ตอนที่ 1198 ภารกิจพิเศษ
นี่คือสิ่งปลูกสร้างที่ดูทรุดโทรมมาก
สถาบันวิจัยการบินอวกาศ
ความจริง คนที่อยู่ที่นี่ได้อพยพไปถิ่นฐานอื่นก่อนที่สัตว์ประหลาดจะทำการสังหารหมู่ในเมืองนานแล้ว
มีเพียงอุปกรณ์ขนาดใหญ่เหล่านั้นที่ถูกทิ้งไว้เพราะหนักเกินกว่าจะเคลื่อนย้ายได้
ผู้คนต่างมีประสบการณ์กันอยู่ก่อนแล้ว
สัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกเพียงสังหารคนเป็น แต่ไม่สนใจในสิ่งที่มนุษย์สรรค์สร้างขึ้นมา
ดังนั้นหลังจากอพยพผู้คนกันไปแล้ว สถาบันวิจัยจึงได้รับความเสียหายเพียงผิวเผิน เมื่อสัตว์ประหลาดพบว่าไม่มีใครอยู่ข้างใน พวกมันจึงไปค้นหาเป้าหมายอื่นทันที
ในศูนย์วิจัยใต้ดินของสถาบัน
กู่ฉิงซานกำลังควบคุมแขนกลดั้งเดิมจำนวนมากเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์จักรกลขึ้นมาใหม่
เย่หรูซีครุ่นคิดสักพัก จากนั้นถามว่า “เขาหมกมุ่นกับการทำงานแบบนี้ตลอดเลยหรือ”
สิบชั่วโมงผ่านไป
ตั้งแต่กู่ฉิงซานมาที่นี่ เขายุ่งอยู่กับงานตลอดจนไม่ได้สนใจคนอื่น
จางหยิงห่าวอธิบายว่า “เพราะเทคโนโลยีของเจ้าล้าหลังจริง ๆ เขาจึงมีหลายสิ่งที่ต้องทำ ข้าเดาว่าเขาคงไม่ผ่อนคลายจนกว่าการก่อสร้างอุปกรณ์เทคโนโลยีพื้นฐานจะเสร็จสิ้น”
เย่เฟยหลีลูบท้องแล้วกล่าวว่า “ข้าหิวแล้ว”
จางหยิงห่าวถามว่า “เจ้าไม่ได้มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่กับตัวหรือ”
เย่เฟยหลีตอบว่า “มันก็ไม่ใช่ปัญหาหรอกที่จะกินเจ้านั่นตลอด… แต่พวกเราออกไปหาวัตถุดิบแล้วค่อยกลับมาจะดีกว่าหรือเปล่า”
“อืม… ก็ได้” จางหยิงห่าวกล่าว
ทั้งสองคนมองเย่หรูซีพร้อมกัน
“ข้าจะรอที่นี่ จะว่าไปแล้ว ข้าไม่รู้วิธีการทำอาหารน่ะ” เย่หรูซีกล่าว
“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้คาดหวังให้เจ้าทำอยู่แล้ว” ทั้งสองคนกล่าวพร้อมกัน
“งั้นก็ดี” เย่หรูซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก
จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีออกไป
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง
ทั้งสองคนกลับมาจากข้างนอกพร้อมวัตถุดิบจำนวนมาก
ทั้งสองคนวางของบนโต๊ะประชุมขนาดใหญ่
“ข้าหิวแล้ว” จางหยิงห่าวกล่าว
“ข้าก็ด้วย แต่เจ้าจะมาคาดหวังให้นักฆ่าทำอาหารไม่ได้หรอกนะ” เย่เฟยหลีกล่าว
