webnovel

บทที่ 6 แก๊งเงินกู้นอกระบบ (1)

บทที่ 6 แก๊งเงินกู้นอกระบบ (1)

ซีหลินยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแจ้งพี่ชายว่ากำลังจะนั่งรถกอล์ฟออกไป นัดแนะสถานที่พบเจอกันจนเข้าใจแล้วก็วางสาย พร้อมกับที่รถกอล์ฟมาถึงพอดี

รถกอล์ฟใช้เวลาประมาณห้านาที พาเธอไปถึงหน้าประตูโรงแรม

ซีหลินก็ใช้เวลาระหว่างนี้ในการรวบรวมสติปรับอารมณ์ที่กำลังสับสนทั้งหลายให้ผ่อนคลายลง เธอละเรื่องระบบ เรื่องเหตุการณ์ฆาตกรรม หรือเรื่องที่ตัวเองถูกพามายังโลกนี้อย่างปุบปับไปก่อน สิ่งสำคัญตอนนี้คือจะทำยังไงถึงจะทำตัวเป็นหลี่ซีหลินได้อย่างไม่มีพิรุธ

หญิงสาวพยายามทบทวนความทรงจำ พยายามจดจำบุคลิก ท่าทางคำพูดติดปากของหลี่ซีหลินเอาไว้ให้มากที่สุด หลังจากทบทวนความจำจากเจ้าของร่างแล้ว ก็พบว่าลักษณะท่าทางของเธอกับเจ้าของร่างนั้นไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่อาจจะมีรสนิยมความชอบหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งเรื่องเหล่านี้เธอต้องพยายามระมัดระวัง และพยายามอย่าเผยพิรุธออกมา

รถกอล์ฟจอดส่งเธอที่หน้าประตูโรงแรม ซีหลินลงจากรถก็เจอชายหนุ่มรูปร่างสูงร้อยแปดสิบกว่า ใบหน้าหล่อเหลาไม่แพ้พระเอกทีวีกำลังยืนรอเธออยู่ เห็นเธอเดินลงจากรถเขาก็รีบวิ่งเข้ามาหาทันที

"เสี่ยวซีเป็นยังไงบ้าง" เขารีบเข้ามาพินิจพิจารณาซีหลินดูว่าเธอได้รับบาดเจ็บอะไรหรือเปล่า ที่น้องพูดเหมือนจะคิดสั้นทำให้เขาหวาดกลัวอยู่เลย

"หนูไม่เป็นไรแล้วค่ะพี่ใหญ่ หนูพอจะทำใจได้บ้างแล้ว"

"น้องจะไม่คิดสั้น ไม่คิดจะทำร้ายตัวเองแล้วใช่ไหม"

"พี่ใหญ่วางใจ หนูจะไม่ทำแล้ว"

"งั้นพวกเราก็กลับบ้านกันก่อน เรื่องอื่นก็ค่อยว่ากัน"

เธอพยักหน้ารับ เดินตามพี่ชายออกไปนอกรั้วโรงแรม ขึ้นนั่งบนรถมือสิบแปดสภาพเก่าโทรมคันหนึ่ง

จากความทรงจำเจ้าของร่าง เมื่อถูกบังคับล้มละลาย ทรัพย์สินทุกอย่างของตระกูลหลี่ก็ถูกยึดไปหมด แม้คนที่ล้มละลายจะไม่ใช่พี่ชาย ตัวพี่เองก็มีทรัพย์สินส่วนตัวที่หามาได้เองเป็นร้อยล้านตั้งแต่สมัยอยู่เมืองนอก

แต่เพราะก่อนที่บริษัทจะล้มนั้น พ่อได้วิ่งเต้นหยิบยืมเงินไปทั่วเพื่อหวังมากอบกู้บริษัทให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติให้ได้ก่อน พี่ชายก็เอาเงินและทรัพย์สินส่วนตัวของตัวเองเข้ามาช่วยจนเกือบหมด

