...
" ..... "
โชค่อย ๆ ลืมตา เค้ายังคงมีอาการ ง่วง ๆ และสลึมสลืออยู่ เอ๊ะ ! นี่เค้านอนหลับมานานแค่ไหนกันแล้วเนี้ย… เค้าเริ่มขยับตัวจึงทำให้ความรู้สึกของเค้าเริ่มทำงาน
" โอ๊ย !! .... ท่ะ .. ทำไมเจ็บหัว ? " เขาเริ่มทบทวนความทรงจำ…
" อ่อ..เมื่อคืนเราเมา.. และรถล้มไง.. แต่ เอ๊ะ !!… " เขาเริ่มมองมาที่มือของเขา และร่างกาย ไปจนถึงรอบๆตัว เห็นสภาพบ้านที่อยู่เปลี่ยนไป แต่ก็คุ้นตาเป็นอย่างมาก
" นี่มัน… บ้านแม่..งั๊นหรอ!!!!! "
" ตื่นแล้วหรอลูก "
โชหันไปตามเสียงเรียก [ ใช่!!.. แม่จริงๆด้วย อะไรกันเนี่ย นี่มันเรื่องอะไร ]
" ไปล้างหน้าแปรงฟันสิ แล้วจะได้มากินข้าว " แม่พูดพร้อมกับเดินเข้าครัวไป…
[ นี่มันอะไรกัน ๆๆๆ เมื่อวานฉันยังไปกินเหล้าบ้านไอ้ดำอยู่เลย แล้วมาถึงบ้านแม่ได้ยังไง แถมแม่ยังดูไม่แก่อีกด้วย อย่างงง!! อย่างงง อะไรวะเนี่ย แถมร่างกายของเราทำไม….? ]
โชเริ่มเดินไปที่ห้องน้ำ รู้สึกเจ็บที่หัวแปล๊บๆ แต่ก็ยังพอเดินไหวอยู่ เค้าส่องกระจกจึงพบว่า เป็นเค้าจริงๆนั่นแหละ แต่เป็นเค้าที่ตอนอายุ 12 ปี แถมเค้ายังมีแผลหัวแตก ที่หน้าผากตรงไรผมข้างขวา รู้สึกว่าแผลจะใหม่อยู่นะ มันทำให้เค้ารู้ได้ในทันทีเลยว่า เค้านั้นย้อนอดีตกลับมาในวัยเด็กนั้นอย่างแน่นอน
" มาตอนไหนไม่มา.. เฮอะ!… มาตอนหัวแตก แม่ง!!! เจ็บเป็นบ้า.. "
เค้าเริ่มล้างหน้า แล้วก็แปรงฟันตามที่แม่บอกไว้ก่อนหน้านี้ เสร็จแล้วก็ออกมา เค้าเดินไปหาแม่ของเค้าที่ครัวหลังบ้าน เห็นแม่กำลังป้อนข้าวน้องคนเล็กอยู่ พร้อมทั้งสำรับกับข้าวที่วางอยู่ที่พื้นห้อง โดยที่กอล์ฟ ( น้องชายคนที่สองลูกของแม่กับพ่อเลี้ยง ) กำลังนั่งกินข้าวอยู่ โชนั่งลงคดข้าวใส่จานและร่วมรับประทานอาหารพร้อมกับน้องและแม่
" พ่ออำไปไหนหรือครับแม่ " โชถามแม่เพราะต้องการอยากจะรู้ว่าพ่อเลี้ยงไปไหน หรือทำอะไรอยู่ แต่แม่กลับมองหน้าเค้านิ่งๆ ก่อนจะตอบ
" ไปขับรถมั้ง แม่ก็ไม่รู้ แต่ว่าเราน่ะจะถามทำไม ? มันไม่อยู่ก็ดีแล้ว เดี๋ยวพ่อมันกลับมา ก็มาหาเรื่องตีอีกหรอก "