“เจ้ายังไม่ถูกนับว่าเป็นนักฆ่าเลยนี่” จางหยิงห่าวเสริม
หลังจากทั้งสองคนพูดจบ พวกเขาลอบมองกู่ฉิงซานพร้อมกัน
…เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยากให้อีกฝ่ายทำ
กู่ฉิงซานไม่เหลียวหลังกลับมา แค่กล่าวอะไรบางอย่างในความว่างเปล่า
ในความว่างเปล่าด้านหลังของเขา ดาบยาวราวน้ำสารทพุ่งออกมาก่อนลงสู่โต๊ะประชุมแล้วกลายเป็นผู้หญิงทรงเสน่ห์
เย่หรูซีมองผู้หญิงแล้วพึมพำว่า “ช่างงดงาม…”
ผู้หญิงม้วนผมยาว ถกแขนเสื้อ จากนั้นกล่าวกับพวกเขาสามคนว่า “สิ่งที่นายท่านกำลังสร้างอยู่ในช่วงสำคัญที่สุด ทำให้ไม่สามารถปรีกตัวออกมาได้ ข้าจะทำอาหารมื้อนี้ให้เอง”
“เขากำลังสร้างบ้าอะไรอยู่น่ะ”
“สร้างแขนหุ่นยนต์”
“ใช้แขนหุ่นยนต์เพื่อสร้างแขนหุ่นยนต์งั้นหรือ”
“พูดให้ถูกคือใช้แขนหุ่นยนต์ล้าหลังเพื่อสร้างแขนหุ่นยนต์ก้าวหน้าขึ้นมา”
“ถ้างั้น… เจ้าสามารถทำอาหารได้เหมือนกันงั้นหรือ” เย่เฟยหลีอดที่จะถามไม่ได้
ฉานนู่ตอบเสียงอ่อยว่า “ข้ารู้จักอาหารทั้งหมดที่นายท่านทำงานฝีมือก็เหมือนกัน อยากให้ทำอะไร บอกข้ามาได้เลย”
ยี่สิบนาทีต่อมา
ฉานนู่ทำอาหารเสร็จก่อนกลายเป็นดาบยาวอีกครั้งแล้วบินกลับไปอยู่ที่หลังกู่ฉิงซาน ท้ายสุดหายไปในความว่างเปล่า
ในที่สุดกู่ฉิงซานก็หยุดงานที่ทำ
“ไม่ง่ายเลยจริง ๆ”
เขาถอนหายใจขณะเดินมาที่โต๊ะประชุม
จางหยิงห่าวเปิดขวดสุรากับแชมเปญ
สุราจะช่วยเติมเต็มตัวเขาเองกับกู่ฉิงซาน ส่วนแชมเปญไว้ให้เย่เฟยหลีกับเย่หรูซี
เย่หรูซีจิบเข้าไปแล้วกล่าวว่า “ขอที่เจ้าดื่มหน่อยสิ”
จางหยิงห่าวยักไหล่ก่อนเทสุราให้หนึ่งแก้ว
จางหยิงห่าว กู่ฉิงซานและเย่หรูซีดื่มสุราพร้อมกัน
เย่เฟยหลีมองแชมเปญในมือก่อนพึมพำว่า “ข้ารู้สึกว่าเหมือนตัวเองถูกกีดกันออกมายังไงไม่รู้”
กู่ฉิงซานเริ่มมองอาหารที่อยู่บนโต๊ะ
ฉานนู่เตรียมสลัดผัก น้ำซุป ขนมปัง เนย ผลไม้ หมูหันย่าง กระต่ายตุ๋น ไส้กรอกรมควัน นกกระทาทอดและสเต๊กให้ทุกคน
“อา… ช่วงนี้นางสนใจในวัฒนธรรมการทำอาหารอีกแบบหนึ่งน่ะ เดี๋ยวข้าเพิ่มอาหารจานอื่นให้ทุกคนเอง”
ขณะกู่ฉิงซานกล่าว เขาควานหาในกองวัตถุดิบแล้วหยิบแครอท หัวหอม หัวหอมใหญ่ ขิง กระเทียม ไวน์สำหรับทำอาหาร โป๊ยกั๊ก พริกไทย…
เขาเชี่ยวชาญงานฝีมือ ประกอบกับการช่วยเหลือของพลังวิญญาณ เขาจุดไฟและปรุงรสน้ำ เพียงไม่กี่สิบอึดใจ เขาทำหม้อไฟรสจัดจ้านขึ้นมา
