webnovel

บทที่ 13 ยาสมานกระดูกระดับกลาง (1)

บทที่ 13 ยาสมานกระดูกระดับกลาง (1)

ถึงจะเป็นโรงแรมสองดาว ห้องไม่กว้างนัก แต่ก็มีห้องน้ำในตัว สภาพโดยรวมก็สะอาดสะอ้าน ได้รับการดูแลอย่างดี ซีหลินไม่มีเวลาพิจารณานานนัก ตัวเธอหนาวสั่นและไอจามติดๆกัน จึงรีบเปิดน้ำอุ่นแล้วอาบน้ำสระผมทันที

เธอใช้เวลาอาบน้ำไม่นานนัก พอเช็ดเนื้อเช็ดตัวแห้งแล้วก็สวมเสื้อคลุมและเอาผ้าห่มมาคลุมร่างไว้อีกชั้น ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมาก ที่ห้องพักไม่มีไดร์เป่าผมให้ เธอจึงทำได้แค่ใช้ผ้าเช็ดผมให้แห้ง ทำให้ใช้เวลาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ระหว่างที่เช็ดผมอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็มีแจ้งเตือนข้อความเข้ามา พอเปิดดูก็เห็นว่าเป็นข้อความวีทอล์คที่ซ่งเว่ยหนานส่งมาสอบถาม ว่าเธอจะสะดวกออกมารับเสื้อผ้าหรือเปล่า ตอนนี้ชุดใหม่ที่เขาให้คนไปเตรียมไว้ให้มาถึงแล้ว และเขาให้คนชงน้ำขิงร้อนมาให้เธอด้วยหนึ่งแก้ว

ซีหลินตอบตกลงแล้วเปิดประตูออกไปรับของ พบว่าเลขาหม่าเจิ้นตงเป็นคนที่นำถุงเสื้อผ้าและน้ำขิงมาให้ เธอกล่าวขอบคุณแล้วเอาของเหล่านั้นเข้ามา ดื่มน้ำขิงไปหนึ่งแก้วก็ร้อนวาบไปทั้งร่าง รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก เปิดดูถุงเสื้อผ้าที่ส่งมาให้ก็พบว่าเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ดังราคาน่าจะหลายพันเหรียญ แถมยังมีพวกเสื้อชั้นในของใช้ส่วนตัวให้อีก ซีหลินหน้าแดง เพราะไม่เคยให้ผู้ชายซื้อของใช้ส่วนตัวขนาดนี้ให้มาก่อน แถมเค้ายังซื้อถูกไซต์เสียอีก แต่เธอก็รีบบอกเตือนตัวเองว่าเขาช่วยเธอด้วยความมีน้ำใจไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเรื่องชู้สาว ไม่ควรที่เธอจะมาทำเคอะเขินกับความใจดีของคนอื่นแบบนี้

ซีหลินเปลี่ยนเสื้อผ้า เช็ดผมจนแห้งหมาดแล้วก็รู้สึกดีขึ้นมาก เธอนั่งลงบนเตียงใช้ผ้าห่มห่อตัวให้อบอุ่น แล้วเปิดระบบขึ้นมา

------------------------------------------------------------------------

ชื่อ หลี่ซีหลิน คะแนน 7,200

Level 0 7,200 / 10,000

สิทธิในการเปิดไฟล์ข้อมูลวันนี้ 0 ไฟล์ คะแนนฟรีที่เหลือ 0

ประวัติ

------------------------------------------------------------------------

ติ๊ง!! ภารกิจสำเร็จ!!

ได้รับรางวัลยาสมานกระดูกระดับกลางหนึ่งขวด

โฮสต์ต้องการรับรางวัลเลยหรือไม่

"จัดมาเลย!" ซีหลินเอ่ยตอบด้วยความดีใจ

และเพียงแค่กะพริบตาขวดกระเบื้องสีฟ้าเล็กๆขวดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่พื้นเตียงข้างๆเธอ

"อันนี้คือยาสมานกระดูกระดับกลางที่เธอบอกน่ะเหรอ" ซีหลินหยิบขวดขึ้นมาพิจารณาดู

"ใช่"

เมื่อเปิดฝาขวดดูข้างใน พบว่ามียาเม็ดสีขาวรูปทรงกลมคล้ายยาแก้แพ้เม็ดเล็กๆปรากฏอยู่ในนั้น ลองเทออกมานับดูก็พบว่ามียาอยู่สิบเม็ดด้วยกัน

"ฉันสามารถเอายานี้ไปให้พี่ชายกินได้ใช่ไหมเพกาซัส"

"ได้"

