webnovel

บทที่ 13 ยาสมานกระดูกระดับกลาง (2)

บทที่ 13 ยาสมานกระดูกระดับกลาง (2)

ซ่งเว่ยหนานพาซีหลินมาส่งที่โรงพยาบาล จากที่ว่าจะเลื่อนตารางงานที่จะไปดูที่ดินวันนี้แค่หนึ่งชั่วโมง แต่เพราะเกิดเรื่องหลายอย่างทำให้เวลาคลาดเคลื่อนไป เขาจึงจำเป็นต้องยกเลิกตารางงานดูที่ดินนี้ไปเลย

ตอนนี้ยังมีเวลาพอสมควรจะถึงนัดหมายถัดไป พอมีเวลาให้เขาเดินไปส่งซีหลินที่ห้องพักผู้ป่วยพี่ชายของเธอได้

ซีหลินไม่ได้ปฏิเสธ เพราะอย่างไรเมื่อวานเขาก็คือคนที่ช่วยเธอกับพี่ชายเอาไว้ ถ้าเขาอยากแวะมาเยี่ยมเยียนคนที่เขาช่วยชีวิต เธอจะปฏิเสธได้อย่างไร เพียงแต่เธอรู้สึกเกรงใจว่าเขาจะเสียเวลางานเพราะพวกเราหรือเปล่า ตามที่เธอรู้มา นักธุรกิจระดับเขาเวลาเป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น แล้ววันนี้เขาก็เหมือนสละเวลาเกือบทั้งบ่ายเพื่อช่วยเหลือเธอไปแล้ว ซีหลินลองสอบถามเขาดูว่าการไปเยี่ยมพี่ชายรบกวนเวลาของเขาหรือเปล่า พอเขาปฏิเสธว่าไม่รบกวน เธอจึงไม่ได้พูดอะไรอีก

"แต่วันนี้ก็เหมาะเจาะดีจริงๆนะครับที่คุณหนูซีหลินเตรียมตัวไปว่ายน้ำที่บึงต้นหลิวพอดี มีอุปกรณ์พร้อมทำให้ตอนช่วยเด็กทำได้อย่างรวดเร็ว" ระหว่างที่เดินจากลานจอดรถมาที่ตึกผู้ป่วย เลขาหม่าที่เดินเยื้องไปด้านหลังซีหลินและซ่งเว่ยหนานก็เอ่ยออกมา

ซีหลินหันไปมองสีหน้าอยากรู้อยากเห็นของเขาก็อึกอักเล็กน้อย

"ใช่ค่ะ ฉันก็ยังแปลกใจว่าจะประจวบเหมาะอะไรแบบนี้ โชคดีจริงๆนะคะที่ฉันเตรียมตัวไปพอดี ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเด็กคนนั้นยังไง"

"เหมาะเจาะพอดีจริงๆ" ซ่งเว่ยหนานพึมพำเบาๆ ปลายหางตาเหลือบมองอะไรบางอย่างเหนือศีรษะของซีหลินครู่หนึ่งแล้วก็ก้มลงมองใบหน้าที่ไร้พิษภัยของเธอ

"จะเพราะความโชคดี หรือเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม แต่มันทำให้คุณช่วยชีวิตเด็กบริสุทธิ์คนหนึ่งเอาไว้ได้ ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีแล้วนะครับ"

"ใช่ค่ะ ใช่ น่ายินดี น่ายินดีมาก" หญิงสาวรีบตอบรับทางลงที่เขายื่นมาให้

"ไม่รู้ว่าป่านนี้ตำรวจจะจับตัวคนร้ายได้หรือยังนะครับ โหดเหี้ยมอำมหิตอะไรขนาดนี้" เลขาหม่าบ่นออกมา "โยนเด็กอายุแค่สองสามปีลงกลางบึงน้ำ เจตนาหวังฆ่าเด็กชัดๆ"

ทีแรกเขานั่งรออยู่ในรถที่จอดอยู่หน้าประตูสวนสาธารณะ แต่ต่อมามีทั้งรถพยาบาลและรถตำรวจผ่านเข้าไป ทำให้เขากับหย่งคังตกใจมาก เกรงว่าจะเกิดเรื่องร้ายอะไรกับเจ้านายจึงรีบวิ่งตามไปดูเหตุการณ์

สอบถามคนละแวกนั้น จึงทราบว่ามีคนร้ายโยนเด็กลงบึงน้ำ โชคดีที่มีพลเมืองดีช่วยเอาไว้ได้ทัน แต่คนร้ายหลบหนีไปยังตามจับตัวไม่ได้ คนที่เล่าเหตุการณ์ชี้ให้เขาดูพลเมืองดีที่อยู่ไกลออกไป เห็นหลังแว็บๆก็รู้ว่าเป็นเจ้านายตนเองและคุณหนูซีหลินที่กำลังเดินออกจากสวนสาธารณะผ่านประตูด้านหลัง