ชั้นวางหม้อไฟอยู่ใจกลางโต๊ะเปลวไฟถูกจุด กลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว
มีอาหารรายล้อมมากมาย
กู่ฉิงซานปอกผลไม้ก่อนนำใส่จาน
เขานำฟัวกราส์มาทำฟัวกราส์รมควันโบราณแล้ววางบนจาน (“นี่คือรสนิยมส่วนตัวของข้า ถ้านายพลเย่ไม่ชินก็ไม่ต้องหิน” กู่ฉิงซานกล่าว)
เขาทำปลาหมักน้ำส้มสายชูอีกจานก่อนนำมาวางตรงหน้าเย่เฟยหลี (“ขอบคุณ ข้าชอบจานนี้มาก” เย่เฟยหลีกล่าว)
โต๊ะเต็มไปด้วยอาหารอันโอชะ
เย่หรูซียังคงมองกู่ฉิงซานทำอาหาร หลังจากนั้น นางค่อย ๆ ตักเนื้อแกะที่ปรุงสดใหม่ในหม้อไฟแล้วกินเข้าไป
รสชาติดี
นี่ไม่ใช่รสชาติแห่งหายนะ
เย่หรูซีตกตะลึงสักพักก่อนกล่าวกับตัวเองว่า “ตอนนี้ข้าเชื่อสนิทใจแล้วว่าเจ้าไม่ได้มาจากโลกใบนี้”
ทั้งสี่คนเริ่มกิน
หลังจากกินเสร็จ พวกเขาดื่มสุรากันอีกหลายขวด
“นายพลเย่ ดื่มเก่งจริง ๆ ” จางหยิงห่าวชื่นชม
“ใช่ ข้าล่ะนับถือจริง ๆ ” กู่ฉิงซานชื่นชมเช่นกัน
“โลกนี้มันโหดร้ายเกินไป ถ้ามีสุราอยู่ตรงหน้า ใครบ้างจะไม่ดื่ม” เย่หรูซีถาม
ทุกคนเงียบ
กู่ฉิงซานหยิบถ้วยแล้วกล่าวกับนางว่า “ประโยคนี้ควรค่าแก่การชนแก้ว”
“มา”
เย่หรูซีดื่มสุราก่อนส่งถ้วยให้กู่ฉิงซาน เป็นสัญญาณให้เขาเทอีก
“ใกล้จะเสร็จงานแล้ว คืนนี้หยุดดื่มก่อนดีกว่า” กู่ฉิงซานกล่าว
“ไม่ เจ้าเทเถอะ ข้าอยากใช้สุราแก้วนี้เพื่อบอกสิ่งหนึ่งกับเจ้าให้ชัดเจน” เย่หรูซีกล่าว
เมื่อนางกล่าวเช่นนี้ กู่ฉิงซานจึงต้องเทใส่ถ้วยแล้วส่งให้
เย่หรูซีรับถ้วยมาแล้วกล่าวว่า “ข้า… ข้าคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว ข้าคงไปกับพวกเจ้าไม่ได้สักพัก”
“ทำไมล่ะ” กู่ฉิงซานถามอย่างสงบ
“เพราะข้าไม่สามารถปล่อยโลกให้เป็นแบบนี้ได้ ที่จริง ข้ามีสหายมากมาย พวกเขาอยู่ในโลกใบนี้ ข้าจะปล่อยให้พวกเขาแบกรับไว้ไม่ได้ ยิ่งวันสิ้นโลกยังไม่ต้องพูดถึง ดังนั้นข้าจึงทิ้งพวกเขาไปไม่ได้” เย่หรูซีตอบ
“ถ้าไม่มีเรื่องพวกนี้ เจ้าก็จะยอมไปกับพวกข้าเพื่อพบโลกกว้างใหญ่กับผู้คนและสิ่งของที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านี้ ใช่หรือเปล่า” กู่ฉิงซานถาม
เย่หรูซีพยักหน้าช้า ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความถวิลหา
กู่ฉิงซานยิ้มเงียบ ๆ
เขาคล้ายกับมีความสุขเล็กน้อย
“พวกเจ้าคิดว่าไง” เขาถาม
จางหยิงห่าวออกความเห็นว่า “ไม่เลว”