"มันไม่มีอันตราย หรือผลข้างเคียงอะไรใช่หรือเปล่า"

"จากงานวิจัยยา สมานกระดูกไม่มีอันตรายต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ อาการข้างเคียงอาจมีอาการผื่นแพ้ คลื่นไส้อาเจียนเล็กน้อย โอกาสเกิดผลข้างเคียงเป็นอัตราส่วนหนึ่งต่อสองจุดสี่ล้าน"

"โอ้ ดูว่าข้อมูลจะแน่นมากเลยนะ"

"แล้วต้องกินวันละกี่เม็ด กินติดต่อกันกี่วันเหรอ"

"กินหนึ่งเม็ดก็พอ"

"กินเม็ดเดียวก็พอเหรอ กินเม็ดเดียวก็หายแล้วเหรอ? โห ยานี้จะเจ๋งเกินไปหรือเปล่าเนี่ย"

"จากการประเมิน อาการของพี่ชายโฮสต์ กินหนึ่งเม็ด ใช้เวลาประมาณสามวันอาการกระดูกร้าวก็จะหายดี"

คิดถึงที่หมอบอกว่าอาการกระดูกร้าวของพี่ต้องเข้าเฝือกประมาณสองถึงสามอาทิตย์ เมื่อถอดเฝือกแล้วยังต้องใช้เวลาอีกเกือบสองเดือนกว่าจะกลับมาหายเป็นปกติ รวมๆแล้วก็เกือบสามเดือนทีเดียว

แต่ยาสมานกระดูกนี้กินแค่เม็ดเดียว ก็รักษาหายขาดแล้วในเวลาแค่สามวัน

"มหัศจรรย์มาก! สุดยอดไปเลย"

ซีหลินจ้องยาอย่างทึ่งๆ เอ่ยชมคุณสมบัติพิเศษของมันอยู่พักหนึ่งจึงยอมเก็บขวดยาเข้าไว้ในกระเป๋าเสื้อฮูดอย่างระมัดระวัง ชุดที่ซ่งเว่ยหนานซื้อมาให้เธอเป็นชุดแนวสปอร์ตเหมือนที่เธอใส่เมื่อเช้านี้ทั้งยังเป็นชุดสีดำเหมือนกัน ต่างแค่ราคาชุดนี้ที่เป็นของแบรนด์เนมราคาน่าจะหลายพันแพงกว่าชุดที่เธอซื้อเองมาก

ไม่รู้ว่าเป็นซ่งเว่ยหนานที่บอกให้คนซื้อชุดแบบนี้ให้ หรือเป็นเลขาหม่าที่เป็นคนตัดสินใจเลือกเอง แต่ก็ต้องขอบคุณเขามากจริงๆที่คิดคำนวณเผื่อเธออย่างละเอียดรอบคอบแบบนี้ เธอที่พึ่งจมน้ำตัวเปียกโชกรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว ได้เปลี่ยนมาใส่ชุดที่อบอุ่นและเคลื่อนไหวได้สะดวกแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมากจริงๆ ทั้งแบบและสีชุดถ้ามองผ่านๆก็คล้ายคลึงกับชุดเมื่อเช้าที่เธอใส่ออกจากโรงพยาบาลอยู่พอสมควร หากใส่ชุดนี้กลับไปหาพี่ชาย พี่ก็คงไม่สังเกตเห็นความผิดปกติ พี่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเธอ

เรื่องที่เธอช่วยคนตกน้ำเอาไว้ ซีหลินคิดว่าถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็ไม่อยากบอกให้ใครรู้โดยเฉพาะคนใกล้ตัวของเธอ

เธอคิดว่าในอนาคต ด้วยภารกิจของระบบ เธอคงเข้าไปเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือคนในอีกหลายๆรูปแบบ ถ้ามีคนพบว่าเธอเข้าไปช่วยเหลือคนอื่นมากมายเหมือนรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้มันคงไม่ดี เธอกลัวจะมีเรื่องยุ่งยากตามมา ดังนั้นปกปิดมันเอาไว้น่าจะดีที่สุด ยิ่งคนในครอบครัว เธอยิ่งไม่อยากให้เขาเป็นห่วง

ส่วนวันนี้ที่ซ่งเว่ยหนานรู้แล้วว่าเธอช่วยชีวิตคน เธอคิดว่าตัวเองกับเขาก็คงไม่มีโอกาสได้เกี่ยวข้องกันอีกสักเท่าไหร่ เขารู้เรื่องวันนี้ แต่ก็คงไม่รู้ว่าเธอช่วยคนอื่นในอนาคตหรอกมั้ง ดังนั้นซีหลินจึงปล่อยมันไป

