webnovel

1197 ระบุตัวตน

ตอนที่ 1197 ระบุตัวตน

ซากปรักหักพัง

ซากปรักหักพังของเมือง

สิ่งมีชีวิตนับล้านล้วนถูกกวาดล้าง

ท่ามกลางซากปรักหักพังไร้พรมแดน เหลือเพียงเด็กผู้หญิงคุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างเหม่อลอย

อุกกาบาตที่กำลังตกลงมาหลบเลี่ยงเมืองแห่งความตายนี้ราวกับกำลังหนีเอาตัวรอดลูกแล้วลูกเล่า

“ไม่…”

“ข้าบอกว่าอย่าทำร้ายคนอื่นไง ทำไมถึงยัง…”

ใบหน้าของผู้หญิงซีดเผือด อารมณ์ในแววตาของนางแห้งเหือดทีละน้อย

โลกกลายเป็นเส้นบางนับไม่ถ้วน ทันใดนั้นก็หายไปจากดวงตาของกู่ฉิงซาน

เกิดความว่างเปล่า

โลกอีกใบพลันปรากฏขึ้นก่อนรับกู่ฉิงซานเข้าไป

บนฝั่งแม่น้ำ

ใต้ร่มเงา

กู่ฉิงซานกลับมา

จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลียืนอยู่ด้านข้างเขา เย่หรูซีกำลังสบตาอยู่

เย่หรูซีถามด้วยความเคร่งขรึมและคาดหวังว่า “เจ้าบอกว่า… เจ้าเหมือนกับข้าหรือ”

“ใช่ เจ้าสามารถควบคุมพลังในตอนนี้ได้หรือยัง” กู่ฉิงซานถาม

ประโยคเดิม

ถ้าไม่ใช่ แล้วจะถามคำถามเดิมไปเพื่ออะไร

ดวงตาของเย่หรูซีพลันทอประกาย

นางลังเล “โปรดพิสูจน์ทีว่าเจ้าเหมือนกับข้า”

กู่ฉิงซานขยิบตาให้จางหยิงห่าว

“ใช้วิชาอัญเชิญที่แข็งแกร่งที่สุดของเจ้า ไม่อย่างนั้นนางไม่เชื่อพวกเราแน่” เขากล่าวผ่านกระแสจิต

จางหยิงห่าวเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายก่อนจั่วไพ่ออกมาจากความว่างเปล่า

“อย่าห่วงไปเลย ข้าจะอัญเชิญราชาจากสำคลิ้กรับลอบสังหารมาให้เอง”

จางหยิงห่าวส่งกระแสจิตขณะสะบัดมือเพื่อโยนไพ่ออกไป

ตูม!

ปฐพีสั่นไหวเล็กน้อย

กิ้งก่าสีเขียวยาวหลายร้อยเมตรปรากฏขึ้นตรงหน้าทั้งสาม

เทียบกับที่กู่ฉิงซานเห็นเมื่อคราวที่แล้ว ดูเหมือนจะมีบางสิ่งเปลี่ยนไป

มันแข็งแกร่งขึ้น

“ไง เสี่ยวหยิงห่าว เรียกหาข้าหรือ”

กิ้งก่าสีเขียวพ่นหมอกหลากสีสันออกมาขณะถาม

“มีสหายคนหนึ่งอยากพบเจ้าน่ะ” จางหยิงห่าวตอบ

เขา กู่ฉิงซานและเย่เฟยหลีมองเย่หรูซีพร้อมกัน

เย่หรูซีดูสับสนเล็กน้อยก่อนพึมพำกับตัวเองว่า “ทำไมถึงอ่อนแอขนาดนี้”

นางเพียงมองจางหยิงห่าวแล้วถามตามตรงว่า “เจ้าสัตว์เลื้อยคลานอ่อนแอตัวนี้คือตัวตนที่เจ้าสามารถอัญเชิญมาได้งั้นหรือ”

โลกเงียบสงัด

พวกเขาสามคนยังไม่ได้พูดอะไร แต่กิ้งก่าสีเขียวทะยานออกไปแล้ว

ดูท่ามันจะหงุดหงิด

“ฉัวะ!”