เย่เฟยหลีกล่าวเช่นกันว่า “อืม แบบนั้นแหละดี”
กู่ฉิงซานมองเย่หรูซีด้วยความสับสนก่อนกระแอมลำคอแล้วกล่าวว่า “ฟังข้านะ ถ้าเจ้าสามารถทิ้งทุกสิ่งอย่างไม่ลังเลแล้วยอมมากับพวกข้าได้ เช่นนั้นข้าก็ต้องนับเรื่องนี้เข้าไปในภารกิจได้ด้วย”
“แต่ตอนที่ข้าพบเจ้า เจ้าอยู่กับพลเรือน ภายหลังเจ้าโกรธข้าเพราะหลุมลึกนั่น พอถูกคนเหล่านั้นหักหลัง เจ้ากลับจากมาเงียบ ๆ พอระเบิดนิวเคลียร์ลง เจ้าก็ดันโศกเศร้าให้กับพวกเขาอีก แถมยังแสวงหาการแก้แค้นด้วย”
กู่ฉิงซานโน้มมาข้างหน้าแล้วกระซิบว่า “นายพลเย่ มีคนอีกมากที่กลายเป็นวิญญาณชั่วร้ายในวันสิ้นโลก แต่น้อยคนนักที่จะอาศัยอยู่ในความมืดราวกับคนธรรมดา ข้าคิดว่าเจ้าสามารถเริ่มนับหนึ่งใหม่ได้”
“ดังนั้นข้าขอให้เจ้าเป็นหุ้นส่วนกับพวกข้าอย่างเป็นทางการ”
“หุ้นส่วนหรือ” เย่หรูซีถาม
“ใช่ หุ้นส่วน พวกเรามีผลประโยชน์มากมาย มีความรู้ทุกรูปแบบ มีสิทธิ์อันชอบธรรม หากเจ้าตอบตกลง สัญญาเลยว่าเจ้าจะไม่ผิดหวัง” กู่ฉิงซานกล่าว
“แต่ข้าบอกไปแล้วนี่ว่าข้าอยากปกป้องโลก…” เย่หรูซีกล่าว
กู่ฉิงซานขัดนางแล้วกล่าวว่า “โลกของเจ้า ข้าจะช่วยเอง เมื่อทุกอย่างจบเมื่อไหร่ เจ้าอยากมาเข้าร่วมกับพวกข้าเพื่อออกเดินทางไปด้วยกันหรือเปล่า”
เย่หรูซีมองเขาแล้วกล่าวอย่างไม่แน่ใจว่า “วันสิ้นโลกคงอยู่มาหลายปี คงไม่มีทาง…”
“มันก็แค่วันสิ้นโลกชั้นต่ำ” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างสงบ
เย่หรูซีเงียบไปสักพักก่อนพยักหน้า
กู่ฉิงซานหยิบถ้วยขึ้นมา
เย่หรูซียกถ้วยตาม
ถ้วยชนเข้าหากัน
ทั้งสองดื่ม
“ตกลงหรือเปล่า” กู่ฉิงซานถาม
“ตกลง” เย่หรูซีตอบ
กู่ฉิงซานเอียงศีรษะขณะมองไปทางความว่างเปล่า
“ความโกลาหล เจ้ามองเห็นหรือเปล่า ไม่ใช่ตัวข้าอยากช่วยโลก เป็นเทพของเจ้าที่ยืนกรานจะทำแบบนี้ ไม่อย่างนั้นนางจะไม่ไป” เขากล่าวอยู่ในใจ
ในความว่างเปล่า แถวตัวอักษรสีเทาขนาดเล็กปรากฏขึ้นมาอย่างยากลำบาก
“ภารกิจพิเศษ: ขอให้ผู้ท้าทายนามกู่ฉิงซานช่วยโลกทันที จำเอาไว้ว่าต้องพาเย่หรูซีกลับมา”
หลังจากอ่านจบ กู่ฉิงซานค่อย ๆ ยิ้มออกมา
“ข้าจำได้นะ… เหมือนก่อนหน้านี้จะมีใครไม่รู้บอกว่าไม่ต้องช่วยโลก… ใครเป็นคนพูดกันนะ” เขาหยอกล้อ
ตัวอักษรสีเทาขนาดเล็กทั้งหมดในความว่างเปล่าหายไปจนสิ้น
ไม่มีคำตอบ
………………………………………