webnovel

0402 ข้ามผ่านความโหดร้าย

ตอนที่ 402 ข้ามผ่านความโหดร้าย

กู่ฉิงซานเงยหน้าขึ้น มองตามขั้นบันไดที่ทอดยาวออกไป

ณ จุดสูงสุดของขั้นบันได

ปรากฏให้เห็นถึงชั้นม่านแสงสีดำที่ถูกแต่งแต้มด้วยจุดแสงดวงดารางดงาม มันปกคลุมไปตลอดทั้งสังเวียนประลอง ราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

กู่ฉิงซานปล่อยจิตสัมผัสเทวะออกไปสัมผัสกับแสงสีดำ แต่มันก็ถูกสะท้อนกลับมาด้วยชั้นแสงนี้

ดูเหมือนว่าฉากในสังเวียน จะไม่สามารถตรวจสอบจากภายนอกได้

“ดูลึกลับจริงๆ”

กู่ฉิงซานกล่าวเสียงกระซิบ

หนึ่งมือกุมดาบขุนเขาเทวะหกโลกา สองเท้าเริ่มก้าวเดินไต่ระดับขึ้นไปตามขั้นบันได

แล้วเขาก็ข้ามผ่านทั้งหนึ่งพันแปดร้อยขั้นขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

ร่างของกู่ฉิงซานเดินชนเข้ากับม่านแสงสีดำ

วืด!

ในวิสัยทัศน์เกิดการบิดเบือนราวกับโลกพลิกตลบ

แล้วจากนั้นจู่ๆ เขาก็ร่วงตกลงมายังพื้นที่เปิดโล่ง

มันคือพื้นที่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ

สายลมเย็นพัดผ่านท้องฟ้า

ล้อมรอบไปด้วยผืนป่ากันดารอันกว้างใหญ่

กลางค่ำคืน

กู่ฉิงซานย่อตัวลง เอื้อมมือไปคว้าจับหิมะมากำในมือ

มันช่างเย็นและสดชื่น

ความรู้สึกเหล่านี้...มันเป็นของจริง! นี่ทำให้กู่ฉิงซานค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อย

“ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือของไม้เท้าแห่งการจองจำอย่างนั้นหรือ?” เขาเอ่ยถาม

“ใช่ อำนาจของมันแข็งแกร่งเกินไป แม้ว่าจะไม่ได้มีพลังศักดิ์สิทธิ์ของจิตอาร์ติแฟคอยู่แล้วก็ตาม แต่ด้วยตัวไม้เท้าเอง ก็ยังคงมีชุดพลังศักดิ์สิทธิ์ที่คาดไม่ถึงอีกอยู่ดี” ฉานนู่กล่าว

“ไม่ได้มีจิตอาร์ติแฟคแต่กลับทรงอำนาจถึงเพียงนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดมันจึงสามารถรับมือกับเทพวิญญาณได้” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยอารมณ์

ในขณะนั้นเอง กู่ฉิงซานก็ได้ยินเสียงอันคลุมเครือลอยมาตามสายลม

กู่ฉิงซานหันไปตามเสียง มองออกไปในระยะไกล

เห็นแค่เพียงเมื่อข้ามผ่านผืนป่ากันดารไป ก็จะเป็นมหาสมุทรอันไร้ที่สิ้นสุด

และบริเวณชายฝั่ง มีเรือขนาดใหญ่จอดทอดสมออยู่

แม้จะอยู่ในช่วงเวลาค่ำคืน ทว่าภายในเรือตลอดทั้งลำกลับสว่างไสว

ในความมืดมิด ข้อมูลได้ปรากฏขึ้นในจิตใจของกู่ฉิงซาน

นี่คือคำร้องจากไม้เท้าแห่งการจองจำที่ส่งผ่านมาทางอากาศ

“จงขึ้นไปบนเรืออย่างนั้นหรือ?” กู่ฉิงซานเอ่ยพึมพำ

ทว่าในตอนนั้นเอง จู่ๆ เขาก็หมุนดาบในมือ แล้วจ้วงแทงมันออกไปยังเบื้องหลัง!