จางหยิงห่าวรีบยกเลิกวิชาเพื่ออัญเชิญไพ่

สิ้นเสียงปัง กิ้งก่าสีเขียวถูกบังคับให้เคลื่อนย้ายพริบตากลับไป

หวิดไปแล้ว!

ทันทีที่มันโกรธ ย่อมไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แน่นอน

จางหยิงห่าวปาดเหงื่อจากหน้าผาก กู่ฉิงซานชิงพูดก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร

“อย่างที่เจ้าเห็น” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างสงบ “การควบคุมพลังของพวกข้าแม่นยำมาก มันละเอียดอ่อนมากจนต้องอัญเชิญสิ่งที่อ่อนแอที่สุดอย่างเจ้านี่ออกมา”

“ใช่ เห็นได้ชัดว่านี่คือตัวตนอ่อนแอที่สุดที่ข้าสามารถอัญเชิญได้” จางหยิงห่าวเปลี่ยนน้ำเสียงทันทีแล้วกล่าวว่า “พวกข้าจะไม่ใช้พลังอันแก่กล้าตามใจ เจ้าก็เห็นนี่ การอัญเชิญของข้าเมื่อครู่นี้มันบรรจบกันถึงขีดสุด คนส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้”

แน่นอนว่าคนอื่นไม่สามารถทำได้

สำรับไพ่ลอบสังหารคือชุดการ์ดฝั่งลึกลับ มีเพียงนักฆ่าเท่านั้นที่สามารถทำสัญญาได้

สำรับไพ่นี้หายากยิ่งแม้แต่ในโลกเก้าร้อยล้านชั้น นักฆ่าที่มีพรสวรรค์ด้านไพ่หาได้ยากยิ่งกว่า ดังนั้นมันจึงเป็นสำรับหายาก

พละกำลังตอนนี้ของจางหยิงห่าวยอดเยี่ยมในโลกเก้าร้อยล้านชั้นแล้ว

แต่ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่หรูซี…

“เป็นแบบนั้นเอง ข้าเรียนรู้การควบคุมพลังตอนอายุสิบปี ทุกวันนี้ มีน้อยสถานการณ์นักที่พลังของข้าจะเกินการควบคุม แต่ข้ายังไม่สามารถควบคุมพลังอัญเชิญระดับอ่อนแอเช่นเจ้าได้”

เย่หรูซีกล่าวเสียงเบา

คลิก

จางหยิงห่าวได้ยินเสียงหัวใจแตกสลาย

“นั่นแหละ มันไม่ง่ายที่จะทำแบบนี้เลย พูดตามตรง ข้าทำได้ตอนอายุยี่สิบปี” เขากล่าวอย่างสงบ

ข้าหมายถึงใช้เวลายี่สิบปีถึงจะมีพละกำลังขนาดนั้น

จางหยิงห่าวอย่างเงียบงันอยู่ในใจ

“ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ ถ่อมตัวและอึดอัดจนแทบจะไม่มีความน่าสนใจเลย ข้าชักอยากจะเห็นพลังของเจ้าแล้วสิ” ดวงตาของเย่หรูซีเผยความแน่วแน่ออกมา “ข้าเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไป ข้าจะควบคุมความสามารถได้สมบูรณ์เหมือนกับเจ้า”

จางหยิงห่าวยิ้มให้กำลังใจก่อนกล่าวในฐานะคนที่มีประสบการณ์ว่า “เจ้าต้องพยายามต่อไป อย่ายอมแพ้ล่ะ”

“อืม ข้าจะเรียนรู้จากเจ้า” เย่หรูซีพยักหน้า

นางมองจางหยิงห่าวด้วยแววตานับถือ

กู่ฉิงซานเงียบ

เย่เฟยหลีเงียบ

ทั้งสองคนมองหน้ากัน

ทั้งที่โดนใครบางคนต่อว่ายับเยินขนาดนี้ แต่ก็ยังคงสีหน้าเอาไว้ได้โดยไม่แปรเปลี่ยน

ควรค่ากับการเป็นยอดฝีมือ

นักฆ่า

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักก่อนสารภาพออกมาว่า “ที่จริง เมื่อพวกข้ามาถึงโลกนี้ พละกำลังของพวกข้าถูกกดทับไว้จนต่ำมาก ถ้าเจ้าเห็นตอนที่ข้าใช้วิชา เจ้าน่าจะสามารถสัมผัสบางสิ่งได้”

