webnovel

ทรราชเกิดใหม่ไหงกลายเป็นพ่อคนได้เนี่ย

หน้าที่เก่าคือจัดการกับปีศาจสุดเขตจักรวาลที่มารุกราน อาจเพราะข้าแข็งแกร่งเกินไปพวกเทพเจ้าจึงหวาดกลัว และด้วยพันธสัญญาสัจประทับกายจึงทำให้ข้าไม่สามารถโจมตีเทพเจ้าบัดซบได้ เมื่อพวกมันรู้จุดนี้ก็แห่มาบูลี่ กดดันกีดกันวิถีชีวิตของข้า สร้างความรำคาญเนิ่นนานไม่หยุดหย่อน จนกระทั่งข้าเบื่อ ไหนๆก็ไม่สามารถโจมตีพวกแม่งนั้นได้ อีกทั้งข้าอยู่นานจนไม่รู้จะอยู่ไปทำไม วันๆเอาแต่ฆ่าปีศาจ เลยตัดสินใจทำลายตัวเองไปสู่ความสงบนิรันดร์ แต่ไหงกลายเป็นว่ามาเกิดใหม่ได้เนี่ย แถมยังกลายเป็นพ่อคนอีก ที่สำคัญที่สุดคือทุกอย่างในอดีตได้ตามมาหลอมรวมกับร่างกายใหม่ ยกเว้นแต่พันธสัจประทับกายที่ไม่มีอีกแล้ว หึ ในเมื่อไม่มีพันธนาการบัดซบ ชาตินี้ขอตบเทพให้เลือดกบปากเลยละกัน

AU_Warawat_Norkham · Fantaisie
Pas assez d’évaluations
10 Chs

ตอนที่ 6 ตกลงซื้อขาย

ผู้เรียกเป็นชายหนุ่มมาดผู้ดีมีเงิน เสื้อผ้าที่สวมใส่ล้วนเป็นของมีราคาทั้งสิ้น ชายคนนั้นรีบเข้ามาใกล้อาร์ต

"ผะ ผมขอดูเล็บนั่นหน่อยได้ไหมครับ" เสียงนั้นเอื้อนเอ่ย อาร์ตเห็นว่าชายคนนี้สนใจเล็บของปีศาจสุดเขตจักรวาล เขาคิดว่าบางทีอาจมีโอกาสขายได้เงิน

"ได้สิครับ" อาร์ตตอบกลับเเล้วหงายฝ่ามือยื่นเล็บของปีศาจสุดเขตจักรวาลไปทางชายคนนั้น เขาพิจารณาเล็บในมืออาร์ตครู่หนึ่งก่อนจะเอื้อมมือหยิบ ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือคิ้วที่ย่นเข้าหากัน อาร์ตมองดูก็เข้าใจได้ในทันที

"เล็บอันนี้หนักประมาณสองร้อยกิโล ต้องใช้เเรงหน่อยนะครับ" อาร์ตเอ่ย เพราะว่าเล็บของปีศาจสุดเขตจักรวาลนั้นอัดเเน่นไปด้วยมวลพลังที่แข็งแกร่ง น้ำหนักจึงมากตาม ชายคนนั้นมองอาร์ตด้วยสีหน้าไม่เชื่อถือ แต่เขาก็เกร็งร่างกายพยายามยกขึ้นมาจนได้

หากเขาไม่ใช่ผู้อเวคคงได้เสียหน้าเป็นแน่ ยิ่งมีคนมองหลายคน สำหรับมุมมองของคนภายนอกแล้วมองอย่างไรก็ไม่อาจทำใจเชื่อได้ว่าเล็บสีดำอันเล็กกระจ้อยจะมีน้ำหนักถึงเพียงนั้น แต่กลับกลายว่าสิ่งที่อาร์ตพูดเป็นความจริง

สีดำสนิทบวกกับปลายที่เเหลมคมทำให้เล็บชิ้นนี้ดูมีมนต์ขลัง เมื่อได้ส่งพลังไปสัมผัสเล็บเว็บแรกร่างกายพลันสั่นสะท้านราวกับว่ากำลังเผชิญกับความตายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง หัวใจชายคนนั้นตกไปอยู่ตาตุ่ม เขาเกือบเผลอปล่อยมือจากเล็บ แต่ยังดีที่อาร์ตสะกดอำนาจคุกคามได้ในเสี้ยววิ ทำให้ชายคนนั้นไม่ได้รับผลกระทบอีกต่อไป