พอถูกบังคับล้มละลายแล้ว พ่อเส้นเลือดในสมองแตกต้องเข้าโรงพยาบาล มีค่ารักษาสูงมากจนประกันสุขภาพที่ทำไว้ไม่พอจ่าย พี่ก็เอาเงินก้อนสุดท้ายที่มีออกมาโป๊ะค่ารักษาส่วนที่ขาดไปให้จนพ่อได้รับการผ่าตัดอย่างทันท่วงที รถคันนี้ พี่ใช้เงินที่เหลืออยู่เล็กน้อยหลังจากจ่ายค่ารักษาและค่าเช่าบ้านให้พวกเราพักอาศัยไปซื้อมา สภาพของรถไม่ดีนัก แต่มันก็เป็นรถที่ดีที่สุดเท่าที่พี่จะซื้อได้แล้ว พี่จำเป็นต้องมีรถเพื่อใช้มันประกอบอาชีพ

ระหว่างที่กำลังคิดโปรเจคใหม่เพื่อกอบกู้บริษัทพี่ก็ทำงานขับรถรับส่งผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชันรถรับจ้างไปด้วย

เรื่องเหล่านี้ปรากฏอยู่ในความทรงจำจางๆของเจ้าของร่างรายละเอียดไม่ชัดเจนมาก เพราะเธอไม่มีกะจิตกะใจมาสนใจเรื่องราวของคนในครอบครัวเท่าใดนัก เหมือนความสนใจทั้งหมดของเธอคือการแย่งชิงคู่หมั้นของตัวเองคืนมา ส่วนเรื่องอื่นๆสำหรับเธอล้วนเป็นภาพพร่ามัวไปหมด

หลังจากรถขับออกไปได้ระยะหนึ่ง ซีหลินก็เอ่ยถามขึ้นมา

"พี่ใหญ่คะ ตอนนี้เรามีหนี้อยู่เท่าไหร่เหรอ"

พอได้ยินคำถามนี้ใบหน้าของหลี่อี้เทียนก็เคร่งขรึมลง

"เรื่องนี้น้องไม่ต้องเป็นห่วงหรอก มีพี่ใหญ่อยู่ทั้งคน พี่จะต้องหาทางจัดการได้อยู่แล้ว"

"เรามีหนี้ที่ต้องรีบชดใช้ให้พวกแก๊งเงินกู้นอกระบบบ้างไหมคะ ยอดหนี้เท่าไหร่"

"น้องถามเรื่องนี้ทำไม พี่บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเป็นห่วง"

"พี่คะ หนูโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ ครอบครัวเราเจอเรื่องขนาดนี้ จะให้หนูอยู่เฉยต่อไปได้ยังไง ก่อนหน้านี้ที่หนูหน้ามืดตามัว คิดถึงแต่เรื่องจะทำให้เหอยี่หานกลับมาจนไม่สนใจว่าครอบครัวของเราจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร หนูก็รู้สึกผิดมากแล้ว

ตอนนี้หนูตาสว่างคิดได้แล้ว อยากช่วยเหลือครอบครัวเราบ้าง พี่ก็สนับสนุนหนูเถอะนะคะ "

"แต่ว่าเงินพวกนั้นมันเยอะมาก น้องยังเรียนมหาลัยอยู่เลย ต่อให้อยากช่วยก็คงช่วยไม่ได้หรอก พี่ว่าน้องใช้ชีวิตให้ดีมีความสุขก็พอ ส่วนเรื่องอื่นๆนั้นให้พี่แก้ปัญหาเอง"

"งั้นบอกยอดเงินให้หนูรู้สักหน่อยได้ไหมคะ หนูจะได้รู้สภาพการณ์คร่าวๆ อย่างน้อยก็จะได้ทำตัวถูก" ซีหลินพยายามตื๊อต่อไป เธอยกเหตุผลต่างๆนานา จนหลี่อี้เทียนยอมแพ้ในที่สุด

