webnovel

1111 การกบฏของราชาภูตผี

ตอนที่ 1111 การกบฏของราชาภูตผี

เศษเสี้ยวยมโลก

ปฐพีสั่นไหวอย่างรุนแรงจนแตกเป็นรอยลึก

ขุมนรกชั้นที่สิบแปดปรากฏขึ้นอีกครั้งในท้องนภา

คนตายนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นคนแล้วคนเล่า

อีกด้าน การโจมตีด้วยเวทมนตร์จำนวนมากมาจากทุกทิศทางขณะพยายามสังหารกู่ฉิงซานผู้ยังอยู่ในอากาศ

กู่ฉิงซานถือไม้เท้าราชาภูตผีจองจำด้วยสภาพเฉยชา

คนตายจำนวนไม่มีสิ้นสุดพุ่งขึ้นสู่ท้องนภาเพื่อปกป้องเขาจากทุกด้าน

พวกมันล้วนเป็นยอดฝีมือของโลกฝึกยุทธ์ ตอนมีชีวิตทำบาปมามาก ทำให้ต้องตกนรก

คนเหล่านั้นสามารถก่ออาชญากรรมชั่วร้ายในโลกฝึกยุทธ์ได้

คนตายที่มีรอยแผลเป็นน่าตกตะลึงทั่วร่างหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่า ๆๆๆ ! พวกขยะที่บังคับให้ข้านอนหลับในนรกน้ำแข็ง ตอนนี้ข้าตื่นขึ้นมาแล้ว! พวกเจ้าทั้งหมดต้องตาย!”

เขาคุ้มกันอยู่หน้ากู่ฉิงซานขณะโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า

รอบข้างเขา มีคนชั่วฝีมือร้ายกาจปรากฏตัวขึ้นเรื่อย ๆ

คนตายคุ้มกันโดยให้กู่ฉิงซานอยู่ตรงกลาง

ใครบางคนมีความกล้าพอที่จะหันกลับมามองกู่ฉิงซาน

“ราชาภูตผี ทำไมท่านถึงปลุกพวกข้าขึ้นมา” เขาถาม

คนตายทั้งหมดมองกู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานเหลือบมองไปยังพื้นที่ใดสักแห่ง

ซูเสวี่ยเอ้อร์อยู่ตรงนั้น

นางถูกปกป้องโดยฝูงสัตว์ประหลาดหุบเหว ทำให้ปลอดภัยสักพัก แต่เหงื่อเย็นบนใบหน้านางไหลลงมาตามเส้นผม

นางเหลือแขนเพียงข้างเดียว

เป็นความจริงที่ถึงแม้จะไม่ได้ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่มนุษย์ธรรมดาเพราะมีวิชาไพ่ที่ทรงพลังไร้ใครเทียบ รวมถึงมีพลังวิวัฒนาการที่ได้รับมาจากเทพธิดาแห่งความยุติธรรม แต่ความเจ็บปวดจากการเสียแขนไม่ใช่สิ่งที่ใครจะทานทนได้

ทำไมกัน

ทำไมถึงต้องปลุกขึ้นมางั้นหรือ

ขณะมองรูปลักษณ์ที่เจ็บปวดของซูเสวี่ยเอ้อร์ กู่ฉิงซานตอบว่า “ทำลาย”

เมื่อคนตายได้รับคำตอบเช่นนี้จึงรู้สึกพึงพอใจยิ่ง

“ฮ่า ๆๆๆ ! เอาล่ะ นี่จะต้องเป็นยุคของนรกแน่ ๆ พวกเทพขยะ!” เขาหัวเราะเสียงดัง

“ฆ่าทุกคน!”

“ทำลาย!”

“ทำลาย!”

“ทำลาย! ทำลาย! ทำลาย!”

คนตายทั้งหมดคำรามดังกึกก้องราวกับคำสาปที่ทำลายทุกสิ่ง มันถาโถมใส่ยมโลกทั้งหมด

อีกด้าน

แสงหมองหม่นนับไม่ถ้วนค่อย ๆ ลอยขึ้นจากพื้น

“คนคนนี้…มีพลังของราชาภูตผี”

“ดูสิ นั่นคือไม้เท้าราชาภูตผีจองจำ!”

“เป็นปัญหาแล้ว”

“ใครไปหาเรื่องคนคนนี้กัน”

“ช่างเถอะ ฆ่าเขาแล้วเอาเทวภัณฑ์มา!”

“อย่าแม้แต่จะคิด เจ้าพวกภูตผีจากแม่น้ำแห่งการลืมเลือน!”

เด็กผู้หญิงชุดดำปรากฏตัวขึ้น

ผู้หญิงชุดขาวที่ยืนข้างนางกล่าวว่า “ราชาภูตผีคือพวกของเรา ใครกล้าลงมือ อย่าหาว่าข้าไม่นึกถึงความรักที่มีให้ในอดีต!”