ท่ามกลางความมืดมิด สิงโตตนหนึ่งผลุบออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย มันวิ่งกระโจนพร้อมกับปากที่อ้ากว้าง!

เดิมทีมันตั้งใจจะลอบโจมตีกู่ฉิงซาน แต่ตนไม่คาดคิดเลยว่า กู่ฉิงซานจะหมุนดาบสวนกลับมาในทันควัน!

ดาบยาวพุ่งแทงมาโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ และสิงโตก็มิอาจหลบเลี่ยง

‘กลับกลายเป็นข้าที่ถูกโจมตีแทนเสียเองหรือนี่?’ เกิดความคิดแปลกๆ แล่นเข้ามาในจิตใจของสิงโต

แล้วดาบยาวก็แทงทะลุเข้าปากที่อ้ากว้างของมัน เสียบ! ลึกเข้าไปถึงภายในร่างอสูรของอีกฝ่าย

ฉากนี้ราวกับว่าเป็นตัวสิงโตที่โยนตนเองเข้าสู่คมดาบ ถูกเสียบราวกับเนื้อย่างลอยค้างอยู่กลางอากาศ

“ว๊าก!”

เมื่อตกอยู่ในสภาพน่าสมเพช กรงเล็บจากเท้าทั้งสี่กางออก กวัดแกว่งไปมา ดิ้นรนขัดขืนขณะเปล่งเสียงร้องอย่างน่าอนาถ

“เดรัจ โอ้ไม่สิ นี่มันสหายจากอาณาจักรจ้าวอสูรนี่นา มีอะไร? ต้องการที่จะมาทักทายข้าอย่างนั้นหรือ?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

สิงโตรีบพยักหน้าหงึกๆ อย่างรวดเร็ว

ฉึบ!

แล้วกู่ฉิงซานดึงดาบยาวออกจากปากของมัน

สิงโตก็ได้อิสระกลับคืนมาอีกครั้ง

มันเปล่งเสียงคำรามอย่างดุร้าย!

“โฮก! เจ้ามนุษย์บัดซบ ข้า”

ฉึก!

ดาบยาวจ้วงเข้าไปในปาก แทงเข้าแผลเดิมของสิงโตอีกครา

อย่างที่เคยได้อธิบายไป สำหรับดาบขุนเขาเทวะหกโลกา หากเทียบกับดาบทั่วๆ ไปแล้ว มันนับว่ามีความยาวมากกว่าอยู่หลายส่วน ดังนั้นการเสียบทะลุผ่านทั้งร่างของสิงโตนั้น ไม่นับว่ามีปัญหาเลย

กู่ฉิงซานยกดาบขึ้น

แล้วฉากที่แลดูราวกับสิงโตเสียบไม้ก็ปรากฏขึ้นอีกครา เท้าทั้งสี่ของมันกวาดไปมาในอากาศที่ว่างเปล่าอย่างหมดหนทาง

“สหาย พอดีว่าข้าเพิ่งมาใหม่ แต่เจ้ากลับเจตนาที่จะข่มให้ข้าหวาดกลัวอย่างนั้นหรือ?” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจ

“โอ๊ยๆ ข้า...ข้าผิดไปแล้ว! โอ๊ย...”