"มันมีแก๊งเงินกู้นอกระบบที่ค่อนข้างน่ากลัวอยู่แก๊งหนึ่ง จริงๆแล้วบ้านเราไม่ได้ไปกู้เงินจากมัน แต่เป็นเงินที่เราหยิบยืมจากหลี่ชวน ความจริงไม่ใช่เรายืมด้วยซ้ำ เป็นตอนนั้นหลี่ชวนมาเสนอให้ยืมเงินเอง เขาบอกว่าเป็นญาติกันอยากช่วยเหลือ ใครจะรู้ผ่านไปแค่หนึ่งเดือน ตอนที่บริษัทของเรากำลังอยู่ในสภาวะวิกฤติ เขาก็ขายหนี้ให้แก๊งเงินกู้นอกระบบที่มีชื่อเสียงว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ยอดหนี้สิบล้านเหรียญ แต่มันบังคับให้พวกเราต้องจ่ายดอกเบี้ยให้พวกมันทุกเดือนอีกหนึ่งล้าน ไม่งั้นจะทบหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ"

"ดอกเบี้ยเดือนละหนึ่งล้าน!" ซีหลินอุทานออกมาด้วยความตกใจ แค่ดอกเบี้ยก็แพงขนาดนี้แล้ว และยังต้องจ่ายให้มันทุกเดือนอีก เงินล้านเหรียญ ด้วยสภาพครอบครัวของเธอตอนนี้จะหามาจากไหน

ซีหลินกำลังจะเล่าให้พี่ชายฟังว่าวันนี้เธอได้เงินสิบสองล้านมาจากเหอยี่หาน จะเอามาใช้หนี้เงินกู้หนี้ได้หมดหรือไม่ แต่ยังไม่ทันได้เปิดปาก รถที่ขับตามเรามาก็พุ่งแซงขึ้นมาข้างหน้า แล้วหักรถขวางถนนไว้ทั้งสองเลน รถที่อยู่ข้างหลังอีกคันก็ทำเช่นเดียวกัน ทำใหพี่ชายของเธอต้องหยุดรถกะทันหัน จะไปข้างหน้าก็ไม่ได้ หรือจะถอยรถกลับก็ไม่ได้ ถูกขวางทางเอาไว้ด้วยรถทั้งหน้าหลัง

เมื่อบล็อกเส้นทางพวกเธอได้แล้ว ชายฉกรรจ์ประมาณหกเจ็ดคนก็ก้าวลงมาจากรถทั้งสองคนนั้นด้วยท่าทางเบ่งอำนาจ ในมือถือไว้ทั้งท่อนไม้ทั้งกระบองและอาวุธต่างๆ

เห็นใบหน้าของคนที่เดินลงมาจากรถหลี่อี้เทียนก็ขมวดคิ้วด้วยความกังวล

"พวกเขาเป็นใครเหรอคะ พี่รู้จักหรือเปล่า ทำไมเหมือนตั้งใจจะมาทำร้ายเรา" ซีหลินเอ่ยถามด้วยเสียงสั่นเครือหวาดกลัว รถสองคันนี้ขับตามพวกเรามาตั้งแต่ออกจากหน้าโรงแรมแล้ว ทีแรกซีหลินไม่ได้ใส่ใจมาก คิดว่าเป็นผู้ใช้ทางสัญจรปกติ ใครจะคิดว่าจะเป็นอันธพาลมีอาวุธ และเหมือนมีเจตนาร้ายต่อพวกเธอสองพี่น้อง!!

"มันคือแก๊งเงินกู้ที่พี่พึ่งพูดถึง มันอาจจะตามพี่มาเพื่อทวงเงิน…เสี่ยวซีไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว มีพี่ชายอยู่ พี่จะลงไปคุยกับพวกมันดูก่อน"

"พี่คะอย่าพึ่งลงไป!!" ซีหลินรีบดึงพี่ชายเอาไว้

"คนพวกนี้คือแก๊งเงินกู้ที่พี่พูดถึงเหรอคะ"

"ใช่"

"งั้นพี่ห้ามลงไปเป็นอันขาด" มือหนึ่งเธอดึงพี่ชายเอาไว้ อีกมือก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรแจ้งตำรวจ