ตอนที่ 1246 วันสิ้นโลกนอกประตู
กู่ฉิงซานยืนอยู่บนเรือ สายตาจับจ้องกระแสน้ำปั่นป่วน
สีของน้ำยิ่งมายิ่งลึกล้ำ
แม่น้ำแห่งการลืมเลือนหรือ
กู่ฉิงซานสัมผัสอย่างระมัดระวัง
ไม่สิ ความรู้สึกนี้ไม่ใช่แม่น้ำแห่งการลืมเลือน
แม่น้ำแห่งการลืมเลือนทำให้ผู้คนรู้สึกว่าความตายนำมาซึ่งชีวิตใหม่ ลืมเลือนทุกสิ่ง จากนั้นเริ่มต้นอีกครั้ง
แต่แม่น้ำที่นี่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความเย็นเยือกไม่มีสิ้นสุด
เรือล่องไปเรื่อยๆ
น้ำรอบข้างค่อยๆ กว้างขึ้นจนมองไม่เห็นสุดขอบ
“นั่นมันอะไรน่ะ” กู่ฉิงซานพึมพำ
ไม่ไกลจากตรงหน้าเขา ที่ใจกลางแม่น้ำ มีเกาะเล็กสูงตระหง่านอยู่
ถึงจะบอกว่ามันเป็นเกาะเล็ก แต่ความจริงมันมีรัศมีเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น
รูปปั้นหินตัวหนึ่งตั้งอยู่บนเกาะ
รูปปั้นหินดูเหมือนกับสัตว์อสูรเลื้อยคลาน แต่มีสามหัว
หัวหนึ่งคล้ายเสือ หัวหนึ่งคล้ายอินทรี หัวหนึ่งคล้ายมนุษย์ แต่มันไม่ใช่มนุษย์
“มา”
เสียงหนึ่งดังมาจากจิตใจของกู่ฉิงซาน
“มาบนเกาะ ข้าอยากส่งมอบมรดกให้กับเจ้า ข้าจะได้ตายตาหลับเสียที”
กู่ฉิงซานมองรูปปั้นหิน
รูปปั้นหินตัวนี้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดบนเกาะ ใครก็ตามที่อยากขึ้นเกาะจะไม่มีที่ว่างให้ยืน
“ข้าขึ้นไปไม่ได้” กู่ฉิงซานกล่าว
“เจ้าสามารถควบคุมเรือให้เข้ามาได้ อย่ากระโดดออกมา ไม่งั้นเรือจะหายไป” รูปปั้นหินกล่าว
กู่ฉิงซานก้มมองเรือใต้เท้า
ดังคาด เรือแล่นไปทางรูปปั้นหินตามที่เขาคิด
“แบบนี้หรือ” กู่ฉิงซานถาม
“ใช่ แบบนั้นแหละ” รูปปั้นหินกล่าว
กู่ฉิงซานควบคุมเรือ ฝ่าเกลียวคลื่นจนอยู่ห่างจากรูปปั้นหินเพียงสิบกว่าเมตรเท่านั้น
หัวทั้งสามของรูปปั้นหินจ้องมองกู่ฉิงซานตามทิศทางที่เรือขยับ
“ทำไมเจ้าถึงไปล่ะ” รูปปั้นหินถามด้วยความสับสน
“เพราะข้ายังมีสิ่งที่ต้องทำ เมื่อข้ากลับมา ข้าจะมาหาเจ้า” กู่ฉิงซานตอบ
รูปปั้นหินกล่าวว่า “ฟังคำแนะนำของข้า เจ้ามีเรือสุสาน เช่นนั้นเจ้าควรใช้มันหลบหนีออกจากสุสานแทนที่จะถลำลึกเข้าไป”
เรือหยุดนิ่งอยู่บนน้ำ
กู่ฉิงซานถามด้วยความสับสนว่า “แต่ข้าอยากเข้าไปดูข้างใน”
“อย่าเข้าไป มีวันสิ้นโลกห้วงลึกนับไม่ถ้วนอยู่ในนั้น ตัวตนทรงพลังนับไม่ถ้วนจากอดีตล้วนตายภายใต้วันสิ้นโลกเหล่านั้น แล้วเจ้าจะไปเหลืออะไร”
รูปปั้นหินกล่าวต่อว่า “หนีไป รับมรดกของข้าแล้วรีบหนีไป! นี่คือโอกาสเดียวที่จะช่วยชีวิตของเจ้าได้!”