สิงโตพยายามร้องขอความเมตตาอย่างยากลำบาก

คราวนี้มันพูดความจริงแล้ว

ดาบของฝ่ายตรงข้ามรวดเร็วเกินไป มันไม่อาจหลบเลี่ยงได้เลย

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายมีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงยิ่ง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายสามารถเอาชีวิตมันได้ตลอดเวลาหากต้องการ

“งั้นเราก็มาพูดคุยกันดีๆ นะ ตกลงไหม?” กู่ฉิงซานยื่นข้อเสนอ

สิงโตเร่งพยักหน้าอีกครั้งและอีกครั้ง ยินยอมรับข้อเสนอ

แล้วดาบยาวก็ถูกดึงกลับคืน

“เช่นนั้นสหายจากอาณาจักรจ้าวอสูร เหตุใดเจ้าจึงไม่ขึ้นไปบนเรือ แล้วเตร่อยู่ที่นี่กันล่ะ?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

สิงโตนั่งลงบนพื้น เอ่ยปากอย่างหดหู่ว่า “ก็การคัดเลือกมันจบลงแล้วน่ะสิ ไปที่นั่นไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี”

“ไม่นะ เท่าที่ข้ารู้ นรกทะเลเลือดยังมิได้เลือกตัวตนที่แกร่งที่สุดคนสุดท้ายเลยนี่” กู่ฉิงซานพูด

สิงโตกล่าว “ผิดแล้ว การคัดเลือกจริงๆ นั้นมันจบลงไปแล้วต่างหาก แต่ด้วยห้วงอารมณ์และจิตสำนึกของตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดของนรกทะเลเลือดน่ะมันวิปลาส จึงยังไม่ยินยอมที่จะขึ้นไปบนเรือเสียที”

“ไม่ยินยอมขึ้นไปบนเรือ?” กู่ฉิงซานขมวดคิ้ว

“ใช่แล้ว เพราะมันยังกินไม่อิ่มน่ะสิ”

สิงโตดูเหมือนจะย้อนระลึกได้ถึงบางสิ่ง ทันใดนั้นตัวมันก็เริ่มสั่นสะท้าน

“กินไม่อิ่ม?”

“ถ้าเจ้าได้เห็นมัน เจ้าก็จะเข้าใจเอง” สิงโตกล่าวอย่างช้าๆ ดูเหมือนว่ามันกำลังวัดความแข็งแกร่งของกู่ฉิงซานอยู่

ในระหว่างการสนทนาของหนึ่งคนหนึ่งสิงโตนั้นเอง คนตายนับไม่ถ้วนก็ค่อยๆ ตีวงเข้ามาโอบล้อมพวกเขาอย่างเงียบๆ

ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ มนุษย์ปีศาจ สัตว์อสูร ชูร่า แออัดกันมานับไม่ถ้วน

“หน้าไม่คุ้นแฮะ” บางคนกระซิบ

“มันไม่ใช่ตัวตนที่แข็งแกร่งจากนรกของเรานี่”

“มีใครรู้จักเขาบ้างไหม?”

กู่ฉิงซานกำลังมองไปยังฝูงคนตาย ก่อนจะแตะลงบนหัวของสิงโตแล้วแถว่า “ข้าเป็นสหายของเจ้านี่น่ะ พอดีข้าได้ยินมาว่ามันปรารถนาที่จะเป็นราชาภูต ดังนั้นข้าจึงมาดูมันเข้าร่วมแข่งขัน”

พอได้ฟัง เหล่าคนตายก็ผ่อนคลายลง

“เฮ้ย! ข้าไม่ใช่เพื่อนมัน! แถมยังไม่เคยเจอมันมาก่อนเลยด้วย! ทุกคนรีบช่วยกันฆ่าไอ้เด็กนี่เร็วเข้า!” สิงโตตะโกน

แล้วคนตายก็กลับมาเขม็งเกร็งกันอีกครั้ง

“นี่มันน่ารำคาญจริงๆ” กู่ฉิงซานบ่น

ท่ามกลางความมืดมิด วงดาบแสงจันทร์ที่โค้งมนขนาดใหญ่ผุดออกมาจากชั้นอากาศบางๆ

ด้วยคมดาบนี้ ทั้งเลือดและเนื้อพลันกระพือว่อนไปทั่ว!

