webnovel

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

เมื่อจู่ๆ โชคชะตาก็ทำให้ เยี่ยหวันหวั่น ฟื้นขึ้นมาในคืนแห่งความทรงจำอันเลวร้ายเมื่อ 7 ปีก่อน เธอย้อนเวลากลับมาเกิดใหม่ในบ้านหลังเดิม ที่ยังมีปีศาจแสนเย็นชา ซือเยี่ยหาน คอยอยู่ข้างกาย เขา... คนที่เธอเคยพยายามหนีไปให้พ้น ยอมแม้แต่ทำให้ตัวเองอัปลักษณ์ น่าอับอาย และรักกับชายคนอื่น! แต่ชาติก่อนสมองของเธอคงมีปัญหา ถึงได้ปล่อยสามีสุดหล่อคนนี้เอาไว้ไม่เหลียวแล จึงได้ถูกหญิงร้ายชายชั่วทำร้าย เธอถูก เฉินเมิ่งฉี เพื่อนสนิทที่ไว้ใจที่สุดล้างสมองและหาทางเข้าใกล้ซือเยี่ยหาน จนในที่สุดความสัมพันธ์ระหว่างเธอและสามีก็ถึงคราวแตกร้าว และตัวเธอต้องมีจุดจบอันน่าเวทนา ชาตินี้ในเมื่อมีโอกาสกลับมาอีกครั้ง เธอจะยึดตำแหน่งคนข้างกายซือเยี่ยหานไว้ คอยอาศัยความรักและบารมีของเขา ใช้ชีวิตใหม่ให้คุ้มค่าที่สุดเพื่อเอาคืนคนชั่วพวกนั้น และที่สำคัญคือมีชีวิตที่ดียิ่งกว่าเดิม! ...คิดจะตีหน้าซื่อหลอกใช้ สรรหาวิธีให้เธอยอมถอยเหรอ? ‘ขอโทษที สติปัญญาของฉันอัปเกรดมาแล้ว!’

จ่งจ่งโหย่วเยา · Ciudad
Sin suficientes valoraciones
570 Chs

บทที่ 26 จุ๊บๆ รักคุณที่สุดเลย

บทที่ 26 จุ๊บๆ รักคุณที่สุดเลย

ที่หอพัก

[คุณชายเก้า~ ทำไมไม่ตอบฉันเลย? ฉันเขียนได้ดีไหม~ ให้รางวัลหน่อย ชมหน่อย ส่งจุ๊บหน่อย~]

เยี่ยหวันหวั่นส่งข้อความไปแล้ว เห็นทางนั้นเงียบไม่มีการตอบกลับ เพื่อความปลอดภัย จึงส่งข้อความนี้ตามไปอีก

ความจริงแล้วในใจเธอกระวนกระวายอยู่ไม่น้อย เพราะไม่มั่นใจว่าซือเยี่ยหานจะหลงกลลูกไม้นี้หรือไม่

อีกอย่างกลอนบทนั้น ความจริงเป็นบทกลอนที่ฝ่ายชายต้องเขียนให้สาวงามที่ตนชอบ

โดนผู้หญิงสารภาพรักได้เลี่ยนแบบนี้ ไม่รู้ว่าคนบ้าบางคนจะโกรธไหม?

ชาติก่อน เธอถูกคนที่ซือเยี่ยหานส่งมาจับตัวจากโรงเรียนไปกลางดึก สร้างความวุ่นวายไปทั้งโรงเรียน มีข่าวลือเรื่องของเธอต่างๆ นานากระจายไปทั่ว บ้างก็บอกว่าเธอมีนักธุรกิจร่ำรวยเลี้ยงดู เป็นเพราะหนีออกมาจึงถูกจับตัวกลับไป บ้างก็ลือกันว่าครอบครัวเธอไปกู้เงินดอกสูง อีกฝ่ายต้องการจับตัวเธอไปขายยังสถานที่แบบนั้น...

แม้ว่าข่าวลือจะไม่มีมูลความจริง แต่เสียงปากของคนจำนวนมาก ย่อมทำให้ผิดกลายเป็นถูกได้

นึกย้อนถึงทุกสิ่งที่ผ่านมา เยี่ยหวันหวั่นหนาวสะท้านไปทั้งตัว...

เวลานี้ โทรศัพท์ในมือพลันสั่นครืดๆ...

เยี่ยหวันหวั่นสะดุ้งเล็กน้อย ค่อยๆ มองไปที่กล่องรับข้อความใหม่...

ซือเยี่ยหานตอบกลับเธอมาคำเดียวว่า “ดี”

เยี่ยหวันหวั่นจ้องไปที่คำว่า “ดี” นั้น ตะลึงค้างไปทันที พูดง่ายแบบนี้เลยเหรอ?