กู่ฉิงซานชำเลืองมองรูปปั้นหิน
เขาควบคุมเรือให้แล่นไปยังสุดสายแม่น้ำต่อ
ใช้เวลาไม่นาน
เกาะบนน้ำที่อยู่ด้านหลังพลันหายไป
กู่ฉิงซานรู้สึกโล่งอก
เขาปาดเหงื่อเย็นออกจากหน้าผาก
ครั้งนี้ เขาไม่มีข้อมูลใดๆ จึงตัดสินใจเลือกตามความระแวดระวังและสัญชาตญาณของตัวเอง
อีกฝ่ายห่วงเรือของเขามาก…
จะต้องมีกฎบางอย่างที่ป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายขึ้นมาได้
กู่ฉิงซานครุ่นคิดในใจเงียบๆ ขณะคลายการควบคุมเรือเพื่อให้มันแล่นไปยังทิศทางหนึ่ง
สิบห้านาทีต่อมา
ข้างหน้าเรือ สถานการณ์ใหม่ปรากฏขึ้น
วัตถุสีดำลอยขึ้นลงบนแม่น้ำ มันดูเหมือนกับท่อนไม้
กู่ฉิงซานชักดาบออกมาขณะมองใกล้ๆ
วัตถุสีดำคล้ายกับถูกปกคลุมด้วยบางสิ่ง มีหมอกเลือนรางลอยขึ้นมาจากแม่น้ำ แม้กระทั่งจิตเทพก็ไม่สามารถสังเกตมันได้อย่างชัดเจน
เมื่อเรือเข้าใกล้ กู่ฉิงซานจึงเห็นสิ่งนั้นเต็มสองตาในที่สุด
มันคือนิ้วสีดำยาวหลายสิบเมตร
นิ้วคล้ายกับสัมผัสถึงเรือได้ขณะดิ้นรนอยู่ในน้ำอย่างรุนแรง
เสียงผู้หญิงอ่อนโยนดังขึ้นในจิตใจของกู่ฉิงซาน
“ความรุ่งโรจน์และเกียรติของอดีตหายไปนานแล้ว ตอนนี้ข้าต้องการผู้สืบทอด มาสิ เจ้าสามารถเรียนรู้ความรู้ของความว่างเปล่าทั้งหมดจากข้าได้!”
“เผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้หาญกล้าเอ๋ย จงมาเป็นผู้สืบทอดของข้า!”
กู่ฉิงซานมองนิ้วสีดำแล้วถามว่า “เจ้าเป็นใคร ทำไมตัวตนที่อยู่ที่นี่ถึงเป็นนิ้ว”
เสียงผู้หญิงตอบอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าไม่ขัดขืนการทำลายล้างของวันสิ้นโลกห้วงลึก มีเพียงนิ้วนี้ที่เหลือรอด มันลอยอยู่ที่นี่มานานหลายปี แต่ตอนนี้ ข้าทนไม่ไหวอีกแล้ว ข้าอยากให้เจ้ายอมรับความรู้ทั้งหมดของข้าเพื่อจุดเปลวไฟชีพจรให้ลุกโชนต่อไป!”
กู่ฉิงซานปิดปาก ไม่พูดอะไร
ในใจของเขา
ไอเย็นเยือกและอันตรายไม่มีสิ้นสุดทำให้หัวใจของเขายิ่งมายิ่งเต้นเร็ว
ความรู้สึกสั่นคลอนถาโถมเข้ามาราวกับคลื่น
เขารู้สึกตลอด
ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
นี่ไม่ใช่สัญชาตญาณ แต่เป็นความประทับใจเลือนรางที่ได้รับผ่านบทสนทนาและการรับรู้ถึงสภาพแวดล้อมรอบข้าง
กู่ฉิงซานอยากใช้วิชาโลกโดยไม่รู้ตัว
ทันทีที่วิชาความฝันเสมือนคู่ขนานทำงาน เขาจะสามารถสังเกตเห็นได้ว่านิ้วสีดำจะทำอะไรหลังจากเขาตอบสนองบางอย่าง
ตอนนี้ กู่ฉิงซานพลันนึกออกว่าวิชาโลกของเขาหายไปแล้ว
ใช่แล้ว ตอนดาบสุดท้ายของเจ็ดดาบสังเวยเพื่ออาณาจักรเสร็จสมบูรณ์ จุดกำเนิดการรวมอาณาจักรในอดีตเข้าสู่ลูกตาของเขา ทำให้วิชาสองโลกหายไป
วิชาโลกใหม่ยังวิวัฒนาการ แต่ยังไม่ก่อตัวเป็นรูปร่าง
กู่ฉิงซานถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ขณะตัดใจที่จะลงมือทำอะไรบางอย่างชั่วคราว
ในสภาพแวดล้อมอันตรายตอนนี้ เรือแบกรับเขาเอาไว้ ด้วยกระแสน้ำลึกเช่นนี้ มันไม่สามารถแบกรับนิ้วหนักอึ้งนั่นได้อยู่แล้ว
เขาหยุดให้ความสนใจนิ้วสีดำ
ในความเงียบ เรือแล่นผ่านด้านข้างนิ้วสีดำ
เสียงผู้หญิงร้อนรนขึ้นมา “ช้าก่อน ขอเพียงเจ้าช่วยข้า ข้าจะบอกความลับเจ้า ความลับนี้ข้องเกี่ยวกับความเป็นความตายของเจ้า!”