ทว่าก่อนที่ฝนเลือดจะโปรยปรายลงในตำแหน่งนี้ มันก็ถูกพัดเป่า หายไปโดยกระแสลมอันดุร้ายจากคมดาบเสียก่อน

แสงจันทร์ค่อยๆ จางหายไปอย่างช้าๆ

ตามด้วยร่างของกู่ฉิงซานที่ปรากฏขึ้น พร้อมด้วยสีหน้าหนักใจเล็กน้อย

นั่นเพราะในช่วงเวลาที่รังสีดาบสว่างขึ้น ในวิสัยทัศน์ของเขา ค้นพบว่าตลอดทั้งบริเวณนี้ มันเต็มไปด้วยคนตายจำนวนมากที่แออัดกัน! มากมายจนมิอาจนับไหวเลย!

กล่าวได้ว่าตัวตนที่แข็งแกร่งจากนรกทะเลเลือด เข้าไปกระจุกตัว รวมกันอยู่ในผืนป่ากันดารที่เป็นทางผ่านสู่เรือใหญ่ในทะเลทั้งหมดเลย!

มันเยอะจนเบียดเสียดกันชนิดที่ว่าไม่มีกระทั่งที่ว่างเว้นไว้สำหรับนั่งข้างๆ กัน!

ภายในป่ากันดาร พวกมันต่างห้ำหั่นกันและกันอย่างไร้อารยธรรม ราวกับเพียงแค่มองหาความสนุกจากการฆ่าฟันกันเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าพวกมันจะแค่สู้กันเอง แต่ไม่มีตนใดกล้าที่จะเฉียดเข้าไปใกล้กับเรือใหญ่ที่ส่องสว่างเลย

ฉะนั้นด้วยรูปการณ์นี้ ก็พอจะบอกได้ว่า ตัวตนที่ได้รับการยอมรับว่าแข็งแกร่งที่สุด...คงมิแคล้วอยู่ใกล้กับเรือใหญ่เป็นแน่

อย่างไรก็ตาม ตัวตนแข็งแกร่งที่ว่านั่น ดูเหมือนว่าจะมีความคิดที่ผิดแผกออกไป ดังนั้นมันจึงยังไม่ยินยอมขึ้นไปบนเรือ

“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องรีบหน่อยแล้ว ก่อนที่มันจะเปลี่ยนใจ”

กู่ฉิงซานบ่นงึมงำ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะกล่าวแบบนั้น แต่เขาก็ยังยืนถือดาบขุนเขาอย่างนิ่งๆ มิได้เคลื่อนกายไปไหน

“เหตุใดจึงยังไม่ก้าวเดิน เจ้าไม่ได้ต้องการที่จะต่อสู้เพื่อตำแหน่งราชาภูตหรอกหรือ?” ฉานนู่อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

“ไม่หรอก ต้องการอยู่แล้ว แต่นับจากนี้ไป ข้าจะต้องข้ามผืนป่ากันดาร และจะต้องฝ่าดงคนตายนับไม่ถ้วนที่เข้ามาโจมตีเนี่ยสิ”

“ดังนั้น เจ้าเลยจะเอาแต่ยืนอยู่แบบนี้อย่างนั้นหรือ?” ฉานนู่บ่น

ขณะที่เขากำลังจะกล่าวตอบนั้นเอง จู่ๆ ก็มีแมมมอธยักษ์ย่ำเท้าจนผืนดินสั่นสะเทือน ตรงเข้ามาหาเข้าอย่างบ้าคลั่ง!

มันพยศชูสองเท้ามหึมาเบื้องหน้าขึ้น และเหยียบ! ทิ้งน้ำหนักย่ำลงใส่กู่ฉิงซานที่อยู่เบื้องล่างอย่างแรง!

“เจ้ามนุษย์ตัวจ้อย จงตายเสีย! ข้าจะบี้ร่างเจ้าให้กลายเป็นเนื้อเหลว!”

แมมมอธตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

ทว่าขณะเดียวกัน รังสีดาบระยับก็พร่างพราวออกมาคั่นกลางในอากาศที่ว่างเปล่าระหว่างทั้งสอง

ร่างของแมมมอธยักษ์ชะงันไปทั้งๆ อย่างนั้น มิอาจเคลื่อนกายต่อได้

กู่ฉิงซานก็ใช้ออกด้วย ‘ไม่ยอมอ่อนข้อ เจียงซี’ ซึ่งเป็นสกิลวิวัฒน์ของขั้นสองของสายฟ้าเล่ยเดี๋ยน ที่สามารถทำให้ศัตรูสูญสิ้นการควบคุมร่างกายเป็นระยะเวลาหนึ่งได้!

แล้วสองวินาทีก็ผ่านพ้น พร้อมกับเจ็ดดาบที่ถูกฟาดฟันออกไป

ในวินาทีต่อมา เจ็ดจุดดวงดาราก็กะพริบไหวอยู่บนตัวดาบยาว

แสงสวรรค์เจิดจรัสและหลอมรวมเข้าด้วยกันราวกับว่าพวกมันกำลังเรียกขานหาบางสิ่ง

กู่ฉิงซานทุ่มสุดกำลัง คว้าจับดาบด้วยสองมือ และสับลงไปยังเบื้องหน้าอย่างรุนแรง!

ทุกสิ่งอย่างเกิดขึ้นในพริบตาเดียว

เส้นแสงของสายฟ้าเล่ยเดี๋ยนทะยานออกมาจากดาบยาวในฉับพลัน

ประกายสายฟ้าเล่ยเดี๋ยนสาดแสงระยับ ทอแสงและเงาออกไป เติมเต็มช่วงค่ำคืนอันมืดมิดนี้ให้กลายเป็นโลกแห่งแสงสว่าง

เจ็ดดารา มังกรแหวกธารา!

หัวมังกรยักษ์ที่ประกอบไปด้วยเล่ยเดี๋ยนบินออกจากดาบ แล้วงับ! แมมมอธเข้าไปในปากของมัน

และแมมมอธก็สิ้นใจไปในพริบตา

ทันทีหลังจากที่หัวยักษ์ของมังกรผุดออกมาบดขยี้ศัตรู ส่วนร่างของมันถูกหลอมสร้างขึ้นโดยรังสีดาบและสายฟ้าเล่ยเดี๋ยนก็ผุดตามมาจากตัวดาบ

“รอข้าก่อน” กู่ฉิงซานเอ่ยออกมา

ราวกับมีจิตนึกคิด มังกรสายฟ้าในอากาศชะงักไปเล็กน้อย

แล้วกู่ฉิงซานย่ำฝีเท้าลงจนหิมะบนพื้นแตกกระจาย ทะยานตัวขึ้นไปยืนเหนือหัวของมังกรสายฟ้า

โฮก!

มังกรสายฟ้าเปล่งคำรามสั่นสะเทือนทั้งสวรรค์และโลก

แล้วกู่ฉิงซานก็ชี้ปลายดาบออกไปยังเบื้องหน้า

มังกรสายฟ้าว่ายวนในอากาศ ทำการเปลี่ยนทิศทางเล็กน้อย จากนั้นก็พุ่งตัดผ่านผืนป่ากันดารที่คลาคล่ำไปด้วยเหล่าคนตายเหลือคณาโดยตรง!

ได้ยินเพียงเสียงสายลมที่หวีดผ่านเข้ามาในหู

ขณะที่ทิวทัศน์โดยรอบเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

เหล่าคนตายที่กระจุกตัวอยู่ในป่ารกร้าง เมื่อต้องเผชิญกับพลังอำนาจของสายฟ้าสวรรค์ พวกมันก็หวาดกลัว สิ้นซึ่งหนทางต่อต้าน แตกกระเจิงเปิดทางกันออกไป