เหงื่อไคลไหลแตกพลัก ชายคนนั้นหันมามองอาร์ต

"อะ เอ่อ ผมสามารถทดสอบมันได้ไหมครับ" ชายคนนั้นกล่าว อาร์ตพยักหน้าตอบกลับไป

"ตามสบายเลยครับ" เมื่อสิ้นเสียงอาร์ต ชายคนนั้นก็ปลดกระดุมเสื้อนอกออก เผยให้เห็นเกราะอกที่ทำมาจากเกล็ดมังกร เกราะนี้เป็นมรดกตกทอดของตระกูล มันเป็นเกราะที่แข็งแกร่ง สามารถป้องกันการโจมตีของมอนสเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ด้วยเกล็ดมังกรเพียงชิ้นเดียว จึงทำให้ส่วนป้องกันมีเพียงบริเวณหน้าอกเท่านั้น

อาร์ตมองดูเกราะนั้น มันเป็นเกราะที่ผ่านการใช้งานสนามรบจริงมานานจึงมีร่องรอยขีดข่วนมากมาย มันถูกดูแลอย่างดีมาโดยตลอด แต่เกล็ดคุณภาพต่ำแบบนี้จะไปต่อกรกับเล็บปีศาจสุดเขตจักรวาลได้อย่างไร

ชายคนนั้นพยายามยกเล็บเข้าใกล้เกราะอก เพื่อที่จะกรีดทดสอบ ทันทีที่สัมผัสกับเกราะเกล็ดมังกร

ครืด

เกิดเสียงเบาๆพร้อมกับร่องรอยเกราะเกล็ดมังกรที่ถูกรีดเป็นทางยาว ชายคนนั้นเหงื่อแตกพลัก ใจเขามีสองอารมณ์ปนกันในคราเดียว อารมณ์หนึ่งคือรู้สึกทึ่งที่เล็บเล็กๆสามารถเจาะความเเข็งแกร่งของเกล็ดมังกรได้ อีกอารมณ์หนึ่งคือตกใจสุดขีดที่หายนะกำลังจะมาเยือน ถ้าหากพ่อของเขาเห็นสภาพเกราะอกตอนนี้ เขาคงได้ไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มแน่

ยังถือว่าโชคดีที่เขาไม่ได้ขยับเล็บเข้าไปลึกมาก เกราะจึงยังไม่ทะลุ ชายคนนั้นไม่คิดว่าเกราะเกล็ดมังกรที่ตนใช้ทดสอบคุณภาพของอาวุธจะถูกกรีดได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ เมื่อเป็นดังนี้แล้วนั่นเเสดงให้เห็นว่าเล็บนี้ไม่ใช่ของธรรมดาทั่วไปแน่

"ทดสอบพอใจหรือยังครับ" อาร์ตเอ่ย ชายคนนั้นสะดุ้งเสียงเรียก แต่เขาก็สามารถปรับอารมณ์ได้รวดเร็ว

"พะ พอใจเเล้วครับ ผมชื่อทอปครับ ไม่ทราบว่าคุณพี่จะขายเล็บนี้ราคาเท่าไหร่เหรอครับ" ทอปรีบเข้าประเด็นทันที เขากลัวว่าหากมัวพีธีรีตอง เล็บนี้อาจหลุดมือไปแน่ อาร์ตเห็นท่าทีนั้นก็คำนวณราคาในใจ

มอนสเตอร์ปกติทั่วไปราคาต่อตัวไม่ถึงหมื่น วัตถุดิบเกรดเยี่ยมราคาจะอยู่ที่หลักแสนจนถึงหลักล้าน เล็บจากปีศาจสุดเขตจักรวาลมีค่ามากกว่านั้นแน่นอน แต่เขาคงไม่อาจขายเเพงได้ มิเช่นนั้นเกรงว่าจะขายไม่ออก ทำให้ตนไม่มีเงินสำหรับไปทำธุรกรรมเริ่มใหม่