กู่ฉิงซานส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “โชคชะตาสำคัญยิ่งกว่าความลับ ลาก่อน”
เสียงผู้หญิงพลันสูงและคมปลาบมากขึ้นขระกระจายความอาฆาตสุดหยั่งออกมา
“ตัวตนบนเรือเอ๋ย เจ้าไม่รู้เสียแล้วว่ากำลังยั่วโมโหใคร”
“ข้าคือผู้ปกครองความมืดทั้งมวลในความว่างเปล่า เงาทุกสรรพสิ่งถูกควบคุมโดยข้า มดปลวกเช่นเจ้ากล้ามาขัดขืนข้างั้นหรือ!”
“ข้าขอสาปแช่งเจ้าในนามแห่งความมืด! ไม่ว่าเจ้าจะไปสุสานใดก็ขอให้ตายด้วยวันสิ้นโลกห้วงลึก!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ!”
เสียงดังกล่าวหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
สิ้นเสียงหัวเราะนี้ นิ้วสีดำจมลงไปในแม่น้ำจนไม่อาจมองเห็นได้อีก
ไอเย็นเยือกกัดกินร่างกายของกู่ฉิงซาน
เขารู้สึกเหมือนกับตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง
ความรู้สึกนี้มาและไปเร็วมาก ทันทีที่หายไป มันทำให้ผู้คนคิดว่าทุกสิ่งที่เกิดเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตา
แต่กู่ฉิงซานรู้ว่านี่คือความรู้สึกจริง
แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กยังคงปรากฏบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม
“ท่านได้รับคำสาปชั่วร้ายของสัตว์ประหลาดแห่งความว่างเปล่า: มารดาแห่งความว่างเปล่าทมิฬ”
“เมื่อท่านย่างเท้าเข้าสู่สุสานใด ท่านจะตายที่นั่น”
“คำอธิบาย: โชคดี ท่านมาในฐานะ ‘เทพท่องราตรี’ ดังนั้นเมื่อ ‘เทพท่องราตรี’ ตาย คำสาปจะหายไปด้วย”
กู่ฉิงซานถอนหายใจด้วยความโล่งอก
สัตว์ประหลาดแห่งความว่างเปล่าที่มีอำนาจเหลือล้นขนาดนั้นไม่ได้ตายดังที่คาดไว้ มันใช้วิชามากมายเพื่อคงอยู่ในแม่น้ำแห่งมิติและเวลาอันปั่นป่วนนี้
แบบนี้ ผู้ปกครองรังลึกลับกาลอวกาศก็น่าจะเป็นตัวตนที่เหนือกว่า
ยังไงเสีย มันหลบหนีออกมาได้ แต่กลับถูกผนึกไว้โดยถ้ำหมื่นอสูร
ไม่อย่างนั้นมันก็มีโอกาสที่จะกลับมา!