ในใจของเธอรู้สึกขอบคุณซ่งเว่ยหนานและคนของเขามากจริงๆ ตั้งแต่เมื่อวานก็เป็นพวกเขาที่เข้ามาช่วยเธอกับพี่ชายจากแก๊งเงินกู้นอกระบบ

วันนี้ก็เป็นเขาที่รับเธอขึ้นรถพามาส่งที่สวนสาธารณะนี้ แล้วหลังจากนั้นยังมาช่วยเหลือเธอตอนลำบากตกน้ำตัวหนาวสั่นอีก

เก็บยาลงกระเป๋าแล้วซีหลินก็ปิดหน้าจอข้อมูลส่วนตัวกลับมาที่หน้าหลัก

เมื่อมองดูดีๆก็พบว่าที่ด้านใต้รูปภาพของเธอนั้นมีแท็บเพิ่มขึ้นมา ปกติเมนูบาร์นี้จะมีแท็บ หรือปุ่มกดเข้าไปได้แค่ปุ่มเดียว นั่นคือแท็บไฟล์ข้อมูล แต่คราวนี้กลับมีเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งแท็บ รวมเป็นสองแท็บ

-----------------------------------

[ไฟล์ข้อมูล ] [ ภารกิจพิเศษ ]

------------------------------------

"มีแท็บใหม่ขึ้นในหน้าจอหลักด้วยเพกาซัส" ซีหลินอุทานด้วยความแปลกใจ เมื่อกดเข้าไปในปุ่มภารกิจพิเศษ ระบบก็แสดงหน้าต่างใหม่ขึ้นมา

แต่ข้างในหน้าต่างนั้นไม่มีอะไรมาก นอกจากตารางข้อมูลหนึ่งตาราง

เหมือนเป็นตารางบันทึกข้อมูลภารกิจพิเศษที่ซีหลินพึ่งทำไป มีบอกชื่อ รายละเอียด ผลของการทำภารกิจ และรางวัลที่ได้รับ ต่างๆ

"เป็นคล้ายๆบันทึกการทำงานสินะ" ซีหลินพูดสิ่งที่เข้าใจออกมา "ในอนาคตถ้าฉันได้รับภารกิจใหม่ ข้อมูลภารกิจเหล่านั้นก็จะแสดงขึ้นที่หน้าต่างนี้สินะเพกาซัส"

"ใช่" ระบบเอ่ยตอบ

ซีหลินพยักหน้าเข้าใจ เมื่ออ่านข้อมูลทั้งหมดแล้วไม่เจออะไรน่าสนใจอีก เลยปิดหน้าจอภารกิจพิเศษ แล้ว กดเข้าไปในแท็บไฟล์ข้อมูล ที่อยู่ข้างๆ

เมื่อหน้าต่างของไฟล์ข้อมูลปรากฏขึ้น เห็นรูปซ่งเว่ยหนานอยู่แถวบนสุดก็แอบเสียดายที่คะแนนที่ใช้เปิดดูไฟล์ของเขานั้นแพงเกินไป ไม่อย่างนั้น เธอจะลองเปิดไฟล์ของเขาดู ถ้าพบว่าเขามีความเสียใจอะไร เธอจะได้หาทางช่วยแก้ไขความเสียใจให้กับเขาเป็นการตอบแทน

ซีหลินเลื่อนหน้าจอข้อมูลลงไปเรื่อยๆ ไล่หาไฟล์ของเจ้าหน้าที่หวางต้าเฟิง ซึ่งเป็นเจ้าของไฟล์ที่ทำให้เธอมีภารกิจช่วยเด็กในวันนี้ อยากรู้ว่าข้อความที่จะปรากฏขึ้นในไฟล์ที่เธอสามารถแก้ไขความเสียใจได้จะขึ้นว่าอย่างไร แต่ปรากฏว่าไฟล์ของเจ้าหน้าที่หวางโดนไฟล์อื่นทับไปหมดแล้ว

"ช่างเถอะ ไม่เห็นไฟล์นั้นแล้วก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงฉันก็ได้หนึ่งหมื่นคะแนนนี่มาแล้ว" ซีหลินบอกกับตัวเองด้วยความร่าเริง

"7200/10000 เหลืออีกสองพันแปดร้อยคะแนนก็ถึงเลเวลหนึ่งแล้วสินะ ไม่รู้ว่าเลเวลหนึ่งจะมีสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง" ซีหลินพึมพำกับตัวเอง

แต่อย่างน้อยมันคงดีกว่าเลเวลศูนย์ที่แทบทำอะไรไม่ได้เลย