เย่หรูซีฟังเงียบๆ ในที่สุดก็เผยสีหน้าโล่งอกออกมา

ไม่เพียงแค่การอัญเชิญกิ้งก่าเท่านั้น สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือคำพูดของกู่ฉิงซาน

ด้วยดาบเดียว เขาขัดขืนการซุ่มโจมตีของวานรยักษ์ได้

จะให้มองว่าวิชาดาบของเขายังไม่สมบูรณ์ได้อย่างไร

เมื่อพูดถึงตอนที่เขาถือดาบ นางก็รู้สึกได้ว่ามันน่าขนลุกนัก

ดูท่าว่าความเป็นความตายของทุกชีวิตอยู่บนดาบของเขา จิตใจของเขาเป็นผู้กำหนดมัน

อีกอย่าง

เขาสามารถกลายเป็นสัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกจนรอดจากการโจมตีของระเบิดนิวเคลียร์หกลูกมาได้โดยไม่ถูกใครสังเกตเห็น

ทั่วทั้งโลก ใครบ้างจะสามารถทำแบบนี้ได้

นี่เป็นเรื่องเกินกว่าประสบการณ์และจินตนาการทั้งหมดตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา

เย่หรูซีอยากพยักหน้าอย่างเงียบงัน ในใจเชื่อเช่นนั้น

“เอาล่ะ มาพูดเรื่องธุระกันดีกว่า” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ตอนนี้พวกเราต้องหาทางออกจากโลกใบนี้ ไม่อย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้บัญญัติหรือสัตว์ประหลาดวันสิ้นโลก ทันทีที่พวกมันหาเจ้าเจออีกครั้ง ฉากก่อนหน้านี้ก็จะเกิดขึ้นอีกครั้ง”

เย่หรูซีตกตะลึง

ฉากก่อนหน้านี้…

ไม่ว่านางพยายามจะปรับตัว แสดงออกและมีส่วนร่วมต่อโลกใบนี้มากแค่ไหน

พวกเขาก็พร้อมที่จะฝังสิ่งมีชีวิตนับล้านเพื่อสังหารนางให้จงได้!

เย่หรูซีสูดหายใจเข้าลึกๆ

นางมองพวกเขาทั้งสามที่อยู่ตรงหน้า

ตอนนี่มันต่างออกไปแล้ว

ตอนนี้มีคนที่เหมือนกับนางแล้ว

“พวกเราจะออกไปได้ยังไง” เย่หรูซีถามอย่างแผ่วเบา

หัวใจของกู่ฉิงซานรู้สึกมั่นคงก่อนตอบว่า “ข้าไม่รู้ ข้าไม่รู้เรื่องโลกของเจ้า ตอนนี้พวกข้าต้องการข้อมูลก่อน อาจจะรวมถึงทรัพยากรกับอุปกรณ์ด้วย…”

“ทรัพยากรกับอุปกรณ์หรือ” เย่หรูซีถามด้วยความสับสน

จางหยิงห่าวขัดว่า “ใช่ นอกจากมีความสามารถพิเศษแล้ว เขายังเป็นนักวิทยาศาสตร์อีกด้วย เป็นวิทยาศาสตร์ที่เหนือกว่าโลกของเจ้า ทำให้สามารถช่วยออกไปจากโลกใบนี้ได้อย่างปลอดภัย”

เย่หรูซีถามด้วยความสนใจว่า “นักวิทยาศาสตร์หรือ ข้าคาดไม่ถึงจริงๆ แล้วเจ้าล่ะ”

“ข้าหรือ ข้าคือนักฆ่า อยู่สมาคมนักล่า” จางหยิงห่าวตอบ

“เจ้าไม่เลวเลย” เย่หรูซีกล่าวอย่างมีอารมณ์

นางมองเย่เฟยหลีอีกครั้ง

เย่เฟยหลียักไหล่แล้วกล่าวว่า “ข้าคือผู้เชี่ยวชาญเกมอันดับหนึ่งในโลก”