ในพริบตาเดียว เขาก็ได้มาถึงเรือใหญ่แล้ว

และเวลานี้ กู่ฉิงซานก็ยังสามารถมองเห็นถึงฉากบนเรือได้อีกด้วย

คนตายสิบกว่าคนกำลังยืนอยู่บนเรือ แยกกันเป็นกลุ่มเล็กๆ หลายกลุ่ม

กู่ฉิงซานมองเห็นเจ็ดผู้คุมนรกที่เขาเคยได้พบกันมาก่อนหน้านี้

เนื่องจากมังกรสายฟ้านั่นมันสะดุดตามาก เจ็ดผู้คุมนรกจึงสามารถเห็นร่างของกู่ฉิงซานที่ยืนอยู่เหนือหัวมังกรได้อย่างชัดเจน

สีหน้าของเจ็ดผู้คุมดูจะประหลาดใจเป็นอย่างมาก

ทว่ากู่ฉิงซานมิได้สนใจพวกเขา แต่ก้มลงมองไปที่เรือ

เห็นแค่เพียงยักษ์ที่ดูสูงใหญ่และแข็งกร้าวกำลังนั่งอยู่หน้าทางเข้าเรือ

ยักษ์ตนนั้นก่อกองไฟขึ้นและบางครั้งก็โยนพวกคนตายลงไปย่าง

จากนั้นบางคนที่ถูกจับโยนลงไปก็ถูกคว้าจับขึ้นมาและโดนยัดเข้าไปในปากของมัน

ยักษ์เคี้ยวๆ และกลืนลงไปโดยไม่คำนึงถึงเสียงร้องอันน่าพรั่นพรึงที่อยู่ในปากของมัน

ดูเหมือนว่านี่สินะ คือเจ้าการดำรงอยู่ที่สิงโตกล่าวถึง

ยักษ์ใหญ่เงยหน้าขึ้น เห็นได้ชัดว่ามันก็สนใจมังกรสายฟ้าเช่นกัน

มันลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคง แล้วคว้าจับขวานหินในมือ

“ย่างคนกินอย่างนั้นหรือ? ผลกรรมที่แกกระทำกำลังจะคืนสนองแล้ว”

กู่ฉิงซานบ่นงึมงำ

เขายกมือที่ถือดาบขึ้น และชี้นิ้วออกไป

ทันใดนั้นมังกรสายฟ้าก็โฉบลงมาจากท้องฟ้า

มังกรสายฟ้าอ้าปากกว้าง เตรียมพร้อมที่จะงับเข้าใส่ตัวยักษ์

ยักษ์แกว่งขวานหินเข้าสู้  ทว่าคมขวานของมันราวกับตัดเข้าใส่อากาศ ทะลุผ่านตัวมังกรไปโดยตรง!

มังกรสายฟ้าอ้าปากอย่างดุร้าย และงับ! กลืนยักษ์ใหญ่ลงไป!

“อ๊าก!”

ยักษ์ใหญ่หวีดร้องออกมาอย่างน่าสมเพช

ด้วยนักดาบนิรันดร์ที่เป็นถึงขอบเขตก้าวสู่เทพขั้นปลาย สำแดงเดชด้วยเจ็ดดารามังกรแหวกธาราอย่างเต็มกำลัง พลังอำนาจของมันย่อมผิดแผกและร้ายแรงเกินกว่าที่คนทั่วไปจะจินตนาการไหว!

ไม่นานนัก กลิ่นไหม้เกรียมก็โชยออกมาจากร่างของยักษ์ใหญ่

กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง

แล้วยักษ์ใหญ่ร่วงล้มลงกับพื้น ทับลงบนกองไฟที่ตนก่อขึ้นเอง

ขณะเดียวกัน กู่ฉิงซานก็ร่อนลงบนพื้นดิน

แล้วเขาก็ได้รับข้อมูลที่มองไม่เห็น ผ่านเข้ามาในจิตใจทันที

“ผู้แข็งแกร่งที่สุดจากนรกทะเลเลือด โปรดจงขึ้นมาบนเรือด้วย”

…………………………………………….