“หึ เจ้าปกป้องเขาเสียออกนอกหน้าเลยนะ แต่เขาก็แค่คนนอก อย่าดีกว่า…”

“โอหัง!”

“อย่ามาขึ้นเสียง…”

“สารเลว เจ้าคือผู้รวบรวมขยะบนภูเขาล้อมเหล็กใหญ่ จะกล้าลงมือจริง ๆ หรือ…นี่เป็นพวกกินผักไปตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ข้าเคยดูถูกพวกเจ้าที่มาจากนรกเมื่อนานมาแล้ว เจ้ากับผลงานอันแสนวิเศษบนสะพานแห่งความเป็นความตายนั่นคือความอับอายของยมโลก!”

“รนหาที่ตายดีนัก! ไม่ต้องสนเรื่องสะพานแห่งความเป็นความตายแล้ว มาสิ มาสู้กัน ข้าไม่โดนจัดการจนตายแน่นอน!”

เทพทั้งหลายต่างต่อว่า

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าใครลงมือก่อน แต่ไม่ช้า…

พวกเขาก็สู้กัน

สกิลเทพกับวิชาจำนวนมากเริ่มปลิวไปทั่วยมโลก

กู่ฉิงซานชี้ไปที่ประตูสีแดงแล้วสั่งว่า “เปิดประตูบานนี้ให้ข้า”

“เปิดประตูบานนี้!” คนตายทั้งหมดตะโกน

จากพื้นถึงท้องนภา กลุ่มคนตายจำนวนมากขยับ

ประตูสีแดงสาดแสงก่อนกล่าวด้วยเสียงคมปลาบว่า “พวกเทพที่อยู่หลังประตูภูตผีหายไปไหนแล้ว”

เปลวไฟฟอสฟอรัสลอยมาจากไกล ๆ ทั้งซ้ายขวาเพื่อทำหน้าที่ปกป้อง

นักบวชองอาจคนหนึ่งตะโกนว่า “ข้าคือเทพผู้รับผิดชอบความเป็นความตาย พวกคนตายเอ๋ย รีบถอยกลับไปเสีย!”

คนตายทั้งหมดมองกู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานกล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “วันนี้มีใครบางคนกล้าลงมือกับคนของข้า หากมีใครกล้ามาห้ามข้าล่ะก็ ข้าจะปล่อยให้ยมโลกแห่งนี้ถูกทำลาย เทพกับภูตผีจะถูกทำลายไปตลอดกาล”

ตลอดกาล

เมื่อวิญญาณหายไป มันจะดับสูญไปตลอดกาล

นักบวชที่ตะโกนเมื่อครู่ไม่กล้าพูดอะไรอีก

คนตายหลายร้อยคนรับคำของราชาภูตผี ในเวลาเดียวกัน พวกมันสูดหายใจเข้าลึก ๆ ทันใดนั้น เสียงคำรามสะเทือนความว่างเปล่าได้ระเบิดออกมา

“ยมโลกจะถูกทำลายไปตลอดกาล!”

เสียงคำรามของคนตายนับล้านซ้อนทับกันจนกลายเป็นคลื่นอากาศที่เทียบเท่ากับคลื่นกระแทก กระจายไปทุกทิศทาง

ทั่วยมโลกปั่นป่วน

ทันใดนั้น เสียงโอ่อ่าและดุร้ายมาจากสถานที่ไกลลิบ

“รีบยกเลิกวัฏจักรแห่งความเป็นความตายซะ!”

ยันต์สีเขียวน่าขนลุกติดตรงประตูสีแดงจากไกลถึงใกล้

ในเวลาเดียวกัน เสียงพลันอ่อนลงก่อนมากระซิบข้างหูของกู่ฉิงซาน

“สิ่งที่เจ้านี่ยั่วยุไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเรา เจ้าต้องเป็นคนมีเหตุผลไม่ใช่หรือ”

เพียงพริบตา การต่อสู้ทั้งหมดกลายเป็นภาพมายา

ขุมนรก เทพ คนตายและแม่น้ำแห่งการลืมเลือนล้วนหายไปจากสายตาของกู่ฉิงซาน

โลกกลับสู่ความมืด

ป้อมปราการเหล็กกล้าและกำแพงไม่มีสิ้นสุดปรากฏขึ้นอีกครั้ง

…สองโลกแยกออกจากกัน!