[ ใช่..! สินะ เราจำได้ ไอ้พ่อเลี้ยงมันเป็นคนตีเราจนหัวแตกนี่หว่า..!! ]
พ่อเลี้ยงของโชชื่อนาย ชะอำ แต่น่าจะเรียก นาย " ระยำ " เสียมากกว่า เค้าเป็นคนมีนิสัยขี้หงุดหงิด และโมโหร้ายไม่ค่อยมีเหตุผลสักเท่าไหร่นัก มักจะทุบตีข้าวของและลามไปถึงแม่กับโชอยู่เสมอ แต่พอมีน้องอีกสองคน โชก็รู้สึกว่าพ่อเลี้ยงจะเกลียดแต่เค้าคนเดียว และชอบหาเรื่องดุว่าตนอยู่เสมอ เมื่อครั้งที่อดีต 20 ปีมาแล้ว เขาถูกพ่อเลี้ยงตีจนหัวแตกก็มีสาเหตุมาจากนกเพียงตัวเดียว เพราะเค้าลืมเก็บกรงที่ใส่นกเข้ามาในบ้าน ( ซึ่งนกก็อยู่ในกรงที่ถูกแขวนไว้ตรงหน้าบ้าน ไม่ได้เกิดอันตรายใดๆเลย.. แค่เนี้ย!! ) โดยปรกติแล้วจะเป็นหน้าที่ของแม่ ทุกเช้าแม่จะเอากรงนกออกไปแขวนหน้าประตูบ้าน พอตกเย็นแม่ก็จะเอากรงนกเข้ามาแขวนในบ้าน และก็คอยดูเรื่องอาหารกับน้ำ ซึ่งไอ้นกเขาตัวนั้นเจ้าของของมันก็คือพ่อเลี้ยงนั่นเอง พ่อเลี้ยงไม่เคยเอาน้ำให้ได้แต่ถาม
' เติมน้ำรึยัง เติมข้าวนกรึยัง ' อยู่นั้นแหละ ถ้าแม่ยังไม่ได้เติมก็จะบอกให้ไปเติมเดี๋ยวนั้น
' ไปเอามาเติมสิ เดี๋ยวพ่อนกของฉันจะหิว ' นั่นแหละคือการกระทำของพ่อเลี้ยงเค้าล่ะ
แต่มาครั้งนี้ วันที่ก่อนจะหัวแตก ( เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ) แม่จะต้องออกไปธุระที่ตลาดเพื่อเอาผักบุ้งไปส่งให้กับแม่ค้าที่รับซื้อไว้ อาจจะกลับค่ำหน่อยก็เลยฝากฝังให้โชดูน้องๆและ พ่อนกเขา ด้วย เพราะแม่ต้องไปกับพ่อเลี้ยงโดย พ่อเลี้ยงขับรถและแม่ขนผักบุ้งที่มัดไว้ขึ้นรถ โชซึ่งในตอนนั้น เค้าเป็นพี่คนโตต้องรับผิดชอบน้องๆที่ยังเป็นเด็กนั้นก็สำคัญพอดู แต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพราะเขาและน้องของเขาก็เล่นกันอยู่แต่ในบริเวนบ้าน และพอเย็นก็หาข้าวให้น้องกับตัวเองกินเพราะแม่ได้เตรียมเอาไว้ให้แล้ว เสร็จแล้วก็เอาน้องอาบน้ำนอนดูทีวีตามประสาเด็ก รอแม่กลับบ้านโดยเค้าลืม พ่อนกเขา ไปเสียสนิทเลย…..