“ผู้เชี่ยวชาญเกมหรือ”

“ใช่ ปกติเจ้าเล่นเกมอะไรล่ะ เกมสวมบทบาท เกมกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ หรือเกมแก้ปริศนาง่ายๆ”

เย่เฟยหลีถามด้วยความตื่นเต้น

“ข้าไม่เล่นเกมน่ะ”

ทั้งสองคนเงียบ

คงคุยเรื่องนี้ไม่ได้สินะ

“เอาล่ะ” กู่ฉิงซานขัด “ขณะที่ยังไม่มีใครพบพวกเราในตอนนี้ รีบเข้าไปดูเมืองนี้กันดีกว่าเผื่อจะหาของมีประโยชน์เจอ จะว่าไปแล้ว ข้าอยากเรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์และสังคม ทิศทางการวิจัยวิทยาศาสตร์ ผลการศึกษาเฉพาะด้านเทคโนโลยีอากาศยาน รวมถึงการกระจายและการใช้จ่ายทรัพยากร”

พวกเขาสี่คนมองซากปรักหักพังของเมืองที่อยู่ไม่ไกลนัก

“เจ้าจะเอาไปทำอะไร” จางหยิงห่าวถาม

“จักรวาลกว้างใหญ่นัก ไม่น่ามีสิ่งที่เรียกว่าระเบิดนิวเคลียร์เพียงอย่างเดียวหรอก แบบนั้นก็จะเหมือนกับบ้านเกิดของพวกเรา” กู่ฉิงซานตอบ

จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีพยักหน้าพร้อมกัน

ในด้านเทคโนโลยี กู่ฉิงซานเคยจัดการกับส่วนนี้มาก่อน

วันนี้ เย่หรูซีได้พบเจอกับสิ่งที่ไม่เคยเจอมาก่อน ตอนนี้ นางกล่าวอย่างกระตือรือร้นว่า “ถึงแม้ชีวิตในเมืองนี้จะสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่ข้ารู้จักสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายแห่ง เนื้อหาของมันอาจจะยังไม่ถูกทำลายก็ได้”

“เร็วเข้า คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างมาถึงในไม่ช้า ไปกันเถอะ” กู่ฉิงซานกล่าว

“อืม ลุย” เย่หรูซีกล่าว

ยังคงเป็นโลกใบนี้

อีกด้าน

สถานที่ไกลห่างในเมืองชายฝั่ง

ภายใต้ม่านราตรี สองร่างพลันปรากฏขึ้น

โซ่เปลวเพลิงร้อนแรงบนตัวผู้บำเพ็ญเพลิงส่องสว่างรอบข้าง

วิญญาณกรีดร้องยืนอยู่ในความมืดสักพักขณะมองข้อความแจ้งเตือนของความโกลาหล

“ดูท่าพวกเราจะต้องหาเทพแห่งความโกลาหลอีกองค์ในโลกใบนี้” เสียงผู้หญิงของวิญญาณกรีดร้องกล่าว

“คู่ต่อสู้ของพวกเรามาถึงก่อนหนึ่งชั่วโมง พวกมันใช้เวลาในบาร์น้อยกว่าพวกเราอีก” ผู้บำเพ็ญเพลิงกล่าว

“ดังนั้นพวกเราต้องเร่งมือ อาจจะสามารถฆ่าพวกมันที่นี่ก็ได้”

มีจิตสังหารที่แท้จริงมาจากวิญญาณกรีดร้อง

ผู้บำเพ็ญเพลิงเงียบสักพักแล้วกล่าวว่า “นี่เป็นหนทางที่ดี ถึงแม้พละกำลังของพวกเราจะด้อยกว่า แต่พละกำลังพิเศษได้ถูกคลายจนสิ้นแล้ว”

“ใช่ ด้วยพลังโบราณและพลังเหนือธรรมชาติของพวกเรา ไม่ใช่ปัญหาที่จะฆ่ามนุษย์ที่มีพละกำลังที่ถูกลดทอนเลย” วิญญาณกรีดร้องยิ้มกว้าง

“มาทำให้การต่อสู้เพื่อกลายเป็นเทพจบลงตรงนี้เถอะ”

……………………………………