กู่ฉิงซานส่งจิตเทพกวาดออกไปจนเห็นว่าซูเสวี่ยเอ้อร์ไร้รอยบาดแผลใด ๆ ภายใต้การปกป้องของสัตว์ประหลาดหุบเหว

คนอื่นกลับมาเช่นกัน

กู่ฉิงซานผ่อนคลายขณะมองประตูสีแดงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

มีเสียงไม่พอใจดังมาจากประตูสีแดง

“ถึงข้าจะทำพลาดไป แต่ตอนนี้ไม่มีคนตายแล้ว เจ้าจะทำอะไรได้”

“หึ ลืมครั้งนี้ไปก่อนก็แล้วกัน ไม่ช้าก็เร็ว ข้าจะมาสะสางกับเจ้า”

…ขณะพูด มันค่อย ๆ กลายเป็นภาพมายา ภูตผีจากยมโลกพุ่งเข้าหากู่ฉิงซาน

คิดหนีหรือ

เพียงพริบตา กู่ฉิงซานหายไปอีกครั้ง

เขาปรากฏตัวตรงหน้าประตูสีแดงพร้อมกับตวัดดาบยาว!

วิชาดาบทำลายเปลวไฟ

ฟู่… ตูม…

ทะเลเพลิงก่อเกิด!!!

เปลวเพลิงปกคลุมประตูเพื่อทำลายวิชาหลบหนีทันที

ประตูสีแดงปรากฏขึ้นอีกครั้งก่อนกล่าวอย่างเกรี้ยวกราดว่า “เจ้า…”

กู่ฉิงซานพลิกดาบ แต่ไม่ได้ใช้ดาบเทพเยือกแข็งต่อ

ลำแสงอสนีอยู่บนดาบยาวขณะฟาดฟันในอากาศ

…ดาบลับ ตามติดชีพ!

…พลังเหนือธรรมชาติ สะเทือนฝัน!

ประตูสีแดงถูกฟันโดยตรง ทำให้ไม่สามารถขยับได้ทันที

“ดูท่าเจ้าจะไม่ใช่เทวภัณฑ์ แต่เป็นตัวตนที่มีชีวิต ทำให้สามารถรับมือได้ง่าย…” กู่ฉิงซานกล่าว

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้นเพียงลำพัง

“หากจะใช้การตัดสินใจของพิภพเพื่อฆ่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ ต้องใช้พลังวิญญาณห้าแสนแต้ม”

สายลมและหมู่เมฆรวมตัวบนดาบพิภพ

“ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะรู้สึกกลัวตาย เพราะว่ามีชีวิตนี่นะ”

กู่ฉิงซานถ่ายพลังวิญญาณเข้าไปก่อนเริ่มกระตุ้นดาบลับ

ยิ่งจิตสังหารรุนแรงเท่าไหร่ เขายิ่งสงบมากเท่านั้น

บนประตูสีแดง งูอสนีเลื้อยไปมา ทำให้มันขยับไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

ประตูสีแดงพลันขอความเมตตา “ไม่…ราชาภูตผี ข้าผิดไปแล้ว…”

ประกายดาบขนาดใหญ่รวมตัวเป็นดาบยักษ์จากอากาศบางก่อนฟันตั้งแต่บนจรดล่าง

ตูม!

ประตูสีแดงทั้งบานถูกสับเป็นชิ้น ๆ นับไม่ถ้วนด้วยดาบเดียว

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม ค่าพลังวิญญาณลดลงจำนวนมากทันที จากนั้นพลันทะยานขึ้น

“เมื่อกี้เจ้าว่าอะไรนะ” กู่ฉิงซานเผยสีหน้าตั้งใจฟัง

ไม่มีใครตอบเขา

ชิ้นส่วนเหล่านั้นค่อย ๆ กลายเป็นผุยผงก่อนกระจายไปตามสายลม

…ประตูสีแดงถูกฟันจนสิ้น ไม่ว่าจะร่างหรือวิญญาณก็ไม่คงอยู่ในโลกอีกต่อไป

กู่ฉิงซานรออยู่สักพัก

ไม่มีอะไรมาจากทางเดินลับมืดมิด

ในจิตเทพของเขา ไม่พบสิ่งที่น่าสงสัยแต่อย่างใด

ทุกสิ่งกลับสู่ความเงียบ

กู่ฉิงซานพยักหน้าเล็กน้อยก่อนเหาะไปยังซากเกราะศึกที่อยู่ด้านล่าง

ไม่ช้า

ซากเกราะศึกถูกเปิดออก

กู่ฉิงซานสาวเท้าออกมาขณะเดินไปหาซูเสวี่ยเอ้อร์

สัตว์ประหลาดหุบเหวทั้งหมดคำนับเขาก่อนเปิดทางให้เงียบ ๆ

ซูเสวี่ยเอ้อร์ยังเหลือแขนเดียว ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

กู่ฉิงซานเดินเข้ามาก่อนสวมกอดนางอย่างอ่อนโยน

“เจ็บมากสินะ” เขากระซิบ

ซูเสวี่ยเอ้อร์พิงไหล่ของเขาขณะเม้มปากแล้วกล่าวว่า

“ก็ไม่นี่ ข้าสบายดี”

..............................