท่งกายใหญ่ที่เพิ่งเสร็จไป มันกลับมาตั้งชูชันอีกครั้ง แน่นอนว่าคนขี้แกล้งกำลังยั่วประสาทให้คนรักช่วยตัวเองต่อหน้าแถมยังให้ขย่มขึ้นเองอีก
"เร็ว ภีม…ของกูเเข็งแล้ว"
"จิ…เสือ มึงแกล้งกู"
คนที่นั่งหน้าแดงอยู่บนโต๊ะช่างใจไม่นาน ก้นงอนก็ค่อยๆขยับนั่งลงบนตักพร้อมกับกดรูก้นเข้าไปบนแท่งเอ็นจนเกือบสุดโค่น
"ซี๊ดดด ภีม…โคตรแน่น"
"อืออ เสือ อย่า…เพิ่งขยับ อ่าา"
คำขอร้องแทบไม่เป็นผล เสือกอดคนบนตักไว้แน่น แล้วกระแทกเข้าใส่หลายที ก่อนจะปล่อยให้คนด้านบนขย่มลงมาเองตามใจชอบ
"อ่าาา เสือ เสร็จ จะเสร็จแล้วว อ้าาาาห์"
"อืออออ ซี๊ดด"
ภีมเร่งขย่มจนเก้าอี้ดังเอี๊ยดอ๊าด มือก็รูดสาวของตัวเองพร้อมกันไปด้วย จนความอัดเเน่นที่มีมาได้แตกกระจ่ายพุ่งเต็มมือ พร้อมกับความอุ่นวาบพุ่งใส่รูก้นจนเลอะเต็มรู
"ขึ้นห้องกัน"
เสือจับร่างขาวใส่เสื้อผ้าลวกๆ ก่อนจะพาขึ้นไปพักยังเพ้นท์เฮ้าส์ที่อยู่ด้านบนสุดของตึก เมื่อมาถึงห้องล้างตัวเสร็จทั้งคู่จึงหลับไปพร้อมกันจนถึงกลางดึก เสียงท้องร้องเพราะความหิวก็ทำเอาคนที่กำลังหลับสบายต้องงัวเงียตื่น
"จิ…มาหิวอะไรตอนนี้ว่ะไอ้ภีม"
ภีมลุกออกมาจากเตียง เดินสำรวจห้องไปเรื่อยๆเนื่องจากเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก ก่อนจะเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ที่เป็นห้องครัวขนาดเล็ก คนตัวขาวเปิดตู้เย็นหาของกินเพื่อหยุดเสียงท้องร้องที่น่ารำคาญให้เงียบลง โชคดีที่มีพิซซ่าถาดใหญ่และไอศกรีมพร้อมน้ำอัดลมอยู่ในตู้ ภีมเอาพิชช่าไปอุ่นในไมโครเวฟ ระหว่างรอก็เดินไปดูในห้องรับแขกที่มีกองเอกสารมากมายวางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟา เผอิญสายตาดันไปสะดุดกับกองแผ่นการ์ดที่มีหลายแบบหลายขนาดวางตกอยู่ เขาหยิบมันขึ้นมาดู พลิกไปพลิกมาแล้วเปิดออก
"…!?"
เหมือนถูกสายฟ้าฟาดลงกลางอก ตัวอักษรที่เขียนไว้บนแผ่นการ์ด S&F การตกแต่งและดีไซน์เดาไม่ผิดแน่ 'การ์ดแต่งงาน' คนที่ยืนนิ่งกำลังสับสบและตกใจจนร้องไห้ไม่ออก มันจุกอยู่ในอกในหัวขาวโพลนไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรก่อนดี ภีมยืนมองแผ่นการ์ดในมืออยู่หลายนาที ไม่นานขาเรียวที่แทบจะหมดเเรงก็เดินออกจากห้องไปพร้อมน้ำตา
"อืมมม…ภีม…"
เกือบเช้า คนที่หลับไม่รู้เรื่องงัวเงียตื่นพร้อมควานหาคนที่นอนด้วยกันข้างกายแต่กลับไม่เจอ เสือเดินออกมาจากห้องมองหาคนรักไปทั่วแต่ก็ยังไม่พบ ร่างสูงเดินหน้าเครียดเมื่อยิ่งหายิ่งเจอแต่ความว่างเปล่า ก่อนที่จะคิดขึ้นได้ เขารีบเดินไปยังกองแผ่นการ์ดงานแต่งที่เผลอวางทิ้งไว้บนโต๊ะ มีใบหนึ่งที่ถูกขยำจนยับพร้อมคราบหยดน้ำ ซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าตอนนี้คนรักได้หายไปไหน เพราะอะไร
"เชี้ยเอ้ยยย"
เสือรีบกดโทรศัพท์ไปยังปลายสายที่เขามั่นใจว่าต้องได้คำตอบที่ต้องการ แต่มันกลับไม่เป็นไปตามคาด ภีมไม่ได้กลับบ้านและไม่ได้ไปมหาลัย คนตัวสูงโทรไปหาทุกคนที่ภีมรู้จักแต่กลับไม่มีคำตอบที่น่าต้องการกลับมา
"ไอ้ภีม…แม่งเอ้ย ไปไหนของมึงว่ะ"
หลังจากคิดอยู่สักพัก เสือตัดสินใจขับรถออกจากห้องแล้วตรงไปยังบ้านของภีมที่อยุธยา เขาพยายามถามคนที่บ้านทั้งพ่อและแม่ของภีม หรือเพื่อนสนิทที่รู้จัก แต่ก็ไม่มีใครสามารถตอบได้ว่าภีมหายไปไหน ยิ่งกลับทำให้ทุกคนที่ไม่รู้เรื่องเป็นห่วงเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ
"พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะตามภีมกลับมาให้ได้"
"แล้วพวกลูกทะเลาะเรื่องอะไรกัน ดูท่าภีมจะโกรธมาก"
"คือ…ผมผิดเองครับ ผมแค่อยากอธิบายให้เขาฟัง"
"เฮ้อออ…งั้นก็เดี๋ยวแม่ขอคิดก่อน เจ้าภีมมันจะไปไหน"
ผู้เป็นแม่พยายามนึกถึงสถานที่ที่ลูกชายคนเดียวของเขาชอบไป คิดไปคิดมาจนมานึกขึ้นได้ว่าคงมีแค่ที่นี้ที่เดียวที่ภีมมักจะไปบ่อยๆ แต่เธอก็ยังลังเลที่จะบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ เพราะเป็นห่วงความรู้สึกของลูกชาย