เลขาหม่าตกใจว่าเจ้านายกับคุณหนูซีหลินมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร กำลังจะเดินตามไป เจ้านายก็ส่งข้อความมาให้เขาไปซื้อเสื้อผ้าของใช้ที่จำเป็นให้คุณหนูซีหลินเสียก่อน ทั้งยังให้เลือกชุดที่มีสีและรูปแบบที่คล้ายๆกับที่เธอสวมวันนี้ แล้วให้เขาเอามาส่งให้ที่โรงแรมหลังสวนสาธารณะ

เขารีบทำงานตามที่เจ้านายสั่ง จึงยังไม่ทันได้สืบข้อมูลเหตุการณ์ต่อจากนั้นว่าเป็นอย่างไร

"ผมคิดว่าเด็กคนนั้นน่าจะถูกพาตัวมาที่นี่ เห็นรถฉุกเฉินติดสติ๊กเกอร์ชื่อโรงพยาบาลนี้เอาไว้" เลขาหม่าเอ่ยข้อสันนิษฐานขึ้นมา "หรือว่าเราจะแวะไปดูสักหน่อยดีไหมครับเจ้านาย เด็กน่าจะถูกพาไปห้องฉุกเฉิน"

ซ่งเว่ยหนานหันมองซีหลินเล็กน้อยก็เอ่ยถาม "คุณจะไปไหมครับ"

ครุ่นคิดเล็กน้อยซีหลินก็พยักหน้าตกลง แม้เธอจะรู้ว่าเด็กปลอดภัยแล้ว จากคำบอกกล่าวของเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน รวมทั้งระบบก็ได้แจ้งว่าภารกิจสำเร็จ ช่วยชีวิตเด็กได้แล้ว เธอได้รับรางวัล แต่ในใจลึกๆก็ยังแอบเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน เด็กตัวเล็กแค่นั้น ต้องจมอยู่ในน้ำตั้งนาน ไม่รู้ว่าจะมีผลกระทบข้างเคียงอะไรหรือเปล่า

"จะไม่รบกวนเวลาพวกคุณใช่ไหมคะ"

"ไม่หรอกครับ แค่แวะไปดูเท่านั้นไม่ได้เสียเวลาอะไร"

เมื่อตกลงกันได้แล้ว ทั้งสามคนจึงเปลี่ยนทิศทางจากเดิมจะไปอาคารที่พักผู้ป่วย ก็ใช้เส้นทางตรงไปที่ตึกฉุกเฉินแทน ซึ่งตึกฉุกเฉินจะอยู่ใกล้ลานจอดรถมากกว่าทำให้ใช้เวลาเดินแค่ไม่นานก็ถึง

ประตูหน้าห้องฉุกเฉินเปิดอยู่มีคนเดินเข้าเดินออก มองเข้าไปก็เจอคนที่พวกเรามองหา เด็กหญิงที่ตกน้ำวันนี้กำลังนั่งอยู่บนเตียงมีหญิงสูงวัยอายุราวๆห้าถึงหกสิบร้องห่มร้องไห้กอดเธอเอาไว้ ข้างๆกันนั้นเป็นชายสูงอายุและชายหนุ่มหญิงสาวอีกคู่หนึ่ง มองดูแล้วคนกลุ่มนี้กับเด็กหญิงมีใบหน้าคล้ายคลึงกัน พวกเขาน่าจะเป็นญาติพี่น้องกับเด็กหญิงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

จากที่ฟังบทสนทนาเหมือนว่าชายหนุ่มหญิงสาวเป็นพ่อแม่ของเด็ก ส่วนผู้สูงอายุทั้งสองเป็นคุณตาคุณยาย

"หลานรักของยาย โชคดีเหลือเกินที่หลานปลอดภัย ฮือๆ เป็นความผิดของยายเอง ยายไม่น่ารับนางถู่โต้วเข้ามาในบ้านเลย ยายคิดว่าเป็นคนบ้านเดียวกันชีวิตน่าสงสาร ใครจะรู้ว่ามันจะเลวทรามมาทำร้ายหลานของยายแบบนี้"

พวกเขาพูดคุยกันอีกหลายประโยคแต่ซีหลินจับใจความได้ไม่มากนัก รู้เพียงว่าเด็กหญิงปลอดภัยแน่นอนแล้ว จึงตัดสินใจกลับ แต่พอดีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนที่สอบปากคำซีหลินที่บึงต้นหลิวเดินผ่านมา

เขาเห็นพวกเธอจึงเอ่ยทักทาย

"คุณมาเยี่ยมเด็กเหรอครับ พอดีเลย ผมกำลังมาแจ้งญาติผู้เสียหายว่าจับตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว กำลังจะโทรบอกให้คุณไปชี้ตัวคนร้ายพอดี"

แล้วกระบวนการต่อจากนั้น ตำรวจก็พาซีหลินไปแนะนำให้ญาติของเด็กผู้ประสบเหตุรู้จัก และพาเธอกับญาติเด็กบางส่วนไปที่โรงพักเพื่อชี้ตัวคนร้ายและบันทึกการให้ปากคำ เรื่องวุ่นวายไปอีกสองสามชั่วโมงจนพระอาทิตย์ตกดิน กว่าจะทำทุกอย่างเสร็จสิ้น