ความคิดของกู่ฉิงซานผสมปนเป เขารู้สึกตลอดว่าคำพูดและการกระทำของสัตว์ประหลาดเหล่านี้ช่างแปลกประหลาด
โดยไม่รอให้คิดต่อ เขาเห็นหมอกเลือนรางกำลังพุ่งขึ้นมาจากน้ำที่ไกลออกไปหลายร้อยเมตร
หมอกก่อตัวเป็นหัวกะโหลกยักษ์อย่างรวดเร็ว
หัวกะโหลกนี้แตกต่างจากมนุษย์เล็กน้อย คางของมันยาวเกินไปจนเกือบจะเป็นสามเท่าของมนุษย์
เมื่อหัวกะโหลกนี้ปรากฏขึ้น ทั่วแม่น้ำคล้ายกับมีชีวิต
ตัวตนแปลกประหลาดจำนวนมากปรากฏขึ้นจากก้นแม่น้ำขณะพุ่งออกจากที่ที่หัวกะโหลกอยู่
ทันใดนั้น กู่ฉิงซานสัมผัสได้ถึงบางสิ่งก่อนยื่นมือไปตบถุงเก็บของอย่างแผ่วเบา
ไก่หลากสีสันกระโดดออกมาจากถุงเก็บของก่อนตะโกนใส่เขาว่า “หนีเร็ว! หนีเร็ว! ข้ารู้สึกถึงกลิ่นอายวันสิ้นโลกที่แท้จริง!”
“จริงหรือ เจ้าหมายความว่าไงที่เป็นที่แท้จริง” กู่ฉิงซานถาม
“เจ้าโง่ วันสิ้นโลกจำนวนมากเป็นวิวัฒนาการของวันสิ้นโลกที่แท้จริง พวกมันอ่อนแอมาก เป็นเพียงภาพมายาที่สามารถทำลายได้แค่โลกที่อ่อนแอยิ่งเท่านั้น แต่เจ้านี่ไม่ใช่ขยะแบบนั้น!” ไก่หลากสีสันรีบตอบ
ไก่หลากสีสันตัวนี้คือผลผลิตจากการผสานข้อมูลของหน้าต่างระบบเทพสงครามกับที่เก็บข้อมูลสูงสุดของสมาคมนักฆ่า กู่ฉิงซานย่อมเชื่อมัน
เขาหันหัวเรือเพื่อรีบหนีไปทิศทางตรงข้าม
ด้านหลังเรือ หัวกะโหลกเริ่มเคลื่อนเข้ามาช้าๆ
บนผิวแม่น้ำที่มันหันหน้ามา วัตถุที่ลอยไปมาหายไปอย่างรวดเร็ว
กู่ฉิงซานประหลาดใจ
แค่มองอย่างเดียวก็ทำให้ทุกชีวิตถูกทำลายได้งั้นหรือ
หรือมันใช้วิชาบางอย่างที่เขาไม่รู้จัก
ถ้าสามารถสังหารทุกสิ่งได้เพียงแค่มอง เรือก็หนีไม่รอดน่ะสิ!
“นี่ หัวกะโหลกนี่ฆ่าได้หรือเปล่า”
กู่ฉิงซานชักดาบออกมา หัวใจดิ่งวูบ เขาเริ่มเตรียมต่อสู้
ไก่หลากสีสันมองหัวกะโหลกที่เกิดจากหมอก ทั่วร่างทรุดลงกับพื้นก่อนตอบอย่างสิ้นหวังว่า “ไม่จริง ไม่จริง ครั้งนี้ข้าหนีไม่รอดแล้ว”
กู่ฉิงซานอดที่จะกล่าวไม่ได้ว่า “เพราะงั้นเจ้ารีบตอบข้ามาสิว่าฆ่ามันได้หรือเปล่า ทางเดียวที่ทำได้มีแค่สู้เท่านั้น”
“มันไม่ได้อยู่ในมิติและเวลาแล้ว ดังนั้นเจ้าฆ่ามันไม่ได้”
ไก่หลากสีสันอธิบายเพิ่มเติมว่า “นี่คือรูปลักษณ์ที่แท้จริงของวันสิ้นโลกที่มาจากนอกประตู ทันทีที่ถูกมันเห็น กฎเกณฑ์แห่งมิติและเวลาไม่คงอยู่กับตัวเจ้า ทำให้เข้าสู่ความว่างเปล่านิรันดร์ มีโอกาสได้รับการปลดปล่อยหลังจากตายไปแล้ว”
กู่ฉิงซานเงียบอยู่นาน
ทันใดนั้น เขาถอนหายใจก่อนอุ้มไก่หลากสีสันไว้ในอ้อมแขนแล้วกล่าวว่า “เวลาหมดแล้ว”
ตอนนั้นเอง เขาหายไป
อีกด้าน
ถ้ำหมื่นอสูร
ถ้ำทะเลตะวันตก
สำนักซานไห่
ห้องเก็บของของกลุ่มศึกษา
กู่ฉิงซานได้สติจากโลกที่พังทลาย
…………………………………………