" นกของกูยังมีค่ามากกว่ามึงเสียอีก เมื่อไหร่จะไปๆให้พ้นๆ กูเสียที ไอ้เด็กเวน!!.. " คำพูดที่พ่อเลี้ยงพ่นใส่หน้าเด็กชายที่อยู่ในอาการตื่นกลัว เขากำลังเอามือกุมหัวที่เลือดชุ่มโชก ในมือของพ่อเลี้ยงถือไม้ขัดหม้อที่เกือบจะหักอยู่ในมือ และเสียงของแม่ที่ตกใจ ร้องให้กอดลูกชาย และบอกพ่อเลี้ยงให้ พอแล้วๆ น้องๆของเขาร้องให้กันยกใหญ่ เลยทำให้พ่อเลี้ยงเดินหนีไปและทิ้งไม้ขัดหม้อที่เกือบจะหักลงพื้น นี่เค้าคงคิดว่าน้องๆช่วยไว้สินะ…
โช ( ในตอนนี้ ) อายุ 32 ปี แต่ย้อนอดีตมาอยู่ในวัย 12 ปี ซึ่งเค้าเรียนจบป. 6 พอดีกำลังนึกย้อนไปว่าเมื่อครั้งนั้นเป็นอย่างไร และเค้าจะต้องทำเช่นไร เพื่อตัวของเขาเอง เขาลุกขึ้นไปค้นกระเป๋านักเรียนของเขา และหยิบหนังสือวิชาคณิตศาสตร์ขึ้นมาเปิดจนพบกับสิ่งๆหนึ่ง
มันคือสมุดบัญชีธนาคารออมสินของเขานั่นเอง ในนั้นมีเงินฝากของเค้าอยู่เพียงแค่ 1,200 บาท ที่ตอนนั้น..ในวัยเด็กของเขาคงจะดูเยอะมากๆ ซึ่งโชในตอนเด็กค่อยๆเก็บสะสมมา จากการหารายได้พิเศษทั่วๆไป เพื่อนจ้างเค้าทำการบ้านมั่งทำรายงานมั่ง 5 บาท 10 บาท เขาก็เอาเพราะโชเป็นคนหัวดีฉลาดแต่เด็ก
" มีเท่านี้เองหรอ…ตอนนั้นเราคิดว่ามันเยอะมากเลยนี่นา ฮ่าๆๆ " เขาเก็บสมุดบัญชีไว้ที่เดิมและเอากระเป๋าซุกไว้ พร้อมกับนำสมุดและปากกามาจดบันทึก รีทรายการว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป
1. ครอบครัวยากจนเพราะลูกเยอะ
2. พ่อเลี้ยงเกลียดเราคนเดียว
3. พ่อเลี้ยงรักแม่ของเรากับน้องๆลูกของเขา
4. พ่อเลี้ยงรักนกเขาด้วย
" ก็คงอยากจะให้เราไปให้พ้นๆนั่นแหละ!! ไม่อยากเลี้ยงให้เปลือง… "
ครั้งนั้น ( เมื่อ 20 ปีก่อน ) เขาได้หนีออกจากบ้านเพราะทนพ่อเลี้ยงที่ใจร้ายกับเขาต่อไปไม่ไหว ไปหายายที่กรุงเทพ แต่ครั้งนี้เขาควรจะทำยังไงกับตัวเองดี เขาก็จดข้อมูลลงสมุดอีกครั้งนึง
1. ครอบครัวควรอยู่แค่ครอบครัว ( พ่อ แม่ ลูก )
2. ไม่ควรอยู่ให้เห็นหน้าจะได้ไม่เกลียด
3. แม่และน้องจะได้มีความสุข
4. นกเขา…ก็…เป็นนกเขาต่อไป
" งั้นเราต้องแยกย้าย.. ใช่!!! ต้องย้ายออก ไม่ใช่หนีไป "
โชตัดสินใจย้ายออก แต่แม่ของเขาคงไม่ยอมให้เขาอยู่คนเดียวแน่ ด้วยอายุของเขาตอนนี้ที่ใครๆก็ต้องเห็นว่าเป็นเด็ก เค้าจึงคิดเรื่องเรียนต่อเอาไปอ้างกับแม่
" แม่ครับ ผมอยากเรียนต่อ "
" อ่าว… ลูกเปลี่ยนใจแล้วหรอ "
" ครับ ผมว่าจะไปอยู่กับยาย ที่กรุงเทพและเรียนต่อที่นั่นน่ะครับแม่ แม่จะอนุญาติไหมครับ "
" แม่ยังไม่เคยถามยายเลย เค้าจะว่าอะไรบ้างก็ไม่รู้ "