ซือเยี่ยหาน...กับคนที่เธอรู้จักในชาติก่อน...ดูจะไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไรนะ...

เยี่ยหวันหวั่นเอามือเท้าคาง พลางเคาะแก้มเบาๆ จากนั้นก็แก้ไขข้อความบรรทัดหนึ่งก่อนจะกดส่งออกไป [จุ๊บๆ รักคุณที่สุดเลย~ อีกหนึ่งสัปดาห์ก็จะสอบแล้ว เค้ากำลังตั้งใจทบทวนบทเรียน ช่วงนี้ก็เลยส่งข้อความหาคุณไม่ได้ จำไว้ว่าต้องคิดถึงฉันทุกวันนะ~]

เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งจะส่งข้อความนั้นได้ไม่ถึงวินาที อีกฝ่ายก็ตอบกลับมาทันที [อืม]

จ้องมองคำว่า ‘อืม’ ที่ตรงไปตรงมายิ่งกว่าสิ่งใด เยี่ยหวันหวั่นกะพริบตาอย่างอึ้งทึ่งอีกครั้ง

นี่...แบบนี้ก็ได้เหรอ?

เมื่อครู่เธอบอกว่าจะไม่ได้ติดต่อเขาหนึ่งสัปดาห์นะ! แบบนี้ก็ตกลงแล้ว?

ตีเธอให้ตายก็คิดไม่ถึง...แค่ออดอ้อนเล็กน้อย ก็ได้ผลแบบนี้จริงเหรอ...

เยี่ยหวันหวั่นนิ่งอึ้งไปสามวินาที แล้วเอาหน้าผากโขกกับโต๊ะ แทบอยากจะโขกตัวเองให้ตายไปเลย หากรู้แต่แรกว่าซือเยี่ยหานกล่อมง่ายขนาดนี้ ทำไมชาติก่อนเธอต้องทนทุกข์ทรมานมากมายขนาดนั้นด้วย

ดี เมื่อค้นพบอาวุธลับที่จะใช้ต่อกรกับอสูรร้ายแล้ว ก็นับว่าเป็นเรื่องดี

ต่อมา เมื่อจัดการกับซือเยี่ยหานได้แล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่มีสิ่งรบกวบใจอีก มุ่งความสนใจเข้าไปในทะเลหนังสือ เริ่มต้นการทบทวนหนังสืออย่างจริงจัง

เพียงพริบตาวันเวลาก็ผ่านไปแล้วเจ็ดวัน

เจ็ดวันนี้ แต่ละวันเยี่ยหวันหวั่นได้นอนเพียงสามถึงสี่ชั่วโมงเท่านั้น เพราะต้องอ่านทบทวนเนื้อหาทั้งหมดตั้งแต่มอสี่ถึงมอหก

ตอนนี้เธอสัมผัสได้แล้วว่าการนอนไม่พอมันทรมานมากเพียงใด รอให้สอบเสร็จก่อนเถอะ เธอจะนอนให้ลืมวันลืมคืนไปเลย

วิชาที่ต้องสอบในวันแรกคือสังคมและภาษาจีน เยี่ยหวันหวั่นเดินล่องลอยเข้าห้องเรียนมาราวกับวิญญาณ

ในห้องเรียนเดิมทีมีเสียงเจี๊ยวจ๊าวอยู่บ้าง แต่วินาทีที่เยี่ยหวันหวั่นปรากฏตัว บรรยากาศในห้องพลันเงียบลงคล้ายกับถูกกลืนเสียง

วันนี้เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้ใส่วิกผมสีเขียว แต่งหน้าลวกๆ พอเป็นพิธี แต่เพราะตลอดเจ็ดคืนที่เธอนอนดึกเพื่อทบทวนหนังสือ รอยคล้ำใต้ตาวงใหญ่จึงดูน่ากลัวยิ่งกว่าการแต่งหน้าสไตล์สโมกกี้อายอีก ผมยุ่งเหยิงยาวถึงเอวมีระดับความน่าสยองขวัญไม่น้อยไปกว่าวิกสีเขียวนั้นเลย...

ชายหนุ่มที่นอนฟุบหลับอยู่กับโต๊ะเหมือนเคย เมื่อได้ยินเสียงเลื่อนโต๊ะเก้าอี้ข้างกาย จึงลืมตาขึ้นมาอย่างหงุดหงิด

วินาทีต่อมา เขาตกใจจนผงะถอยไปก้าวหนึ่ง เสียงเก้าอี้เสียดสีกับพื้นดังเอี๊ยดบาดแก้วหู

ชายหนุ่มจ้องมอง ‘ซาดาโกะ’ ข้างกาย มีเหงื่อเย็นผุดขึ้นมาบนหน้าผาก ก่อนสบถเสียงเบาด้วยใบหน้าผวา “Shit!”

……….…………………………………………………………..