"คุณสามารถให้สูงสุดได้เท่าไหร่" อาร์ตเอ่ยถาม ชายคนนั้นรีบตอบทันควัน

"หมดบัญชีผมเลยครับพี่ ตอนนี้มีอยู่ล้านสองนิดๆครับ แต่ว่าผมสามารถให้เพิ่มทีหลังได้ ถ้าพี่กลัวผมเบี้ยวผมก็จะพาพี่ไปทำข้อตกลงสัญญาที่สามคมใหญ่เลย ถ้าพี่พอใจผมจะโอนเงินนี้ให้ทันทีก่อน แล้วก็ไปทำข้อตกลงที่สมาคมเพื่อจ่ายเงินที่เหลือทีหลังได้เลยครับ" ทอปกล่าว เขาจะไม่ยอมให้เล็บนี้หลุดมือเด็ดขาด ต่อให้ต้องจ่ายสิบล้าน เขาก็จะไปขายของในบ้าน ถ้ายังไม่พอเขาคิดไปถึงขั้นจะขโมยรถพ่อไปขายเเล้ว

เงินหลักล้านถือว่าเป็นเงินจำนวนมากพอที่จะใช้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ อีกอย่างเล็บของปีศาจสุดเขตจักรวาลเขามีอีกเยอะ จึงพึงพอใจกับราคานี้พอสมควร

"ล้านสองก็ได้ แต่ผมต้องการเงินสด"

"ผมจะไปกดให้คุณพี่ทันทีเลยครับ" อาร์ตพูดจบประโยคทอปรีบพูดตอบกลับอย่างรวดเร็ว เมื่อตกลงกันได้ ทอปก็ขอแลกเงินจากทางร้าน แม้จะเสียค่าบริการ แต่นั่นก็แลกมากับความรวดเร็ว เงินสดจำนวนล้านสองอยู่ในมืออาร์ต ส่วนเล็บอยู่ในมือทอป นอกจากนี้ทอปยังให้นามบัตรติดต่อกับอาร์ต เพื่อที่จะได้ทำการซื้อขายในอนาคตอีก

อาร์ตขอตัวออกไปทำธุระ ส่วนทอปเดินออกมาส่งอย่างจริงใจ เมื่อกลับเข้าไปในร้านก็เห็นผู้จัดการมองด้วยสายตาแปลกๆ

"หน้าผมมีอะไรติดเหรอ" ทอปเอ่ย ผู้จัดการถอนหายใจพลางเอ่ย

"คุณลูกค้าครับ เห็นแก่ที่คุณชายเป็นแขกวีเอพี ผมจะบอกว่าเล็บนั่นมันย้อมแมวขายครับ" ผู้จัดการเอ่ย แต่กลับทำให้ทอปยิ้มร่า

"คุณต่างหากที่ไม่รู้อะไร แต่ผมก็ต้องขอขอบคุณเถ้าแก่นะครับ ที่ไม่ซื้อเล็บนี่ ไม่งั้นผมคงไม่มีโอกาสได้ครอบครองเป็นแน่" ทอปเอ่ย

"แหม คุณชายครับ ถ้าอยากได้ทำไมคุณไม่กระซิบบอก ผมจะได้ซื้อในราคาถูกแล้วก็ขายต่อให้คุณ ที่นี้คุณชายก็จะได้ครอบครองโดยที่เสียเงินหลักร้อย แทนที่จะเป็นหลักล้าน" ผู้จัดการเอ่ย ทอปกลับส่ายหน้า

"ถ้าเถ้าแก่ซื้อ ผมคงไม่มีโอกาสได้ครองครองหลักร้อยบาทหรอกครับ เกรงว่าราคาจะพุ่งสูงถึงสิบล้านแน่ เพราะคุณยังอยู่ในร้าน ก็ต้องซื้อในนามของร้าน จะขายทันทีไม่ได้ ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดเพราะไม่มีข้อมูล ซึ่งกว่าจะตรวจสอบเสร็จเล็บนี่คงไปอยู่ในมือคนอื่นเเล้วครับ" ทอปเอ่ย ผู้จัดการแสดงสีหน้าเห็นใจออกมา

"คุณก็จองไว้สิครับ อีกอย่างเล็บนั่นมันจะซักเท่าไหร่เชียว ดูยังไงราคาก็อยู่ที่ร้อยกว่าบาทแหละครับ"

"เถ้าแก่ก็พูดได้สิครับ แต่ไม่ใช่กับผม อีกอย่างผมชอบการซื้อขายอย่างตรงไปตรงมามากกว่า เอาล่ะ ผมว่าเราหยุดคุยเรื่องนี้เถอะครับ ตอนนี้ผมต้องการทำธุระที่ค้างจากก่อนหน้าให้เสร็จ จะได้รีบกลับบ้านไวไว" ทอปกล่าว เขาไม่ยอมพูดเรื่องเล็บอีก

...….