" แม่ก็ลองโทรไปถามยายก่อนสิครับ บอกว่าอยากให้ผมไปอยู่ด้วย เพราะผมโดนพ่อเลี้ยงทำร้าย ยายต้องให้ผมไปอยู่ด้วยแน่ๆ และอีกอย่างผมจะได้เรียนต่อ และบอกยายด้วยครับว่า ผมจะช่วยงานลุงทุกอย่างเลย… "
' ครั้งนี้มันจะไม่เหมือนเดิม ฉันเก่งและทำได้ และที่แน่ๆฉันรู้อนาคตของตัวเอง ฉันจะไม่ยอมเป็นไอ้ขี้แพ้อีกอย่างเด็ดขาด '
แม่โทรไปปรึกษากับยาย ยายสงสารบอกให้แม่ส่งตัวโชมาอยู่ด้วย.. ที่บ้านยายอยู่ใกล้กับโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งจึงไม่น่ามีปัญหาเรื่องหาที่เรียน โชรู้เรื่องนี้อยู่แล้วเพราะเขาเคยหนีไปหายายอย่างยากลำบากในวัยเด็ก เค้าหนีไปด้วยเงินเพียง 1,200 บาทที่มีพร้อมกับแผลหัวแตกและเสื้อผ้าที่ใส่เพียงชุดเดียว ในตอนนั้นทำให้ยายกับลุงต้องวุ่นวายเหลือเกิน แม่จึงจัดเตรียมข้าวของและเสื้อผ้าสำหรับโชจะได้ไปอยู่กับยายอย่างสบายใจ โชเห็นสีหน้าของแม่ก็รู้ว่าแม่กังวล
" แม่ไม่ต้องเป็นห่วงโชหลอกนะ ผมสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีตั้งใจเรียน และจะขยันทำงานหาเงินมาช่วยแม่ แม่มีน้องๆที่ต้องดูแล และพ่อเลี้ยงไม่ค่อยชอบผม แม่ก็รู้นี่นา " แม่ตะลึงในคำพูดของโช
" จ่ะ แม่รู้ แต่แม่ก็ยังห่วงลูกอยู่ดี "
" ผมไปเรียนหนังสือนะแม่ ไม่ได้ไปรบ "
" เดี๋ยวเถอะ..และอย่าทำให้ยายกับลุงทุกข์ใจนะ "
" คร้าบบบบ " โชยิ้มให้กับแม่ของเขา
ตกเย็นวันนั้นแม่คุยกับพ่อเลี้ยงเรื่องของโช พ่อเลี้ยงไม่ค่อยสนใจฟังเท่าไหร่นักแต่ก็ถามว่ายายให้ไปอยู่ด้วยจริงรึเปล่า ไม่ใช่ไปแล้วก็ให้กลับมาเหมือนเดิม พอรู้ว่าเป็นความจริง เรื่องไปอยู่เรียนที่บ้านยายก็ดูหน้าตาดีอกดีใจจนออกนอกหน้า ถามด้วยว่าค่ารถพอไหม แหม..ดูตื่นเต้นเลยสินะ คงคิดล่ะสิว่าฝันเป็นจริงแล้ว กูไล่ลูกเลี้ยงไปได้สำเร็จแล้ว
" แล้วจะไปเมื่อไหร่ล่ะ "
" พรุ่งนี้ดีไหม เราตัดผักบุ้งส่งลูกค้าเสร็จไปหมดแล้วนี่ พี่ก็จะได้มีเวลานอนอยู่กับกอล์ฟและไกท์ ส่วนฉันไปส่งลูกเช้า แล้วเย็นก็กลับ "
โชรู้คำตอบของพ่อเลี้ยง และรู้สึกสบายใจที่เค้าสามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตของเค้าให้ดูเข้าที่เข้าทางขึ้น และจากไปจากที่บ้านแม่อย่างสบายใจ และถ้าเค้าคิดถึงแม่เมื่อไหร่เค้าก็สามารถกลับมาหาแม่ได้เมื่อนั้น ไม่เหมือนกับครั้งก่อนที่เขาสิ้นคิดหนีแม่ไป หนีออกจากบ้านที่ทุกข์ระทมทำให้แม่ทุกข์ใจ และไม่กล้ากลับมากลายเป็นลูกอักตัญญู แถมยังทำตัวไร้ค่าไม่ยอมเรียนหนังสือ อวดดีเกินไป
' มันจะไม่เป็นอย่างนั้นอีกแล้ว '
…..